อ่านสรุป ตอนที่ 1818 หอเสียงสวรรค์ ยานลมกรด จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 1818 หอเสียงสวรรค์ ยานลมกรด คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
หลี่โผทำตัวไม่ถูกไปพักหนึ่ง มองดูอวี่ชิงหยาง แล้วมองดูหลินสวินอีกที เสมือนเริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว กล่าวเสียงหลงว่า “พวกเจ้า…”
ปึง!
อวี่ชิงหยางโบกแขนเสื้อหนึ่งครา ร่างของหลี่โผแตกระเบิด ถูกกำจัด ณ ที่นั้น ราวกับบี้มดตัวหนึ่งตายง่ายๆ
เห็นเหตุการณ์นี้เองกับตา พานนึกถึงการเข่นฆ่ากับชุยฝูเมื่อกี้ ในใจหลินสวินอดรู้สึกทอดถอนใจไม่ได้ ระหว่างกึ่งจักรพรรดิกับระดับจักรพรรดิ ต่างกันอย่างสิ้นเชิงดังคาด
“สหายน้อย ก่อนที่ชุยฝูจะลงมือข้าก็มาถึงแล้ว”
อวี่ชิงหยางเอ่ยปาก สายตาเขามองสำรวจหลินสวิน กล่าวด้วยความชื่นชม “เพียงแต่ข้ากลับคิดไม่ถึง เจ้าถึงกับไม่ให้โอกาสข้าช่วยลงมือ”
หลินสวินอดยิ้มขื่นไม่ได้
หากเขารู้แต่แรกว่าอวี่ชิงหยางมาแล้ว ยามที่ต่อกรกับชุยฝูเกรงว่าคงจะไม่สู้ขาดใจเช่นนี้
แต่หลินสวินก็รู้ดี อวี่ชิงหยางไม่ลงมือ เท่ากับกำลังให้ตนได้ฝึกฝน มอบโอกาสเคี่ยวกรำสุดประเสริฐอย่างหนึ่งให้แก่ตน
ถึงอย่างไรการประมือกับกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่ง ประสบการณ์ล้ำค่าระดับนี้สามารถทำให้หลินสวินได้ประโยชน์มากมายในภายภาคหน้า
“ไปกันเถอะ ออกไปจากที่นี่ก่อน”
อวี่ชิงหยางเอ่ยปาก
ไม่นานอวี่ชิงหยางก็พาหลินสวินมุ่งสู่ตำหนักเทพจักรพรรดิอวี่ และไปรับพวกอวี่อวิ๋นเหอสามคน ก่อนออกจากแดนลับต้าอวี่พร้อมกัน
…
วันนี้ในโลกต้าอวี่เงียบกริบแปลกพิกล ไม่มีข่าวแพร่ออกมาสักนิด
“ฮ่าๆ หาเรื่องใส่ตัวหาเหาใส่หัว ความสามารถปิดข่าวของหอกระบี่ดาราเลิศช่างไม่ธรรมดานัก”
หลินสวินอยู่กับอวี่ชิงหยางนานแล้ว กลับมาเผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่ ยามรู้สถานการณ์เหล่านี้อวี่ชิงหยางก็อดหัวเราะร่วนไม่ได้
หลินสวินฆ่าคนใหญ่คนโตเก้าโลกใหญ่ เรื่องที่สังหารกึ่งจักรพรรดิชุยฝูสะท้านโลกปานใด แต่กลับไม่มีข่าวแพร่งพรายออกมา
มีแต่จะพิสูจน์ว่า ขนาดหอกระบี่ดาราเลิศที่เป็นผู้ปิดข่าวมิดชิดตั้งแต่ต้น ยามนี้ก็ยังไม่รู้เรื่องราวใด
“เป็นเช่นนี้ก็ดี เรื่องนี้เทพไม่รู้ผีไม่เห็น ไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริง แม้ภายหน้าจะลือออกไปเกรงว่าใครก็ไม่อาจเชื่อ ว่าราชันอริยะเก้าโลกใหญ่เหล่านั้นจะถูกเจ้าหลินสวินฆ่าเอาได้…”
