ภิกษุที่บอกว่าตัวเองมาจากอารามหยกเหล่านี้ถูกจัดให้พักในเรือนใต้เขารับแขกแห่งหนึ่ง ปกติน้อยมากที่จะเห็นพวกเขาออกมา ดูสงบเสงี่ยมและลึกลับมาก
กลับเป็นลูกหลานที่มาจากเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนที่ดูกระตือรือร้นมาก มักรวมตัวออกไปเที่ยวเล่นในถนนการค้าที่คึกคัก
แต่กลับไม่มีคนเห็นจินเทียนเสวียนเยวี่ยที่บุคลิกโดดเด่น ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วคนนั้น
ว่ากันว่าทันทีที่ผู้หญิงคนนี้ขึ้นยานก็ปิดด่านอยู่ในเรือนเพียงลำพัง ฝึกปราณอย่างหนัก มีข้ารับใช้เฒ่าดูแลอยู่หน้าเรือน ห้ามไม่ให้ใครเข้าใกล้
ฮูม…
แต่เรือนที่หลินสวินและหลิ่วชิงเยียนพักอยู่ ทันทีที่พลังผนึกระลอกหนึ่งไหลวน กระบวนผนึกหมู่ดาราก็โคจร ตัดขาดจากโลกภายนอก
ในเรือนหลินสวินที่นั่งขัดสมาธิสูดหายใจลึกคราหนึ่ง ปรากฏแสงมรรคสีเขียวพร่างพรายเป็นประกายไปทั้งตัว
ตึง! ตึง! ตึง!
ในตำแหน่งตับ ครรภ์เทพไม้เขียวเกิดการสั่นสะเทือนราวกับตีกลอง พลังชีวิตที่เข้มข้นราวกับจับต้องได้พรั่งพรูดุจดั่งภูเขาไฟ มีเสียงมรรคเป็นสายๆ ไหวกระเพื่อม ราวกับอริยบุคคลบรรพกาลกำลังท่องคัมภีร์
สถานการณ์เช่นนี้ดำเนินอยู่สองชั่วยาม
จนกระทั่งตอนหลังเมื่อเสียงที่ราวกับจักรวาลแรกกำเนิดดังขึ้น บนแท่นบูชาเหนือศีรษะหลินสวินพลันมีละอองแสงสีเขียวอร่ามกลุ่มหนึ่งพุ่งออกมา
ละอองแสงเวียนไหล พลังชีวิตดั่งเดือดพล่านรวมเข้าด้วยกัน ก่อตัวเป็นเงาร่างสีเขียว ทั้งตัวราวกับหลอมจากหินหยกแก้วสีเขียวที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก โปร่งแสงพร่างพราว แสงมรรคสาดเซ็น
เมื่อแสงสว่างสลายไป
ธรรมกายร่างหนึ่งลอยลงพื้น สวมชุดสีเขียว ผมดำพลิ้วไหว เครื่องหน้าหล่อเหลาสะอาดสะอ้าน เงาร่างสูงใหญ่สง่างาม แผ่กลิ่นอายที่โดดเด่นทั่วทั้งตัว
เมื่อมองอย่างละเอียด ธรรมกายคนนี้ท่าทางเหมือนหลินสวินไม่มีผิด ทว่ากลิ่นอายกลับปรากฏท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์แห่งไม้เขียวที่บริสุทธิ์เข้มข้นและทรงพลัง
กายมรรคไม้เขียว!
ร่างแยกมหามรรคที่ถือกำเนิดจากครรภ์เทพไม้เขียว!
หลินสวินเงยหน้ามองไปยังกายมรรคไม้เขียว ตอนที่สายตาของทั้งสองสอดรับกัน ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้นหลินสวินก็เกิดความรู้สึกผสมกลมกลืน
ราวกับอีกฝ่ายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายตน เพียงแค่ตนขยับความคิด ก็สามารถสั่งการอีกฝ่ายได้เหมือนขยับแขนขา
นี่ก็คือ ‘ระดับห้ากลิ่น’ แห่งคัมภีร์มหามรรคหวงถิง ครรภ์เทพที่หล่อเลี้ยงอยู่ในอวัยวะตันห้าจะทะลวงเปลือกออกมา มี ‘กลิ่นอาย’ เป็นของตัวเอง!
ระดับห้าเร้นคือการสั่งสมพลังชีวิต
ระดับห้าสีนั้นมี ‘สีสัน’ เช่นครรภ์เทพไม้เขียว ปรากฏสีสันแห่ง ‘ความเขียวชอุ่มชั่วกาล พลังชีวิตคงอยู่นิรันดร์’
ระดับห้ากลิ่น จะทำให้กายมรรคไม้เขียวมีท่วงทำนองแห่งมหามรรค!
หากฝึกถึงระดับห้าธรรม ร่างแยกทั้งห้าก็จะมีจิตรับรู้และมรรควิถีของตน!
และตอนนี้หลินสวินเพิ่งจะทะลวงระดับห้ากลิ่น ควบรวมกายมรรคไม้เขียวได้หนึ่งร่างแยก และเป็นเพียงแค่กายมรรคหนึ่ง ยังไม่มีจิตรับรู้และมรรควิถีของตน
แม้จะเป็นเช่นนี้ สำหรับหลินสวินก็เพียงพอแล้ว!
