Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1696

สรุปบท ตอนที่ 1696 ฐานะเปิดเผย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1696 ฐานะเปิดเผย – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 1696 ฐานะเปิดเผย ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

หลูเป่ยกู้ เว่ยจื่อหยา คุนจิ่วหลิน เหวินฉิงเสวี่ย ถังซู…

มกุฎมหาอริยะแต่ละคนบ้างมีชื่อเสียงเกรียงไกร บ้างฝีมือเลิศล้ำอัศจรรย์ ทำให้ในใจหลินสวินทอดถอนใจไม่หยุดอย่างอดไม่ได้

ทันใดนั้นสายตาของหลินสวินก็เหลือบไปเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยหนึ่ง กำลังมุ่งมาจากจุดที่ห่างออกไปพร้อมผู้ฝึกปราณกลุ่มหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ

นั่นคือหญิงสาวคนหนึ่งที่ใบหน้าดั่งหยกงาม นัยน์ตาดุจน้ำพุใสสะอาด สวมชุดกระโปรงสีเขียวน้ำทะเล งามพริ้งเพรา ดูเรียบร้อย รูปโฉมโดดเด่น

เจียงเหิง!

ผู้สืบทอดสำนักยุทธ์เสวียนจีแห่งทางเดินโบราณฟ้าดารา

ตอนนั้นที่สมรภูมิเซียนเหินในสมรภูมิเก้าดินแดน ด้วยสาเหตุที่หลินสวินเก็บ ‘เถาวัลย์หยกนภาค่ำ’ ไป จึงทำให้เจียงเหิงมองตนเป็นศัตรูและอยากฆ่าฟัน

เพียงแต่หลินสวินก็คิดไม่ถึง ว่าจะได้เจอฝ่ายตรงข้ามอีกครั้งที่ริมแม่น้ำเซียนเหินนี้

เกือบจะเวลาเดียวกัน เจียงเหิงก็มองเห็นหลินสวินได้ในปราดเดียว

นัยน์ตาคู่งามของนางเบิกกว้าง คล้ายผิดคาดยิ่งนัก ไม่นานความโกรธที่บอกไม่ถูกก็ผุดขึ้นในใจ

เจ้าหัวขโมยที่ปล้น ‘โอสถเทพ’ ของสำนักไปคนนี้ ถึงกับกล้าปรากฏตัวอย่างวางมาดเช่นนี้ ช่างรนหาที่ตายซะจริง!

มุมปากหลินสวินพลันกระตุก สื่อจิตบอกอาหูอย่างรวดเร็ว ‘เตรียมตัวให้พร้อม ฐานะของข้าอาจถูกเปิดโปงออกมาได้’

นัยน์ตาอาหูหดรัด พยักหน้าน้อยๆ อย่างไร้ร่องรอย

แต่เหนือความคาดหมายของหลินสวิน ไม่ทันไรเจียงเหิงก็เก็บสายตาไป ไม่ใส่ใจหลินสวินอีกราวกับมองข้าม

แต่กลับมีเสียงสื่อจิตที่ชัดกระจ่างเยียบเย็นเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูหลินสวิน

‘เจ้าหัวขโมย กังวลมากใช่ไหม ว้าวุ่นใจมากรึ หากข้าเปิดเผยฐานะของเจ้า เจ้าเชื่อไหมว่าเหล่าผู้แข็งแกร่งในที่นี้ต้องกลืนกินเจ้าทั้งเป็นโดยไม่ลังเลแน่’

น้ำเสียงเจือความเกลียดชัง ยังมีความลำพองสายหนึ่ง คิดเอาเองว่าจับจุดอ่อนของหลินสวินได้แล้ว

คนที่สื่อจิต แน่นอนว่าเป็นเจียงเหิง

หลินสวินสีหน้าราบเรียบสื่อจิตกล่าว ‘ข้าว่าเจ้าแทบอยากจะกลืนกินข้าทั้งเป็นแล้ว แต่ก็ช่างเถอะ ต่อให้เจ้าร้อง ร้องจนคอแตกก็ขู่ข้าไม่ได้หรอก’

‘เจ้า…’

คิ้วเรียวยาวของเจียงเหิงตวัดขึ้น โกรธจนกัดฟันกรอด นัยน์ตาคู่งามแทบลุกเป็นไฟ ‘เจ้าหัวขโมย คิดจริงๆ หรือว่าข้าไม่กล้า’

‘เจ้าก็ร้องสิ’

หลินสวินท่าทางไม่แยแส

‘เจ้าอย่ามาเหิมเกริม!’

