สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1771 เลวร้ายกลายสุขสวัสดิ์ – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet
บท ตอนที่ 1771 เลวร้ายกลายสุขสวัสดิ์ ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ไม่นานนักประกายเทพที่ปลดปล่อยจากทั้งร่างหลินสวินก็รวมตัวเหมือนกระแสน้ำ
เขายืนอยู่กลางอากาศ ผมดำปลิวสยาย ดวงตาดำสุกสกาวดั่งดารา
ตั้งแต่เข้ามาในฟ้าดาราอันเวิ้งว้างแห่งนี้ก็ผ่านไปแล้วเกือบเก้าเดือน ด้วยการหยั่งรู้และขัดเกลา ทำให้หลินสวินมั่นใจได้เรื่องหนึ่ง
แม้เป็นสถานการณ์คับขัน ขอเพียงจิตใจเป็นดังเดิม ก็เป็นการฝึกปราณอันล้ำค่าหาได้ยากครั้งหนึ่ง!
ช่วงที่ผ่านมานี้สิ่งที่เขาได้รับไปไม่อาจเรียกว่าไม่มาก
อย่างแรก การควบคุมพลังของตนถึงขั้นบรรลุจุดสูงสุด สอดรับกับมรรคประหนึ่งเผาติงชำแหละวัว
ต่อมา หลอมครรภ์เทพอวัยวะตันห้าออกมาได้ การฝึกคัมภีร์มหามรรคหวงถิงบรรลุถึงขั้น ‘ห้าสี’ ทำให้มรรควิถีของตนก็ทะลวงถึงขั้นสมบูรณ์ของระดับมหาอริยะได้อย่างราบรื่นไปด้วย
ขาดแต่ทลายอุปสรรคหนึ่งไปได้ ก็จะแจ้งมรรคระดับอริยะขึ้นเป็นราชัน!
“น่าเสียดาย…”
ไม่นานนักหลินสวินกลับถอนหายใจยาวส่งเสียงออกมา
เพราะถึงตอนนี้ โอสถเทพกับของล้ำค่าที่ใช้ในการเติมพลังซึ่งอยู่กับตัวเขากำลังจะหมดลงไปแล้ว
เก้าเดือนยังหาทางออกจากฟ้าดาราแห่งนี้ไม่ได้ ทำให้หลินสวินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจนัก และเพราะทรัพยากรที่อยู่กับตัวขาดแคลน ทำให้จิตใจของเขาหนักอึ้งไม่น้อย
“ทำได้เพียงผนึกพลังขับเคลื่อนของตัวเองไว้ส่วนหนึ่งไปก่อนแล้ว…”
หลินสวินตัดสินใจ
เพียงไม่กี่อึดใจกลิ่นอายทั้งตัวเขาก็เปลี่ยนแปลงฉับพลัน ลดลงจากระดับมกุฎมหาอริยะขั้นสมบูรณ์สู่ระดับมกุฎอริยะแท้ขั้นต้น
ในขณะเดียวกันเขารวมพลังที่จุดศูนย์กลาง ใช้กายเป็นนาวา ใช้จิตเป็นไม้พาย อาศัยพันฤกษ์วัฏจักรนำพานำทางท่องทะยานไปในฟ้าดารา
เช่นนี้แล้วหลินสวินก็เหมือนผนึกพลังของตนเอาไว้ ใช้พลังทั้งหมดไปกับการท่องทะยาน
กาลเวลาผันผ่าน…
ท่ามกลางฟ้าดาราอันเงียบเชียบและเยียบเย็น จิตใจหลินสวินจมจ่อมกับการหยั่งรู้วิชาตน…
ทรัพยากรขาดแคลนย่อมไม่อาจฝึกมรรควิถีได้ หยั่งรู้วิชาจึงกลายเป็นสิ่งเดียวที่หลินสวินทำได้
……
ผ่านไปอีกครึ่งปีอย่างรวดเร็ว
หลินสวินหลอมนัยเร้นลับของดรรชนีมหาอุดมสลายมายาทั้งหมดเข้าไปในคัมภีร์เตาหลอมมหามรรคได้สำเร็จ ทำให้วิชาที่สร้างขึ้นด้วยตัวเองนี้แปรสภาพอีกครั้งหนึ่ง มีคุณสมบัติแห่ง ‘ห้วงอากาศว่างเปล่า’ เพิ่มขึ้นมา
กระบวนการหลอมวิชาก็เหมือนคัมภีร์อันว่างเปล่าเล่มหนึ่งถูกหลินสวินเขียนตัวหนังสือลงไปไม่หยุด ทิ้งบทความอันเลิศลอยไว้ในทุกๆ หน้า!
