ยอดเขาพญามังกร
ภายใน ‘โลกใบเล็ก’ หนึ่งในเก้าลึกลับ
ขณะที่โลกภายนอกยุ่งเหยิงวุ่นวาย ระส่ำระสายไม่หยุดหย่อน อาหูก็นำข่าวของหลินสวินกลับมา
“เขาดันหายไปอย่างนี้เลยหรือ”
พวกราชันเผิงปีกทองน้อย หยวนฝ่าเทียน หมีเหิงเจินต่างอึ้งไปเล็กน้อย
พอได้ฟังผลงานการรบกับความสำเร็จที่ได้รับบนแท่นสักการะของหลินสวิน ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกไหวหวั่นไม่ว่างเว้น เลือดสูบฉีด จิตใจโหยหา
แต่เมื่อได้รู้ว่าหลินสวินหายไปจากแท่นมรรคห้าสีนั้นดื้อๆ ต่างก็ออกจะตั้งตัวไม่อยู่ ความผิดหวังและกลัดกลุ้มพลันปรากฏขึ้นในใจอย่างเลี่ยงไม่ได้
และยังไม่ขาดความกังวล
เพราะใครก็ไม่รู้ว่าคราวนี้หลินสวินไปไหน และจะประสบอันตรายหรือไม่
ชั่วขณะเดียวบรรยากาศก็อึมครึมเล็กน้อย
“โธ่ ทำไมพวกเจ้าไม่เสียใจสักนิดล่ะ”
หยวนฝ่าเทียนงุนงง พบว่าไม่ว่าจะเป็นเจ้าคางคกหรืออาหลู่ต่างก็ยิ้มแย้ม ถึงกับดื่มเหล้าคุยเล่นเสียด้วยซ้ำ
“นั่นสิ พวกเจ้าจะไร้หัวใจไปหน่อยแล้วมั้ง”
ราชันเผิงปีกทองน้อยหมดคำพูดไปครู่หนึ่ง
เจ้าคางคกกลอกตาอย่างไม่สบอารมณ์แล้วเอ่ยว่า “คนอย่างพี่ใหญ่ของข้า ในเมื่อบอกไว้ก่อนแล้วว่าพวกเราไม่ต้องกังวล เช่นนั้นก็ต้องไม่เป็นไร”
อาหลู่วิจารณ์ด้วยสีหน้าจริงจังว่า “พวกเจ้าน่ะยังไม่รู้จักพี่ใหญ่ของข้า หลายปีมานี้เขาประสบภยันตรายมาไม่รู้เท่าไร แต่จนตอนนี้ก็ยังมีชีวิตอย่างราบรื่นดีไม่ใช่หรือ นี่ก็เรียกว่าคนดีฟ้าคุ้มครอง”
ทุกคนมองหน้ากัน เป็นพี่น้องกันแบบนี้หรือ
หยวนฝ่าเทียนไม่เข้าใจจนออกจะหดหู่ สายตามองไปที่เสี่ยวอิ๋น เสี่ยวเทียนแล้วเอ่ยว่า “พวกเจ้าล่ะ หลินสวินเป็นถึงเจ้านายของเจ้า…”
ไม่ทันพูดจบเสี่ยวอิ๋นก็พูดทะลุกลางปล้องว่า “นายท่านไม่เป็นไรหรอก เจ้าก็อย่ากลุ้มใจไปเปล่าๆ เลย ไม่ได้จากตายเสียหน่อย ทำไมต้องเสียใจด้วย ความสงสัยของเจ้านี่เด็กน้อยเสียจริง”
เสี่ยวเทียนที่อยู่บนไหล่เสี่ยวอิ๋นพยักหน้า
หยวนฝ่าเทียน “…”
เจ้านกดำเก็บปีกไพล่หลัง พูดอย่างจองหองว่า “ข้าเคยดูดวงให้เจ้าหนูหลินนี่ ดวงเขาไม่ได้แข็งธรรมดา ทั้งใต้หล้านี้นอกจากข้าที่เหนือกว่าเขาเล็กน้อย คนอื่นไม่มีใครเทียบได้ทั้งนั้น”
ทุกคนพากันกลอกตา
เห็นดังนี้ความกลัดกลุ้มในใจของอาหูก็มลายไปไม่น้อย เผยสีหน้ายิ้มแย้ม หลายปีมานี้หลินสวินดูเหมือนสู้เพียงลำพัง แต่ความจริงแล้ว ข้างกายเขาห้อมล้อมไปด้วยมิตรสหายร่วมเป็นร่วมตายกลุ่มหนึ่งมานานแล้ว
……
หลายวันผ่านไป
เงาร่างของเหล่าผู้กล้ากลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้นที่ยอดเขาพญามังกร
“ผู้หญิงที่ชื่ออาหูคนนั้นปรากฏตัวขึ้นที่นี่เมื่อหลายวันก่อน”
มีคนเอ่ยฉับไว
“แน่ใจได้ว่านางต้องอาศัยป้ายคำสั่งเซียนเหินหลบอยู่ในเขตผนึกลึกลับแห่งนั้นแน่”
มีคนมองไกลออกไป ที่นั่นไอหมอกตลบอบอวล มองเห็นอะไรไม่ชัดเจน
“เหลือเวลาอีกแค่ไม่ถึงสองเดือนแหล่งสถานคุนหลุนครั้งนี้ก็จะปิดฉากลงแล้ว ผู้หญิงคนนั้นไม่มีทางซ่อนอยู่ในนี้ไปทั้งชีวิตแน่”
ผู้แข็งแกร่งเหล่านี้ปรึกษากันเล็กน้อยก็ตัดสินใจว่าจะซุ่มรอเหยื่ออยู่ที่นี่
ขอเพียงจับอาหูไว้ก็เท่ากับจับจุดอ่อนที่ใช้บีบหลินสวินได้อย่างหนึ่ง
ภายหน้าขอเพียงหลินสวินปรากฏตัว จุดอ่อนนี้ก็จะมีประโยชน์อย่างยิ่งยวด!