เมื่อความคิดเขาไหวขยับ
ตูม โครม!
สารกาย พลังชีวิต จิตวิญญาณ และมรรควิถีของเขาพรั่งพรูออกมา หลอมเข้าสู่กายมรรคไม้เขียว ส่วนร่างต้นของเขากลับปรากฏสภาวะ ‘ง่วงซึม’
‘พลังไม้เขียวแข็งแกร่งนัก!’
ชั่วพริบตา หลินสวินก็รับรู้ได้ถึงนัยเร้นลับของกายมรรคไม้เขียว ในใจปรากฏการหยั่งรู้มากมาย
ธาตุไม้ หนึ่งในห้าธาตุ พลังชีวิตแห่งฟ้าดิน ลึกลับอย่างที่สุด
และในคัมภีร์มหามรรคหวงถิง ศิษย์พี่เก่ออวี้ผูเคยอธิบายจำเพาะไว้ว่า เมื่อกายมรรคไม้เขียวสำเร็จ ร่างราวกับฟ้าครามนิรันดร์ ควบคุมพลังแห่งความเป็นตาย ร่วงโรยรุ่งโรจน์!
หลินสวินเงียบหยั่งรู้อยู่นาน จู่ๆ ก็ดีดนิ้ว
ทันใดนั้นรอบๆ ใต้ฝ่าเท้าก็มีบัวพิสุทธิ์มากมายผุดขึ้น พลังชีวิตอุดมสมบูรณ์ พลิ้วไหวไปมา ลำต้นและเส้นสายในใบเต็มไปด้วยลายมรรคมหัศจรรย์
กลิ่นอายไม้เขียวที่เข้มข้นอุดมสมบูรณ์พลันแผ่กระจายออก
และเมื่อความคิดของหลินสวินขยับไหว
บัวพิสุทธิ์พันหมื่นดอกพลันเปลี่ยนเป็นใบไม้แห้งเหี่ยว สูญเสียพลังชีวิต ราวกับถูกช่วงชิงอย่างแข็งกร้าว ไม่นานก็กลายเป็นขี้เถ้าปลิวว่อนกลางอากาศ
นี่คือพลังแห่ง ‘เป็นตายร่วงโรยรุ่งโรจน์’ ที่กายมรรคไม้เขียวควบคุม!
หากใช้ในการต่อสู้ นิ้วหนึ่งกดลง พลังชีวิตรอบตัวศัตรูก็จะถูกช่วงชิง ชีวิตประหนึ่งต้นไม้ใบหญ้าที่แห้งเหี่ยวอย่างง่ายดาย!
แลเช่นเดียวกัน หากใช้ช่วยคน ก็สามารถบรรลุผลอันมหัศจรรย์ที่ ‘ฟื้นคืนชีพ’ ได้เช่นเดียวกัน
สิ่งที่หายากที่สุดคือ นี่เป็นพรสวรรค์อภินิหารแต่กำเนิดของกายมรรคไม้เขียว สามารถเข้ากับมรรควิถีแห่งตนของหลินสวินได้อย่างสมบูรณ์!
‘มีกายมรรคไม้เขียว เท่ากับข้ามีร่างภาชนะเพิ่มมาอีกร่าง เพียงแต่ร่างภาชนะนี้มีพรสวรรค์มหามรรคที่มหัศจรรย์…’
ดวงตาดำของหลินสวินเป็นประกาย ในใจอดทอดถอนใจด้วยความตะลึงไม่ได้ คัมภีร์มหามรรคหวงถิงที่ศิษย์พี่เก้าเก่ออวี้ผูสร้าง เรียกได้ว่าน่าทึ่งหาที่เปรียบไม่ได้ เป็นศุภโชคชั้นเลิศ!
นี่เป็นเพียงแค่กายมรรคไม้เขียวร่างเดียวก็มีอภินิหารมหัศจรรย์ขนาดนี้แล้ว หากควบรวมร่างแยกอื่นๆ อีกสี่ร่างออกมา ไม่ใช่ว่าจะสามารถครอบครองอภินิหารที่แตกต่างกันอีกสี่แบบหรอกหรือ
หากฝึกถึงระดับห้าธรรม ทำให้ร่างแยกห้าร่างนี้มีจิตรับรู้และมรรควิถี จะแข็งแกร่งเพียงใด
ครู่ใหญ่หลินสวินจึงสลายกระบวนผนึกหมู่ดารา
และตอนนี้เองหลิ่วชิงเยียนเดินออกมาจากห้อง เอ่ยอย่างเจือความประหลาดใจ “ผู้อาวุโส เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าท่านเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน”
ความเคลื่อนไหวในการฝึกปราณก่อนหน้านี้ของหลินสวินล้วนถูกเขาปิดบังเอาไว้ เพราะฉะนั้นแม้อยู่ในเรือนหลังเดียวกัน หลิ่วชิงเยียนก็ไม่รับรู้เลยสักนิด
“พลังปราณทะลวงเล็กน้อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์