Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1883

สรุปบท ตอนที่ 1883 ปราณดาบเดือดพล่าน ประกายดาบดุจนรก: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 1883 ปราณดาบเดือดพล่าน ประกายดาบดุจนรก จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 1883 ปราณดาบเดือดพล่าน ประกายดาบดุจนรก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

แต่ผู้หญิงคนนั้นย่อมมองตัวตนของเขาไม่ออกแน่นอน

เพราะศัตรูคงไม่โง่ถึงขั้นลงมือในลานแสดงมรรคที่มีผู้คนนับไม่ถ้วนจับตามองหลังจากมองตัวตนเขาออก

จนตอนนี้ หลินสวินชนะมาสามครั้งติดแล้ว

การแสดงความสามารถเช่นนี้ยังดูด้อยกว่าอยู่บ้าง บนสังเวียนอื่นอีกสิบเจ็ดสังเวียน พวกฉู่ชิว กู่เจี้ยนสิง อย่างน้อยก็ชนะติดต่อกันห้าครั้ง อย่างมากก็ชนะติดต่อกันเจ็ดครั้งแล้ว!

และยังมีผู้แข็งแกร่งที่ออกโรงครั้งแรกบางคนถูกผู้ท้าสู้เอาชนะ

โดยสรุปแล้ว ผู้ที่โดดเด่นเป็นอย่างยิ่งในขณะนี้คือเหล่าคนโดดเด่นแห่งยุคอย่างฉู่ชิว กู่เจี้ยนสิง ผลการต่อสู้ของหลินสวินยังไม่ถือว่าเตะตานักเหมือนเดิม

หลินสวินคร้านจะถือสาเรื่องนี้

สำหรับเขาแล้ว การได้รับชัยชนะไม่มีความหมายอะไรจริงๆ เขาเพียงอยากศึกษาให้ได้มากที่สุด สัมผัสพลังเขตแดนมรรคของอีกฝ่ายเสียหน่อย

แค่นี้เท่านั้น

ยกที่สี่ คู่ต่อสู้ของหลินสวินเป็นผู้ฝึกดาบที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่งคนหนึ่ง นามว่าเกาหลิงเทียน มาจากตระกูลขุมอำนาจที่ถือว่าอยู่ระดับกลางในแคว้นเมฆาเท่านั้น พลังปราณมกุฎราชันอริยะขั้นปลาย รูปลักษณ์หยาบกระด้าง เครื่องหน้าคมสัน

ชื่อเสียงของเกาหลิงเทียนดังกึกก้องถึงที่สุด ในหมู่คนรุ่นเยาว์มีฉายา ‘ราชันอริยะดาบมาร’ เขตแดนมรรค ‘นรกดาบครวญ’ ที่เขาควบรวม ได้รับคำชื่นชมไม่ขาดปากจากเฒ่าดึกดำบรรพ์บางส่วน

“เจ้าหมอนี่เจอเรื่องยุ่งยากแล้ว”

บนตำแหน่งผู้คุมการทดสอบ พอสังเกตเห็นภาพนี้เถาซงถิงก็เอ่ยปากอย่างอดไม่ได้

“จำนวนครั้งแพ้ชนะ สู้แล้วจึงจะรู้ ข้าสังเกตได้ว่าจินตู๋อีผู้นี้ยังรักษาชัยชนะไว้ได้ในการต่อสู้สามยกก่อน”

อวี๋ฮูหยินที่แต่งกายชุดเขียวพูดอย่างสนอกสนใจ

หงอวี่อ้าปากจะพูด แต่สุดท้ายก็ยั้งไว้อยู่ดี เขารู้ว่าเรื่องที่พนันกันเมื่อครู่ทำให้เถาซงถิงไม่พอใจนัก

ตอนนี้จึงไม่คิดจะไปกระตุ้นอีกฝ่ายแล้ว

เพราะการปรากฏตัวของเกาหลิงเทียน ศึกนี้จึงดึงดูดสายตาในที่นั้นหลายคู่ ส่งผลให้หลินสวินก็ถูกจับตามองไปด้วย

