Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1738

หลินสวินอยากรู้เรื่องของแหล่งสถานคุนหลุนให้มากขึ้นจริงๆ

เช่นไปดูวาสนาที่เกี่ยวข้องกับ ‘แส้หางม้า’ นั่นว่ามีความสัมพันธ์กับคีรีดวงกมลหรือไม่

หรือไปดู ‘แท่นสักการะ’ ที่ถูกมองเป็นหนึ่งในแดนสามผนึก ว่าเตามารดาหลอมสมบัติเกิดจากในนั้นได้อย่างไร

และในมือหลินสวิน ยังมีวัตถุต่างหน้าของเตามารดาหลอมสมบัติอยู่ด้วย!

“รอข้ากลับมาแล้วค่อยร่วมดื่มกับทุกท่าน”

หลินสวินยิ้มพลางประสานมือ อำลาทุกคน จากนั้นก็หันหลังจากไปพร้อมกับอาหู

มองส่งจนเงาร่างของเขาหายไป หมีเหิงเจินอดทอดถอนใจไม่ได้ “ทุกครั้งที่เจอเจ้าหมอนี่ ข้าจะมีความรู้สึกว่ายากตามทันขึ้นเรื่อยๆ…”

คนอื่นก็ล้วนหัวใจสั่นไหว

เหล่าผู้กล้าที่อยู่ในยุคเดียวกันกับหลินสวินล้วนดูหม่นแสงลงอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงขั้นจนปัญญาและน่าสลดใจ

ด้วยต่อให้เจ้าชวนตะลึงและยอดเยี่ยมแค่ไหน หลินสวินก็จะใช้วิธีที่ไม่อาจเข้าใจได้นำหน้าเจ้าไปทีละก้าว กำราบเจ้าจนไม่อาจไม่ก้มหัว!

อวิ๋นชิ่งไป๋ซึ่งบุคคลระดับผู้นำคนรุ่นเยาว์ของดินแดนรกร้างโบราณในปีนั้นเป็นเช่นนี้ ต่อมาบุคคลระดับผู้นำคนรุ่นเยาว์แห่งเก้าดินแดนก็เป็นเช่นนี้

ในภายหน้าบนทางเดินโบราณฟ้าดารานั่น ก็จะเป็นเช่นนี้หรือไม่

“เป็นเพื่อนเขาช่างโชคดีแค่ไหน เป็นศัตรูกับเขา… ช่างน่าเศร้าเพียงใด”

เย่หมัวเฮอทอดถอนใจ

คนอย่างหลินสวินก็เหมือนดวงตะวันบนฟากฟ้า ต่อให้ถูกพยับเมฆบังแสงเจิดจ้า แต่สุดท้ายพยับเมฆย่อมมีเวลาที่สลายหายไป!

คนที่อิจฉาริษยาเขาล้วนได้แต่ปลงอนิจจัง ล้าหลังไล่ไม่ทัน

คนที่เห็นเขาเป็นศัตรู ไม่ตายไปแล้วก็กำลังอยู่บนหนทางของความตาย!

พวกเสี่ยวอิ๋น เสี่ยวเทียน เจ้าคางคก อาหลู่ได้ยินก็ไม่เอ่ยคำ ในใจกลับเปรมปรีดิ์ ความรู้สึกนี้ช่าง… ดียิ่งจริงๆ

มีเพียงเจ้านกดำที่บ่นอุบ “นั่นเป็นเพราะข้าไม่ได้สำแดงอานุภาพ พวกเจ้าจะไปรู้อะไร พวกหน้าโง่ที่มีตาไร้แววเอาทองไปเลี่ยมหยก…”

เพียงแต่ทุกคนต่างมองข้ามมันกันหมด เจ้านกขี้ขโมยนี่มีนิสัยชอบโอ้อวด ทุกคนคุ้นเคยอยู่ก่อนแล้ว ล้วนคร้านจะใส่ใจ

นี่ทำให้เจ้านกดำอักอ่วนเป็นอย่างยิ่ง ทำท่าทางเหมือนหดหู่ด้วยผู้คนไม่รู้จักต้นไม้สูงทะยานเมฆ ไม่ต่างจากเล่นหูเล่นตาให้คนตาบอด

ยอดเขาพญามังกร

เงาร่างของหลินสวินและอาหูทยอยก้าวออกมาจากพื้นที่ซึ่งหมอกควันปกคลุมนั้น

อาหูกล่าวอย่างประหลาดใจ “เจ้าอยากไปหาวาสนาที่เกี่ยวข้องกับไหมแส้หางม้านี้หรือ”

“ถูกต้อง เจ้าเคยบอกไม่ใช่หรือ ว่าไหมแส้หางม้านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความลับบางอย่างของสำนักคีรีดวงกมล ข้าอยากใช้โอกาสนี้ไปลองดูหน่อย”

หลินสวินพยักหน้า ในหัวมีภาพมากมายปรากฏออกมา

มีเงาร่างนั้นที่แข็งกร้าวทะลุเมฆ มีราชันผีเสวียนคง มีศิษย์พี่เสวี่ยหยาที่ไม่เคยพบหน้า และมีหลี่เสวียนเวยที่ทิ้งขวดมหามรรคไร้ขอบเขตไว้ให้ตน

คนพวกนี้ล้วนเป็นศิษย์พี่ของเขา!

