Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1778

สรุปบท ตอนที่ 1778 พลังฟื้นคืน: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 1778 พลังฟื้นคืน จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 1778 พลังฟื้นคืน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตีนเขาเทพขลุ่ยหิมะ หน้าเมือง

ช่วงพลบค่ำหนานเหลยเผิงพาผู้แข็งแกร่งเผ่ามู่ซางทั้งกลุ่มมาปรากฏตัวที่นี่

หนานเหลยเผิงขมวดคิ้วแน่น พูดอย่างกังวล “ก็ไม่รู้ว่าหลินเต้ายวนนั่นพาหนานชิวมาด้วยหรือเปล่า…”

หลังจากออกจากเผ่ามู่ซาง พวกเขาเดินทางไม่หยุด แทบจะทะยานสู่เขาเทพขลุ่ยหิมะด้วยความเร็วเต็มพิกัด เพื่อห้ามหลินสวินไม่ให้ไปแก้แค้นมู่ซิวหย่วนอย่างไม่รู้จักประมาณตน

ทว่าระหว่างทางกลับไม่เจอเงาร่างของหลินสวินกับหนานชิวเลย

นี่ทำให้ในใจหนานเหลยเผิงวิตกกังวลมาก กลัวเพียงว่าหลินสวินจะทำเรื่องที่ล่วงเกิน สร้างความไม่พอใจให้กับสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนิน

หากเป็นเช่นนี้ จะต้องทำให้พวกเผ่ามู่ซางถูกลากโยงไปด้วยแน่!

“เฮ้อ หวังเพียงว่าเจ้าหมอนั่นจะไม่ทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้”

ผู้แข็งแกร่งเผ่ามู่ซางคนอื่นๆ เองก็ถอนใจพร้อมคร่ำครวญ

“ไป เข้าเมืองไปสืบข่าวก่อน”

หนานเหลยเผิงสูดหายใจลึก แล้วเดินนำเข้าเมืองไป

“ดูนั่น คนของเผ่ามู่ซางมาแล้ว”

“ผู้นำก็คือหนานเหลยเผิง ได้ยินว่าตอนนั้นสัญญาหมั้นหมายของหนานชิวและมู่ซิวหย่วน ก็เป็นเขาที่จัดการขึ้นเองกับมือ”

ทันทีที่เข้าเมืองพวกหนานเหลยเผิงก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติอย่างฉับไว

ผู้ฝึกปราณที่เจอระหว่างทางแต่ละคนสีหน้าแปลกประหลาด แววตาที่มองพวกเขาแฝงความประหลาดใจที่ยากจะอธิบาย

นี่ทำเอาพวกหนานเหลยเผิงไม่เป็นตัวของตัวเอง หนักใจอยู่บ้าง หรือสุดท้ายเรื่องที่ไม่อยากเห็นที่สุดก็เกิดขึ้นไปแล้ว

“น้องเหลยเผิง!”

ทันใดนั้นชายชราชุดแพรที่รูปร่างสูงใหญ่หัวเราะเสียงดังขึ้นมา “ไม่เจอกันหลายปี เจ้าเก่งขึ้นเรื่อยๆ เลยนะ”

หนานเหลยเผิงจำอีกฝ่ายได้ในทันที เป็นผู้อาวุโสเผ่าเร้นวารี นามว่าสุ่ยเซี่ยงตง

“พี่สุ่ยอย่าได้ล้อข้าเลย เจ้าคงได้ยินเรื่องที่หนานชิวถูกถอนหมั้นแล้วสินะ”

หนานเหลยเผิงยิ้มขื่น ความสัมพันธ์ของเขากับสุ่ยเซี่ยงตงไม่เลว

สุ่ยเซี่ยงตงหน้าเศร้าลง “ได้ยินแล้ว เรื่องวันนี้ฮือฮามาก อยากไม่รู้ยังยาก แต่ข้ากลับคิดไม่ถึงว่านางหนูหนานชิวจะสุดยอดขนาดนี้”

หนานเหลยเผิงอึ้ง จากนั้นพูดอย่างไม่พอใจ “พี่สุ่ย เจ้ากำลังหัวเราะเยาะข้าหรือ”

สุ่ยเซี่ยงตงอึ้งไป “หัวเราะเยาะอะไร หรือเจ้าไม่รู้ว่าวันนี้นางหนูหนานชิวมาหาเจ้าสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินถึงที่!”

“อะไรนะ”

พวกหนานเหลยเผิงตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี ราวกับถูกฟ้าผ่า เรื่องนี้ดันเกิดขึ้นจริง!

“หนานชิวล่ะ” หนานเหลยเผิงอดถามไม่ได้

สุ่ยเซี่ยงตงกล่าว “ได้ยินว่าถูกเจ้าสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินพาไปที่หอสวรรค์ดำเนิน”

“เร็ว รีบไปหอสวรรค์ดำเนิน!”