นี่ก็เป็นอิทธิพลของราชันอริยะดาบมาร

เพียงแต่สิ่งที่เป็นหัวข้อให้ถกกันมากที่สุดก็คือ สุดท้าย ‘จินตู๋อี’ ที่เป็นหลินสวินปลอมตัวมาจะทนรับกระบวนท่าดาบของเกาหลิงเทียนได้สักเท่าไร

แทบจะมีน้อยมากที่คิดว่าหลินสวินจะชนะ

ยามได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ เถาซงถิงก็ยิ้มแต่ไม่พูด คิดว่าสายตาของผู้ชมยังมีพอจะแววอยู่บ้าง

หงอวี่หัวเราะในใจ ลอบเอ่ยว่ารอผลลัพธ์ออกมา อยากเห็นจริงๆ ว่าพวกเขาจะหน้าชาไหม

ชิ้ง!

คมกระบี่ขาวเปล่งประกายบาดตาอุบัติขึ้นบนสังเวียน ดาบศึกขาวโพลนทั้งเล่ม มีกระแสเย็นเยียบพร่าเลือนแผ่กระจายเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือเกาหลิงเทียน

สัญลักษณ์ลึกลับที่สลักอยู่บนตัวกระบี่ เผยปรากฏการณ์ประหลาดตะลึงโลกอย่างมังกรเพลิงกลืนอากาศอยู่รางๆ

พอดาบอยู่ในมือ กลิ่นอายของเกาหลิงเทียนก็เปลี่ยนไป ราวกับแปลงกายเป็นกายดาบ ตั้งตระหง่านกลางฟ้าดิน คมประกายไร้เทียมทาน!

พลานุภาพอันดุดันนั้นทำให้จิตวิญญาณของผู้แข็งแกร่ง ณ ที่นั้นมากมายเจ็บแปลบ ตกตะลึงไม่ว่างเว้น

แต่หลินสวินยังสีหน้าราบเรียบจนไร้คลื่นอารมณ์ดังเดิม

“สุดคลั่ง!”

เกาหลิงเทียนไม่พูดพร่ำทำเพลง แกว่งดาบโจมตี

สวบ!

ดาบเดียวฟันออกไป ตัวเขาประหนึ่งคลุ้มคลั่ง ปราณดาบที่ปลดปล่อยออกมาก็เผยความกำเริบเสิบสานบ้าคลั่งออกมา เพิกเฉยต่อฟ้าดิน ท่วงท่าอหังการหมายทำลายสิ้นพันธนาการทั้งปวง

ห้วงอากาศฉีกขาดเหมือนผืนผ้า เสียงระเบิดซัดสาดแผ่กระจาย

ในพริบตานี้ปราณดาบนั้นทำให้ผู้ชมการต่อสู้ไม่รู้เท่าไรตื่นตาตื่นใจ

เงาร่างหลินสวินไม่เคลื่อนไหว กลับมีปราณกระบี่สายหนึ่งพุ่งออกมา เร้นล้ำลึกลับ ปรวนแปรไม่แน่นอน ประหนึ่งเครื่องตกแต่งตามธรรมชาติ ไม่เจือกลิ่นอายโลกีย์

ปัง!

ปราณดาบและปราณกระบี่นั้นปะทะกัน ระเบิดกระจุยทุกกระเบียดในห้วงอากาศ

“สุดระห่ำ!”