อวี่ชิงหยางใคร่ครวญ
รวมถึงการที่เขาพาหลินสวินกลับตระกูลครั้งนี้ก็ไม่ได้ทำให้ใครล่วงรู้ เพื่อจะได้ไม่เปิดเผยข่าวคราวของหลินสวิน
“ผู้อาวุโส”
หนานชิวยกน้ำชาถ้วยหนึ่งเดินเข้ามา เอ่ยปากเจือรอยยิ้ม “ที่แท้ท่านก็เตรียมการไว้ล่วงหน้านี่เอง”
อวี่ชิงหยางบื้อใบ้ไป กล่าวว่า “เจ้าเด็กคนนี้นี่”
เป็นไปตามที่อวี่ชิงหยางคิดไว้ดังคาด สามวันให้หลังเต็มๆ เหตุการณ์นองเลือดที่เกิดขึ้นในแดนลับต้าอวี่จึงแพร่งพรายออกมา
ทันใดนั้นโลกต้าอวี่สั่นสะเทือน เกิดระลอกคลื่นใหญ่มหึมา
การต่อสู้ครั้งนี้ไม่เพียงแค่พวกชื่อหลิงจื่อ สุ่ยปี้อวิ๋นถูกสังหารเท่านั้น ขนาดพวกระดับราชันอริยะทั้งกลุ่มจากเก้าโลกใหญ่ก็ยังตายอนาถด้วยเช่นกัน นี่น่ากลัวเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย
โดยเฉพาะยามเมื่อรู้ว่า ผู้อาวุโสสูงสุดระดับกึ่งจักรพรรดิของหอกระบี่ดาราเลิศยังร่วงหล่น ทั่วหล้าต่างพากันสั่นสะท้านกับเรื่องนี้
“ใครเป็นคนทำกันแน่ จะกล้าเกินไปแล้ว!”
หอกระบี่ดาราเลิศเดือดดาล ตรวจสอบเรื่องนี้เต็มกำลัง แต่สุดท้ายกลับตรวจสอบไม่พบเบาะแสใดๆ พวกเขาต่างพากันพูดไม่ออก
เพราะก่อนหน้าที่การต่อสู้นองเลือดครั้งนี้จะปะทุขึ้น ข่าวทั้งหมดล้วนถูกพวกเขาปิดผนึกมิดชิด ขนาดพวกเขาเองยังไม่รู้ถึงสถานการณ์แบบละเอียดของการต่อสู้ครั้งนั้นเลย
“จะใช่ชายหนุ่มที่ชื่อหลินเต้ายวนนั่นเป็นคนทำหรือไม่”
มีคนคาดเดา
แต่ไม่นานก็มีเสียงโต้แย้งนับไม่ถ้วน
“เป็นเรื่องน่าขันหลุดโลกชัดๆ แค่ชายหนุ่มรุ่นหลังคนหนึ่ง มีหรือจะใช่คู่ต่อสู้ของราชันอริยะทั้งกลุ่ม”
“อย่าลืมสิ ยังมีกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่งตายเหมือนกัน! ต่อให้เขาหลินเต้ายวนพลิกฟ้าแค่ไหน ยังจะใช่คู่ต่อสู้ของกึ่งจักรพรรดิเชียวหรือ”
สรุปแล้วท่ามกลางเรื่องสะเทือนใต้หล้าครั้งนี้ กลับไม่มีใครสงสัยว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของหลินสวิน
ผลลัพธ์ข้อนี้ตรงกับสิ่งที่อวี่ชิงหยางคาดหวังอยากจะเห็นพอดี
ขณะเดียวกันท่ามกลางระลอกคลื่นฉากนี้ ก็ไม่มีใครสงสัยพวกเขาตระกูลอวี่ด้วยเช่นกัน สาเหตุนั้นง่ายมาก ตั้งแต่เริ่มแรก พวกเขาก็ประกาศให้รู้โดยทั่วกันว่าเผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่กับหลินเต้ายวนไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ต่อกัน!