หนานเหลยเผิงลนลานขึ้นมาทันที ไม่ทันสนใจอย่างอื่น พลันพาคนทั้งขบวนจากไปอย่างร้อนรน

จบสิ้นแล้ว!

หนานเหลยเผิงจิตใจว้าวุ่น หนานชิวยัยเด็กนี่ เห็นได้ชัดว่าถูกสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินจับกุมไว้ คราวนี้ควรช่วยอย่างไรดี

หอสวรรค์ดำเนิน

ตอนที่พวกหนานเหลยเผิงมาถึงท้องฟ้าก็มืดแล้ว หอสูงถึงร้อยจั้ง ประดับประดาด้วยผ้าและโคมไฟสวยงาม เป็นประกายระยิบระยับภายใต้ท้องฟ้ารัตติกาล งามสง่าสุกใส

หน้าหอมีผู้สืบทอดสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินกลุ่มหนึ่งยืนอยู่

ที่นี่คืออาณาเขตของสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนิน คนนอกไม่สามารถบุกรุกโดยพลการได้

ทว่าตอนนี้หนานเหลยเผิงไม่สนใจเรื่องพวกนี้แล้ว พูดอย่างลนลาน “ข้าน้อยหนานเหลยเผิงแห่งเผ่ามู่ซางหนาน…”

ไม่รอให้พูดจบ ก็มีผู้สืบทอดสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินคนหนึ่งหันมาโดยพลัน กล่าวว่า “พวกเจ้าเป็นผู้แข็งแกร่งของเผ่ามู่ซางหรือ”

หนานเหลยเผิงรีบพูดว่า “ใช่แล้ว”

แม้เขาจะเป็นอริยะ แต่กลับไม่มีความมั่นใจสักนิด เพราะความแข็งแกร่งของสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนิน เขารู้ดีกว่าใคร

ด้านหลังผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ของเผ่ามู่ซางเองก็อดกังวลไม่ได้

“เชิญทุกท่าน พวกเราได้รับคำสั่งจากเจ้าสำนักให้มารับสหายยุทธ์ทุกท่านที่นี่ตั้งนานแล้ว”

กลับเห็นผู้สืบทอดสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินคนนั้นเผยรอยยิ้มเบิกบาน แฝงความกระตือรือร้นอย่างที่สุด เชิญอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนและสุภาพ

ในหัวหนานเหลยเผิงอึ้งงันไปหมด หนานชิวทำอะไรไว้กันแน่ เจ้าสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินถึงขั้นออกคำสั่งด้วยตัวเอง

คนอื่นๆ ข้างหลังเองก็สีหน้าเปลี่ยนไป อกสั่นขวัญแขวน

หนานเหลยเผิงสูดหายใจเข้าลึกๆ คราหนึ่ง ถามอย่างขมขื่น “สหายยุทธท่านนี้ หนานชิวทำอะไรผิดหรือไม่ ได้… ได้ทำให้เจ้าสำนักโกรธแล้ว?”

ผู้สืบทอดสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินนั่นสีหน้าไม่แปลกประหลาดเล็กน้อย แต่ยังคงยิ้มพูด “ทุกท่านตามข้ามาเถอะ ตอนนี้แม่นางหนานชิวสบายดี”

“ยินดีต้อนรับทุกท่าน!”

ผู้สืบทอดสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินคนอื่นๆ ที่อยู่บริเวณนั้น ตอนนี้ต่างคำนับโดยพร้อมเพรียง

หนานเหลยเผิงอึ้ง จู่ๆ ก็พบว่าสถานการณ์ไม่ปกตินัก เหตุใดสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินจึงสุภาพและมีมารยาทเช่นนี้

“ทุกท่านเชิญตามข้ามา”

ผู้สืบทอดสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินคนนั้นเริ่มนำทางพร้อมรอยยิ้ม

หนานเหลยเผิงและคนอื่นๆ ที่หัวสมองมึนงงสบตากัน ล้วนจำต้องตามไปพร้อมความประหลาดใจเต็มทรวง

จนกระทั่งเข้าสู่หอสวรรค์ดำเนิน ก็เห็นว่าหนานชิวนั่งอยู่หน้าโต๊ะยาวตรงกลางโถง ข้างๆ มีสาวใช้หลายคนยืนอยู่อย่างเคารพ ท่าทางเหมือนเจ้าของบ้านอย่างไรอย่างนั้น

นี่ทำเอาพวกหนานเหลยเผิงอึ้งไปอีกครั้ง นี่มันอะไรกัน

“อาเก้า!”

