Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1781

สรุปบท ตอนที่ 1781 เขตแดนมรรค: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1781 เขตแดนมรรค – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 1781 เขตแดนมรรค ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

นิ้วชี้เรียวยาวขาวเปล่งปลั่ง กระจ่างใส สะอาดสะอ้าน ไม่เจือกลิ่นอายใดๆ สักนิด

แต่ก็เป็นนิ้วนี้ ที่ในสายตาของฮูหยินชุดเขียวผู้นั้นกลับเหมือนปิดฟ้าบังตะวัน ปกคลุมไปทุกด้าน ทำเอานางรู้สึกไม่อาจหลีกหนีได้

จบกัน…

ในใจนางมีแต่ความคิดนี้โผล่ขึ้นมา

ฟุบ!

ประทับนิ้วบางๆ รอยหนึ่งปรากฏขึ้นที่หว่างคิ้วของนาง แล้วจากนั้นก็ปริแยกเป็นโพรงเลือด

ก่อนตายฮูหยินชุดเขียวยังคิดไม่ออก ว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นบุคคลน่ากลัวเช่นไรกันแน่ เหตุใดถึงเย้ยฟ้าได้ปานนี้…

เสียงปึงดังขึ้น ศพของนางตกลงไปจากกลางอากาศ

“คนที่สอง”

และตอนนี้เงาร่างของหลินสวินก็หายไป พุ่งเข้าสังหารคนอื่นนานแล้ว

ตูม!

ทวนศึกสีทองเล่มหนึ่งแทงเข้ามา ซัดลมพายุเต็มฟ้า คมทวนแหลมคมชี้ตรงไปที่คอหอยของหลินสวิน

หลินสวินยื่นมือออกไปจับทวนศึกแล้วสะบัดข้อมือ ชายที่ถือทวนศึกอยู่ถูกซัดกระเด็นออกไปทันทีเหมือนว่าวที่ขาดลอย

ฉึบ!

หลินสวินขว้างทวนศึกที่ชิงมาออกไป

ท่ามกลางสายตาตกตะลึงทั้งหมด ร่างผู้สูงส่งที่ถูกซัดกระเด็นนั้นถูกทวนศึกของตนแทงทะลุทันควัน!

ซ่า! เลือดสดๆ สาดกระเซ็น คนผู้นั้นก้มมองดูทวนศึกที่เสียบทะลุทรวงอกของตัวเอง สีหน้าประหวั่นพรั่นพรึงและงุนงง

นี่ยังเป็นคนอยู่ไหม

“คนที่สาม”

เงาร่างหลินสวินไหววูบ พุ่งไปสังหารคู่ต่อสู้อีกคน

เขาว่องไวเกินไปแล้ว พลังก็น่ากลัวเกินไป อานุภาพบดขยี้โดยสมบูรณ์ จวบจนตอนนี้เพิ่งผ่านไปไม่กี่อึดใจเท่านั้น ก็สังหารคู่ต่อสู้ไปสามคนแล้ว

ความสง่างามอหังการไร้ศัตรูใดต้านทานเช่นนั้นทำเอาฟ้าดินเงียบสงัด ทุกคนต่างหวาดหวั่น นิ่งอึ้งอยู่เช่นนั้นโดยสิ้นเชิง

ก่อนหน้านี้ตอนเห็นเหล่าคนใหญ่คนโตจากสำนักยุทธ์เตาโอสถลงมือ ทุกคนยังนึกว่าหลินสวินจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

ถึงอย่างไรในใจผู้ฝึกปราณคนใดก็ตามในโลกลำนำสวรรค์ สำนักยุทธ์เตาโอสถก็เหมือนสำนักเซียนอันสูงส่งแห่งหนึ่ง ประหนึ่งเก่งกล้าสามารถไปเสียทุกอย่าง

แต่เมื่อการต่อสู้เกิดขึ้นจริงๆ ทุกคนถึงค้นพบอย่างน่าประหลาดว่าต่อหน้าหลินสวิน เหล่าผู้สูงส่งของสำนักยุทธ์เตาโอสถที่พวกเขามองว่าไม่อาจดูหมิ่นได้นั้น กลับถูกสังหารเหมือนตุ๊กตาดินไร้ราคา

ภาพนองเลือดตะลึงโลกเช่นนั้นพลิกความรู้ความเข้าใจของพวกเขาไปจริงๆ!

