Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1729

สรุปบท ตอนที่ 1729 กลียุคสังหารมาร: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 1729 กลียุคสังหารมาร – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1729 กลียุคสังหารมาร จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บรรยากาศ ณ ที่นั้นตึงเครียดขึ้นมา อากาศประหนึ่งแข็งทื่อหยุดชะงัก

ราชันเผิงปีกทองน้อยกับหยวนฝ่าเทียนต่างเงียบเชียบไร้คำพูด สะท้านกับวิธีอันนองเลือดแข็งกร้าวของหลินสวิน ในใจทั้งซาบซึ้งและเป็นกังวล

ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป หลินสวินก็รังแต่จะถูกผู้สืบทอดที่มาจากทางเดินโบราณฟ้าดาราเหล่านี้แค้นเข้ากระดูก ผลลัพธ์ไม่อาจคาดคิดได้!

พวกกู่ฉางซินสีหน้าแปรผันไม่ว่างเว้น

ในใจพวกเขาเจ็บปวด โกรธเคืองยากทานทน ถูกหลินสวินใช้ผู้แข็งแกร่งในขุมอำนาจของพวกเขามาข่มขู่ให้ลำบากใจ ทำให้พวกเขาต่างอัดอั้นจนอยากกระอักเลือด

เดิมทีสถานการณ์นี้ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาตั้งใจเตรียมขึ้น แต่ยังไม่ทันเปิดฉาก หลินสวินก็แข็งกร้าวเช่นนี้แล้ว

“หรือในสายตาพวกเจ้าแล้ว ชีวิตของคนที่ถูกข้าจับพวกนี้ก็ไม่สลักสำคัญเช่นนี้หรือ”

หลินสวินเอ่ยปากแล้ว เสียงเจือความเยาะเย้ย

พวกกู่ฉางซินหน้าเปลี่ยนสี คำพูดนี้ของหลินสวินร้ายกาจไปแล้ว หากแพร่กลับไปยังขุมอำนาจที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขา จะต้องมีผลกระทบไม่ดีต่อพวกเขาแน่

“ปล่อยพวกเขา แล้วข้าจะปล่อยสองคนนี้ไปเหมือนกัน”

เถาเจี้ยนสิงเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ เสียงเหมือนรอดไรฟันออกมา

เชลยเหล่านั้นต่างลอบถอนหายใจโล่งอก มดตัวจ้อยยังรักตัวกลัวตาย นับประสาอะไรกับผู้ฝึกปราณที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าพึงพอใจในมหามรรคมานานแล้วอย่างพวกเขา

เผชิญหน้ากับความตายที่แท้จริง พวกเขารังแต่จะยิ่งกลัวตาย!

“ไม่ได้ พวกเจ้าปล่อยพวกเขาออกมาก่อน”

หลินสวินยื่นคำขาด

“เจ้า…”

เถาเจี้ยนสิงโกรธเกรี้ยว

ไม่ทันรอให้เขาพูดจบ เสียงปึงดังขึ้น ข้างหลังหลินสวินก็มีเชลยจากเผ่านักรบเถาอู้อีกคนตายฉับพลัน เลือดสาดกระเซ็น

ภาพนี้กระตุ้นให้เถาเจี้ยนสิงตาแทบถลน ใกล้จะคลุ้มคลั่ง

หลินสวินเอ่ยเสียงเรียบว่า “ข้าบอกแล้ว พวกเจ้าปล่อยพวกเขาออกมาก่อน อีกอย่างข้าก็อยู่ที่นี่ หรือพวกเจ้ายังกังวลว่าข้าจะหนีไป”

พวกกู่ฉางซินสีหน้าปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ

ในที่สุดพวกเขาก็ปรึกษากันลับๆ แล้วได้ข้อสรุปเป็นเอกฉันท์ ปล่อยพวกเขา!

