คนผู้เดียว ลากเหยื่อเลือดไหลรินเป็นแถบปีนเขาขึ้นมา!
ภาพนองเลือดนั้นทำให้ผู้สืบทอดเรือนมรรคจักรวาลที่ยืนอยู่ตรงไหล่เขาเหล่านั้นต่างหน้าเปลี่ยนสี
เจ้าหมอนี่ ถึงกับปรากฏตัวขึ้นด้วยวิธีโหดเหี้ยมเช่นนี้!
นี่เป็นสิ่งที่ก่อนหน้านี้พวกเขาคาดไม่ถึงโดยสิ้นเชิง
‘ไป แจ้งศิษย์พี่กู่ฉางซิน บอกไปว่าเป้าหมายปรากฏตัว’ ชายหนุ่มที่เป็นผู้นำสื่อจิตอย่างรวดเร็ว
ฮูม!
หญิงสาวคนหนึ่งกลายร่างเป็นนกสีทองเจิดจ้าตัวหนึ่ง กระพือปีกบินไป
เห็นได้ชัดว่าพลังผนึกห้วงอากาศที่สามารถทำให้ไม่ว่าผู้ฝึกปราณคนใดก็เหินทะยานเคลื่อนย้ายไม่ได้นั่น ไม่อาจขัดขวางหญิงสาวที่เดิมทีเป็นนกแปลงกายได้
จนกระทั่งตอนนี้ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้าคนนั้นถึงลอบถอนหายใจโล่งอก ดวงตาแปรเปลี่ยนเป็นคมปลาบเย็นชาขึ้นมา
“เตรียมตัวสู้!”
เขาออกคำสั่ง
ทุกคนในบริเวณนั้นเริ่มเคลื่อนไหว บ้างเรียกสมบัติออกมา บ้างโคจรวิชาลับ แต่ละคนพลานุภาพน่าหวาดหวั่น ประหนึ่งทวยเทพกลางเขา มองลงไปยังหลินสวินที่เดินมาช้าๆ ไกลออกไป
บนบันไดหินสีเขียวเก่าแก่ หลินสวินเงยหน้าขึ้นชำเลืองมองพวกเขาครั้งหนึ่ง แววตาไม่มีคลื่นอารมณ์ใดสักนิด
ตูม!
ครู่ต่อมาดาบหักโฉบพุ่ง ขาวประกายดั่งแสงสายฟ้าฟาด
การต่อสู้เปิดฉากขึ้นแล้วโดยไม่มีคำพูดใด
การโจมตีอันแข็งกร้าวและอหังการปานนั้น ทำให้ผู้สืบทอดเรือนมรรคจักรวาลเหล่านั้นล้วนสีหน้าอึมครึม ออกโจมตีโดยไม่ลังเลด้วยเช่นกัน
……
ในขณะเดียวกันบนยอดเขาพญามังกร
ลมภูเขาหวีดหวิว ทะเลเมฆลอยเป็นไอ เหล่าผู้แข็งแกร่งเรือนมรรคจักรวาล เรือนมรรคดึกดำบรรพ์ เผ่านักรบเถาอู้ และเผ่านักรบกิเลนโลหิตรวมตัวอยู่ในนั้น
เป็นภาพน่าตกตะลึงนัก!
ในนั้นไม่ขาดมกุฎมหาอริยะ กลิ่นอายแต่ละคนประหนึ่งสุริยันกลางนภา สีสันพิสดารแสงประหลาดไหลหลั่งไปทั้งกาย ทำให้ยอดเขาส่องแสงเจิดจ้าเปล่งประกาย
ความภาคภูมิใจผุดขึ้นในใจหลายๆ คน
ผู้สืบทอดจากขุมอำนาจใหญ่มากมายเช่นนี้มารวมตัวกัน ต่อหน้าขุมกำลังที่แข็งแกร่งยิ่งเช่นนี้ ไม่ว่าผู้แข็งแกร่งคนไหนก็ต้องถูกทำลายแหลกสลายเป็นผุยผง!
