Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1755

อาหูตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ใบหน้างามเคร่งขรึม

คู่ต่อสู้ของนางคือซวีหลิงคุน ทายาทเลือดบริสุทธิ์เผ่าจักรพรรดิตระกูลซวี อยู่อันดับที่สิบสามบนกระดานมหาอริยะฟ้าดารา เรียกได้ว่าเป็นจอมเผด็จการแห่งยุคในหมู่คนรุ่นเดียวกัน!

ก่อนหน้านี้อาหูก้าวขึ้นบันไดมา ระหว่างทางก็พบคู่ต่อสู้มากมาย สังหารคนไม่น้อย แต่เมื่อเทียบกันแล้วยังถือว่าไม่หนักหนา

ทว่าเมื่อครู่นี้จู่ๆ ซวีหลิงคุนก็หันตัวมา โจมตีลงมาจากบันไดหินขั้นสูง จากนั้นก็ต่อสู้กับอาหูจนตั้งรับไม่ทัน

ตูม!

ซวีหลิงคุนสีหน้าเลือดเย็น หวดหมัดบุกสังหาร ไอเลือดพลุ่งพล่านดุจสมุทรแผดคำราม ลำแสงสีมองบาดตากลายเป็นพลังหมัดไร้เทียมทานโฉบพรวดออกมา

แม้อาหูจะฮึดกำลังต่อต้าน ก็ยังซัดสะเทือนจนตัวซวนเซอยู่ดี ถอยร่นลงมาจากบันไดหินหลายขั้น

“แม่นาง ข้าคนแซ่ซวียังคงยืนยันประโยคเดิม หากเจ้ายอมเชื่อฟัง ถวายชีวิตให้ข้า ข้ารับรองว่าจะเหลือทางรอดให้แก่เจ้า!”

ซวีหลิงคุนเอ่ยปากเสียงเข้ม ร่างกายเขาสูงใหญ่กำยำ ผิวกายไหลเวียนด้วยแสงสีทอง ทุกท่วงท่าอิริยาบถ มีอานุภาพข้าเป็นใหญ่เพียงผู้เดียวในทั่วหล้าฟ้าปฐพี

ตูม!

ขณะพูด เขาไม่เคยออมมือ เงื้อหมัดหวดสังหาร ดุจดั่งเทพสงครามสีทอง เผด็จการ อำมหิต แข็งแกร่ง

อาหูเผยแววเหยียดหยัน “ให้ข้ายอมเชื่อฟัง จากนั้นก็เอาไปข่มขู่ ไม่ก็ทำให้หลินสวินอับอายอย่างนั้นหรือ”

“ฉลาด!”

ซวีหลิงคุนเห็นชัดว่าตรงไปตรงมายิ่ง ไม่ปิดบังแต่อย่างใด

“ฝันไปเถอะ”

อาหูขำพรืด

สถานการณ์นางอันตรายยิ่ง หลังจากถูกกดข่มจนไม่เหลือทางให้ถอย ใบหน้างามก็เริ่มค่อยๆ ซีดขาวขึ้นมา

สาเหตุนั่นก็เพราะ บนเส้นทางสักการะ ครอบด้วยผนึกมหามรรคลึกลับ ไม่ว่าสมบัติและพลังภายนอกใดๆ ก็ตามล้วนไม่สามารถดึงออกมาใช้ได้

เช่นเดียวกัน หากเดินมุ่งหน้า ก็เหมือนเรือเล็กทวนกระแสน้ำ อาจประสบแรงบีบคั้นของพลังเคี่ยวกรำได้

แต่หากเดินสวนทิศทาง ก็เหมือนตามลมตามน้ำ ถึงขั้นยังสามารถหยิบยืมพลังเคี่ยวกรำที่น่ากลัวนั่นมาโมตีศัตรูพร้อมกันได้

ก็เหมือนซวีหลิงคุนในเวลานี้ เดิมทีพลังต่อสู้ก็น่าสะพรึงสุดขีดอยู่แล้ว ซ้ำยังเดินสวนทิศทาง พลังเคี่ยวกรำนั่นกลับถูกเขาใช้ประโยชน์อย่างไร้รูป บุกโจมตีอาหูพร้อมกัน!

หากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ อาหูก็คงไม่สะบักสะบอมเช่นนี้เด็ดขาด

“คนอื่นล้วนพากันรีบเร่งมุ่งสู่แท่นสักการะ เจ้ากลับเดินย้อนลงมาอย่างไม่นึกเสียดายเพื่อจะโจมตีข้า ไม่กลัวจะแย่งชิงวาสนาสักการะมาไม่ได้หรือ”

อาหูกล่าวเยียบเย็น

“น่าขัน ความตายมาจ่อตรงหน้าแล้ว ห่วงตัวเจ้าเองหน่อยเถอะ”

ซวีหลิงคุนหัวเราะลั่น ผมยาวปลิวไสว เหยียดหยันและเลือดเย็น กล่าวว่า “จิตข้าดุจมีด ฟันลมบั่นคลื่น”

ตูม!

พลังหมัดของเขาเจิดจ้า ดุจดั่งกระแสน้ำเชี่ยวกราก

กลางเสียงชนกระแทกกึกก้อง เงาร่างอาหูซวนเซ ริมฝีปากไหลรินคราบเลือดแดงฉานออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

“ใจข้าดุจเขา สูงตระหง่านไม่สั่นคลอน!”

ตูม!