“หืม?”
จู่ๆ ก็มีคนสีหน้าตื่นเต้นเอ่ยว่า “ออกมาแล้ว นางออกมาแล้ว!”
ทุกคนต่างอึ้งไป พวกเขาเพิ่งตัดสินใจไป เหยื่อก็ปรากฏตัวแล้วหรือ
พอเงยหน้ามองขึ้นไป ก็เห็นว่ามีเงาร่างงามล้ำอ้อนแอ้นอรชรดั่งภาพฝันร่างหนึ่งเดินออกมาจากพื้นที่ที่มีหมอกอบอวลนั้นดังคาด
“ดูท่าพวกเราจะดวงดีไม่เลวนะ…”
มีคนตาลุกวาว ใจเต้นระส่ำ “เตรียมตัวให้พร้อม ผู้หญิงคนนี้อุทิศตนเป็นอริยบุคคลแล้ว จะต่อกรนางต้องโจมตีเต็มกำลัง!”
คนอื่นต่างพยักหน้า
พวกเขาล้วนเคยได้ยินข่าวอาหูอุทิศตนเป็นอริยบุคคลแล้ว มาคราวนี้จึงเตรียมตัวไว้พร้อมสรรพ ในใจไม่หวั่นกลัว
“แม่นาง มากับพวกเราสักรอบได้ไหม”
พอเห็นอาหูเดินออกมาจากหมอกนั้น ชายหนุ่มอาภรณ์หรูหราที่นำหน้าเอ่ยเรื่อยเฉื่อย ท่าทางมั่นใจว่าจะได้ชัยชนะ
“ไปไหนหรือ”
อาหูยิ้มถาม
“ไปแล้วก็จะรู้เอง”
ชายหนุ่มชุดงามหรูยิ้มเริงร่า โดยเฉพาะเมื่อเห็นรูปลักษณ์งามวิลาสดั่งเซียน ผุดผาดหาใดเทียบของอาหู ในใจก็แปรเปลี่ยนเป็นปั่นป่วนขึ้นมา
ช่วงเป็นโฉมสะคราญไร้เทียมทาน!
“พวกเจ้ามาเพราะข้าหมดเลยหรือ”
ในรอยยิ้มบริสุทธิ์ของอาหูเจือความเย้ายวนตามธรรมชาติ
หลายคนสูดหายใจเฮือก หัวใจไหววูบ ล้วนตื่นตะลึงกับเสน่ห์ที่อาหูเผยออกมายามขยับตัวเข้าเสียแล้ว
“ดูเจ้าโง่พวกนี้”
เสียงหัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่งดังขึ้น เงาร่างของเสี่ยวอิ๋นปรากฏขึ้นที่ไหล่ของอาหู และบนไหล่ของเสี่ยวอิ๋นก็มีเสี่ยวเทียนกระพือปีกอยู่
“เฮอะๆ พวกเขาคงนึกว่าพี่ใหญ่ไม่อยู่แล้วก็จะทำตัวเหิมเกริมได้ใช่ไหม”
ที่ตามมาติดๆ พวกอาหลู่ เจ้าคางคก เจ้านกดำ ราชันเผิงปีกทองน้อย หยวนฝ่าเทียน หมีเหิงเจินและเย่หมัวเฮอต่างกรูกันออกมาจากหมอก
แต่ละคนสีหน้าเจือแววโหดเหี้ยม
“แย่แล้ว!”
พวกชายหนุ่มชุดหรูหน้าเปลี่ยนสีในทันใด จะคิดได้อย่างไรว่าที่รอมาได้ไม่ได้มีแค่อาหูเพียงคนเดียว แต่เป็นคนกลุ่มหนึ่ง หนำซ้ำดูแล้วแม้แต่เจ้านกดำนั่นยังไม่น่าจะหาเรื่องด้วยได้ง่ายๆ
สวบ!
ก็ในตอนนี้เอง เสี่ยวอิ๋นลงมือแล้ว เงาร่างหายลับไปกลางอากาศ จากนั้นร่างหนึ่งล้มลงกับพื้นดังสนั่นพร้อมกับเสียงร้องอู้อี้
ร่างกายของเขาสมบูรณ์ดี แต่วิญญาณถูกป่นสลายกลายเป็นผง!
และตั้งแต่เริ่มจนจบ ไม่มีใครรู้ว่าเสี่ยวอิ๋นออกโจมตีเช่นไร และสังหารศัตรูอย่างไร
ฮูม…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์