สวบ…
บนทางขึ้นเขามีนกปีศาจสีทองเจิดจ้าตัวหนึ่งถลามา เอ่ยปากอย่างว่องไวว่า “ศิษย์พี่กู่ หลินสวินนั่นบุกจากตีนเขาขึ้นมาแล้ว!”
ประโยคเดียวทำเอาทั้งที่นั้นกระสับกระส่าย หลายคนต่างงุนงง เจ้าหมอนั่นถึงกับมาจริงๆ หรือ
“เหอะๆ รนหาที่ตาย! ในเมื่อเจาปรากฏตัวแล้ว ก็ไม่ทำให้พวกเราที่รวมตัวอยู่นี่รออย่างเสียเปล่า!”
กู่ฉางซินหัวเราะหยัน
ที่นี่มีบุคคลชั้นยอดรวมตัวกัน ล้วนเป็นอัจฉริยะในหมู่ขุมอำนาจใหญ่ ไม่ขาดผู้กล้าชั้นยอดที่อยู่บนกระดานมหาอริยะฟ้าดารา
เผชิญหน้ากับภาพตระการตาที่ยอดฝีมือเหล่านี้มาชุมนุมกัน สามารถทำให้ไม่ว่าผู้ใดก็หายใจไม่ออกขวัญหนีดีฝ่อได้ เขาหลินสวินมามุ่งหน้ามา ก็คือการเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง
“ทุกท่าน เป้าหมายปรากฏตัวแล้ว อีกเดี๋ยวคนที่มีแค้นก็ล้าง คนที่ขุ่นเคืองก็สะสาง ข้าคนแซ่กู่ขอพูดเพียงประโยคเดียวว่า วันนี้ ต้องฆ่าเจ้าหมอนี่ตายที่นี่!”
กู่ฉางซินสีหน้าเหี้ยมเกรียม
“นี่มันแน่อยู่แล้ว”
ใกล้ๆ กันมกุฎมหาอริยะที่ยืนอยู่สิบกว่าคนล้วนเผยไอสังหาร
บนตัวพวกเขาบ้างมีเพลิงเทพพลุ่งพล่าน บ้างมีแสงทองหลั่งไหล บ้างมีเจตกระบี่ทะลุเมฆ และบ้างปราณกลืนภูผาธารา กลิ่นอายแต่ละคนล้วนแกร่งกล้าหาใดเทียบ ยกมือวาดเท้าล้วนมีอานุภาพทำลายล้างฟ้าดินทั้งนั้น
นี่เป็นบุคคลชั้นยอดในหมู่มกุฎมหาอริยะ ตระการตาดั่งดวงดารา หากอยู่บนทางเดินโบราณฟ้าดารา ต่างเป็นบุคคลผู้โดดเด่นมีชื่อในดินแดนแถบหนึ่งทั้งสิ้น
เถาเจี้ยนสิง คุนจิ่วหลิงล้วนอยู่ในกลุ่มนี้
ผู้แข็งแกร่งที่มาจากขุมอำนาจต่างกันอย่างพวกเขาร่วมมือกัน ก็เป็นเพราะตอนอยู่ในแดนหลอมสมบัติพวกเขาแต่ละคนเคยพ่ายแพ้หลินสวินอย่างหนัก
หากไม่ร่วมมือกัน ยังไม่แน่ใจว่าจะกำราบหลินสวินได้
อย่างตอนนี้พวกเขาผู้แข็งแกร่งนับร้อยคนรวมตัว เตรียมรอโจมตีไว้นานแล้ว มั่นใจว่าสามารถล้มคนรุ่นเดียวกันคนใดก็ได้ นับประสาอะไรกับหลินสวิน!
