หลินสวิน!
ชื่อที่ค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับคนส่วนมาก
แต่นี่ก็ขวางพวกเขาให้มองหลินสวินเป็นเหยื่อไม่ได้
สาเหตุอยู่ที่ในมือหลินสวินมีป้ายคำสั่งเซียนเหินไว้ในครอบครอง
นี่คือข่าวที่เว่ยจื่อหยารับรอง แน่นอนว่าไม่มีทางเป็นเท็จ
และป้ายคำสั่งเซียนเหินยังมีนัยถึงการแคล้วคลาดหายนะ แฝงนัยว่าจะข้ามผ่านแดนโหดร้ายที่ไม่อาจก้าวพ้นได้บางแห่งจนไปช่วงชิงศุภโชคในนั้นได้!
ชั่วขณะเดียวหลินสวินก็เปลี่ยนจากผู้ที่ไม่มีใครเหลียวแลคนหนึ่ง เป็นศูนย์รวมสายตาของมวลชนทันที
แม้แต่พวกที่มีความสามารถโดดเด่นอย่างคุนจิ่วหลิน เหวินฉิงเสวี่ย ถังซู เว่ยจื่อหยา ฮว่าซิงหลีก็ยังเหลือบสายตามองมา
บ้างใคร่รู้ บ้างแผ่ไอสังหาร และบ้างรู้สึกสนใจ
‘ให้ข้าจัดการเอง เจ้าก็ทำเหมือนไม่รู้จักข้า คอยดูละครอย่างสบายใจก็พอ’
หลินสวินสีหน้าราบเรียบ สื่อจิตบอกอาหู
อาหูตกปากรับคำอย่างยินดี
ในที่นั้นน่าจะมีแค่นางที่รู้เบื้องลึกของหลินสวินที่สุด และรู้ชัดดีว่าหากใครคิดว่าหลินสวินเป็นเหยื่อที่ไม่เอาไหน นั่นก็เรียกได้ว่าผิดมหันต์แล้ว
“ทุกท่าน ข้าขอแนะนำให้พวกท่านรู้จัก เจ้าหมอนี่ก็คืออันดับหนึ่งของการต่อสู้แห่งเก้าดินแดน ผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งที่มาจากดินแดนรกร้างโบราณ”
เซวี่ยชิงอีสีหน้าเคร่งขรึม กล่าวเนิบช้า
ที่นี่ไม่ใช่สมรภูมิเก้าดินแดน แต่เป็นแม่น้ำเซียนเหิน คนที่มารวมกันล้วนเป็นปีศาจแห่งยุคที่โดดเด่นอย่างยิ่งบนทางเดินโบราณฟ้าดารา
และบนตัวหลินสวินก็มีป้ายคำสั่งเซียนเหินซึ่งสามารถทำให้ทุกคนในที่นั้นใจสั่น นี่เป็นโอกาสดีที่สุดในการยืมดาบฆ่าคนอย่างไม่ต้องสงสัย
เซวี่ยชิงอีย่อมไม่ยอมพลาดโอกาสแน่
ทุกคนต่างเผยสีหน้าไม่ใส่ใจ อันดับหนึ่งของเก้าดินแดน? ผู้มีอิทธิพล? หากอยู่บนทางเดินโบราณฟ้าดารานี้จะนับเป็นอะไรได้
“อ้อ จริงสิ เท่าที่ข้ารู้บนตัวเจ้าหมอนี่ไม่ได้มีป้ายคำสั่งเซียนเหินแค่ป้ายเดียว หากข้าพูดปดแม้แต่น้อย ทุกท่านมาเอาเรื่องข้าได้เลย”
ทันทีที่วาจานี้ของเซวี่ยชิงอีกล่าวออกมา ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ลุกฮือขึ้นมา
พวกเขาไม่สนใจว่าหลินสวินเป็นใคร สนใจแค่ป้ายคำสั่งเซียนเหินบนตัวหลินสวินมีเท่าไหร่แค่นั้น และคำตอบที่เซวี่ยชิงอีแถลงก็ทำให้พวกเขาต่างใจเต้นยิ่งกว่าเดิมแล้ว
“ทุกท่าน ยังจำคำที่ข้าพูดได้ไหม หลินสวินนี่เป็นเหยื่อของข้า!”