เจียงเหิงโกรธจนอยากจะบีบคอหลินสวินให้ตาย

‘ศิษย์น้อง อย่าใส่ใจพวกต่ำช้าเช่นนี้ รอเข้าไปในแหล่งสถานคุนหลุนแล้ว ข้าจะลงมือจับตายมันด้วยตัวเอง’

ในหูของเจียงเหิงมีเสียงของศิษย์พี่ใหญ่จีเฉียนดังขึ้น

‘ศิษย์พี่ เจ้าหมอนี่กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!’

เจียงเหิงกล่าวขุ่นเคือง

‘เรื่องเล็กไม่ยอมอดทนจะเสียงานใหญ่ ศิษย์น้อง อย่าลืมที่ข้าเคยบอกเจ้าสิ เจ้าหนุ่มนี่ไม่เพียงแต่ขโมยสมบัติจากธรรมชาติอย่างเถาวัลย์หยกนภาค่ำ หญ้าวิญญาณทองเก้าใบไป บนตัวเขายังมีเจดีย์สมบัติปริศนาหลังหนึ่งที่ต้าน ‘วงอสนีสุริยัน’ ได้ด้วย’

จีเฉียนสวมชุดขาว ผมยาวสีเทา ท่าทางสง่างาม นัยน์ตาเฉียบคมส่องประกายวาววามแหวกอากาศ ทั่วร่างแผ่อานุภาพยิ่งใหญ่ไร้สิ้นสุด

เขาเหลือบมองหลินสวินเล็กน้อยก็ไม่มองอีก

ปีนั้นเขาเคยพึ่งพาพลังของสมบัติชิ้นหนึ่งสังเกตการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในสมรภูมิเซียนเหิน ถึงขั้นที่ว่าตอนท้ายสุดยังลงมือไปชิงเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดในมือของหลินสวินโดยไม่คำนึงถึงอะไร

แต่สุดท้ายกลับพังไม่เป็นท่า

เจียงเหิงใจเย็นลงทันที

นางเคยได้ยินศิษย์พี่ใหญ่บอกว่า เจดีย์สมบัติที่ลึกลับหลังนั้นเคยปรากฏใน ‘ศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิ’ เมื่อนานมาแล้ว อานุภาพเกินคาดเดา เกริกก้องทั่วหล้า!

‘นอกจากนี้ บนตัวเจ้าหนุ่มนี่ยังมีป้ายคำสั่งเซียนเหินที่ทำให้ทุกคนน้ำลายหกด้วย หากเปิดโปงฐานะของเขาตอนนี้ พวกเราจะไม่มีโอกาสจับตายเจ้าหมอนี่และยึดสมบัติที่อยู่บนตัวเขามาได้อีก’

จีเฉียนสื่อจิตกล่าว

เจียงเหิงกล่าวอืมออกมาคำหนึ่ง สูดหายใจลึก ควบคุมความโกรธภายในใจอย่างเต็มที่

การปรากฏตัวของพวกจีเฉียนและเจียงเหิงก็ทำให้ในที่นั้นเกิดความไม่สงบเช่นกัน

บางทีสำนักยุทธ์เสวียนจีอาจมีอำนาจร้ายกาจสู้ ‘หกสำนักใหญ่’ ไม่ได้ แต่ก็เป็นยอดสำนักเก่าแก่แห่งหนึ่ง

จีเฉียนคนนี้ก็เป็นศิษย์สืบทอดแท้จริงอันดับหนึ่งของสำนักยุทธ์เสวียนจี ตัวเขาเองยังเป็นทายาทสายตรงของเผ่าจักรพรรดิตระกูลจี สูงส่งหาใดเปรียบ

และพลังต่อสู้ของเขาก็ไม่อาจดูหมิ่นได้ง่ายๆ เช่นกัน จัดอยู่ในอันดับที่สองร้อยสี่สิบแปดบนกระดานมหาอริยะฟ้าดารา!