ท่าทางของเกาหลิงเทียนแปรเปลี่ยนจากคลั่งเป็นบ้าระห่ำโดยไม่ลังเล ฟันดาบออกไปอีกครั้ง อาละวาดแผลงฤทธิ์ ราวลมฟ้าฝนทะเลคำราม ม้วนตลบจักรวาล

ความหมายของคลุ้มคลั่งบ้าระห่ำระบายออกมาด้วยอานุภาพของดาบเดียวจนหมดสิ้น

แววประหลาดใจฉายในดวงตาหลินสวิน มรรคดาบเช่นนี้ถึงกับใช้เจ็ดอารมณ์หกปรารถนาเป็นรากฐาน อนุมานปรากฏการณ์ประหลาดสะท้านโลกออกมา

คลุ้มคลั่ง ก็คลั่งถึงที่สุด

บ้าระห่ำ ก็บ้าจนไร้สิ้นสุด!

หลินสวินไม่ลังเล แกว่งหมัดโจมตี เกาหลิงเทียนผู้นี้ยังไม่อาจสร้างภัยคุกคามให้เขาได้ ที่เขาสนใจก็คือพลังมรรคดาบที่เกาหลิงเทียนปลดปล่อยออกมา

ตูม ครืน…

ฟ้ามืดดินหม่น ประกายเทพอบอวล

เกาหลิงเทียนกับหลินสวินเข้าสู้กัน ทั้งสองคนคนหนึ่งใช้ปราณดาบพาดขวาง โจมตีคลุ้มคลั่ง เหิมเกริมอหังการ พาให้ผู้ชมการต่อสู้ต่างสติกระเจิงมึนงง

ส่วนอีกด้านหนึ่งราวเมฆเคลื่อนบนขอบฟ้า สุขุมเยือกเย็น ระหว่างที่ปราณกระบี่ไหลเวียนก็เผยกลิ่นอายละโลกีย์

ชั่วขณะเดียวจึงดึงดูดสายตาไม่รู้เท่าไร

แม้แต่เหล่าคนที่ร่วมต่อสู้ในเขตต่อสู้เหล่านั้นยังพากันมองมา

“จินตู๋อีคนนั้นก็ยอดเยี่ยมจริง ถึงกับสู้กับเกาหลิงเทียนได้ น่าประหลาดใจจริงๆ”

“ในแง่พลังปราณจินตู๋อีด้อยกว่าเล็กน้อย ถ้าพูดกันโดยเคร่งครัด เกาหลิงเทียนสู้ไม่ได้นิดๆ แล้ว”

“นี่ก็ไม่เสมอไป เกาหลิงเทียนเพิ่งออกไปสู้ เห็นได้ชัดว่าออมพลังอยู่”

…เสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่ขาดสาย

ความสามารถที่หลินสวินเผยออกมาก็เข้าไปอยู่ในสายตาของคนส่วนมากตามไปด้วย คนไม่น้อยจึงรับรู้ได้ในตอนนี้ ว่าผู้ฝึกปราณอิสระจินตู๋อีที่ไม่มีชื่อเสียงคนนี้ ถึงกับเป็นพวกน้ำนิ่งไหลลึก

นี่ย่อมดึงดูดความสนใจของผู้คน

แต่ความสามารถที่เกาหลิงเทียนสำแดงออกมายังถูกถือหางอย่างเป็นเอกฉันท์ โดยเฉพาะหญิงสาววัยงามบางคน ยิ่งหวีดร้องให้กำลังใจ ‘ราชันอริยะดาบมาร’ ผู้นี้อย่างตื่นเต้น

“สุดหลง!”

บนสังเวียน ท่วงท่าเกาหลิงเทียนเปลี่ยนไปอีกครั้ง ยิ่งแกร่งกล้ายิ่งขึ้น ในความคลุ้มคลั่งเจือความลุ่มหลงถึงที่สุด

ลุ่มหลงในดาบ ลุ่มหลงในมรรค!

