เริ่มตั้งแต่จวนอวี๋เหิง จนถึงตอนนี้พวกเนี่ยเจี้ยนเฉิน ถังซูห้าคนทยอยหยั่งถึงจุดเปลี่ยนสักการะจากส่วนลึกของจักรวาลนั่น ปีนขึ้นแท่นบูชาห้าสีอย่างราบรื่น จากอริยะเข้าสู่ระดับอริยบุคคล!
ห้าคนนี้ แต่ละคนต่างก็ทิ้งศิลามรรคสักการะที่ของตนเอาไว้บนฟ้าสูงเหนือแท่นสักการะ
เพียงแต่นอกจากศิลามรรคสักการะของจวนอวี๋เหิงที่สูงเจ็ดพันจั้งแล้ว ของสี่คนที่เหลือต่างอยู่ต่ำกว่าเจ็ดพันจั้ง
ไม่มีใครสามารถไปถึงเก้าพันจั้งได้
และไม่มีใครสามารถล้มสถิติความสูงของจวนอวี๋เหิงได้
แม้จะเป็นเช่นนี้ ผู้แข็งแกร่งสี่คนนี้ที่กลายเป็นอริยบุคคลอย่างราบรื่นก็พึงพอใจเต็มอกแล้ว
เพราะอริยบุคคลไม่เพียงหมายถึงการเปลี่ยนแปลงในระดับมหาอริยะเท่านั้น ยังหมายถึงภายภาคหน้าจะสามารถปีนป่ายสูงระดับมกุฎราชันอริยะได้อีกด้วย!
ผู้แข็งแกร่งที่ยังไม่เคยสัมผัสถึงจุดเปลี่ยนสักการะ กับมีอารมณ์แตกต่างออกไป
แรกสุดตอนที่หลินสวินมาถึงแท่นสักการะ เมื่อรวมพวกซวีหลิงคุน เหวินฉิงเสวี่ยด้วย มีทั้งหมดเก้าคน
ต่อมา อาหู ถังซูมาถึงตามๆ กัน หลังจากตัดซวีหลิงคุนกับเหวินฉิงเสวี่ยทิ้ง ก็ยังเหลือเก้าคน
ตอนนี้มีห้าคนกลายเป็นอริยบุคคลแล้ว เหลือเพียงแต่หลินสวิน อาหู ฮว่าซิงหลี รวมถึงหญิงสาวชื่อฉีเซี่ยนอวี๋ที่ยังไม่หยั่งถึงจุดเปลี่ยนสักการะ
“เหอะๆ คนบางคนถึงพลังต่อสู้จะแข็งแกร่ง แต่กลับนิสัยเหี้ยมอำมหิต ไร้ขื่อไร้แป มิน่าจนป่านนี้ก็ยังไม่สามารถสักการะเป็นอริยบุคคล!”
