โกงรึ
จะเป็นไปได้อย่างไร!
บนแท่นเมฆานี้ หากไม่ใช่เจ้าสำนักก็เป็นผู้นำตระกูลเก่าแก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถ้ามีคนโกงก็ย่อมถูกพวกเขามองทะลุได้ในปราดเดียวไปแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นการคัดเลือกรอบที่สองยังเกิดขึ้นในเจดีย์หลอมมรรคว่างเปล่า นี่เป็นถึงยอดสมบัติพิทักษ์สำนักของสำนักยุทธ์ว่างเปล่า!
ในสถานการณ์เช่นนี้นักพรตหลันกลับบอกว่าจินตู๋อีโกง นี่เป็นการตบหน้าสำนักยุทธ์ว่างเปล่าซึ่งหน้าจริงๆ!
ดังคาด ก้วนซวีในฐานะที่เป็นเจ้าสำนักสำนักยุทธ์ว่างเปล่าสีหน้าอึมครึมลงทันที จ้องมองอย่างเย็นชาพลางกล่าว “สหายยุทธ์ นี่เจ้ากำลังสงสัยว่าสำนักยุทธ์ว่างเปล่าของข้าเล่นเล่ห์เพทุบายรึ”
นักพรตหลันหน้าเปลี่ยนสี รีบร้อนกล่าว “ไม่กล้าๆ ความจริงคือ… จินตู๋อีนี่ประพฤติตนผิดปกติเกินไป กระทั่งทำให้ข้าเสียอาการอย่างอดไม่ได้อยู่บ้าง”
คำพูดนี้กลับมีผู้ยิ่งใหญ่เห็นด้วยไม่น้อย
ก่อนหน้านี้ใครเล่าจะคาดคิดว่าในช่วงที่ลู่ตู๋ปู้และอู่หวงต่อสู้กันอย่างดุเดือด ใกล้จะประชันจนได้อันดับหนึ่ง จะเกิดการพลิกผันเช่นนี้ขึ้น
จินตู๋อีใช้ท่าทางที่ไม่อาจทัดเทียม ชิงเป็นผู้แข็งแกร่งคนแรกที่ผ่านการคัดเลือกรอบที่สองก่อนที่พวกลู่ตู๋ปู้และอู่หวงจะทะลวงผ่านชั้นที่เก้า!
ผลลัพธ์เช่นนี้ ก่อนหน้านี้ไม่ว่าใครก็คงคาดไม่ถึง
เหนือความคาดหมายเกินไป!
…
เจดีย์หลอมมรรคว่างเปล่าชั้นที่เก้า
หลินสวินยืนโดดเดี่ยวลำพัง นัยน์ตาทั้งสองปิดสนิท สีหน้าสุขุมยากจับต้อง
ภายในร่างเขา หลังจากพลังต้นกำเนิดวิถียุทธ์ที่พลุ่งพล่านทรงอานุภาพพุ่งเข้าไป ครรภ์เทพเพลิงแดงในหัวใจก็ดังเป็นจังหวะอย่างเด่นชัดราวกับฟ้าคำราม การขับเคลื่อนพลังชีวิตที่ยิ่งใหญ่ดุจห้วงสมุทรแผ่กระจายออกมา ปะทุพล่านอย่างบ้าคลั่ง
ตูม!
เพียงครู่เดียวเสียงที่ดังขึ้นในหัวใจประหนึ่งจักรวาลแรกกำเนิด บนแท่นบูชาเหนือศีรษะหลินสวินก็ปรากฏละอองแสงงามตระการที่แดงดุจเพลิงผลาญแถบหนึ่ง
เกือบจะเวลาเดียวกัน ชุดนักพรตสมประสงค์ที่คลุมตัวหลินสวินมีกลิ่นอายอัศจรรย์ไหลวนออกมา บดบังปรากฏการณ์ประหลาดทุกอย่างนี้ไว้
เมื่อมองจากภายนอกจะเห็นแค่หมอกเพลิงแถบหนึ่ง แต่ไม่อาจล่วงรู้ถึงลักษณ์ประหลาดอัศจรรย์ที่กำลังเกิดขึ้นบนตัวหลินสวินได้
สุดท้ายละอองแสงที่แดงดุจเพลิงผลาญนั้นก็ควบรวมเป็นเงาร่างสูงตระหง่านสวมชุดคลุมเพลิงร่างหนึ่ง ทั่วร่างอบอวลด้วยเปลวไฟเปล่งประกายเจิดจรัส ประดุจเทพที่ควบคุมเพลิงสวรรค์ ถือกำเนิดจากเปลวไฟ!
กายมรรคเพลิงแดง!
ไฟ หนึ่งในห้าธาตุ ยอดหยางฟ้าประทาน ทักษิณแห่งแปดทิศ
นี่คือร่างแยกมหามรรคที่เกิดจากครรภ์เทพเพลิงแดงตนหนึ่ง กลิ่นอายของมันดั่งดวงตะวันเจิดจ้า ยิ่งใหญ่ไพศาล โชติช่วงดุดันยิ่งยวด หยิ่งผยองกำแหง
นี่ก็คือร่างแยกมหามรรคตัวที่สี่ซึ่งควบรวมออกมานับแต่หลินสวินฝึกปราณมาถึงตอนนี้
ตูม!