ตูม!

กลางฟ้าสูง หลินสวินหมายหัวคนที่ถือดาบโค้งสีเลือดนั่น พลังหมัดปานสายฟ้า มีท่วงท่าไร้ศัตรู

“หยุดนะ!”

หม่าไท่เจิ้นที่อยู่ไกลออกไปตะคอกดังลั่น เขาสีหน้าคล้ำเขียวหาใดเทียบไปแล้ว

เพียงไม่กี่อึดใจสั้นๆ ก็มีคนตายไปหลายคน สถานการณ์เช่นนี้ทำให้เขายากจะเชื่อได้ จิตใจงุนงง

เมื่อได้สติเต็มที่ในตอนนี้ หม่าไท่เจิ้นก็ไม่อาจเยือกเย็นได้อีกต่อไปแล้ว

ปัง!

แต่น่าเสียดาย หลินสวินเหมือนไม่ได้ยิน สำแดงมรรคกับหมัด หลอมวิชากับท่วงท่า หมัดอันเรียบง่ายหมัดเดียวกลับมีพลานุภาพทำลายภูผาธารา

ชั่วพริบตาดาบโค้งสีเลือดก็ถูกกระแทกแหลก ระเบิดออกดังสนั่น

ทรวงอกเจ้าของดาบโค้งยุบลง ถูกพลังหมัดเจาะเป็นโพรงเลือดใหญ่เท่าชามข้าวรูหนึ่ง

“คนที่สี่”

หลินสวินเอ่ยปากเรียบๆ ทั้งร่างของเขาสะอาดสะอ้าน ไม่แปดเปื้อนมลทินแม้สักนิด แต่ในสายตาของทุกคนตอนนี้กลับเป็นดั่งเทพมารอันไร้ศัตรู!

“เป็นไปได้… เป็นไปได้อย่างไรกัน…”

บนเขาเทพขลุ่ยหิมะ กงหยางฉี่อกสั่นขวัญหาย

เหล่าผู้แข็งแกร่งสำนักกระบี่ี่สวรรค์ดำเนินที่อยู่ใกล้กันต่างนิ่งอึ้งอยู่เช่นนั้น

อวี่อวิ๋นเหออ้าปากค้าง นัยน์ตาเบิกกว้าง ร่างกายสั่นระริกเพราะหวาดกลัว

ส่วนมู่ซิวหย่วนที่อยู่ข้างๆ เขายิ่งยวบยาบ ตกใจจนหน้าถอดสี ริมฝีปากสั่นระริก จิตใจไม่อยู่กับตัว

เขามีปราณระดับราชันเท่านั้น จะเคยเห็นการเข่นฆ่านองเลือดระหว่างมกุฎมหาอริยะเช่นนี้ได้อย่างไร

ผู้ฝึกปราณในเมืองนับไม่ถ้วนหัวสมองขาวโพลนไปหมด ไม่อาจเรียกสติกลับมาได้อยู่นาน เทพคืออะไรพวกเขาไม้รู้

แต่ในสายตาของพวกเขาตอนนี้ หลินสวินที่ยืนอยู่เหนือเก้าชั้นฟ้าผู้นั้นเป็นดั่งเทพ!

“เจ้ามารชั่ว!”

หม่าไท่เจิ้นโกรธเกรี้ยวโดยสมบูรณ์แล้ว ยื่นมือข้างหนึ่งออกไปกลางอากาศ

วิ้ง!

