Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1861

สรุปบท ตอนที่ 1861 เงากระบี่พันสาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1861 เงากระบี่พันสาย – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 1861 เงากระบี่พันสาย ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

สี่ทิศเวิ้งว้าง เต็มไปด้วยเทือกเขา

เมื่อห้วงอากาศม้วนตลบรุนแรงระลอกแล้วระลอกเล่า ก็ปรากฏเงาร่างของพวกข่งอวี้ สิงหลิวสุ่ยอย่างต่อเนื่อง จำนวนหลายสิบคนเต็มๆ พลังอานุภาพยิ่งใหญ่

มกุฎราชันอริยะกลุ่มหนึ่ง รวมถึงกึ่งจักรพรรดิสองคนเป็นกำลังหลัก กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจะน่ากลัวปานใด

ครืน!

ฟ้าดินแห่งนี้ล้วนบังเกิดเสียงครวญ สะเทือนไหวขึ้นมา ต้นไม้ ใบหญ้า หินผาแตกหักพังครืนกลายเป็นเถ้าธุลี

“ที่แท้ก็เป็นเจ้า”

ยามที่มองเห็นข่งอวี้ หลินสวินเผยสีหน้าเข้าใจอย่างสิ้นเชิง “ดูท่าการที่จักรพรรดิกระบี่วายุไว้ชีวิตเจ้าคราวก่อน เห็นได้ชัดว่าเป็นข้อผิดพลาดอย่างหนึ่ง”

เมื่อเอ่ยถึงจักรพรรดิกระบี่วายุ ทำให้สีหน้าข่งอวี้ล้วนขรึมลง นัยน์ตาเปี่ยมด้วยแววเคียดแค้น “อวี่เสวียน ไม่มีจักรพรรดิกระบี่วายุคุ้มกะลาหัว เจ้าจะนับเป็นตัวอะไร”

คนใหญ่คนโตตระกูลสิงอย่างพวกสิงหลิวสุ่ยล้วนมีสีหน้าไม่สบายใจขึ้นมา

ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่รู้สักนิด ว่าเป้าหมายในการบุกฆ่าครั้งนี้ เบื้องหลังจะถึงกับยังมีระดับจักรพรรดิคนหนึ่งสนับสนุน!

‘อีกเดี๋ยวเจ้าไปรั้งคนอื่นๆ ข้าจะจัดการกึ่งจักรพรรดิสองคนนั่น’

หลินสวินรีบสื่อจิตรวดเร็ว

จินเทียนเสวียนเยวี่ยหัวใจบีบรัด นั่นเป็นถึงกึ่งจักรพรรดิ หนำซ้ำยังไม่ใช่แค่คนเดียว ความแข็งแกร่งห่างชั้นกันเกินไป ทำเอานางยังรู้สึกตึงมือหาใดเปรียบ

‘ในมือข้าก็มีสมบัติลับเช่นกัน สามารถปกป้องพวกเราให้แคล้วคลาดปลอดภัย’

จินเทียนเสวียนเยวี่ยสื่อจิตกล่าว

‘หินลับมีดชั้นเยี่ยมสองก้อนเท่านั้น ไม่ง่ายเลยกว่าจะพานพบ มีหรือจะพลาดได้’

นัยน์ตาดำหลินสวินวาบประกายเย็นเยียบ จิตต่อสู้ในใจพลุ่งพล่าน

เมื่อเอ่ยคำว่า ‘หินลับมีด’ นี้ ในใจจินเทียนเสวียนเยวี่ยรู้สึกพิกลอยู่บ้าง ตอนที่พบหลินสวินครั้งแรก นางเองก็เคยอวดตัวมองหลินสวินเป็นหินลับมีด แต่สุดท้ายกลับพ่ายแพ้

“ลงมือ!”

ข่งอวี้ตะโกนลั่น

เขาคร้านจะพูดมากความอีก

สวบ!