ซวีหลิงคุนตะโกนลั่น เสียงยิ่งน่าสะพรึงและสยดสยองมากขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายไหลเวียนแสงสีทองโชติช่วง ดุจวิญญาณอริยะสู้รบในยุคบรรพกาล

อาหูแค่นเสียงเฮอะออกมา แม้ว่าสุดท้ายจะต้านการโจมตีนี้ได้ แต่เงาร่างของนางกลับถูกซัดสะเทือนจนถอยหลังออกไปห้าขั้นบันได ใบหน้าเกลี้ยงเกลางดงามล้วนเปลี่ยนเป็นซีดเซียว

บริเวณสูงขึ้นไปของขั้นบันได กลางไอแรกกำเนิดคละคลุ้ง เงาร่างที่อรชรดุจเทพเซียนสายหนึ่งคอยเฝ้าสังเกตทุกสิ่งนี้เงียบๆ ใบหน้างดงามนิ่งเฉยไม่ไหวติง

เหวินฉิงเสวี่ย!

จนกระทั่งเวลานี้ ในที่สุดนางก็เอ่ยปาก “พี่ซวี หวังว่าจะไว้ชีวิตนางด้วย คนตาย ไม่สามาราถข่มขู่หลินสวินนั่นได้”

เสียงก็เรียบเฉยจนไม่มีความผันผวนของอารมณ์ใดๆ สักนิด

“วางใจได้ ข้ารู้ดียิ่งกว่าเจ้า”

ซวีหลิงคุนกล่าวราบเรียบ

“กายข้าดุจสวรรค์ ไร้เทียมทานมิอาจต้าน!”

ทันใดนั้นซวีหลิงคุนสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง พลังหมัดพลันเปลี่ยนไปอีกครั้ง ความน่าสะพรึงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปรากฏแสงทองหมื่นจั้ง มีกฎเกณฑ์มหามรรคก้องกระหึ่มอยู่ในนั้น

ในที่สุดอาหูก็หน้าเปลี่ยนสี การโจมตีนี้ นางไม่มีความมั่นใจว่าจะต้านได้อีกแล้ว ถึงขั้นที่แม้แต่ถอยก็ยังทำไม่ได้ เพราะพลังปราณรอบกาย ถูกอานุภาพของหมัดนี้ปิดครอบไว้แล้ว!

ในขณะนี้เอง จู่ๆ เงาร่างสายหนึ่งก็โฉบพรวดขึ้นมาจากขั้นบันไดเบื้องล่าง

ควรรู้ว่า แต่ละขั้นของบันไดหินนั้นล้วนปิดครอบด้วยพลังเคี่ยวกรำที่น่าสะพรึง ก็เหมือนสิ่งกีดขวางและอุปสรรคเป็นชั้นๆ แม้จะเป็นบุคคลชั้นยอด เดินเหินบนนั้น ย่างก้าวแต่ละทีก็ยังยากลำบาก ไม่อาจไม่ระแวดระวังตัว

แต่เงาร่างสายนั้นกลับเหมือนปราศจากสิ่งกีดขวาง เข้ามาใกล้ในชั่วพริบตา หมับเดียวก็ลากอาหูมาอยู่ด้านหลัง

และพร้อมกันนั้น เขาหวดหมัดขวาออกไป

ตูม!

เสียงกระแทกที่สะเทือนเลื่อนลั่นฟ้าดินดังขึ้น ไอแรกกำเนิดที่คละคลุ้งแถวนั้นล้วนถูกซัดสะเทือนจนสลายออกไป

บนบันไดหิน เงาร่างสายนั้นยืนตระหง่าน มั่นคงดุจรากงอกออกจากเท้า ไม่ไหวติงสักนิด มีเพียงอาภรณ์ทั้งชุดโบกสะพัดกลางลมแกร่ง ผมยาวพลิ้วไหว

“หลินสวิน?”

เนตรงามของอาหูเบิกกว้าง เผยแววดีใจออกมา

“ยกให้ข้าก็พอ”

บนบันไดหิน นัยน์ตาดำของหลินสวินเย็นเยียบจนน่ากลัว ล้นทะลักไอสังหารที่ชวนให้ผู้คนพรั่นใจดุจเหวลึก

ฝั่งตรงข้าม ซวีหลิงคุนก็เผยสีหน้าตกใจ จากนั้นพลันมุ่นคิ้ว “เหอ คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะมาไวทีเดียว”

บนบันไดหินที่สูงขึ้นไปอีก เหวินฉิงเสวี่ยถอนหายใจในใจ

ขาดอีกแค่ก้าวเดียว!

แต่หลินสวินนี่ดันมาเสียแล้ว…

“พี่ซวี โอกาสพลาดไปแล้ว ควรไปกันได้แล้ว”

เหวินฉิงเสวี่ยกล่าวพลาง หันตัวเดินทางยังข้างบนแล้ว ไม่อิดอาดยืดยาดสักนิด เพราะนางรู้ดียิ่ง เวลานี้ไม่ใช้โอกาสเหมาะที่สุดที่จะปะทะหลินสวินซึ่งๆ หน้าสักนิด

“เดี๋ยวจะตามคิดบัญชีกับเจ้าทีหลัง”

ซวีหลิงคุนแค่นเสียงเย็น เหลือบมองหลินสวินปราดหนึ่ง และตั้งใจจะหันตัวออกไป

“ไป? ข้าให้พวกเจ้าไปแล้วหรือ”

ในเสียงยะเยือกเยียบเย็น หลินสวินลงมือแล้ว

ตูม!

เขาซัดหมัดหนึ่งออกมา ดุจดั่งเหวใหญ่กลืนฟ้าทะยานขึ้นไป เผด็จการไร้ทัดเทียม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์