เมื่อสารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณของหลินสวินผสานเข้าไปในกายมรรคเพลิงแดงนั่น การหยั่งรู้ที่น่าอัศจรรย์นับไม่ถ้วนก็ผุดขึ้นในใจราวกับกระแสน้ำ
ครู่ใหญ่หลินสวินที่สวมชุดคลุมแดงใจเต้น ดวงตาที่หรี่อยู่พลันลืมขึ้น
พริบตานี้ภาพที่น่ากลัวภาพหนึ่งปรากฏขึ้นในดวงตาคู่นั้นของเขา…
กลางฟ้าดินสรรพสิ่งดับสูญ มีเพียงเปลวเพลิงโหมกระหน่ำ หลักการฟ้าดิน สุริยันจันทราดาราล้วนถูกหลอมจนสิ้น
ร่องรอยแห่งกาลเวลา หนทางแห่งห้วงอากาศว่างเปล่าล้วนเผาไหม้ไร้ตัวตน
ดวงไฟนั้นกลายเป็นสิ่งเดียวที่คงอยู่และไม่เสื่อมสูญ!
ลักษณ์ประหลาดสะเทือนใต้หล้านี้วิวัฒน์อยู่ในดวงตาหลินสวิน สุดท้ายก็กลายเป็นแสงเพลิงสองกลุ่มวาดกวาดออกมา
ตูม!
ชั้นที่เก้ามีนามว่าแดนลับว่างเปล่า เป็นแดนมืดสลัวที่ประหนึ่งว่างเปล่า แต่ยามนี้เมื่อหลินสวินลืมตา แสงเพลิงคู่หนึ่งก็ปรากฏ สาดส่องทั่วฟ้าดิน!
เหมือนว่าทั้งโลกกำลังถูกแผดเผา!
นี่ก็คือพลังพรสวรรค์ของกายมรรคเพลิงแดง…
‘เนตรผลาญเผา!’
นัยเร้นลับสำคัญของมันอยู่ที่คำว่าผลาญ!
เผาฟ้าผลาญดิน แปลงสรรพสิ่งเป็นเถ้าถ่าน
อภินิหารพรสวรรค์เช่นนี้ เด็ดขาดและดุดันเป็นที่สุด!
ผ่านไปครู่ใหญ่เมื่อหลินสวินในชุดคลุมแดงเก็บพลังกลับไป พลังแผดเผากลางฟ้าดินแถบนี้ก็หายไปด้วย ทุกอย่างกลับสู่ความสงบ
แต่ในดวงตาของหลินสวินกลับฉายแววประหลาดเสี้ยวหนึ่ง
ด้วยยามสำแดงเนตรผลาญเผา กลับปลุกพลังที่มาจาก ‘เพลิงมรรคอัศจรรย์’ โดยไม่ตั้งใจ ทำให้กลิ่นอายของเพลิงมรรคอัศจรรย์ซึมซาบเข้าไปในอภินิหารพรสวรรค์นี้ด้วย ทำให้อานุภาพของเนตรผลาญเผาพุ่งพรวดถึงขั้นไม่อาจจินตนาการได้ในครู่เดียว!
จากการคาดเดาของหลินสวิน เดิมทีอานุภาพของเนตรผลาญเผาสามารถสังหารยอดบุคคลรุ่นเดียวกันได้อย่างง่ายดาย
เมื่อรวมกับกลิ่นอายของเพลิงมรรคอัศจรรย์ ยามสำแดงอภินิหารนี้จะฆ่าบุคคลระดับกึ่งจักรพรรดิก็เป็นเรื่องง่ายแล้ว
เมื่อคาดเดาได้ตามนี้ หลินสวินก็ใจสั่นไปพักหนึ่ง รับรู้ได้ถึงความน่ากลัวของคัมภีร์มหามรรคหวงถิงยิ่งกว่าเดิม
‘กายมรรคไม้เขียว ครองพลังแห่งความเป็นตายรุ่งโรจน์โรยร่วง…’
‘กายมรรคดินเหลือง ครองประทับแห่งสรรพชีวิต…’
‘กายมรรควารีดำ เผยความอัศจรรย์แห่งสามพันลี้วารียาว…’
‘ส่วนกายมรรคเพลิงแดงนี้ก็มีเนตรผลาญเผา ดำเนินตามมรรคแห่งความเผด็จการรุนแรงทำลายล้าง!’
หลินสวินใคร่ครวญเงียบๆ สัมผัสนัยเร้นลับของกายมรรคเพลิงแดง ไม่รู้เลยว่าหลังจากทะลวงผ่านชั้นที่เก้า เขาก็ได้เป็นอันดับหนึ่งของการคัดเลือกรอบที่สองแล้ว
หรือพูดได้ว่าตั้งแต่เริ่มเข้ามาในเจดีย์หลอมมรรคว่างเปล่าจนถึงตอนนี้ เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องอันดับของการแข่งขันเลย
…
เค่อที่ห้าของการคัดเลือกรอบที่สอง
ลู่ตู๋ปู้ในชุดนักพรตแขนกว้างราวกับบัณฑิตอ่อนแอ ก้าวออกมาจากเจดีย์หลอมมรรคว่างเปล่า
มุมปากของเขาแฝงรอยยิ้ม ราศีจับเปล่งประกาย
หลังจากผ่านชั้นที่เก้า พลังต้นกำเนิดวิถียุทธ์ที่สั่งสมอยู่ภายในร่าง ทำให้เขาบรรลุการควบคุมเขตแดนมรรค ‘ล่องลอยดั่งฝัน’ ถึงขั้นสมบูรณ์!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์