ด้านหลังข่งอวี้ เงาร่างสองสายชิงโจมตีก่อนเป็นคนแรก

ชายที่เหยียบกระบี่โบราณ ผมเคราสีขาวขุ่น ท่าทางเฉยเมยบึกบึน สายตาคมกริบดุจกระบี่ ทั่วทั้งตัวราวกับกระบี่ยาวแหวกเฉือนเวิ้งฟ้า

อีกด้านหนึ่งเป็นหญิงที่ในมือถือแส้เหล็กสีเงิน รูปโฉมงดงาม เรือนร่างมีส่วนเว้าส่วนโค้ง ยั่วยวนผู้คนอย่างที่สุด ทว่ากลิ่นอายของนางกลับเดือดปะทุดุจเพลิง เข่นฆ่าดั่งสายลม ทำเอาผู้คนหวาดผวา

ฝ่ายแรกนามว่าข่งอิน ฝ่ายหลังนามว่าชวีเหรา ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งจักรพรรดิ

ชิ้ง!

กระบี่โบราณพุ่งโฉบ คมกริบดุจรุ้งยาวแหวกเฉือนห้วงอากาศ ฟันเข้าใส่หลินสวิน

ทันทีที่ข่งอินลงมือ ก็สำแดงอานุภาพสะท้านโลกออกมา อานุภาพของกระบี่สายนี้ปิดครอบฟ้าดินทั้งแถบ ปราณกระบี่เวิ้งว้างปรากฏลักษณ์ประหลาด หิมะตกหนักพร่างพรม น้ำแข็งจับตัวหมื่นลี้

และในขณะเดียวกันชวีเหราก็สะบัดข้อมือ

เพียะ!

แส้เหล็กที่ยาวสามจั้งเต็มราวกับงูสีเงินผงาด สว่างไสวบาดตา วิวัฒน์เป็นพลังกฎเกณฑ์เร้นลับ พุ่งฟันสังหานใส่จินเทียนเสวียนเยวี่ย

ทอดมองจากไกลๆ ประหนึ่งแส้รบของทวยเทพบนแดนสรวงร่ายระบำ คล้ายหมายจะฟาดจักรวาลให้แตกระเบิด

พวกข่งอวี้หลบออกไปไกลโพ้น แกนหลักในการเคลื่อนไหวครั้งนี้เดิมก็เป็นกึ่งจักรพรรดิสองคนนี้ ส่วนพวกเขาก็แค่กองหนุนเท่านั้น

ในใจข่งอวี้แม้จะชิงชังหลินสวิน แต่รู้ดียิ่งว่าการที่อีกฝ่ายสามารถใช้พลังแห่งตนบุกสังหารบรรดาผู้แข็งแกร่งเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ข้างกายเขาบนยานลมกรดได้ พลังต่อสู้ของเจ้าตัวย่อมไม่ใช่ธรรมดา

พวกสิงหลิวสุ่ยต่างลอบถอนหายใจ ไม่ต้องให้พวกเขาลงมือก็ดี อย่างน้อยก็ไม่ต้องล่วงเกินผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิที่หนุนหลังอยู่คนนั้น

ฉัวะ!

เกือบจะในทันที หลินสวินก็ลงมือแล้วเช่นกัน

ดาบหักที่เปลี่ยนเป็นทึบทื่อไร้แสงอย่างสิ้นเชิง ดูเหมือนธรรมดาหาใดเปรียบพลันโฉบออกมา ต้านกระบี่มรรคฟีนมาสายนั้น

ส่วนตัวเขาร่างพริบไหวคราหนึ่ง เข้าซัดหมักใส่แส้เหล็กที่พุ่งไปทางจินเทียนเสวียนเยวี่ย

เคร้ง!

ดาบหักและกระบี่ฟาดฟันกันก่อน บังเกิดการชนกระแทกที่สะเทือนโสตจนหูแทบหนวก ประกายศักดิ์สิทธิ์สาดกระเซ็น กลิ่นอายที่แข็งกร้าวน่าสะพรึงแผ่กว้าง เทือกเขาละแวกใกล้เคียงล้วนพังครืนสนั่นหวั่นไหว

ปึง!

