ฟ้าเพิ่งสางก็มีเงาร่างของผู้ฝึกปราณมากมายจากทั่วสารทิศ รวมตัวมุ่งตรงไปที่หอสมบัติทุ่งบูรพาแล้ว
หอสมบัติทุ่งบูรพาเป็นกิจการที่อยู่ภายใต้การดูแลของ ‘สำนักยุทธ์ทุ่งบูรพา’ สำนักอันดับหนึ่งแห่งแคว้นเขียว กระจายอยู่ทั่วทุกเมืองในแคว้นเขียว
และครั้งนี้สมบัติที่ใกล้จะเปิดประมูลในหอสมบัติทุ่งบูรพาของเมืองหลินอันก็เรียกได้ว่าหายาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังมีเจตวัตถุที่มาจากแดนแห่งปริศนาก้อนหนึ่งด้วย ย่อมดึงดูดผู้ฝึกปราณมากมายเป็นธรรมดา
ถึงขั้นที่ว่ามีผู้ฝึกปราณไม่น้อยรีบเร่งมาจากที่อื่นก่อนล่วงหน้า
เมื่อหลินสวินและจินเทียนเสวียนเยวี่ยออกเดินทาง ตลอดทางยังเจอบุคคลระดับอริยะมากมาย ทั้งอริยะแท้ มหาอริยะ ราชันอริยะ…
ภายในนั้นยังมีพวกร้ายกาจที่เหยียบย่างในมกุฎบางส่วนด้วย!
นี่ทำให้หลินสวินไม่อาจไม่ทอดถอนใจ โลกใหญ่หงเหมิงสมเป็นโลกใหญ่อันดับหนึ่งของทางเดินโบราณฟ้าดาราจริงๆ
เมืองหลินอันนี้เป็นแค่หนึ่งในเมืองเรือนหมื่นของแคว้นเขียวเท่านั้น แต่ยังรวบรวมบุคคลระดับอริยะไว้มากเช่นนี้ เหตุการณ์นี้ในโลกอื่นคงไม่อาจพบเห็นได้อย่างสิ้นเชิง
‘คุณชาย ข้าก็สังเกตเห็นว่าตั้งแต่พวกเราก้าวออกจากโรงเตี๊ยมจนถึงตอนนี้ ตลอดทางมีคนไม่น้อยลอบจับจ้องพวกเราอยู่’
ข้างๆ จินเทียนเสวียนเยวี่ยสื่อจิตเสียงเบา
นางอยู่ในชุดเรียบง่าย ร่างระหงและสูงโปร่งเป็นอย่างยิ่ง มวยผมยาวดุจสีหมึกทั้งศีรษะเอาไว้ ลำคอระหงขาวดุจหิมะ ผิวพรรณเกลี้ยงเกลา มีเพียงใบหน้างามดั่งเซียนที่ผ่านการปลอมตัว ดูไปแล้วก็เพียงแค่ชดช้อย ไม่อาจพูดได้ว่าชวนตะลึง
แต่กลิ่นอายสูงส่งที่แผ่ออกมายามนางเคลื่อนไหว ยังคงดึงดูดความสนใจไม่น้อยตลอดทาง
นี่ก็คือท่วงท่าสง่างามของหญิงงามแห่งยุค ไม่ได้งามแค่เรือนร่าง ยังมีท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์และบุคลิกเฉพาะตัวแผ่ออกมาด้วย
หลินสวินขานรับว่าอืมคำหนึ่งแล้วกล่าว ‘ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ’
เมื่อมาถึงหอสมบัติทุ่งบูรพา ก็มีคนเยอะมากจนคึกคักเป็นพิเศษอยู่ก่อนแล้ว
ทว่ายามจินเทียนเสวียนเยวี่ยหยิบป้ายผ่านประตูสองแผ่นออกมา ทั้งสองคนก็เข้าไปข้างในได้อย่างราบรื่น
ภายในลานประมูลกว้างใหญ่เป็นอย่างยิ่ง ปกคลุมด้วยกระบวนผนึกทบเป็นชั้นๆ ราวกับชามยักษ์ที่คว่ำลงมา
“แขกพิเศษทั้งสองเชิญตามข้ามา”
หญิงรับใช้งามงดคนหนึ่งนำทางอยู่ข้างหน้า
หลินสวินเพิ่งรู้ว่าป้ายผ่านประตูสองแผ่นที่จินเทียนเสวียนเยวี่ยซื้อมาก็คือที่นั่งของแขกพิเศษ มีห้องส่วนตัวโดยเฉพาะ สามารถตัดขาดการตรวจสอบของจิตรับรู้ได้
และแค่ป้ายผ่านประตูสองแผ่นนี้ก็มีมูลค่าถึงสองหมื่นผลึกมรรคแล้ว!
