Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1764

ไม่เพียงแต่ถังซู ขณะนี้ทุกคนในที่นั้นต่างอึ้งงันอยู่เช่นนั้น นัยน์ตาเบิกกว้าง

ก็เห็นว่าศิลามรรคสักการะของหลินสวินหลังจากไปถึงเก้าพันจั้งก็ไม่ได้หยุดลง แต่พุ่งสูงขึ้นอีกช่วงใหญ่โดยพลัน

ภายใต้สายตาตกตะลึงทั้งมวล เมื่อศิลามรรคสักการะนั้นอยู่สูงถึงหมื่นจั้งจึงค่อยๆ หยุดนิ่ง!

ทั้งที่นั้นเงียบสงัด เข็มตกยังได้ยิน

ทุกคนเพียงรู้สึกคอแห้งผาก จิตใจปั่นป่วนยากสงบลงได้

ตั้งแต่อดีตมา ท้องฟ้าสูงเก้าพันจั้งก็เป็นผลงานสักการะที่น่ายกย่องได้แล้ว ลองคิดดูว่าในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ยาวนาน รวมแล้วเพิ่งมีศิลามรรคสักการะของคนไม่เกินสามคนที่ลอยสูงเก้าพันจั้ง

สามคนนี้ คนหนึ่งคือ ‘เสวียนซั่งเฉิน’ ที่อยู่ยุคดึกดำบรรพ์ บรรลุระดับจักรพรรดิมานานมากแล้ว ขนานนามว่า ‘มหาจักรพรรดิเสวียนเหยี่ยน’

อีกคนหนึ่งคือ ‘เฟิงเทียนจื่อ’ ที่มาจากเรือนมรรคโลกาสวรรค์เมื่อหนึ่งแสนปีก่อน บรรลุระดับจักรพรรดิเช่นกัน ขนามนามว่า ‘จักรพรรดิเร้นเก้ารู้’ ตอนนี้เร้นกายอยู่ในเรือนมรรคโลกาสวรรค์

คนสุดท้ายเป็นผู้ลึกลับที่มีนามว่า ‘ฉีหนิง’ เมื่อหกหมื่นปีก่อน ไม่มีใครล่วงรู้ที่มาที่ไป ภายหลังเป็นอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ เป็นคนที่ลึกลับที่สุดในสามคนนี้

และในวันนี้ตอนนี้ หลินสวินอาศัยพลังสักการะของตน สร้างผลงานที่ไม่เคยมีในอดีตได้ในคราเดียว ก้าวเดินโดดเด่นเพียงผู้เดียว

ศิลามรรคสักการะฉายส่องสูงหมื่นจั้งเพียงลำพัง!

นี่ก็เหมือนปาฏิหาริย์ครั้งหนึ่ง ทำให้ทุกคนกระทบกระเทือนใจและไหวสะท้าน

ทุกคนต่างรู้ดีว่ายิ่งศิลามรรคสักการะอยู่สูง ก็หมายความว่าการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นหลังจากสักการะเป็นอริยบุคคลก็ยิ่งแกร่งกล้า ดังนั้นโชควาสนาที่ได้รับก็ยิ่งมากตามไปด้วย

และผลงานสักการะของหลินสวิน ประหนึ่งเป็นคนแรกที่อยู่สูงหนึ่งหมื่นจั้งในชั่วนิรันดร์กาล!

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจากบรรลุเป็นอริยบุคคลของเขาจะน่าตกตะลึงปานไหน

โชควาสนาที่เขาได้รับจะมากเพียงใด

พอคิดดูก็ล้วนทำให้คนหวั่นใจ

“คิดไม่ถึงว่าพี่หลินจะหัวเราะทีหลังดังกว่า กลายเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนแท่นสักการะแห่งนี้”

ครู่ใหญ่ฮว่าซิงหลีเอ่ยพึมพำ

คนอื่นก็สีหน้าผกผันไม่ว่างเว้น

ก่อนหน้านี้หลินสวินคล้ายได้รับสุดยอดความลับบรรลุจักรพรรดิกลายเป็นบรรพจารย์ ตอนนี้ยังสักการะเป็นอริยบุคคล กดข่มทุกผู้คนทั้งอดีตและปัจจุบันอีก

เขาเรียกได้ว่าเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจริงๆ!

ต่อให้เป็นอาหู ก่อนหน้านี้ก็ยังคิดไม่ถึงว่าจะมีปาฏิหาริย์เช่นนี้เกิดขึ้นกับหลินสวิน จึงสั่นสะท้านไม่ว่างเว้นไปชั่วขณะหนึ่ง

บนแท่นมรรคห้าสี หลินสวินยืนอยู่เพียงลำพัง เงาร่างสูงตระหง่าน กลิ่นอายว่างเปล่าอันสมบูรณ์กระจายไปทั้งร่าง

ดูอยู่ไกลๆ ภายใต้กลิ่นอายที่ดูเหมือนเรียบเฉยของเขา กลับมีความน่าเกรงขามที่พุ่งสู่ใจคน!

นั่นคือกลิ่นอายของอริยบุคคล ทั้งยังต่างจากทั่วไป!

“หึ ข้าไม่สนหรอกว่าจะเป็นผู้ชนะอะไรนั่นหรือไม่ ข้ารู้แต่ว่าเจ้าหมอนี่ชิงศุภโชคบรรลุจักรพรรดิกลายเป็นบรรพจารย์ไปแล้ว!”