พลังกฎเกณฑ์ไร้สิ้นสุดแผ่กระจายปกคลุมเวิ้งฟ้า

ชั่วพริบตายอดเมฆแถบนั้นก็มีโลกหินหนืดสีแดงดั่งเปลวเพลิงแห่งหนึ่งปรากฏขึ้น ส่งกลิ่นอายน่าครั่นคร้ามราวเผาฟ้าทำลายดินออกมา

เขตแดนมรรค!

ขอเพียงเป็นผู้บรรลุระดับราชันอริยะ ล้วนหล่อหลอมพลังกฎเกณฑ์มหามรรคของตนเอง แล้วหลอมรวมเป็นพลังเขตแดนอันน่ากลัวได้ ถูกเรียกขานว่าเป็นเขตแดนมรรค

ที่ที่เขตแดนมรรคปกคลุม ราชันอริยะก็จะกลายเป็นผู้อยู่เหนือสุดดั่งนายเหนือหัว!

ตอนนี้ที่หม่าไท่เจิ้นสำแดงออกมา ก็คือเขตแดนมรรคที่เขาเคี่ยวกรำหลอมออกมาไม่รู้กี่ปี…

“เพลิงเทพธุลี!”

ในเขตแดนนี้มีกฎเกณฑ์ธาตุไฟกระจายตัวราวกับโลกทะเลเพลิง หากถูกขังอยู่ข้างใน อย่างเบาก็ผิวหนังปริแตก อย่างหนักก็สลายเป็นเถ้าธุลีปลิวว่อน น่ากลัวหาใดเทียบจริงๆ

“สวรรค์!”

“นี่ก็คือพลังเขตแดนมรรคในตำนานหรือ”

“วิธีต่อสู้ของราชันอริยะ น่าเหลือเชื่อจริงๆ…”

เสียงตกตะลึง สั่นสะท้าน และฮือฮานับไม่ถ้วนดังขึ้น

หม่าไท่เจิ้นนัยน์ตาหดรัด พลันหัวเราะเหี้ยมเกรียม “เสียแรงเปล่า! ในเขตแดนของข้า พลังมีแต่เกิดขึ้นไม่ดับลง ไร้สิ้นสุดไม่มีวันหมด เจ้าจะดิ้นรนไปได้ถึงเมื่อไร”

ตูม!

ยังพูดไม่ทันจบพลังกฎเกณฑ์ของเขตแดนแห่งนี้ก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ฝนเพลิงเต็มฟ้ารวมตัวกันเป็นประทับเทพเปลวเพลิงอันโชติช่วงแถบหนึ่ง เต็มไปด้วยกลิ่นอายเผาผลาญอันเหิมเกริมร้ายกาจ กดข่มลงมาเสียงดังครั่นครืน พลังที่สร้างขึ้นสามารถทำให้สรรพสิ่งกลายเป็นเถ้าธุลีได้ในชั่วพริบตา ระเหยไปจนสิ้น!

ดวงตาดำของหลินสวินเผยแววประหลาด เอ่ยว่า “นี่ถึงค่อยเข้าท่าหน่อย…”

เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง เกิดเสียงชิ้งๆ ดังสนั่นไปตามรูขุมขนทั่วกาย ปราณกระบี่ไท่เสวียนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว รวมตัวเป็นเขากระบี่อสูรปฐพีลูกแล้วลูกเล่า ทะยานจากผืนดิน!

เสียงครั่นครืนสะเทือนฟ้าดินระลอกหนึ่งดังขึ้น ในที่สุดประทับเทพเปลวเพลิงนั้นก็ถูกตีพ่าย กลายเป็นพลังกฎเกณฑ์ซัดสาดกระจัดกระจายไป

“เจ้าดูสิ เหมือนจะไม่เท่าไร”

หลินสวินทอดสายตามองหม่าไท่เจิ้นที่อยู่ไกลออกไป หัวเราะเบาๆ เอ่ยว่า “ถ้าข้าเดาไม่ผิด เจ้าไม่ได้บรรลุมกุฎมรรคาในระดับราชันอริยะ พลังเขตแดนที่ครอบครองก็ไม่ได้ถือว่าชั้นเลิศ หาไม่แล้วคงไม่อ่อนแอขนาดนี้”

คำพูดเดียวทำเอาหม่าไท่เจิ้นสีหน้าอึมครึมลง

“ตาย!”