ที่ตามมาติดๆ คือพลังหมัดของหลินสวินซึ่งดุจดั่งกระถางยักษ์สยบโลกปะทะแส้เหล็กอย่างจัง พริบตาเงาร่างหลินสวินก็ถูกซัดสะเทือนจนส่ายโอนรุนแรง ราวกับถูกสายฟ้าฟาด

แต่พร้อมกันนั้นกลับสลายพลังโจมตีของแส้เหล็กนี้ได้

“หืม?”

ข่งอินและชวีเหราต่างเผยสีหน้าประหลาดใจออกมาเล็กน้อย

มกุฎราชันอริยะคนหนึ่ง ถึงกับต้านการโจมตีของพวกเขาสองคนได้!

พวกข่งอวี้ สิงหลิวสุ่ยเห็นภาพนี้ก็อึ้งไปเช่นกัน สูดหายใจหนาวเยือก เจ้าหมอนี่ถึงกับร้ายกาจขนาดนี้เชียว?

ชิ้ง!

จินเทียนเสวียนเยวี่ยเรียกกระบี่มรรคหิมะขาวเล่มหนึ่งออกมา อาศัยจังหวะนี้บุกโจมตีพวกข่งอวี้ทันควัน

เงาร่างของนางดุจดั่งฝันมายา ฝีมือการต่อสู้กลับเหิมหาญ ดุดัน ประหนึ่งเซียนกระบี่หญิงก็ไม่ปาน มาดพิสุทธิ์สง่า เจตกระบี่ทะยานเก้าชั้นฟ้า

ทันทีที่ลงมือนางก็สำแดงฝีมือชั้นยอด

ก็เห็นกลางฟ้าดินปรากฏเมืองยักษ์ทะเลเมฆแห่งหนึ่งตั้งตระหง่านบนชั้นเมฆ อาบชโลมประกายดารา หอกำแพงดุจกระบี่ทะยานฟ้า แผ่แสงสีขาวเวิ้งว้างออกมา

ท่ามกลางความรางเลือน คล้ายมีเงาร่างกำยำประหนึ่งภาพมายาสายหนึ่งดูแลอยู่บนหอกำแพง ผงาดกร้าวทั่วหล้า!

เขตแดนกระบี่… เมืองจักรพรรดิขาว!

“เฮอะ!”

กึ่งจักรพรรดิชวีเหราไม่สบอารมณ์ กึ่งจักรพรรดิสองคนอยู่ที่นี่ หากยังไม่สามารถจัดการคนรุ่นเยาว์สองคนได้ เช่นนั้นก็ขายหน้าเกินไปแล้ว

แต่ไม่รอให้นางลงมือ หลินสวินก็แหวกอากาศพุ่งทะยานออกมา “คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า”

ยามนี้เผชิญหน้ากับระดับกึ่งจักรพรรดิอีกครั้ง ต่อให้เป็นกึ่งจักรพรรดิสองคน หลินสวินก็ไม่เกรงกลัวอะไรมานานแล้ว

สู้!

เขาปลดปล่อยถึงขีดสุด แม้จะไม่ได้ใช้คัมภีร์เตาหลอมมหามรรค คัมภีร์กลืนกินไร้สิ้นสุด ทว่าอานุภาพระดับนั้นยังคงแข็งแกร่งจนทำเอาผู้คนใจสั่น

พวกผู้อาวุโสเพลิงที่เฝ้าดูการต่อสู้อยู่ไกลๆ ล้วนถูกสะท้านขวัญ นี่ไหนเลยจะเป็นพลังที่มกุฎราชันอริยะคนหนึ่งจะมีได้

จวนจะพลิกฟ้าแล้วชัดๆ!

และในเวลาเดียวกัน ในใจข่งอิน ชวีเหราก็ไม่อาจสงบนิ่ง หน้าเปลี่ยนสีครั้งแล้วครั้งเล่า

กึ่งจักรพรรดิอยู่เหนือระดับอริยะ พลังมหามรรคที่ครอบครองเฉียดใกล้ระดับจักรพรรดิ พลังต่อสู้ที่มีอยู่ทั้งหมดย่อมต้องน่าสะพรึงเหนือจินตนาการด้วยเช่นกัน

หากเป็นปกติ บุคคลระดับพวกเขามองอริยะเป็นเหมือนมด ฆ่าได้เหมือนฆ่าไก่ ต่อให้ต้องจัดการกับมกุฎราชันอริยะ ก็สามารถทำลายล้างได้อย่างง่ายดาย

แต่ตอนนี้พวกเขาสองคนลงมือพร้อมกัน ทว่ากลับถูกมกุฎราชันอริยะคนหนึ่งต้านเอาไว้ได้ทีละคน หนำซ้ำตั้งแต่ต้นจนจบยังไม่เห็นวี่แววจะเพลี่ยงพล้ำสักนิด!