“นี่ออกจะหายากอยู่บ้าง”

น้ำเสียงของอาหูเจือความรู้สึกขอโทษเสี้ยวหนึ่ง “ตอนที่ข้าได้ของสิ่งนี้มา แค่กล้ายืนยันว่ามันเป็นสิ่งที่ออกมาจากแหล่งสถานคุนหลุนเมื่อนานมาแล้ว มีความเกี่ยวข้องกับสำนักคีรีดวงกมล ส่วนวาสนาที่เกี่ยวข้องกับมันซ่อนอยู่ที่ไหนนั้นข้าก็ไม่ค่อยแน่ใจ”

“ไม่เป็นไร ปล่อยไปตามวาสนาก็พอ”

หลินสวินยิ้มเล็กน้อย สองมือไพล่หลังทอดมองไปไกลๆ “มหามรรคในใต้หล้านี้ ขอแค่มีใจไปเสาะหา ส่วนใหญ่ย่อมได้มา แต่วาสนาบนโลกนี้ ก็ได้แต่ไปตามวาสนาเท่านั้น”

“พี่หลิน หากเจ้าต้องการไปที่แท่นสักการะ ข้าสามารถช่วยเจ้าได้”

นัยน์ตาคู่งามกระจ่างแวววาวของอาหูมองมาทางหลินสวิน “ในมือเมิ่งอี้แห่งเผ่านักรบฉงฉีนั่นมีคำจารึกสักการะอยู่ ในมือข้าก็มีของสิ่งนี้อยู่เช่นกัน สามารถคลี่คลายอันตรายบางอย่างที่ต้องประสบยามมุ่งหน้าไปยังแท่นสักการะได้”

หลินสวินนึกขึ้นมาได้ เมิ่งอี้เคยชวนเขาไปที่แท่นสักการะด้วยกัน นับเวลาดูแล้วก็น่าจะได้เวลาพอดี

เขากล่าวเสียงขรึม “อาหู แท่นสักการะเป็นหนึ่งในแดนสามผนึกของแหล่งสถานคุนหลุน อันตรายที่อัดแน่นอยู่ในนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่ เจ้าคิดว่าพวกเรามีความจำเป็นต้องไปเสี่ยงอันตรายนี้ไหม”

“ตามความเห็นข้า ลองไปดูสักครั้งจะดีที่สุด”

อาหูคิดไปคิดมาค่อยกล่าว “ลือกันว่าแท่นสักการะซ่อนความลับของการบรรลุจักรพรรดิกลายเป็นบรรพจารย์ไว้ แต่ความลับนี้มีอยู่จริงหรือไม่ จนถึงตอนนี้ก็ยังต่างคนต่างพูด”

“แต่เท่าที่ข้ารู้ สถานที่ซึ่งแท่นสักการะนั้นตั้งอยู่ กลับมีศุภโชคที่เกี่ยวข้องกับการสักการะอริยมรรค ทั้งในช่วงเวลาที่ผ่านมายังมีคนไม่น้อยเคยได้รับมาก่อน”

หลินสวินกล่าวอย่างประหลาดใจ “ยังมีเรื่องเช่นนี้ด้วย”

“ไม่ผิด ขอแค่เหยียบขึ้นไปบน ‘แท่นสักการะ’ ที่ลึกลับนั้นได้ ก็ล้วนไปเสาะหาวาสนาในการอุทิศตนเป็นอริยบุคคลได้”

อาหูกล่าวรวดเร็ว “เพียงแต่ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมา ผู้แข็งแกร่งที่รอดชีวิตเข้าไปในแท่นสักการะได้มีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย อันตรายและน่ากลัวเกินไป ทำให้ผู้ฝึกปราณส่วนใหญ่ไม่กล้าข้ามขีดจำกัด เกรงแต่จะนำชีวิตไปทิ้งที่นั่น”

“ก็มีแต่เหล่าผู้สืบทอดของยอดขุมอำนาจใหญ่อย่างหกเรือนมรรคใหญ่ สิบเผ่านักรบใหญ่ ที่มีรากฐานพอพิจารณาเรื่องการเข้าไปในแท่นสักการะได้”

“ด้วยในทุกขุมอำนาจที่พวกเขาอยู่ ล้วนกุมความลับและวิธีการบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับแท่นสักการะ พอที่จะทำให้พวกเขาไม่ถึงขั้นตายยามเสาะหาวาสนา”

“เหมือนเมิ่งอี้ที่ครอบครองคำจารึกสักการะไว้”

หลินสวินได้ยินดังนี้ก็เงียบไปครู่หนึ่งค่อยกล่าว “เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ!”

ขณะที่หลินสวินและอาหูวางแผนมุ่งหน้าไปยังแท่นสักการะ ในโบราณสถานคุนหลุนก็มีคลื่นลมก่อตัว

ในโลกลึกลับแห่งหนึ่ง ไอขุ่นมัวส่งเสียงกึกก้อง กฎเกณฑ์ร้อยถักเข้าด้วยกัน มีเสียงคัมภีร์มหามรรคดังขึ้น เหมือนบรรพจารย์ที่คงอยู่มาแต่โบราณกำลังท่องคัมภีร์

‘ตอนนี้ข้าขาดแค่จุดเปลี่ยนในการสักการะอริยมรรคแล้ว…’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์