ชายหนุ่มชุดหลากสีทั่วเฉิงไห่เป็นผู้แข็งแกร่งคนที่ห้าที่สักการะเป็นอริยบุคคล ตอนที่เดินลงจากแท่นบูชาห้าสี เขากวาดมองหลินสวินกับอาหูด้วยสายตาเยียบเย็นปราดหนึ่ง เจือแววชิงชังที่คล้ายมีแต่ไม่มี
ก่อนหน้านี้หลินสวินไล่ตีเขาภายใต้สายตาจับจ้องของทุกคน สองฝ่ามือฟาดจนเขาหัวบวมแดงเหมือนหัวหมู นี่ทำให้เขาอับอายขายขี้หน้าครั้งใหญ่
เวลานี้ทั่วเฉิงไห่ชิงสักการะเป็นอริยบุคคลได้ก่อน ยามเผชิญหน้ากับหลินสวินและอาหูอีกครั้ง ในใจจึงผุดไอสังหารขึ้นมารำไร
หลินสวินไม่ใส่ใจสิ่งนี้แม้แต่น้อย ไร้ซึ่งการตอบสนอง
อาหูกลับมุ่นคิ้ว ถูกปลุกให้ตื่นจากการหยั่งรู้ในชั้นลึก
ในใจนางความเดือดดาลทะลักล้นอย่างควบคุมไม่อยู่ ใครถูกรบกวนในเวลานี้ ย่อมไม่มีทางเบิกบานใจได้
“ทั่วเฉิงไห่”
แต่ไม่รอให้อาหูพูดอะไร ถังซูที่นั่งสมาธิอยู่ข้างกันจู่ๆ ก็ลืมตาขึ้นกล่าวว่า “ตอนนี้เจ้ากับข้าล้วนเป็นอริยบุคคลแล้ว อยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันหน่อยไหม”
ในน้ำเสียงเจือแววคึกอยากลอง
ทั่วเฉิงไห่หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย รอยยิ้มแข็งทื่อกล่าวว่า “ช่างเถอะ เพิ่งเหยียบย่างขอบเขตนี้ ข้ายังต้องสงบจิตหยั่งรู้เสียหน่อย”
ถังซูร้องอ้อคราหนึ่งแล้วกล่าว “ก็ได้ หากเจ้าอยากลงมือ ข้าจะเป็นคู่ซ้อมให้คนแรก”
กล่าวจบนางก็หลับตาลงอีกครั้ง
แต่ในปากทั่วเฉิงไห่กลับขมเฝื่อน ในใจสบถด่ายกใหญ่ มีหรือเขาจะมองไม่ออก เห็นชัดว่าถังซูรู้ว่าตนอยากทำอะไร ดังนั้นจึงจงใจเอ่ยออกมา
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ขอแค่ตนกล้าลงมือกับหลินสวิน ถังซูต้องใช้ข้ออ้าง ‘แลกเปลี่ยนเรียนรู้’ มาขัดขวางตั้งแต่จังหวะแรกแน่!
อาหูก็เดาข้อนี้ออกเช่นกัน จึงเกิดความประทับใจต่อถังซูอย่างอดไม่ได้
“เฮอะ!”
ทั่วเฉิงไห่ปรายตามองหลินสวินกับอาหูปราดหนึ่ง ก่อนหันตัวมาหยุดที่พื้นที่ว่างแห่งหนึ่ง เริ่มนั่งสมาธิ สงบจิตสัมผัสถึงประโยชน์ที่ตนได้รับจากการเปลี่ยนแปลงก่อนหน้านี้
อาหูมองข้ามเขาไปตรงๆ แล้วเหลือบมองหลินสวินที่อยู่ข้างกาย เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ถูกรบกวนใดๆ จึงวางใจลงไม่น้อย เริ่มหยั่งรู้อีกครั้ง
…
พร้อมกับเวลาเคลื่อนคล้อย บนเส้นทางสักการะ ตั้งแต่ต้นจนจบล้วนไม่มีใครสามารถไปถึงยอดเขาได้อีก ด้วยเหตุนี้ก็สามารถอนุมานได้ว่า หมายจะเฉียดใกล้แท่นสักการะนั้นยากเย็นปานใด!
ซวีหลิงคุน เหวินฉิงเสวี่ยคือคนโชคดี มีศักยภาพในการปีนขึ้นแท่นสักการะ แต่ขณะเดียวกันพวกเขาก็โชคไม่ดี ไม่สามารถสัมผัสถึงจุดเปลี่ยนสักการะ ชีวิตดับสิ้นลงตรงนี้
คนตาย ไฟมอด มรรคว่างเปล่า ยังเทียบผู้แข็งแกร่งที่ไม่เคยปีนขึ้นแท่นสักการะเหล่านั้นไม่ได้ อย่างน้อยการรอดชีวิต ภายหน้าก็ยังมีหวังที่จะเดินบนมรรคาได้ยาวไกลขึ้น!