‘นี่เป็นสัตว์ประหลาดที่โผล่มาจากที่นี่กัน’

ในใจข่งอินสั่นสะท้าน

โลกใหญ่หงเหมิงเป็นโลกอันดับหนึ่งของฟ้าดารา ให้กำเนิดปีศาจแห่งยุคมากมาย พวกเย้ยฟ้ายิ่งนับไม่หวาดไม่ไหว

กล่าวได้ว่าจากประสบการณ์ของข่งอิน ยังไม่เคยเห็นมกุฎราชันอริยะคนไหน สามารถข้ามระดับมาบุกโจมตีกึ่งจักรพรรดิสองคนเหมือนอวี่เสวียนคนนี้เลย!

‘เจ้าหมอนี่ หรือจะเป็นสิบอันดับแรกบนกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ หาไม่พลังต่อสู้จะพลิกฟ้าปานนี้ได้อย่างไร’

พร้อมกันนั้นในใจชวีเหราก็ไม่อาจสงบนิ่งได้

ความจริงเป็นเพราะพลังต่อสู้ที่หลินสวินสำแดงออกมา ล้วนสามารถหักล้างความรู้ความเข้าใจของคนทั่วหล้า ทำลายความคิดที่ถูกตีกรอบของผู้คน เห็นได้ชัดว่าน่าเหลือเชื่อเกินไป

“พี่ข่ง ออมมือไม่ได้แล้ว”

ไอสังหารในใจชวีเหราปะทุเดือด ด้านหลังอวี่เสวียนนี่ยังมีจักรพรรดิกระบี่วายุหนุนอยู่ ครั้งนี้หากไม่ฆ่า ต่อไปจะต้องวุ่นวายไม่ว่างเว้นอย่างแน่นอน

อีกทั้งจากพลังต่อสู้พลิกฟ้าที่เขาสำแดงออกมาในตอนนี้ ยามทะลุระดับขึ้นไปได้อีก กึ่งจักรพรรดิทั่วหล้าคนใดยังจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้

ถึงตอนนั้นเกรงว่าคงมีแต่ระดับจักรพรรดิออกโรงเอง จึงจะสามารถกำราบเขาได้!

“ทะยาน!”

ข่งอินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ใช้วิชาสุดยอดของตน กระบี่มรรคเล่มหนึ่งพริบไหวกลางห้วงอากาศ วิวัฒน์เป็นเงากระบี่มรรคมากกว่าพันสาย

แปลงหนึ่งเป็นพัน!

เงากระบี่แน่นขนัดเบียดเสียดดั่งพงไพร แผ่ครอบฟ้าดิน เงากระบี่มรรคแต่ละสายล้วนมีกฎเกณฑ์เจตกระบี่ที่ดุกร้าว เดือดคลั่ง และพลุ่งพล่าน

มองจากไกลๆ ดุจดั่งคุกกระบี่อเวจีปกคลุมโลกลงมา!

ฟ้าดินแถบนี้ล้วนจมสู่เสียงอึงอล ถูกปราณกระบี่ เจตกระบี่ แสงกระบี่ที่น่าสะพรึงกลบท่วมจมมิด

พวกผู้อาวุโสเพลิงรู้สึกเพียงว่าเบื้องหน้าปวดแสบ จิตใจล้วนสะท้านสะเทือน กลางห้วงนิมิตขาวโพลนไปทั้งแถบ มองไม่เห็นภาพการต่อสู้ในที่นั้นอีกต่อไป

อานุภาพของกระบี่นี้ สะเทือนฟ้าสะท้านดิน!

…………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์