คัมภีร์เตาหลอมมหามรรคก็เป็นเช่นนี้ ยิ่งวิชาที่หลอมมีมากเท่าไร นัยเร้นลับที่มีอยู่ก็ยิ่งลึกลับมากเท่านั้น อานุภาพที่มีก็ยิ่งแกร่งกล้าขึ้นไปด้วย
แต่ก็ในช่วงครึ่งปีนี้เองที่ทรัพยากรเติมพลังที่หลินสวินพกติดตัวทั้งหมดถูกใช้ไปจนสิ้น
ในระหว่างนี้เขาก็ลองเสาะหาพลังชีวิต แสวงหาทรัพยากรที่จะนำมาใช้ได้ตามดาวต่างๆ แต่สุดท้ายก็กลับมามือเปล่า
ฟ้าดาราแห่งนี้เดิมก็เป็น ‘ที่ตาย’ แห่งหนึ่ง!
หลินสวินลองติดต่อ ‘อู๋เชวีย’ วิญญาณอาวุธของธนูวิญญาณไร้แก่นสาร แต่กลับพบว่าฝ่ายหลังจมสู่ภาวะเก็บตัวชั้นลึกมานานแล้ว ไม่มีทางตื่นขึ้นมาในช่วงสั้นๆ
ฉึบ!
ฝ่ามือหลินสวินมีปิ่นหยกเล่มหนึ่งเพิ่มขึ้นมา ปิ่นมีรูปลักษณ์โบราณเรียบง่าย เจียระไนขึ้นจากหยกดำสนิทลึกลับชนิดหนึ่ง บนนั้นมีตัวอักษร ‘ซี’ สลักอยู่ตัวหนึ่ง
นี่เป็นนามของหญิงลึกลับที่อยู่ในห้องโถงมรรคาสวรรค์ผู้นั้น
ถ้าพบกับเคราะห์ใหญ่เฉียดเป็นเฉียดตาย ขอเพียงกระตุ้นปิ่นหยกนี้ หญิงลึกลับก็จะออกมาจากห้องโถงมรรคาสวรรค์
หลินสวินนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนเก็บปิ่นหยกลงไปอีก
ไม่ได้เป็นเคราะห์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเสียหน่อย ไยต้องรบกวน ‘ซี’ ด้วย
ข้าก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าสุดท้ายความทรมานครั้งนี้จะกักขังข้าเอาไว้ได้หรือไม่
หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง สลัดความคิดยุ่งเหยิงทิ้ง สภาวะจิตยิ่งสงบนิ่งและแน่วแน่
ในสภาวะเฉียดเป็นเฉียดตายถึงน่ากลัวที่สุด แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาเป็นตายที่แท้จริง
หลินสวินไม่ได้เป็นพวกชอบเอาชนะ เขารู้ดีว่าพลังภายนอกก็เป็นส่วนหนึ่งของศักยภาพแห่งตน จะทำตามใจปรารถนาก็ได้ แต่ไม่อาจล้ำเส้นกฎเกณฑ์!
โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวโยงกับการหลอมมรรควิถีของตนเอง ยิ่งไม่อาจใช้พลังภายนอกได้ง่ายๆ หาไม่แล้วรังแต่จะทำให้มรรควิถีของตนด่างพร้อย
……
ครึ่งปีผ่านไป
หลินสวินผนึกพลังหลอมจิตและหลอมกาย ใช้เพียงพลังหลอมปราณมาค้ำจุน
หนึ่งปีผ่านไป
พลังหลอมปราณที่หลินสวินเหลือไว้เพียงอย่างเดียวถูกใช้ไปจนหมดสิ้น เปิดใช้พลังหลอมกาย
สองปีผ่านไป
หลินสวินเปิดใช้พลังหลอมจิต
…กาลเวลาผันผ่าน จนวันหนึ่งในปีที่ห้าของการท่องทะยานในฟ้าดาราอันแห้งแล้งแห่งนี้ พลังทั้งหมดในตัวหลินสวินก็ใช้ไปจนสิ้น
ทั้งตัวเขาหม่นแสงลง สติรับรู้ราวกับตกอยู่ในภาวะคล้ายตาย มีเพียงเจตจำนงตามสัญชาตญาณที่ยังค้ำจุนไว้อยู่
หลินสวินในตอนนี้จิตใจกลับสงบนิ่งและปลอดโปร่งอย่างประหลาด ‘เป็นและตาย ว่างและเต็ม โรยและรุ่ง หยินและหยาง…’
ก็ในสถานการณ์คับขันถึงที่สุดเช่นนี้เอง การหยั่งรู้อันหายากหาใดเทียบต่างๆ ผุดขึ้นในจิตใจของหลินสวิน
ทันใดนั้นก็ไม่รู้หลินสวินเอาพลังมาจากไหน พลันยืดตัวตรง ประกายเทพวาววาบออกมาจากดวงตาดำ
เป็นและตายไม่แน่นอน!
ว่างเปล่าและเติมเต็มไร้จำกัด!
ร่วงโรยและรุ่งเรืองเป็นวัฏจักร!
หยินและหยางเข้าแทนที่ซึ่งกันและกัน!
สิ่งนี้เรียกได้ว่าเป็นมรรคแห่ง ‘เลวร้ายกลายสุขสวัสดิ์’
ตูม!
เมื่อกระจ่างแจ้งถึงจุดนี้ ร่างกายของหลินสวินที่เดิมแห้งเหี่ยวโรยรา พลังหลอมกาย หลอมปราณและหลอมจิตทั้งสามที่ใช้ไปจนสิ้นแล้วก็พลิกผันถึงที่สุดในตอนนี้
พลังแฝงของเขาถูกกระตุ้นขึ้นโดยสมบูรณ์ พลังแรกกำเนิดที่อยู่ในส่วนลึกสุดของร่างกายได้รับการปลดปล่อย
ขณะนี้จิตใจที่ตึงเครียดมาหกปีของหลินสวินผ่อนคลายลงโดยสมบูรณ์ เขาคร้านจะสนใจแล้วว่าประตูวังวนนี้จะส่งเขาไปที่ไหน
ขอเพียงออกจากสถานที่บ้าๆ ที่เหมือนกับกรงขังแห่งนี้ได้ก็พอแล้ว!
จากนั้นภาพตรงหน้าหลินสวินที่ใช้พลังจนหมดสิ้นก็ดำมืดไปหมด หลับใหลไปโดยสมบูรณ์ เขาเหนื่อยเกินไปแล้วจริงๆ
‘ซี’ หญิงลึกลับที่อยู่ในห้องโถงมรรคาสวรรค์เผยรอยยิ้ม
หกปีมานี้นางเห็นทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหลินสวิน หลายครั้งแม้แต่ตัวนางเองยังทนดูต่อไปไม่ได้ หมายจะลงมือช่วยอย่างอดไม่อยู่
แต่ทุกๆ ครั้งหลินสวนก็ฝืนทนต่อไปได้อย่างปาฏิหาริย์
กระทั่งตอนนี้มองดูหลินสวินหนีออกจากกรงขังได้สำเร็จ ในใจของซีก็โล่งใจและยินดีเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก
“เหนื่อยแล้ว ก็นอนให้สบายเถอะ…”
ครู่ต่อมาเงาร่างอรชรดั่งภาพฝันของซีก็ออกมาจากห้องโถงมรรคาสวรรค์
ที่นี่คืออุโมงค์ฟ้าดาราสายหนึ่ง เต็มไปด้วยกระแสกาลเวลายุ่งเหยิง ละอองแสงปลิวกระจาย งดงามตระการตา ทั้งยังอันตรายถึงที่สุด
ตูม!