คุนจิ่วหลินชิงเอ่ยปากก่อน น้ำเสียงทรงพลัง ไอสังหารสะท้านฟ้า สายตาที่มองหลินสวินราวกับจ้องคนตายคนหนึ่ง
“เหยื่อของเจ้าหรือ หึๆ คุนจิ่วหลิน เจ้าพูดจาใหญ่โตเชียวนะ”
ชายชุดทองคนหนึ่งที่ท่าทางโดดเด่น ราศีจับหยิ่งผยองยิ้มหยัน
ทายาทเลือดบริสุทธิ์แห่งเผ่านักรบเถาอู้ เถาเจี้ยนสิง!
คุนจิ่วหลินสีหน้าขรึมทันที แววตาเยียบเย็น
“ข้าคร้านจะเถียงกับพวกเจ้า ข้าต้องการป้ายคำสั่งเซียนเหินแค่ป้ายเดียว ใครไม่พอใจก็มาถามกระบี่ในมือข้าได้”
ชายหนุ่มรูปงามที่สวมชุดนักพรตคนหนึ่งกล่าวราบเรียบ เขาดูอวดดีเป็นอย่างยิ่ง หว่างคิ้วมีรอยประทับกระบี่เล็กๆ นัยน์ตามีคมกระบี่หลายสายไหลหลั่ง
ผู้สืบทอดเรือนมรรคจักรวาล เยี่ยนฉุนจวิน!
ยังมีอีกหลายคนที่ไม่เปิดปาก แต่สายตาที่มองหลินสวินล้วนเจือความตั้งมั่นว่าต้องเอามาให้ได้
เหวินฉิงเสวี่ยมองเงียบๆ สีหน้านิ่งสงบ
ฮว่าซิงหลีมุ่นคิ้วเหลือบมองเซวี่ยชิงอีเล็กน้อย คล้ายไม่พอใจอยู่บ้างที่เขาตัดสินใจโดยพลการ ก่อคลื่นลมที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดเช่นนี้
หลิงเคอจื่อที่มาจากอารามเก่าแก่ยอดทักษิณเป็นภิกษุคนหนึ่งที่ดูน่าหลงใหล เมื่อเห็นภาพนี้ก็รีบหยิบลูกประคำเส้นหนึ่งออกมาท่องคัมภีร์เงียบๆ ทันที
เพียงแต่ดวงตาของเขากลับเหล่มองทุกคนในที่นั้นเป็นพักๆ ดูปราดเปรื่องและเจ้าเล่ห์อย่างเห็นได้ชัด
มีเพียงถังซูที่นัยน์ตาเป็นประกาย คล้ายกลัวฟ้าดินไม่วุ่นวาย กล่าวด้วยเสียงแหบพร่าเจือแรงดึงดูด
“พี่ชาย เจ้าพวกนั้นล้วนมองเจ้าเป็นเหยื่อ ความอัปยศอดสูยิ่งใหญ่เช่นนี้เจ้าทนได้หรือ ถ้าข้าเป็นเจ้าคงฆ่าพวกร้ายกาจที่เอะอะเอ็ดตะโรไปสองสามคนโดยไม่สนใจอะไรก่อนแล้ว เชือดไก่ให้ลิงดู ไม่ก็เคาะภูเขาสะเทือนพยัคฆ์ จึงจะพิสูจน์ได้ว่าเจ้าไม่อาจรังแกได้โดยง่าย”
นางสวมชุดคลุมดำ ภายใต้หมวกปีกกว้างนัยน์ตาคู่หนึ่งส่องประกายดั่งดวงดาว ท่าทางดูอิสระและไม่กลัวใครในที่นั้น กำลังโหมกระพือจุดชนวน
ทุกคนต่างมุ่นคิ้วไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่มีใครกล้าไปตำหนิและติติงถังซู
นี่ก็คือประโยชน์ของกิตติศัพท์ชื่อเสียง
