เหตุใดแดนกษิติครรภ์ถึงมองหลินสวินเป็นคนนอกรีตที่ต้องฆ่าทิ้ง
หนึ่งเป็นเพราะไม้โพธิ์ที่ผนึกพลังต้องห้ามไว้ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือหลินสวินครอบครองคัมภีร์มหาครรภ์จุติ!
อย่างก่อนหน้านี้ที่หลินสวินมองทะลุวิชาเคลื่อนย้ายของคูตู้ได้ สิ่งที่ใช้ก็คือภินิหารหนึ่งที่อยู่ในคัมภีร์มหาครรภ์จุติ
ณ ที่นั้นเงียบกริบ พวกจวนอวี๋เหิง ถังซู เนี่ยเจี้ยนเฉินต่างหวาดหวั่นใจ
พวกเขาก็ต่างดูฐานะของซาหลิวชิงกับคูตู้ออก แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลินสวินจะถึงกับถูกพวกเขาหมายหัว
นี่เป็นถึงผู้สืบทอดสองในสามยักษ์ใหญ่ของโลกมืด!
ทันทีที่ถูกหมายหัว เภทภัยในภายหน้าก็จะไร้ที่สิ้นสุด
พอรับรู้ได้ถึงจุดนี้ ทั่วเฉิงไห่ที่เดิมหดหู่จนแทบกระอักเลือดก็ยินดีปรีดา ดีใจที่ผู้อื่นเป็นทุกข์ขึ้นมาครู่หนึ่งอย่างอดไม่ได้
เขารู้ดีว่าหลังจากเข้าสู่แหล่งสถานคุนหลุน ก็มีผู้สืบทอดของหกเรือนมรรคใหญ่และสิบเผ่านักรบใหญ่ตายลงด้วยน้ำมือหลินสวินไม่รู้เท่าไร
เยี่ยนฉุนจวิน ลู่อ๋าง กู่ฉางซิน เถาเจี้ยนสิง คุนจิ่วหลิน ซวีหลิงคุน เหวินฉิงเสวี่ย… คนเหล่านี้ต่างเป็นบุคคลชั้นยอดที่เลื่องชื่อทั้งนั้น
นอกจากคนเหล่านี้ จวบจนตอนนี้มีผู้แข็งแกร่งตายด้วยน้ำมือหลินสวินอย่างน้อยหลายร้อยคน!
เรื่องพวกนี้หากกระจายออกไป จะมีขุมอำนาจใหญ่บนทางเดินโบราณฟ้าดารากลุ่มไหนยอมปล่อยเจ้าหมอนี่ได้กัน
ตอนนี้แม้แต่โลกมืดยังหมายหัวหลินสวิน นี่ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงอย่างไม่ต้องสงสัย!
เป็นอย่างที่คูตู้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ เว้นแต่ชั่วชีวิตนี้หลินสวินจะไม่ไปเหยียบทางเดินโบราณฟ้าดารา หาไม่ต้องถูกขุมอำนาจใหญ่ไม่รู้เท่าไรโจมตีแน่
“ยิ้มชอบใจขนาดนี้ ไม่ปวดแก้มหรือ”
จู่ๆ หลินสวินก็เอ่ยปาก ทอดสายตามองไป
ทั่วเฉิงไห่ใบหน้าแข็งทื่อ เดือดดาลเป็นอย่างยิ่ง ผุดลุกขึ้นทันควัน “หลินสวิน คิดจริงๆ หรือว่าข้าไม่กล้าประมือกับเจ้า”
“จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันดูไหมล่ะ”
กลับเห็นว่าถังซูสีหน้าตั้งตาคอย
ทั่วเฉิงไห่หน้าเจื่อน โกรธจนแทบกระอักเลือด
“เอ๊ะ!”
ในตอนนี้เอง จู่ๆ จวนอวี๋เหิงก็ส่งเสียง
มองไปตามสายตาเขาก็พบว่าเหนือท้องฟ้าสูง ศิลามรรคสักการะป้ายหนึ่งลอยอยู่สูงขึ้นไปเจ็ดพันจั้ง ทัดเทียมกับศิลามรรคสักการะของจวนอวี๋เหิง ถึงขั้นสูงกว่าเล็กน้อยอยู่กลายๆ!
ในที่นั้นระส่ำระสายไปครู่หนึ่งด้วย สายตาทอดมองไปยังเงาร่างงามล้ำที่อยู่บนแท่นมรรคห้าสีนั้นโดยมิได้นัดหมาย
เพราะว่านี่เป็นศิลามรรคสักการะของอาหู!
และเป็นผู้เดียวเท่านั้นที่มีผลสำเร็จสูงกว่าจวนอวี๋เหิงจนถึงตอนนี้!