กรงเล็บสัตว์มหึมาข้างหนึ่งพลันยื่นมาจากความว่างเปล่าไกลลิบ ตบเข้าที่อุโมงค์ฟ้าดาราสายนี้อย่างจัง
ยามซีปรากฏตัว เหมือนคาดเดาภาพนี้ได้ล่วงหน้า สีหน้าเรียบเฉยไม่หวั่นไหว เพียงแค่ยื่นมือออกไปกรีดเบาๆ
พลังดรรชนีโฉบพุ่ง เปลี่ยนเป็นใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วในอากาศประหนึ่งเสาค้ำฟ้า กลิ่นอายไพศาลที่กระจายออกมาข่มกรงเล็บสัตว์นี้ไว้อย่างจัง
ทั้งสองปะทะกัน เกิดเป็นคลื่นกระแทกน่ากลัวแผ่กระจายออกมา ทำเอาอุโมงค์ฟ้าดาราสายนี้สั่นสะเทือนรุนแรง
กรงเล็บสัตว์มหึมามิดฟ้าถูกซัดให้ถอยไปแล้ว ในความว่างเปล่าไกลออกไปมีเสียงสัตว์ร้องคำรามอู้อี้
ซีเงยหน้ามองไป ก็เห็นอสูรยักษ์พิสดารตัวมหึมาหาใดเทียบตัวหนึ่งเคลื่อนขวางห้วงอากาศ ชักนำดวงดาวนับหมื่นพันมาด้วย
เพียงแค่ดวงตาทั้งคู่ของมันก็เหมือนดวงอาทิตย์สองดวง แดงฉานน่าหวาดหวั่น แผ่ประกายน่ากลัวที่เย็นชาไร้ความปรานีออกมา
แต่เมื่อเทียบกับร่างกายใหญ่โตของมันนั้น ดวงดาราทั้งท้องฟ้าก็เหมือนไข่มุกที่ไม่สะดุดตาเม็ดแล้วเม็ดเล่า…
ถ้าหลินสวินตื่นอยู่จะต้องจำได้ว่าเขาเคยพบอสูรยักษ์ฟ้าดาราอันพิสดารตัวนี้มาก่อน และยังไม่ใช่แค่ครั้งเดียวด้วย!
ซีนัยน์ตาหดรัด สะบัดแขนเสื้อครั้งหนึ่ง พาหลินสวินที่หลับไหลกระโจนไปยังส่วนลึกของอุโมงค์ฟ้าดาราด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ
ตูม!
อสูรยักษ์แปลกประหลาดตัวนั้นยื่นกรงเล็บมหึมาออกมาบดขยี้ห้วงอากาศ ตีอุโมงค์ฟ้าดาราที่ซีเคลื่อนผ่านไปสายนั้น ละอองแสงปลิวว่อน ระเบิดออกท่ามกลางความว่างเปล่า
ภาพน่ากลัวนั้นสามารถทำให้ระดับจักรพรรดิตกตะลึงจนเหงื่อกาฬชโลมกาย
แต่สุดท้ายก็ยังถูกซีหลบพ้นไปก่อนก้าวหนึ่ง หายลับไปในประตูวังวนขนาดยักษ์ที่อยู่สุดปลายอุโมงค์
“หุบเหวกลืนกิน… ข้าจะจับเจ้าให้ได้…”
อสูรยักษ์ประหลาดตัวนั้นถลึงตาเยียบเย็นแดงฉาน มองดูจุดที่ซีหายลับไปอยู่ครู่ใหญ่แล้วจึงหันกลับ หายลับไปในห้วงอากาศเวิ้งว้าง
——
(จบภาค มหายุคอันพร่างพราว ใครเล่าคุมสถานการณ์)
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์