Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1881

ตั้งแต่เริ่มจนจบ หลินสวินดูสงบนิ่งนัก

แต่วาจาของเขากลับดูตรงไปตรงมาอย่างยิ่ง ท่าทางรีบร้อน

ถ้าเป็นก่อนการต่อสู้ ท่าทางอย่างนี้ของเขาจะต้องถูกคิดว่าจองหอง ไม่รู้ถึงความน่ากลัวของตงหลิวซื่อ

แต่ตอนนี้ ใครจะยังกล้าคิดเช่นนี้

แค่การกระทำเรียบง่ายก็สามารถสร้างความเสียหายใหญ่หลวงให้หุ่นต่อสู้ที่เทียบได้กับมกุฎราชันอริยะแปดตัว นี่เป็นเรื่องที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ หรือ

ชั่วขณะเดียว ผู้ชมการต่อสู้ที่เดิมไม่ถือหางหลินสวินบางคนยังเริ่มจับตาดูชายหนุ่มที่ชื่อจินตู๋อีผู้นี้

ด้านสีหน้าของตงหลิวซื่อได้อึมครึมจนไม่น่ามองขึ้นมาแล้ว

“ไม่เคยมีใครกล้าดูแคลนข้าเช่นนี้ เจ้าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนความอวดดีของตน!”

ท่ามกลางเสียงเย็นชา เขาสะบัดแขนเสื้อครั้งหนึ่ง หุ่นต่อสู้รูปคนสีม่วงตัวหนึ่งปรากฏออกมา

หุ่นต่อสู้รูปคนนี้เหมือนเจียระไนขึ้นจากหยกเทพสีม่วง ละอองแสงประกายเทพตลบอบอวลทั้งร่าง แผ่กลิ่นอายดุดันสะท้านฟ้าออกมา

หุ่นต่อสู้บริสุทธิ์!

หลายคนเผยสีหน้าแปลกประหลาด

ขวับ!

ชั่วพริบตาเงาร่างของตงหลิวซื่อก็โฉบเข้าไปในหุ่นต่อสู้สีม่วงนั้น หลอมเข้าด้วยกันโดยสมบูรณ์

มองเห็นกับตาว่าทั้งร่างเขาเหมือนทองเทพสีม่วง ปกคลุมด้วยแผ่นเกราะอ่อนนุ่มเปล่งประกายชั้นหนึ่ง ส่วนกลางฝ่ามือของเขา ประกายสีม่วงรวมกันที่ทวนศึกแสบตา

ทั้งร่างตั้งแต่หัวจรดเท้าเผยเพียงดวงตาเย็นชาคู่หนึ่ง

ตงหลิวซื่อในตอนนี้มีประกายเทพสีม่วงคับฟ้ากระจายออกมาทั้งร่าง ประหนึ่งดวงอาทิตย์สีม่วงดวงหนึ่งกำลังลุกโชน กลิ่นอายน่าหวาดหวั่น

หลินสวินเพิ่งได้เห็น ‘หุ่นต่อสู้บริสุทธิ์’ เป็นครั้งแรก ชั่วขณะเดียวก็สังเกตได้ว่าหลังจากผสานพลังกับหุ่นต่อสู้บริสุทธิ์แล้ว กลิ่นอายของตงหลิวซื่อก็แข็งแกร่งขึ้นมามาก แม้พลังปราณจะยังคงเป็นระดับมกุฎราชันขั้นปลาย แต่กลับมีร่องรอยขั้นสมบูรณ์อยู่กลายๆ!

“ฆ่า!”

ตงหลิวซื่อคำรามดาลเดือด เหมือนทวยเทพสีม่วงองค์หนึ่งแกว่งทวนศึกกระแทกลงมากลางอากาศอย่างจัง ร้ายกาจอหังการ

ทวนสีม่วงเล่มนั้นประกายคมสะดุดตา ตวัดพลังกฎเกณฑ์ประหนึ่งสายธารขึ้นมา

หลายคนนัยน์ตาหดรัด

แต่กลับเห็นว่าหลินสวินไม่หลบไม่หนี เงาร่างดั่งเขาสูงตระหง่าน ด้านบนเชื่อมฟ้า ด้านล่างแตะดิน ถึงกับให้ความรู้สึกมั่นคงไม่ไหวขยับ กว้างใหญ่ไม่อาจสั่นคลอนได้

นี่คือกลิ่นอายของกายมรรคดินเหลือง!

พอตงหลิวซื่อกระชับทวนศึกโจมตีมา หลินสวินทำเพียงชูมือขึ้นกดนิ้วหนึ่งออกไปดังเก่า

เคร้ง

ทวนศึกสีม่วงสั่นโคลงรุนแรงราวกับถูกสายฟ้าฟาด

ตงหลิวซื่อเพียงรู้สึกว่าพลังอันเกรียงไกรไพศาลไม่อาจป้องกันได้กระแทกมา ร่างกายกระเด็นลอยออกไปบนฟ้า แขนข้างที่จับทวนศึกอยู่เจ็บปวดรุนแรงและชาหนึบ เลือดลมภายในร่างปั่นป่วน

ผู้แข็งแกร่งที่จับจ้องภาพนี้ทุกคนล้วนอึ้งค้าง

ฝีมือการต่อสู้อันแข็งแกร่งสะดุดเช่นนั้นของตงหลิวซื่อสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ไม่ธรรมดาถึงเพียงนั้น

แต่ทุกครั้งล้วนถูกจินตู๋อีนั่นทำลายอย่างง่ายดายเหมือนท่าดีทีเหลว ให้ความรู้สึกขัดแย้งในสายตาอย่างรุนแรงถึงที่สุด

มีเพียงผู้ที่สายตาจัดเจนบางคนที่ตระหนักได้ว่าไม่ใช่ตงหลิวซื่อไม่แข็งแกร่ง แต่เป็นเพราะจินตู๋อีคนนี้… ร้ายกาจกว่าอย่างเห็นได้ชัด!