ทั่วเฉิงไห่สีหน้าแปรผันไม่หยุด ในใจมีความริษยาและชิงชังที่ไม่อาจกดข่มได้

พวกจวนอวี๋เหิง เนี่ยเจี้ยนเฉินมีสีหน้าแตกต่างกันไป

ฟุ่บ!

ทันใดนั้นหลินสวินก็ลงมือแล้ว ดาบหักฟันออกมากลางอากาศด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ ดุจฝันดั่งอสนี ปานภาพลวง

ทั่วเฉิงไห่หน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ จะคิดได้อย่างไรว่าหลินสวินไม่พูดสักคำก็ลงมือทันควัน ตอนที่ต้องหลบก็หลบไม่ทันแล้ว ทำได้เพียงเข้าปะทะซึ่งหน้า

ปึง!

ครู่ต่อมาทั่วเฉิงไห่ก็ถูกซัดกระเด็น กระอักเลือดกบปากจมูก

แทบจะในขณะเดียวกัน เงาร่างอาหูไหววูบมาอยู่ตรงหน้าทั่วเฉิงไห่ กระบี่บินคล้ายโปร่งแสงเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือแล้วแทงออกไปโดยพลัน

ตั้งแต่หลินสวินลงมือจนอาหูโจมตี ร่วมมือกันได้อย่างแนบเนียนไร้รอยต่อ ไม่มีช่องโหว่ให้โจมตีได้เลย!

ทั่วเฉิงไห่ที่เดิมก็ถูกโจมตีหนักหน่วง ยังไม่ทันได้ตอบสนองก็ถูกกระบี่บินแทงทะลุคอ

เสียงฟุ่บดังขึ้นครั้งหนึ่ง ศีรษะของเขาก็ถูกฟันกระเด็น เลือดสดๆ สาดกระเซ็น

“พะ… พวกเจ้า…”

ทั่วเฉิงไห่ตาเบิกกว้าง สีหน้ากราดเกรี้ยวและไม่ยินยอม ตายคาที่ลงในตอนนี้

ศพของเขาล้มลงไปกับพื้นดังสนั่น ศีรษะกลิ้งตกลงไป

จนตายก็ยังคิดไม่ถึงสักนิดว่าครั้งนี้มาถึงยอดแห่งแท่นสักการะอย่างยากเย็น คว้าจุดเปลี่ยนและได้อุทิศตนเป็นอริยบุคคลอย่างยากลำบาก กลับมาตายเอาตอนนี้

ไม่ยินยอมอย่างยิ่ง!

ภาพอันนองเลือดและกะทันหันนี้ก็ทำให้พวกจวนอวี๋เหิงใจเต้นโดยพลัน หน้าเปลี่ยนสีไม่หยุด

“แมลงวันตัวหนึ่ง บินหึ่งๆ ไม่รู้ดีชั่วไม่หยุด มาหาที่ตายหรือไง”

อาหูเอ่ยเสียงเรียบ

คนอื่นต่างนิ่งเงียบ หลังจากสงบใจได้แล้วจึงพบว่า ถ้าขัดแย้งกับหลินสวินในตอนนี้ จะแพ้หรือชนะล้วนพูดได้ยากนัก

ด้านหลินสวินไม่สนใจทุกอย่างนี้โดยสิ้นเชิง ตั้งแต่เริ่มจนจบเขายืนอยู่บนแท่นมรรคห้าสี่นั้นมาโดยตลอด ไม่ได้ก้าวเท้าเลย

เพียงแต่สีหน้าของเขากลับเจือแววประหลาดอย่างบอกไม่ถูก

เพราะไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากเคลื่อนไหว แต่เป็นเพราะถูกพลังลึกลับปกคลุมไปทั้งตัว ไม่อาจออกจากแท่นมรรคห้าสีได้เลยสักนิด!

ตอนสังหารทั่วเฉิงไห่เมื่อกี้ก็ทำได้เพียงใช้วิชาฟันกลางอากาศ หากไม่เป็นเช่นนี้ ทั่วเฉิงไห่มีแต่จะตายอนาถกว่านี้

‘อาหู’

หลินสวินสื่อจิต

‘หืม?’

อาหูประหลาดใจอยู่บ้าง รับรู้ได้อย่างฉับไวว่าอารมณ์ของหลินสวินออกจะชอบกล

‘บอกพวกเจ้าคางคกแทนข้าทีว่าไม่ต้องเป็นห่วงข้า’

หว่างคิ้วของหลินสวินปรากฏแววซับซ้อน ร่างที่ยืนอยู่บนแท่นมรรคห้าสีก็ดิ้นรนคล้ายกำลังต่อต้านอะไรอยู่

เนตรกระจ่างของอาหูหดรัดทันที ‘เจ้าเป็นอะไรไป’

แทบจะในขณะเดียวกัน พวกจวนอวิ๋นเหิงก็สังเกตเห็นว่าหลินสวินไม่เดินลงมาจากแท่นมรรคห้าสีสักที ดูผิดปกตินัก

‘ข้า…’

หลินสวินกำลังจะพูดอะไรร่างเขาก็ทะยานขึ้นไปอย่างรวดเร็ว พุ่งไปหาจักรวาลเหนือเวิ้งฟ้าราวกับถูกมือใหญ่จับไว้

“เขาเหมือนจะถูกจับไปแล้วใช่ไหม”

ถังซูอึ้งไป

อาหูใจหดเกร็ง ร้องว่า “หลินสวิน!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์