‘พวกเขาข่มกลั้นไว้แล้ว…’

อาหูตื่นตระหนกเก้อ ใคร่ครวญเล็กน้อยก็เข้าใจขึ้นมา ‘ดูท่าพวกเขาคงห่วงว่าเหยื่ออย่างเจ้าจะถูกคนอื่นแย่งไป ด้วยเหตุนี้จึงเลือกหักห้ามใจไว้ ไม่คิดจะเปิดเผยฐานะของเจ้า’

หลินสวินพยักหน้าน้อยๆ กล่าวทันที ‘อันที่จริงข้าก็สนใจในตัวเจียงเหิงมาก’

อาหูร้องอ้อคราหนึ่ง แววตาดูแปลกออกไป เห็นชัดว่านางเข้าใจผิดแล้ว

หลินสวินอดยิ้มไม่ได้ กล่าวว่า ‘ผู้หญิงคนนี้แซ่เจียง ข้าแค่อยากรู้ว่านางมีส่วนเกี่ยวข้องกับเผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียงหรือไม่’

ปีนั้นใน ‘เมืองมรณะ’ ของแดนมกุฎ ยามเจตจำนงเสี้ยวหนึ่งของราชันผีเสวียนคงใกล้หายไป เคยมอบปิ่นสีเขียวอ่อนที่มีลักษณะคล้ายใบไผ่ชิ้นหนึ่งแก่หลินสวิน

ภายหน้าหากมีโอกาสได้เจอทายาทของเผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียง ให้เขานำสิ่งนี้ส่งคืนแก่คนที่มีชื่อว่า ‘เจียงซิงเชวี่ย’

ราชันผีเสวียนคงเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดของคีรีดวงกมล เคยถ่ายทอดวิชา ‘ยอดนิรันดร์ไร้รั่ว’ ให้หลินสวิน พูดได้ว่าเป็นศิษย์พี่ร่วมสำนักของหลินสวิน

เมื่อรับคำฝากฝังนี้แล้ว หลินสวินย่อมต้องรับผิดชอบโดยไม่อาจบอกปัด

อาหูกล่าวเหมือนคิดอะไรได้ ‘เท่าที่ข้ารู้ เผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียงอาศัยอยู่ริม ‘แม่น้ำเจียง’ บนทางเดินโบราณฟ้าดารา บรรพชนของพวกเขาปรากฏบุคคลสำคัญระดับจักรพรรดิห้าคน ถูกยกย่องว่าเป็น ‘เผ่าห้าจักรพรรดิ’ รากฐานยิ่งใหญ่เป็นอย่างยิ่ง’

แต่เมื่อเห็นชายชุดเขียวคนนี้ปรากฏตัว คนไม่น้อยในที่นั้นต่างสั่นเทิ้มไปทั้งตัว หน้าพลันเปลี่ยนสี

ฮว่าซิงหลี!

ผู้สืบทอดของ ‘เรือนมรรคเหล่ามาร’ หนึ่งในหกเรือนมรรคใหญ่ มกุฎมหาอริยะคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งตำนาน ทั้งเป็นจอมมารไร้ปรานีที่ฆ่าคนไม่กะพริบตาคนหนึ่ง!

เล่าลือว่าคู่ต่อสู้ที่ตายในเงื้อมมือเขา ไม่ถึงหมื่นก็ต้องมีแปดพัน ต้องรู้ว่าคู่ต่อสู้พวกนี้ไม่มีใครที่ไม่ใช่บุคคลระดับอริยะที่ชื่อเสียงระบือลั่น

ก่อนหน้านี้ไม่นานยังมีเรื่องใหญ่ที่น่าฮือฮาเรื่องหนึ่งเกิดขึ้น ฮว่าซิงหลีลงมือฆ่าบุคคลแห่งยุคคนหนึ่งซึ่งจัดอยู่ในอันดับที่สองร้อยสามสิบเจ็ดของกระดานมหาอริยะฟ้าดารา ก่อให้เกิดความปั่นป่วนโกลาหลบนทางเดินโบราณฟ้าดารา!