เขาตะคอกลั่น กระตุ้นพลังเขตแดนเต็มกำลัง

ชั่วขณะเดียวปรากฏการณ์ประหลาดทั้งปวงก็สำแดงขึ้น การจู่โจมที่เต็มไปด้วยไอสังหารคับฟ้าผุดขึ้นมา ประหนึ่งรวมพลังของโลกทั้งใบจะเข้าสังหารหลินสวินคนเดียว

พลังเช่นนั้นน่ากลัวไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ

หลินสวินไม่ได้ชะล่าใจ แต่ก็ไม่ได้แสดงเค้าลางอ่อนแอหรือยับเยินใดๆ เข้าต่อต้านพลางสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ของเขตแดนมรรค ดูสุขุมเยือกเย็นนัก

นี่ทำให้หม่าไท่เจิ้นโกรธเกรี้ยว ไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง

หากเปลี่ยนเป็นมกุฎมหาอริยะคนอื่น แม้จะยันไว้ได้แต่ก็ต้องบาดเจ็บสาหัส ถึงขึ้นใกล้ถูกกำจัด ขวัญหนีดีฝ่อ

แต่ตั้งแต่เริ่มจนจบ หลินสวินที่ตกอยู่ในภาวะคับขันกลับเหมือนเดินบนพื้นราบ เป็นอิสระ ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด!

‘เจ้าหมอนี่มันโผล่มาจากไหนกันแน่ อย่าว่าแต่โลกลำนำสวรรค์เล็กๆ เลย ต่อให้ในโลกต้าอวี่ยังเหมือนจะหาคนเย้ยฟ้าปานนี้ไม่ได้…’

หม่าไท่เจิ้นยิ่งตกตะลึงแล้ว สีหน้าเหยเกไม่ว่างเว้น

มกุฎมหาอริยะคนหนึ่งกลับไม่กลัวเขตแดนมรรคของเขา ถ้าเรื่องนี้กระจายออกไปใครจะกล้าเชื่อกัน

‘ไม่ว่าอย่างไร จะเก็บเจ้าหมอนี่ไว้ไม่ได้เด็ดขาด!’

หม่าไท่เจิ้นกัดฟัน ไอสังหารในใจปะทุขึ้น

หากเป็นตอนแรกสุดเขาอาจจะเลือกประนีประนอม แต่ตอนนี้ต่างออกไปโดยสิ้นเชิงแล้ว หลินสวินฆ่าผู้ดูแลสำนักยุทธ์เตาโอสถไปหลายคน ความแค้นนี้ย่อมไม่อาจคลี่คลายได้แล้ว!

ตูม!

ทะเลเพลิงถาโถม พลังทำลายล้างเทียมฟ้า

หม่าไท่เจิ้นไม่สนใจสิ่งใด ใช้พลังทั้งหมด ใบหน้าเต็มไปด้วยไอสังหารที่ไม่ปิดบังสักนิด

แต่ก็ในตอนนี้เองที่หลินสวินถอนใจเบาๆ เอ่ยว่า “สุดท้ายก็ยังทำให้ข้าผิดหวังอยู่ดีสิน่า…”

ยังไม่ทันพูดจบ เขาที่อยู่ท่ามกลางการบุกจู่โจมของเปลวเพลิงก็เงยหน้าเล็กน้อย แสงมรรคเย็นเยียบลึกลับไหลหลั่งอยู่ในดวงตาดำดุจเหวลึกของเขาทั้งสองข้าง ปากก็โพล่งเบาๆ ออกมาคำเดียวว่า

“ทลาย!”

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์