นี่ทำให้คนอื่นในที่นั้น รวมถึงผู้แข็งแกร่งที่เป็นเชลยของหลินสวินเหล่านั้นต่างถอนหายใจยาวโล่งอก

ชีวิตของผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณสองคนต่ำต้อยปานไหน จะสำคัญเทียบได้กับชีวิตของผู้สืบทอดขุมอำนาจใหญ่อย่างพวกเขาได้อย่างไร

ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้ปล่อยสองคนนี้ไป เขาหลินสวินคิดว่าวันนี้จะพาพวกพ้องของตนจากไปด้วยกันได้จริงๆ หรือ

ละเมอเพ้อพก!

ฟุบ!

เหล็กหมาดที่เสียบเข้าไปในร่างของราชันเผิงปีกทองน้อยถูกถอนออก ในขณะเดียวกันสายโซ่ที่เจาะเข้าไปตรงกระดูกสะบักของหยวนฝ่าเทียนก็ถูกดึงออกมา

ทั้งสองโซเซลุกขึ้นยืน สีหน้างุนงง ความรู้สึกรอดชีวิตหลังพบเคราะห์เช่นนี้ทำเอาพวกเขาแทบกังขาว่ากำลังฝันไป

เดิมทีพวกเขาต่างคิดว่าจะไม่มีทางรอดอีกแล้ว…

“พี่หลิน ขอบคุณมาก…”

หยวนฝ่าเทียนริมฝีปากสั่นระริก เสียงแหบแห้ง ซาบซึ้งใจหมายจะพูดอะไรแต่ก็หยุดลง

ราชันเผิงปีกทองน้อยเดินไปข้างหน้า ตบไหล่หลินสวิน ไม่ได้พูดสักประโยค แต่ขอบตาเขากลับมีความรู้สึกที่เกินกว่าคำพูดจะบรรยายได้ผุดขึ้นมา

“ไม่เป็นไร มีข้าอยู่ ฟ้าไม่ถล่มลงมาหรอก! รอฆ่าเจ้าพวกเกะกะลูกตาพวกนี้แล้ว ข้าค่อยร่วมดื่มกับทั้งสองคน”

หลินสวินพูดพลางรับทั้งสองเข้าไปในเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุด มีพวกเจ้าคางคกกับอาหลู่ช่วยรักษาบาดแผลให้พวกเขาอยู่แล้ว

“ตอนนี้เจ้าควรปล่อยพวกเขาได้แล้ว!”

กู่ฉางซินตะคอกลั่น

สายตาคนอื่นในที่นั้นต่างจับจ้องหลินสวิน ถ้าเขากล้ามีทีท่าหลบหนีใดๆ พวกเขาจะจู่โจมเต็มกำลังทันที

แต่ที่เหนือความคาดหมายของพวกเขาก็คือ ตอนนี้หลินสวินดูเบิกบานใจนัก สะบัดมือครั้งหนึ่ง เชือกที่มัดตัวเชลยเหล่านั้นก็ถูกเก็บกลับไป

เชลยเหล่านั้นรอดตายมาได้ ต่างยินดีปรีดาเหมือนบ้าคลั่ง ถลากลับไปข้างกายพวกกู่ฉางซินอย่างรีบร้อน

จนกระทั่งตอนนี้พวกกู่ฉางซินยังไม่อาจถอนหายใจโล่งอกได้

“ฮ่าๆๆ หลินสวินเจ้าโง่นี่ คิดจริงๆ หรือว่าข้าจะปล่อยพวกนั้นไปง่ายๆ แบบนี้”

ทันใดนั้นเถาเจี้ยนสิงก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา สีหน้าเจือความลำพอง

“ในร่างเพื่อนทั้งสองของเจ้าต่างถูกข้าวางหมื่นพิษร้ายเอาไว้ ขอเพียงข้าคิดครั้งเดียว พวกเขาก็จะตายทันที!”