“เหอะๆ เจ้าหลินสวินนี่คงจะคิดไม่ถึง ว่าเขาคนเดียวไปสร้างความโกรธแค้นไว้เท่าไรกระมัง”
กู่ชางซินเอ่ยเนิบๆ ลำพองใจนัก
“ถุย!”
เสียงที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยันเสียงหนึ่งดังขึ้น บนหน้าผาไม่ไกลนัก พญาเผิงที่เลือดชุ่มไปทั้งตัวตัวหนึ่งเงยหัวขึ้นมาอย่างยากลำบาก แค่นหัวเราะเอ่ยว่า “ใช้คนมากรังแกคนน้อยเดิมก็น่าขายหน้าพอแล้ว ยังคุยโวโอ้อวดกันใหญ่โตเช่นนี้อีก ไม่รู้สึกอับอายหรือ”
ปีกทั้งสองของมันถูกหักสะบั้น ร่างถูกเหล็กหมาดสำริดมหึมาเล่มหนึ่งเจาะทะลุ ตรึงไว้กับพื้น เลือดสดๆ ยังไหลหลั่ง ไม่มีแรงดิ้นรน
ไม่ไกลนักมีเสียงหัวเราะหยันแหบแห้งอ่อนแรงแว่วมา “ราชันเผิงน้อยเจ้าพูดผิดแล้ว คนไร้ยางอายอย่างพวกเขาจะไปอับอายได้อย่างไร”
นี่เป็นลิงจมูกเชิดร่างกายแข็งแรงตัวหนึ่ง เพียงแต่ผิวหนังปริแตก เลือดเนื้อเหวอะหวะ ไหล่แทบถูกตัดขาด แขนทั้งสองถูกโซ่สีดำสนิทเส้นหนึ่งแทงทะลุ กักไว้กับพื้น
หยวนฝ่าเทียน!
เขาถูกกำราบจนขยับตัวไม่ได้ บาดเจ็บปางตายเหมือนราชันเผิงปีกทองน้อย
“หนวกหู!”
กู่ฉางซินสีหน้าอึมครึม “ปรนนิบัติพวกมันดีๆ ให้ข้าที!”
ทันใดนั้นก็มีคนสองคนยืนขึ้นมา แต่ละคนต่างถือแส้เหล็กที่มีลายมรรคสีเลือดแน่นขนัดคนละเส้น แล้วฟาดลงไปอย่างแรง
เผียะๆๆ!
แต่ละครั้งที่โจมตีลงไป ไม่ต่างจากดาบทื่อบดกระดูก หมื่นคมรวมที่ใจ ทำให้ร่างของราชันเผิงปีกทองน้อยกับหยวนฝ่าเทียนเกร็งกระตุกรุนแรง ความเจ็บปวดเช่นนั้นลึกเข้าไปในกระดูก มีผลถึงในจิตวิญญาณ เรียกได้ว่าเป็นการลงโทษอันโหดร้ายในโลก
“กระดูกแข็งจริงๆ แต่ก็เป็นแค่เบี้ยบ้ายรายทาง ถ้าไม่ใช่ว่าพวกเจ้ายังมีประโยชน์คงฆ่าพวกเจ้าไปนานแล้ว!”
กู่ฉางซินสีหน้าเหี้ยมเกรียม
ผู้แข็งแกร่งคนอื่นที่อยู่ใกล้เคียงก็ต่างหัวเราะเหี้ยมเกรียมไม่หยุดหย่อน พวกเขาต่างรู้ดีแล้วว่าสองคนนี้สนิทสนมกับหลินสวิน จึงระบายความพ่ายแพ้ที่ได้รับจากหลินสวินที่พวกเขาสองคนจนหมด
“ฮ่าๆ มีพวกนั้นอยู่หลินสวินต้องไม่กล้าทำอะไรแน่ ข้าล่ะอยากดูเสียหน่อยว่าเขาจะเลือกอย่างไรเพื่อเจ้าสองคนนี้ รสชาติเช่นนั้นต้องอึดอัดมากแน่ๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์