ดังนั้น เพราะลุ่มหลงจึงคลุ้มคลั่ง

ทะเลรวมร้อยธาร ปริมาณจึงมหาศาล ใจความสำคัญของคัมภีร์เตาหลอมมหามรรคของเขาก็คือหลอมหมื่นมรรคทั่วหล้า วิวัฒน์หมื่นวิชาในโลกา

เขตแดนมรรคที่ต้องการควบรวมในภายหน้าก็ย่อมเสาะหาถึงที่สุด ให้สอดคล้องกับมรรคและวิชาของตนโดยสมบูรณ์

คิดจะทำได้ถึงขั้นนี้ ยากยิ่งอย่างไม่ต้องสงสัย

ตั้งแต่ครึ่งปีก่อนที่อยู่บนยานลมกรด จนกระทั่งไม่กี่เดือนนี้ที่มาถึงโลกใหญ่หงเหมิง เขาก็ขัดเกลาและศึกษาเรื่องนี้มาโดยตลอด

พลิกคัมภีร์ร้อยสมุนไพรทั่วหล้า ท่องไปในแคว้นมากมาย รวมทั้งขึ้นสังเวียนศึกถกมรรคกับคู่ต่อสู้ในตอนนี้ เป้าหมายสำคัญก็เพื่อควบรวมเขตแดนมรรคทั้งสิ้น!

อ่านหมื่นม้วนตำรา ยาตราหมื่นลี้

เร้นโลกาสงบจิต เข้าสู่โลกขัดเกลา

ล้วนทำเพื่อสิ่งนี้!

……

บนสังเวียน

เกาหลิงเทียนยิ่งคลั่ง บ้า หลง!

ดาบศึกของเขายิ่งส่งเสียงฮึกเหิม เปล่งประกายอันเหิมเกริม ดุร้าย และบริสุทธิ์ ดั่งธารดาราไหลหลั่งลงมา

ตัวเขาจมดิ่งอยู่ในสภาวะต่อสู้เดือดพล่านถึงที่สุด

สู้ถึงตอนนี้ ความคิดเดียวของเขาก็คือ…

จินตู๋อีคนนี้เป็นคู่ต่อสู้ที่หาได้ยากยิ่งคนหนึ่ง

นี่ทำให้เขาไม่ตกใจแต่กลับยินดี มีเพียงคู่ต่อสู้เช่นนี้ถึงทำให้เขาโจมตีเต็มกำลังได้โดยไม่ต้องหวั่นกลัว ไม่ต้องกังวล

เพียงแต่ถ้าให้เขารู้ความคิดตอนต่อสู้ของหลินสวิน เกรงว่าจะเป็นการกระทบกระเทือนจิตใจเขาอย่างใหญ่หลวงถึงที่สุด…

เพราะใจหลินสวินไม่ได้อยู่ที่การต่อสู้โดยสิ้นเชิง สาเหตุที่ห้ามใจออมมือเอาไว้ เพียงเพราะอยากหยั่งรู้นัยเร้นลับที่มีประโยชน์กับตนให้มากที่สุด

ตูม!

ทันใดนั้นบนสังเวียน อานุภาพของเกาหลิงเทียนก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ส่งเสียงคำรามยาว ดาบศึกในมือแกว่งไกวฉับพลัน

ปราณดาบขาวโพลนถาโถม เขตแดนมรรคอันน่าสะพรึงกลัวแห่งหนึ่งปกคลุมลงมา

ภายในเขตแดนมรรค ปราณดาบเดือดพล่าน ประกายดาบดุจนรก!

เวลาที่หลินสวินรอคอยก็คือตอนนี้ ร่างเขาพริบไหวแทรกเข้าไปอย่างไม่ลังเล

“นี่… นี่ไม่ใช่รนหาที่ตายหรอกหรือ”

หลายคนงุนงง

ส่วนผู้ฝึกปราณที่สู้กับหลินสวินสามคนแรกก็ศีรษะชาหนึบไปครู่หนึ่ง

แบบนี้อีกแล้ว!

ตอนสู้กับตงหลิวซื่อเป็นอย่างนี้

ตอนสู้กับหวังเจินหยางก็เป็นเช่นนี้!

เขตแดนมรรคที่คนอื่นล้วนอยากหลบหนี แต่จินตู๋อีผู้นี้กลับดีนัก อยากจะพุ่งเข้าไปทุกครั้ง…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์