เมื่อพูดคำนี้ดังออกมา ทุกคนในที่นั้นต่างรู้สึกฮึกเหิม ความโกรธเคืองและอัดอั้นที่สั่งสมในใจก่อนหน้านี้ถูกกวาดออกไปจนสิ้น

ใครก็คิดไม่ถึงว่าเถาเจี้ยนสิงยังเตรียมทางหนีทีไล่เช่นนี้ไว้อีก!

“จะดีใจจะเร็วไปหรือเปล่า”

เพียงแต่หลินสวินกลับดูสงบนิ่งไม่กระวนกระวายแต่อย่างใด สีหน้ากลับเผยยิ้มเหี้ยมออกมา

ปัง!

เสียงพูดยังไม่ทันเงียบลง ในหมู่เชลยที่หนีตายเหล่านั้น ร่างผู้แข็งแกร่งเผ่านักรบเถาอู้คนหนึ่งแข็งทื่อในทันใด จากนั้นก็ล้มลงไปกับพื้นอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง

กายหยาบยังอยู่ แต่ดวงวิญญาณถูกกำจัดไปแล้ว!

ภาพที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้รอยยิ้มของเถาเจี้ยนสิงแข็งทื่อทันที คนอื่นที่อยู่ตรงนั้นก็ต่างใจเต้นตุบ ขนลุกไปทั้งตัว

“นี่…”

รูม่านตาพวกกู่ฉางซินก็หดรัดตามไปด้วย

ไม่ต้องสงสัย เถาเจี้ยนสิงเตรียมทางหนีทีไล่ไว้ แล้วหลินสวินจะไม่เตรียมไว้ได้อย่างไร

นี่ทำเอาทุกคนทั้งตกตะลึงทั้งโกรธเกรี้ยว

“ตอนนี้ก็ส่งยาถอนพิษมา ถ้ายังกล้าเล่นตุกติกอะไรอีก ข้ารับรองได้ว่าเชลยพวกนั้นจะต้องศพไม่สวยกันหมดแน่”

หลินสวินเอ่ยปากเย็นชา

ใบหน้าเถาเจี้ยนสิงอัดอั้นจนคล้ำเขียว ดวงตาทั้งสองอยากจะพ่นไฟออกมา ในการต่อกรกันก่อนหน้านี้ หลินสวินครองโอกาสได้เปรียบไปหมด ทำเอาพวกเขาโมโหจะแย่

“พี่เถา รับปากเขาไป ประเดี๋ยวใช้กำลังคนพรั่งพร้อมฆ่าเขาก็พอ!”

กู่ฉางซินเอ่ย

พอเห็นภาพนี้เข้า ผู้ที่ดูการต่อสู้อยู่ไกลออกไปต่างตระหนกใจ หลินสวินอันตรายแล้ว!

“พูดจบแล้วหรือ”

จู่ๆ หลินสวินก็เอ่ยปาก รอยยิ้มดูถูกปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขา “ข้ามาคราวนี้มีความต้องการเพียงอย่างเดียว พวกเจ้า… ต้องตายทั้งหมด!”

เมื่อคำพูดนี้ดังออกมา ทั้งที่นั้นก็เงียบเชียบลง

ทุกคนต่างแสดงสีหน้าเหลือเชื่ออย่างกับมองดูคนบ้าคนหนึ่งอยู่!

“ฮ่าๆๆ ชัดเจนนักว่าเจ้าหมอนี่ยังไม่รับรู้สถานการณ์ของตัวเอง ถึงกล้าคุยโวเช่นนี้!”

กู่ฉางซินหัวเราะร่า

ทั้งกายเขามีเจตกระบี่สีดำเป็นริ้วๆ ว่ายวน ดุดันทะลวงเมฆา ประหนึ่งเทพดุร้ายแห่งบรรพกาล

“ลงมือ!”

ในขณะเดียวกันเถาเจี้ยนสิงก็ตะคอกออกมา

ตูม!