ราคานี้สามารถซื้อสมบัติอริยะที่มีคุณภาพค่อนข้างดีชิ้นหนึ่งได้เลยทีเดียว
ไม่ทันไรทั้งลานงานประมูลก็มีผู้ฝึกปราณนั่งจนเต็ม ตามการประเมินโดยคร่าวของหลินสวิน เพียงแค่ขายป้ายผ่านประตูก็ทำให้หอสมบัติทุ่งบูรพาได้เงินเกือบสามล้านผลึกมรรคแล้ว!
ผ่านไปอีกประมาณครึ่งเค่อหลังจากหลินสวินและจินเทียนเสวียนเยวี่ยเข้าไปนั่งในห้องรับรองแล้ว
หญิงสาวงามงดที่แต่งกายเหมาะเจาะ อากัปกิริยาคล่องแคล่วคนหนึ่งเดินขึ้นไปบนแท่นประมูล ริมฝีปากแดงเม้มเบาๆ นัยน์ตายิ้ม
“ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่หอสมบัติทุ่งบูรพา ผู้น้อยผูหลันจือ เป็นผู้ดูแลงานประมูลในครั้งนี้”
ยังไม่ทันสิ้นเสียง ในที่นั้นก็มีเสียงร้องอุทานดังขึ้น
“ที่แท้ก็เป็นนาง ผู้อาวุโสผูหลันจือแห่งสำนักยุทธ์ทุ่งบูรพา มกุฎราชันอริยะคนหนึ่งที่ชื่อเสียงโด่งดังทั่วแคว้นเขียว”
ใครต่างไม่คาดคิดว่าแค่งานประมูลเท่านั้น แต่ถึงกับเชิญมกุฎราชันอริยะคนหนึ่งมาทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลงานประมูล! เพียงแค่นี้ก็ชวนตะลึงมากเกินไปแล้ว
แต่ก็ด้วยเหตุนี้ที่ทำให้ผู้คนเฝ้ารอการประมูลที่ใกล้จะเริ่มหลังจากนี้ยิ่งกว่าเดิม
“งานประมูลครั้งนี้จะมีสมบัติสามสิบเจ็ดชิ้นเปิดประมูลทีละอัน แม้ว่าจำนวนจะน้อยไปบ้าง แต่ผู้น้อยกล้ารับรองว่าสมบัติแต่ละอย่างจะไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวัง”
“เอาเถิด ขอไม่พูดพร่ำทำเพลง ตอนนี้ก็เริ่มนำสมบัติชิ้นแรกขึ้นมาได้”
เมื่อเสียงของผูหลันจือดังขึ้น สาวใช้คนหนึ่งก็ประคองกล่องสำริดใบหนึ่งไว้ด้วยสองมือและก้าวขึ้นมาบนแท่นประมูล
ทั้งที่นั้นเปลี่ยนเป็นเงียบสงบลง ทุกสายตาต่างมองตามไป
หอสมบัติทุ่งบูรพาไม่ทำให้คนผิดหวังดังคาด แค่เพียงเริ่มต้นก็จุดชนวนความกระตือรือร้นของผู้ฝึกปราณในที่นั้นจนนำมาซึ่งความปั่นป่วนแล้ว
“ดาบหงส์มังกรตะวันจันทรา สมบัติหายากแห่งบรรพกาล ระดับคุณภาพเหนือกว่าสมบัติอริยะทั่วไป สิ่งที่หาได้ยากคือนี่เป็นสมบัติล้ำค่าคู่หนึ่งที่ส่งเสริมกันอย่างเด่นชัด ได้รับการกล่าวขานว่าทลายปราการของห้วงอากาศว่างเปล่าได้ พลานุภาพเกินคาดเดา”
เสียงของผูหลันจือเพิ่งแผ่วลงก็ชักนำมาซึ่งความฮือฮา ทุกคนล้วนไหวสะท้าน แววตาต่างเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนขึ้นมา
ต้องรู้ว่าสิ่งใดที่ถูกเรียกว่าสมบัติหายากแห่งบรรพกาล ย่อมผ่านการตกตะกอนของกาลเวลามาแสนปีขึ้นไปทั้งสิ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นสมบัติล้ำค่าคู่หนึ่งที่เสริมส่งกันและกันด้วย!
สิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่สุดกลับเป็นอานุภาพของมันที่ทลายปราการของห้วงอากาศว่างเปล่าได้ นี่ก็หมายความว่าต่อให้ติดอยู่ในสภาพสิ้นหวังบางอย่าง ก็ใช้สมบัตินี้แหวกหนทางรอดออกมาได้ นี่จะไม่ให้ผู้คนใจเต้นได้อย่างไร
ยามผูหลันจือเปิดกล่องสำริดนั่นออกก็เผยให้เห็นดาบคู่หนึ่งที่มีแสงศักดิ์สิทธิ์งามตระการไหลวน วิวัฒน์ออกมาเป็นลักษณ์แห่งตะวันจันทรา มีเสียงมังกรคำรนหงส์คำรามดังก้องอยู่รางๆ เป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ
เห็นดังนี้หลายคนต่างเผยความรู้สึกหลงใหล เสียงลมหายใจที่กระชั้นถี่ก็ดังขึ้นต่อเนื่องเป็นระลอก
แม้แต่คนใหญ่คนโตบางคนก็ยังเผยความรู้สึกสนใจ
นี่เป็นสมบัติชั้นดีคู่หนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย!
ผูหลันจือยิ้มเล็กน้อย นางพอใจกับการตอบสนองเช่นนี้มาก “ราคาประมูลเริ่มต้นที่สามแสนห้าหมื่นผลึกมรรค ทุกครั้งที่เพิ่มราคาต้องไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นผลึกมรรค”
“สี่แสน!”
เสียงเพิ่งสิ้นสุดก็มีคนกล่าวอย่างร้อนอกร้อนใจ ทั้งยังเพิ่มราคาอีกห้าหมื่นในชั่วขณะเดียว ชักนำมาซึ่งความอึกทึกทันที
“สมบัติคู่นี้ไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง เป็นสิ่งที่ข้าต้องการในตอนนี้พอดี ห้าแสน!”
“ขออภัย สมบัติคู่นี้ข้าต้องเอามาให้ได้ หกแสน!”
…
ในลานงานประมูล เสียงประชันราคาดังต่อเนื่องเป็นระลอก แค่ชั่วขณะเดียวก็ดันราคาของดาบหงส์มังกรตะวันจันทราคู่นี้จนสูงลิ่ว คึกคักหาใดเปรียบ
สุดท้ายสมบัติคู่นี้ก็ถูกคนใหญ่คนโตที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งประมูลไปได้ ค่าตอบแทนที่จ่ายคือหนึ่งล้านสามแสนผลึกมรรค
หลินสวินเพิ่งเข้าร่วมงานประมูลเป็นครั้งแรก พอเห็นกระบวนการทั้งหมดที่สมบัติชิ้นแรกนี้ถูกประมูลไปกับตาก็รู้สึกแปลกใหม่เป็นอย่างยิ่ง
แม้ว่าดาบหงส์มังกรตะวันจันทรานั้นจะอัศจรรย์ แต่ยังไม่เข้าตาเขา ด้วยเหตุนี้ตั้งแต่ต้นจนจบจึงไม่เคยประชันราคา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์