“ถ้าเจ้าไม่กล้าลงมือกับแม่นางถังซู พวกเรามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันสักรอบดีไหม”
อาหูเสื้อผ้าพลิ้วไหว ยิ้มเดินลงมาจากแท่นมรรคห้าสี
นางท่วงท่านุ่มนวลอ่อนหวาน สง่างามยิ่งนัก แววตางดงามเปี่ยมชีวิตชีวาจับจ้องไปที่ทั่วเฉิงไห่
“หึ! ข้าไม่เหมือนหลินสวิน ไม่เคยรังแกผู้หญิง”
ทั่วเฉิงไห่ยิ้มหยัน นั่งลงอีกครั้งด้วยสีหน้าอึมครึม
“เป็นอย่างไรบ้าง”
สายตาอาหูมองที่หลินสวิน ออกจะเป็นห่วง
แม้พวกซาหลิวชิงถูกฆ่าไปหมด แต่การปรากฏตัวของพวกเขากลับรบกวนใจหลินสวินที่กำลังสัมผัสจุดเปลี่ยนสักการะ
“ไม่เป็นไร”
หลินสวินเอ่ย สองมือไพล่หลัง มองไปที่จักรวาลเวิ้งฟ้าเหนือหัว
เพียงแต่ในสายตาของเขา จักรวาลแห่งนี้เปลี่ยนไปไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว
และไม่มีใครรู้ว่าในการหยั่งรู้ชั้นลึกก่อนหน้านี้ หลินสวินไม่เพียงมองทะลุแดนบ่อเกิดที่ ‘เตามารดาหลอมสมบัติ’ ถือกำเนิดขึ้น
แต่ยังได้รับการหยั่งรู้อันน่าเหลือเชื่ออีกด้วย!
“จริงด้วย ทำไมเจ้าถึงเลือกใช้ ‘แรงปรารถนาแห่งสรรพชีวิต’ สักการะล่ะ”
หลินสวินไม่เข้าใจอยู่บ้างจึงเอ่ยถามอาหู การได้รับแรงปรารถนาแห่งสรรพชีวิตและกลายเป็นอริยบุคคล ทำให้พลังของตนแปรสภาพ มีอานุภาพแห่งอริยบุคคล สามารถบรรลุเป็นมกุฎราชันอริยะในภายหลังได้จริง
แต่เทียบกันแล้วกลับสู้การสักการะด้วย ‘แรงปรารถนาแห่งมหามรรค’ ไม่ได้!
อุทิศตนเป็นอริยบุคคลด้วยแรงปรารถนาแห่งสรรพชีวิต ในเวลาเดียวกันก็ต้องมองประโยชน์สุขของสรรพชีวิตเป็นที่ตั้ง เช่นการใช้มรรคของตนสั่งสอนสรรพชีวิต เผยแพร่มรรคในใต้หล้า
ดูเหมือนง่าย แต่ความจริงแล้วยากนัก!
อีกทั้งทันทีที่ไม่ทำเช่นนี้ ก็จะถูกแรงปรารถนาแห่งสรรพชีวิตเหนี่ยวรั้ง ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการฝึกปราณของตนในอนาคต
แต่การใช้แรงปรารถนามหามรรคสักการะจะไม่ได้รับผลกระทบเช่นนี้
อาหูยิ้มเอ่ย “เช่นนี้แหละดีแล้ว มหามรรคที่ข้าเสาะแสวงยังไม่ถึงขั้นสามารถอุทิศตนเป็นอริยบุคคลได้ รอภายหน้ามีโอกาสข้าก็อยากเปิดสำนักตั้งพรรค สองสั่งสรรพชีวิต ประสาทวิชามรรค เผยแผ่แก่นอัศจรรย์แก่พวกเขา”
หลินสวินไม่พูดอะไรอีก
นี่ก็คือการเสาะแสวงมหามรรค สิ่งที่ทุกคนไขว่คว้าย่อมแตกต่างกันไป
ฮูม!
ไม่นานนักฮว่าซิงหลีก็หยั่งถึงจุดเปลี่ยนสักการะสายหนึ่ง จึงขึ้นไปบนแท่นมรรคห้าสี
เขาไม่เหมือนกับจวนอวี๋เหิง เนี่ยเจี้ยนเฉินและถังซูที่อยู่ข้างหน้า พลังสักการะที่ชักนำมาถึงกับเป็นแสงมรรคโอฬาร!
ปรากฏการณ์ประหลาดน่ากลัวอย่าง ‘สามพันแดนมาร หมื่นวิญญาณสลายเคราะห์’ ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเขา!
“สักการะด้วยแรงปรารถนามหามรรค!”
หลินสวินนัยน์ตาหดรัด
แทบจะในขณะเดียวกัน เสียงร้องตื่นตะลึงระลอกหนึ่งดังขึ้นในที่นั้น ทุกคนที่อยู่ในลานอย่างจวนอวี๋เหิง ถังซูยังเผยสีหน้าตกตะลึงออกมาอย่างอดไม่ได้
เพราะจนถึงตอนนี้ นี่คือคนเดียวที่อุทิศตนเป็นอริยบุคคลด้วย ‘แรงปรารถนามหามรรค’ เห็นชัดว่าโดดเด่นต่างจากผู้อื่น
“คิดไม่ถึงว่าฮว่าซิงหลีคนนี้จะถึงกับบุกเบิกวิชามรรคมารใหม่วิชาหนึ่ง ได้รับการยอมรับจากพลังสักการะเสียได้…”
สายตาที่จวนอวี๋เหิงมองฮว่าซิงหลีเปลี่ยนไปแล้ว
คนอื่นก็ไม่อาจสงบจิตใจลงได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์