ยอดเขาพญามังกรแห่งนี้พลันมีแสงเทพถั่งโถม แปลงเป็นสัญลักษณ์ปริศนาแน่นขนัด ถักทอกันไปทั่วห้วงอากาศ วิวัฒน์เป็นค่ายกลใหญ่บดบังฟ้าดินทั้งแถบ

พอสร้างกระบวนค่ายกลนี้เสร็จ พายุอัสนีซัดสาด แปดทิศเปลี่ยนสี มีเสียงเทพมารคำราม อริยะเมธีท่องมนต์ดังขึ้น มีกฎเกณฑ์มหามรรคแปลงเป็นภาพกลียุค ถาโถมปกคลุม

ค่ายกลกลียุคสังหารมาร!

กระบวนค่ายกลอริยะโบราณที่สืบทอดมาในเรือนมรรคจักรวาล ลือกันว่าในอดีตกาลเคยมีบุคคลระดับจักรพรรดิอนุมานกระบวนค่ายกลนี้ด้วยตัวเอง พลังสังหารตะลึงโลก

นี่ก็คือไพ่ตายที่พวกกู่ฉางซินตั้งใจวางไว้อย่างดี

ชั่วพริบตาเดียวเงาร่างของหลินสวินก็ถูกกลบมิดอยู่ภายใน มองไม่เห็นอีก

ตรงทางขึ้นเขา ผู้ที่ดูการต่อสู้ต่างสีหน้าตกตะลึง กระบวนค่ายกลนี้ปรากฏขึ้นฉับพลัน ก่อนหน้านี้สังเกตร่องรอยไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

และกลิ่นอายที่กระบวนค่ายกลนี้แผ่ออกมาก็น่ากลัวยิ่ง ทำเอามกุฎมหาอริยะไม่น้อยต่างอกสั่นขวัญแขวน ขนลุกเกรียว

‘หลินสวินชะล่าใจไปแล้ว นี่เดิมทีก็เป็นการวางกับดักสังหาร เห็นได้ชัดว่าพวกกู่ฉางซินเตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้วเพื่อสังหารเขา…’

หลายคนลอบถอนใจในใจ

ส่วนพวกกู่ฉางซินต่างเผยสีหน้าเย็นชาเหี้ยมเกรียม เจ้าโง่คนหนึ่ง ยังใจกล้ามารนหาที่ตายคนเดียว คิดว่าหลายวันนี้พวกเขาไม่ได้เตรียมตัวจริงหรือ

“โคจรค่ายกล สังหารเจ้านี่ซะ!”

กู่ฉางซินออกคำสั่ง ไม่ร่ำไรสักนิด

ตั้งแต่เริ่มจนจบพวกเขาก็ไม่ได้ดูเบาหลินสวินสักนิด และเพราะมองหลินสวินเป็นบุคคลอันตราย พวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะร่วมมือกัน ทั้งไม่ลังเลที่จะทุ่มเทกำลังและจิตใจ วางกระบวนค่ายกลกลียุคสังหารมารที่มีพลังสังหารสะท้านฟ้าเช่นนี้

เป้าหมายก็เพื่อมอบการโจมตีถึงแก่ชีวิตให้หลินสวิน

และตอนนี้ ก็ถึงเวลาเก็บแหฆ่าศัตรู!

ลมเมฆในที่นั้นแปรเปลี่ยนรุนแรง มีเพียงอาหูซึ่งซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มคนที่ดูการต่อสู้เท่านั้นที่มุมปากยกยิ้มนึกสนุก

ปฐมาจารย์สลักลายมรรคคนหนึ่ง ที่ด้วยพลังของตนคนเดียวก็สามารถสร้างเมืองอารักษ์มรรคที่ไม่เสื่อมสลายชั่วกาลได้ ถ้าถูกกระบวนค่ายกลใหญ่เช่นนี้กักขังสังหาร…

นั่นจึงจะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ในใต้หล้า!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์