ยามนี้เมื่อเห็นจอมมารคนหนึ่งที่สองมือเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดเช่นนี้ปรากฏตัว ใครเล่าจะไม่ตกใจ

สำหรับความสนใจพวกนี้ ฮว่าซิงหลีดูเฉยชาเป็นอย่างยิ่ง เขายิ้มเล็กน้อย ไม่พูดอะไรมาก พาผู้สืบทอดของเรือนมรรคเหล่ามารกลุ่มหนึ่งที่ตามหลังมายืนอยู่ริมแม่น้ำเซียนเหิน

“หลินสวิน!”

แต่ไม่รอให้สภาวะจิตของทุกคนได้สงบ ข้างกายของฮว่าซิงหลีพลันมีเสียงเยียบเย็นหนึ่งดังขึ้นทันที “เจ้ากล้ามากนักนะ ถึงกับกล้าปรากฏตัวที่นี่ คิดว่าริมแม่น้ำเซียนเหินนี้ไม่มีใครจำเจ้าได้รึ!?”

คนที่พูดคือชายคนหนึ่งที่สวมชุดคลุมโลหิต นัยน์ตาแดงก่ำเรียวยาว บนสีหน้าไม่อำพรางแววเกลียดชังแม้แต่น้อย

เซวี่ยชิงอี!

หลินสวินใจดิ่งลงทันที

คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกับอีกฝ่ายที่นี่ ทั้งยังมาพร้อมกับผู้สืบทอดของเรือนมรรคเหล่ามารด้วย

หลินสวิน!

เมื่อได้ยินชื่อนี้ ในที่นั้นก็อึกทึกครึกโครมทันที

ในหัวของผู้แข็งแกร่งไม่น้อยเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาพร้อมกัน เจ้าคนที่ถือป้ายคำสั่งเซียนเหินนั่น ถึงกับซ่อนตัวอยู่ในฝูงชนนานแล้วหรือ

เมื่อมองตามสายตาของเซวี่ยชิงอีไป สายตามากมายก็พากันมองไปยังหลินสวินคนเดียว

จีเฉียนและเจียงเหิงสบตากันวูบหนึ่ง ในใจรู้สึกแค้นนัก ล้วนคิดไม่ถึงว่าเวลานี้แล้วยังจะมีเจ้าโง่คนหนึ่งมาเปิดโปงฐานะของหลินสวินอีก

คราวนี้เท่ากับได้ทำลายแผนการของพวกเขาไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว!

พวกเขาล้วนอยากจะฆ่าเซวี่ยชิงอีทิ้งทันที

หลินสวินก็ถอนหายใจในใจ เรื่องทางโลกยากคาดเดา เจียงเหิงไม่เปิดโปงฐานะของตน กลับกลายเป็นว่าเซวี่ยชิงอี เจ้าคนที่โชคดีหอบชีวิตหนีเงื้อมมือตนไปได้คนนี้เป็นคนเปิดเผยทุกอย่างแทน

แต่หลินสวินก็ไม่เกรงกลัวและหวั่นหวาด มองไปยังเซวี่ยชิงอีด้วยสายตาเยียบเย็นกล่าว

“พวกขี้แพ้ ตอนนั้นหากเจ้าไม่ซ่อนตัว คงตายที่สมรภูมิเก้าดินแดนไปนานแล้ว มีหรือจะมายืนเห่าอยู่ต่อหน้าข้าได้อีก”

ประโยคเดียวไม่มีเกรงใจสักนิด แต่ก็ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นยืนยันฐานะของหลินสวินได้อย่างสมบูรณ์

ในดวงตาของคนไม่น้อยเผยไอสังหารออกมาทันที ล้วนดูกระเหี้ยนกระหือรือ

………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์