จอมดาบถังซู ดาบตัดสวรรค์เล่มหนึ่งที่ผงาดเหนือฟ้าดารา ในหมู่คนรุ่นเดียวกัน ใครจะกล้าไปต่อปากต่อคำกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ดุดันยิ่งกว่าบุรุษเช่นนี้
บางทีหลินสวินอาจมีชื่อเสียงสะเทือนใต้หล้าในดินแดนรกร้างโบราณ แต่เมื่ออยู่ที่นี่ สุดท้ายก็เป็นคนไร้ชื่อเสียงซึ่งไม่เป็นที่รู้จักคนหนึ่ง
เดิมถูกทุกคนมองว่าเป็นเหยื่อ ทำให้ในใจหลินสวินอัดอั้น แต่เมื่อได้ยินคำพูดของถังซูแล้ว เขากลับเบิกบานอีกครั้งอย่างอดไม่ได้
ผู้หญิงคนนี้ช่างน่าสนใจจริงๆ…
การโหมกระพือจุดชนวนที่ผ่าเผย ยุแยงตะแคงรั่วเช่นนี้ก็เป็นความสามารถอย่างหนึ่ง ไม่ให้หลินสวินยอมแพ้คงไม่ได้
หลินสวินพลิกฝ่ามือ ป้ายคำสั่งเซียนเหินป้ายหนึ่งปรากฏออกมา เขากล่าวอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่พูดมากความ “ใครอยากได้ก็เข้ามาเอา”
น้ำเสียงราบเรียบ แต่กลับมีความหยิ่งผยองเป็นของตนเอง
ถังซูนัยน์ตาวาววาบยิ่งกว่าเดิม ชูนิ้วโป้งให้ “ลูกผู้ชายตัวจริง!”
ผู้ฝึกปราณไม่น้อยก็แอบยำเกรง ถูกอานุภาพของหลินสวินทำให้หวั่นหวาด ภายใต้สายตาผู้คนที่จับจ้องยังกล้านำป้ายคำสั่งเซียนเหินออกมาโดยตรงเช่นนี้ ท่าทางไม่หวาดกลัวอะไรเลย นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถทำได้
‘เล่าเรื่องของคนผู้นี้ให้ข้าฟังซิ’
ฮว่าซิงหลีเอ่ยปาก บนหน้าซีดเผือดพิกลที่ดูเหมือนเจ็บป่วยนั้นของเขาเผยความรู้สึกสนใจวูบหนึ่ง
เซวี่ยชิงอีมีหรือจะกล้าปฏิเสธ สื่อจิตกล่าวรวดเร็วทันที เริ่มบรรยายเรื่องราวต่างๆ ที่หลินสวินทำในสมรภูมิเก้าดินแดน
แต่พร้อมกันนี้ก็มีคนอดก้าวออกมาไม่ได้ เป็นหลูเป่ยกู้แห่งเผ่านักรบตะวันแดง เขากระโดดลงมาจากศีรษะของมังกรเพลิงแดง กล่าวเสียงขรึม
“ทุกท่าน ให้ข้าลองดูตื้นลึกหนาบางของเจ้าหมอนี่หน่อยเป็นอย่างไร ถ้าชนะแล้ว ป้ายคำสั่งเซียนเหินจะเป็นของข้าชิ้นหนึ่ง ถ้าแพ้ ก็ได้แต่โทษข้าหลูเป่ยกู้ที่ความสามารถไม่ถึง”
ทุกคนแววตาไหววูบ ลังเลไม่หยุด
ทางเข้าของแหล่งสถานคุนหลุนใกล้จะเปิดแล้ว ในเวลาเช่นนี้ไม่มีใครอยากสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อแย่งเหยื่อตัวเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์