หนานชิวลุกขึ้น พูดอย่างประหลาดใจ “พวกท่านมาได้อย่างไร”

กงหยางฉี่สีหน้าเลื่อนลอย ในใจเกิดคลื่นซัดสาด

กับทั้งหมดนี้ หลินสวินราวกับไม่รับรู้

เขาจมอยู่ในการฝึกปราณ เขาเทพขลุ่ยหิมะช่างสมกับเป็นอาณาเขตของสำหนักอันดับหนึ่งในโลกลำนำสวรรค์ ไอวิญญาณเข้มข้นอย่างที่สุด แทบจะสามารถตอบสนองความต้องการในการฝึกปราณของเขาได้แล้ว

สามวันหลังจากนั้น

พลังของหลินสวินฟื้นคืนมากว่าครึ่งแล้ว

เจ็ดวันหลังจากนั้น

พลังของหลินสวินฟื้นคืนมาแปดส่วนแล้ว

…พร้อมกับเวลาที่ล่วงเลยไป หลินสวินราวกับหลุมดำ กลืนกินไอวิญญาณทรงพลังที่หล่อเลี้ยงในฟ้าดินแห่งนี้อย่างกระหาย

นี่ทำให้ผู้ฝึกปราณสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินต่างขมขื่นอย่างไม่สามารถอธิบายได้ เพราะตอนที่พวกเขาฝึกปราณจะไม่สามารถดูดไอวิญญาณได้ เพราะถูกหลินสวินคนเดียวยึดครองไปทั้งหมดแล้ว!

สิบวันหลังจากนั้น

พลังขับเคลื่อนรอบตัวหลินสวินจึงค่อยๆ จางไป พลังของเขาฟื้นสู่สภาวะสมบูรณ์แล้ว กลิ่นอายมหามรรคที่ยากคาดเดาพลุ่งพล่านอยู่รอบตัว แม้นั่งอยู่ตรงนั้นยังแผ่อานุภาพอหังการที่กลืนกินจักรวาล สยบเวิ้งฟ้าออกมา

‘ก้าวต่อไป ก็คือการเตรียมทะลวงระดับราชันอริยะ ด้วยร่างอริยบุคคลของข้าในตอนนี้ อีทั้งมรรคาที่สมบูรณ์พร้อม ขอเพียงแค่คว้าจุดเปลี่ยนมาได้ ก็สามารถทะลวงขึ้นไปได้โดยสะดวก…’

หลินสวินใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเริ่มนั่งขัดสมาธิอีกครั้ง

ในการเคี่ยวกรำทรมานตลอดหกปีที่ฟ้าดาราอันเวิ้งว้าง มรรควิถีของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดอ่อนและมหัศจรรย์มากมาย

ตอนนี้พลังฟื้นคืนสู่ระดับสมบูรณ์ หลินสวินถึงได้มีโอกาสสัมผัสและหยั่งถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการเปลี่ยนแปลงนี้

และวันนี้เอง ศึกราชันลำนำสวรรค์ที่เป็นที่สนใจของทั่วโลกเริ่มขึ้นในลานแสดงยุทธ์ขนาดใหญ่หน้าเขาเทพขลุ่ยหิมะ

บุคคลชั้นยอดรุ่นเยาว์ที่มาจากสี่สำนักใหญ่ สิบสามเผ่าใหญ่ล้วนเข้าร่วม แสดงการต่อสู้ที่มหัศจรรย์สนามแล้วสนามเล่า

ตอนที่เงาร่างของหนานชิวปรากฏได้กลายเป็นจุดสนใจของผู้ฝึกปราณทุกคนในที่นั้นทันที!

ทุกคนล้วนรู้ว่า หญิงสาวแห่งเผ่ามู่ซางคนนี้ ไม่ใช่ตัวตลกที่ถูกถอนหมั้นคนนั้นอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นผู้สะดุดตาที่ทำให้สำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินยังต้องปฏิบัติด้วยความเคารพ

สิ่งที่เหนือความคาดหมายของทุกคนคือ มู่ซิวหย่วนที่เคยได้รับความอับอายจากการคุกเข่า กลับเข้าร่วมในศึกราชันลำนำสวรรค์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และแสดงฝีมือได้อย่างโดดเด่นเป็นที่สุด

เพียงแต่ทุกสายตาที่มองมายังเขาล้วนแฝงความสับสน มีทั้งเวทนา สะใจ แตกต่างกันออกไป

ศึกราชันลำนำสวรรค์ดำเนินมาได้สามวันแล้ว สุดท้ายได้ผู้แข็งแกร่งที่แสดงฝีมือได้สะดุดตาที่สุดสิบคน มู่ซิวหย่วนย่อมเป็นหนึ่งในนั้น

ส่วนหนานชิวเองก็เป็นหนึ่งในสิบ

“ทำไมยังไม่มา…”

ตอนที่ศึกราชันลำนำสวรรค์จบลง กงหยางอวี่เจ้าสำนักกระบี่สวรรค์ดำเนินจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมาโดยตลอด รอคอยด้วยใจที่ร้อนรน

“ดูนั่น ยานข้ามโลก! ผู้ยิ่งใหญ่สำนักยุทธ์เตาโอสถมาแล้ว!”

ทันใดนั้น มีคนตะโกนด้วยความตื่นเต้น

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์