“ฆ่า!”

ตงหลิวซื่อแววตาวาวโรจน์ดุจเปลวเพลิงผลาญ ทั้งโกรธทั้งคลั่ง เงาร่างเขาดุจสายฟ้า นำพาแสงประกายสีม่วงเต็มฟ้าพุ่งโจมตีไปอีกครั้ง

แต่ไม่ว่าการจู่โจมของเขาจะแข็งแกร่งปานใด ก็ถูกหลินสวินทำลายในชั่วขณะที่ยกมือวาดเท้าอยู่ตลอด!

ความรู้สึกที่มอบให้เขาก็เหมือนสัตว์ร้ายตัวหนึ่งลองไปชนใส่ภูเขาเทพดึกดำบรรพ์ลูกหนึ่ง แต่ก็ถูกกระแทกจนหัวแตกเลือดไหล ถอยหลังโซเซทุกครั้งไป

คนไม่น้อยสูดหายใจสะท้าน

โดยเฉพาะผู้ฝึกปราณที่ทุ่มพนันข้างตงหลิวซื่อล้วนหน้าเขียวแล้ว ตงหลิวซื่อต้องชนะสิบครั้งติด พวกเขาถึงจะได้ค่าตอบแทนก้อนโตจากการพนันถูก

ถ้าแพ้แล้ว…

เช่นนั้นก็ต้องชดใช้จนหมดเนื้อหมดตัว!

“โลกมายาหุ่นต่อสู้!”

ในที่สุดตงหลิวซื่อก็รับรู้ได้ว่าสถานการณ์อันตราย สำแดงเขตแดนมรรคของตนออกมาอย่างไม่ลังเลสักนิด

ตูม!

แสงขาวรางเลือนถักทอ แปลงเป็นมายาโลกเขตแดนแห่งหนึ่ง หลินสวินตาเป็นประกาย ไม่หลบหนี กลับออกตัวพุ่งเข้าไปในเขตแดนมรรคแห่งนี้

“จินตู๋อีคนนี้บ้าไปแล้วหรือ ถ้าถูกขังในเขตแดนมรรคเขาก็จบเห่โดยสมบูรณ์แล้ว!”

หลายคนตาแทบหลุดออกจากเบ้า ต่างไม่กล้าเชื่อว่าบนโลกนี้จะมีใครกล้าไม่เสียดายชีวิตเช่นนี้ คนอื่นกลัวแต่จะหลบเขตแดนมรรคไม่ทัน แต่เขากลับเข้าไปหาถึงที่เอง..

แม้แต่ตงหลิวซื่อก็ยังชะงักไปเล็กน้อย เป็นเพราะไม่รู้จักประมาณตน หรือว่าเจ้าหมอนี่รีบรนหาที่ตายกันแน่

ทันใดนั้นเขาก็เผยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม คร้านจะใส่ใจอีก คว้าโอกาสโคจรพลังของเขตแดนมรรคเต็มกำลัง!

“จินตูอีเอ๋ยจินตู๋อี วันนี้ถ้าไม่สู้จนเจ้าเรียกว่าปู่ ก็ถือว่าข้าแพ้!”

ตงหลิวซื่อคำรามลั่น!

ตูม!

ภายในเขตแดนมรรค หุ่นต่อสู้นับหมื่นพัน หลากรูปหลายสี ไม่เหมือนกันทั้งสิ้นปรากฏขึ้นมา

บ้างเป็นนกปีศาจสัตว์เทพ และยังมีผู้แข็งแกร่งหุ่นต่อสู้ซึ่งมีกลิ่นอายเป็นเอกลักษณ์ต่างๆ ทั้งผู้ฝึกกระบี่ ผู้ฝึกดาบ ผู้บำเพ็ญธรรม ผู้ฝึกสายมาร…

หุ่นต่อสู้แต่ละตัวล้วนเหมือนมีชีวิตจริงๆ ราวกับกองทัพอันเกรียงไกรกองหนึ่งกำลังกรำศึกในสมรภูมิ เบื้องหน้ามีนกปีศาจสัตว์เทพเปิดทาง เบื้องหลังมีผู้ฝึกปราณมากมายรักษากระบวนทัพ

แกร่งกล้าเป็นอย่างยิ่ง

หลินสวินยังรู้สึกได้เปิดหูเปิดตา

ในการรับรู้ของเขา อานุภาพของ ‘โลกมายาหุ่นกระบอก’ ของตงหลิวซื่อยังสู้ ‘ทางนรกไร้หวน’ ของเสอหลิงไม่ได้ด้วยซ้ำ

แต่กลับมีท่วงทำนองเทพที่ประสมปนเปทุกสิ่ง แปลกประหลาดพิสดาร ผสานการสรรค์สร้างมหามรรคอันมหัศจรรย์มากมายไว้ภายใน

หลินสวินไม่สงสัยสักนิดว่าถ้าให้เวลาตงหลิวซื่อ นัยเร้นลับที่มีอยู่ในโลกมายาหุ่นกระบอกนี้มีแต่จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์