หนำซ้ำในแดนลับต้าอวี่ก็ไม่มีผู้แข็งแกร่งของเผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่ปรากฏตัวเลยสักนิด ไม่ว่าใครก็ไม่อาจสงสัยตระกูลอวี่ได้
“ฆ่าเสร็จห่มจีวรจรจาก ซุกซ่อนวีรกรรมและนามไว้มิดชิด”
อวี่ชิงหยางรำพันเสียงเบา
…
ครึ่งเดือนให้หลัง
หลินสวินตื่นจากการนั่งสมาธิ บาดแผลบาดเจ็บทั่วร่างสมานกัน พลังกายก็ฟื้นสู่สภาพสูงสุดอีกครั้ง ทั้งตัวกระปรี้กระเปร่า พลังขับเคลื่อนอิ่มเอิบสมบูรณ์
ในช่วงนี้เขารักษาอาการบาดเจ็บไปพลาง หลอมพลังมหามรรคที่ช่วงชิงกลืนกินมาเหล่านั้น ไม่เพียงทำให้ปราณมั่นคงแข็งแกร่งขึ้น สำหรับความเข้าใจที่มีต่อเขตแดนมรรคก็เพิ่มระดับขึ้นด้วยเช่นกัน
โดยเฉพาะยามหลอมพลังมหามรรคของมกุฎราชันอริยะอย่างพวกเฟิงหรูเสวี่ย ชายหนุ่มชุดสีชาด หญิงชุดหรูหราสามคนนั้น ทำให้หลินสวินหยั่งรู้ถึงนัยเร้นลับแก่นแท้ของเขตแดนมรรคของพวกเขา เป็นผลให้หลินสวินก็ได้ประโยชน์มหาศาล กระจ่างแจ้งลึกซึ้ง
เมื่อเข้าใจหลักการก็จะเข้าใจเรื่องทำนองเดียวกัน สรุปจากเรื่องหนึ่งอนุมานไปถึงเรื่องอื่นๆ คงเป็นเช่นนี้นี่เอง
ยังมีพลังมหามรรคที่เป็นของระดับราชันอริยะอีกส่วน ถูกหลินสวินผนึกเอาไว้ หลอมเป็น ‘หยกแหล่งกำเนิดมหามรรค’ ตั้งใจว่าต่อไปจะเอาให้คนอื่นหรือไม่ก็วางขาย
เพราะพลังมหามรรคเหล่านี้ สำหรับเขาแล้วไม่เกิดประโยชน์ใดๆ แล้ว
‘ในช่วงสั้นๆ ปราณของข้าคงยากจะเกิดการทะลวงได้อีก ต่อไปก็ควรคิดทบทวนว่าจะยกระดับพลังต่อสู้อย่างไรดีแล้ว…’
นัยน์ตาดำของหลินสวินหดรัดลงเล็กน้อย กล่าวว่า “เรื่องพวกนี้ข้าเข้าใจดี แต่ที่ที่ควรไปอย่างไรก็ต้องไป ขอแค่ต่อไปข้าพยายามเก็บตัวสักหน่อย เปลี่ยนตัวตนใหม่ทั้งหมดก็พอแล้ว”
เขาหยุดไปครู่หนึ่งค่อยกล่าวต่อไปว่า “หากถึงวันที่ฐานะเปิดเผยจริงๆ ถอยจนไม่อาจถอย… เช่นนั้นก็แค่ไปโลกมืดสักรอบก็สิ้นเรื่อง ท่านเคยบอกไม่ใช่หรือ ว่าหากถอยจนไม่อาจถอยแล้ว โลกมืดก็คือทางรอดเพียงหนึ่งเดียว”
กล่าวถึงตอนสุดท้ายตัวเขาเองก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้
โลกมืด?