เวลาหนึ่งเค่อต่อมา
ผู้หญิงที่ชื่อฉีเซี่ยนอวี๋ก็สัมผัสถึงจุดเปลี่ยนสักการะเสี้ยวหนึ่งแล้วเช่นกัน กลายเป็นอริยบุคคล ฝากศิลามรรคสักการะของตนเอาไว้
สองชั่วยามต่อมา
อาหูก็สัมผัสถึงจุดเปลี่ยนสักการะ ปีนขึ้นแท่นมรรคห้าสี
ยามนี้ทั่วเฉิงไห่ลืมตาขึ้นเงียบๆ พออาหูออกไป ข้างกายหลินสวินเท่ากับไม่มีใคร หากอาศัยจังหวะนี้โจมตีสังหารละก็…
เพิ่งคิดถึงตรงนี้ทันใดนั้นร่างกายของทั่วเฉิงไห่พลันเย็นวาบ สัมผัสได้ถึงสายตาของถังซูที่ไม่รู้มองเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ เจือแววนึกสนุกเสี้ยวหนึ่ง
ในใจทั่วเฉิงไห่ฉุนเฉียว ยิ่งมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ ว่าถังซูกำลังจับจ้องตน มุ่งมั่นว่าจะปกป้องหลินสวิน
สุดท้ายเขาก็ลอบถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ละทิ้งแผนการที่จะซุ่มโจมตีหลินสวิน
และในตอนนี้เอง การเปลี่ยนแปลงประหลาดหนึ่งพลันบังเกิดขึ้น…
เงาร่างเทาขุ่นที่เหมือนหมอกควันสายหนึ่งปรากฏตัวอย่างไร้สุ้มเสียง มาถึงด้านหลังหลินสวินด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ
สวบ!
กลางฝ่ามือของเขา เหล็กหมาดแหลมอันหนึ่งแทงเข้าใส่หลินสวินหนักๆ
ขณะเดียวกันดอกบัวแปลกพิสดารสีดำดอกหนึ่งก็ปรากฏอยู่เหนือศีรษะของหลินสวิน ใจกลางเกสรหลั่งรินลำแสงเทพปิดครอบลงมา
ทั้งหมดนี้ล้วนเสร็จสิ้นในชั่วอึดใจ ไวอย่างไม่น่าเชื่อ
ต่อให้เป็นพวกถังซู จวนอวี๋เหิง เนี่ยเจี้ยนเฉิน ยามสังเกตเห็นภาพเหตุการณ์นี้ การซุ่มโจมตีครั้งนี้ก็ปะทุขึ้นเสร็จสรรพแล้ว
ทุกคนล้วนหนาวเยือกในใจ
ทั่วเฉิงไห่กลับตื่นเต้นจนเกือบส่งเสียงร้องออกมา สำหรับเขา การซุ่มโจมตีครั้งนี้ก็คือสวรรค์มาโปรดชัดๆ!
และในยามนี้อาหูปีนขึ้นแท่นมรรคห้าสี กำลังรับการเปลี่ยนแปลงและชำระล้างของพลังสักการะ ไม่ได้สังเกตเห็นภาพเหตุการณ์นี้แม้แต่น้อย
กล่าวอย่างไม่เกินจริง การโจมตีครั้งนี้ถูกจังหวะ ลงมือโหดเหี้ยมรุนแรง ใช้วิธีลอบสังหารขั้นสูงสุดชัดๆ
ไม่ว่าใครมองเห็น เกรงว่าต่างรู้สึกสะท้านสะเทือนและหวาดหวั่น!
หลินสวิน…
จะถึงคราวเคราะห์แล้ว!
ในช่วงคับขันอันตรายนี้ ในหัวทุกคนผุดความคิดหนึ่งขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
แต่ครู่ต่อมาก็เห็นหลินสวินที่แต่เดิมเหมือนรูปปั้นดินเหนียว ไม่ได้สัมผัสถึงอะไร บนร่างกายพลันปรากฏเหวใหญ่ขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์