สถานที่เส็งเคร็งแบบนั้นถ้าไม่ไปได้ก็อย่าไปเป็นดีที่สุด
เห็นเช่นนี้อวี่ชิงหยางก็ไม่พูดมากความอีก จากสภาวะจิตและสติปัญญาของหลินสวินในยามนี้ ย่อมรู้ดียิ่งว่าคลื่นลมในโลกใหญ่หงเหมิงนั่นใหญ่โตปานใด
“ข้าช่วยเจ้าสืบข่าวมาแล้ว อีกไม่นานจะมียานลำหนึ่งแล่นผ่านโลกต้าอวี่ จากนั้นเหินข้ามฟ้าดารามุ่งหน้าไปเขตแดนดาราใจกลาง”
อวี่ชิงหยางกล่าว “ยานข้ามโลกลำนี้เป็นของ ‘หอเสียงสวรรค์’ ขุมอำนาจใหญ่อันดับหนึ่งในเขตแดนดาราจื่อเหิง ข้ากับผู้อาวุโสคนหนึ่งจากหอเสียงสวรรค์มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น ถึงตอนนั้นข้าจะตระเตรียมให้คนตระกูลอวี่ออกหน้า ช่วยเจ้าจัดการสักหน่อย ให้ร่วมเดินทางพร้อมกับผู้สืบทอดหอเสียงสวรรค์ เป็นเช่นนี้ต่อให้ระหว่างทางพบเจอมรสุมคลื่นลมก็ยังมีการช่วยเหลือดูแลอยู่บ้าง”
กล่าวถึงตรงนี้อวี่ชิงหยางขบคิดเล็กน้อย กล่าวล้อเล่นว่า “ถึงตอนนั้นไม่สู้เจ้าปลอมตัวสักหน่อย เป็นผู้คุ้มกันคนหนึ่งของหอเสียงสวรรค์ก็ดีเหมือนกัน”
หลินสวินเองก็หัวเราะ ในใจผุดแววอบอุ่นขึ้นมา ที่แท้ผู้อาวุโสอวี่ชิงหยางก็เป็นธุระจัดเตรียมลู่ทางให้ตนจากไปเสร็จสรรพตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว
“สหายน้อย ไปโลกใหญ่หงเหมิงครั้งนี้ต้องดูแลตัวเองดีๆ ด้วย”
อวี่ชิงหยางก็เหมือนผู้อาวุโสใจดีคนหนึ่ง กล่าวกำชับหลินสวิน
วันนี้พวกเขาหนึ่งหนุ่มหนึ่งแก่ร่ำสุราไปพลางสนทนาไปพลาง พูดคุยกันเป็นเวลานาน
…
หลายวันต่อมา
บนเวิ้งฟ้าไกลๆ จากเหนือภูเขาเทพนพเลิศ จู่ๆ ก็มีเงาทะมึนสายหนึ่งโรยลงมา ปิดครอบท้องฟ้า เมื่อมองดูดีๆ นั่นถึงกับเป็นยานข้ามโลกขนาดมหึมาหาใดเปรียบลำหนึ่ง
ประหนึ่งผืนแผ่นดินที่ลอยตัวอยู่อย่างไรอย่างนั้น บนนั้นถึงกับยังมีสิ่งก่อสร้างเป็นแถวๆ ถนนหนทางที่เชื่อมสี่ทิศแปดทางสายแล้วสายเล่าตั้งเรียงราย วิจิตรตระการตา!
นี่ก็คือยานข้ามโลกของหอเสียงสวรรค์ สำนักอันดับหนึ่งในเขตแดนดาราจื่อเหิง ชื่อว่า ‘ยานลมกรด’ ที่มีความหมายถึงรวดเร็วยิ่งยวด
“สหายน้อย ไปเถอะ ข้าเจรจาข้อตกลงทั้งหมดกับหอเสียงสวรรค์แล้ว”
ผู้ที่มาส่งหลินสวินจากไปในครั้งนี้ก็คืออวี่ปี้คงผู้นำตระกูลอวี่ ยามนี้เมื่อเผชิญหน้ากับหลินสวิน สีหน้าของผู้นำตระกูลอย่างเขาก็เจือแววเคารพยำเกรงอยู่เสี้ยวหนึ่ง
เขาได้รู้แล้วว่าหลินสวินคือคนที่ข้ามระดับสังหารกึ่งจักรพรรดิได้! ในใจย่อมไม่กล้าปฏิบัติต่อหลินสวินเหมือนคนรุ่นเยาว์นานแล้ว
หลินสวินหันหลัง มองไปทางภูเขาเทพนพเลิศ
“ไปเถอะ”
ยอดภูเขาเทพนพเลิศ อวี่ชิงหยางโบกมือเจือรอยยิ้ม
ด้านข้าง ขอบตาหนานชิวแดงเรื่อ น้ำตารื้นทำท่าจะไหลริน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์