Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1908

สรุปบท ตอนที่ 1908 อานุภาพแห่งการผลาญเผา: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 1908 อานุภาพแห่งการผลาญเผา จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 1908 อานุภาพแห่งการผลาญเผา คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 1908 อานุภาพแห่งการผลาญเผา
คนใหญ่คนโตในที่นั้นต่างตัวแข็งทื่อ เผยสีหน้าตกตะลึง

กลิ่นอายระดับจักรพรรดิ!?

ในตอนนี้ลู่ตู๋ปู้มีอานุภาพดุจสูงส่งเหนือล้ำ

ส่วนในสนามประลอง หลินสวินนัยน์ตาหดรัด จิตใจปั่นป่วนอย่างหาได้ยาก

นี่ต้องเป็นเท็จแน่!

หลินสวินแน่ใจในข้อนี้ ถ้าลู่ตู๋ปู้บรรลุระดับจักรพรรดิจริง จะมาเข้าร่วมศึกถกมรรคแคว้นเมฆาได้อย่างไร

ที่ทำให้หลินสวินประหลาดใจก็คือ ด้วยประสบการณ์กรำศึกมานานปีของเขากลับไม่อาจมองทะลุช่องโหว่ได้สักนิด นี่พิสูจน์ได้เพียงว่า กลิ่นอายระดับจักรพรรดิที่ปรากฏขึ้นจากตัวลู่ตู๋ปู้สมจริงเกินไป!

ตูม!

ลู่ตู๋ปู้เคลื่อนไหวแล้ว ประหนึ่งทวยเทพผู้เหยียบย่างบนหมู่ดาว ควบคุมจักรวาล เพียงสะบัดมือสุริยันจันทราพลิกคว่ำ เส้นสายปั่นป่วนยุ่งเหยิง

แสงมรรคเจิดจรัสหาใดเทียบกลายเป็นกระแสเชี่ยวอันงดงามไพศาลเข้าปกคลุมหลินสวิน

ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างตกใจจนเหงื่อกาฬอาบกาย ขนพองสยองเกล้า อานุภาพการต่อสู้เช่นนี้ไม่มีทางเป็นพลังที่ระดับมกุฎราชันอริยะมีได้เด็ดขาด!

จินตู๋อีนั่น… อันตรายแล้ว!

แต่ก็ในตอนนี้เอง จู่ๆ หลินสวินก็ยิ้มขึ้นมา

ทั้งตัวเขามีประกายเทพสีชาดพุ่งโฉบ ปลดปล่อยกลิ่นอายเผาฟ้าผลาญดิน ตัวเขาที่เดิมแน่วนิ่งดั่งภูผาก็เหมือนเทพอัคคีที่ถือกำเนิดจากการอาบเพลิงเทพองค์หนึ่ง

ผลาญเผารุนแรง กำเริบเสิบสานดุจเปลวเพลิง!

เขาไม่ถอยกลับรุก พุ่งประจันไปข้างหน้า ดั่งทะเลเพลิงที่ปิดฟ้าคลุมดินจู่โจม แผดเผาถาโถม ปะทะเข้ากับกระแสเชี่ยวไร้ใดเทียบเทียมนั้น

ตูม โครม!

การโจมตีที่เปี่ยมพลานุภาพระดับจักรพรรดิของลู่ตู๋ปู้ถึงกับสลายเป็นเถ้าธุลีทุกกระเบียด ถูกเผาผลาญสิ้นซากท่ามกลางเสียงปะทะชวนครั่นคร้าม!

“นี่…”

ทั้งที่นั้นสั่นสะท้าน และมีคนเพิ่งตระหนักได้ในตอนนี้ ว่าพลังที่เปี่ยมอานุภาพระดับราชันของลู่ตู๋ปู้นั้นไม่ใช่ของจริงอย่างเห็นได้ชัด

หาไม่แล้ว จะถูกตีกระจุยอย่างง่ายดายปานนี้ได้อย่างไร

“ฆ่า!”

แต่เมื่อลู่ตู๋ปู้ลงมือซัดละอองแสงเต็มฟ้าอีกครั้ง ทุกคนก็เหม่อลอยไปครู่หนึ่ง พลานุภาพระดับจักรพรรดิที่เปี่ยมล้นในการจู่โจมนั้นปะทะเข้ามา ทำเอาเขาต่างรู้สึกหวาดผวาและกดดัน

นี่จะเป็นของปลอมไปได้อย่างไร

จิตวิญญาณหลายคนแทบปั่นป่วน ลู่ตู๋ปู้ซึ่งขณะนี้เป็นดั่งระดับจักรพรรดิ ตกลงเป็นเรื่องจริงหรือเท็จกันแน่

เพียงแต่ต่อมาจิตใจและสายตาของพวกเขาก็ถูกดึงดูดไปเพราะการเคลื่อนไหวของหลินสวิน

ก็เห็นว่าเงาร่างของเขาดุจเปลวเพลิง จู่โจมดุจสายลม ทุกที่ที่ผ่าน การโจมตีทั้งหมดของลู่ตู๋ปู้จะถูกเผาผลาญกลายเป็นเถ้าธุลีปลิวว่อนทั้งสิ้น

พลังน่าครั่นคร้ามซึ่งเปี่ยมด้วยพลานุภาพของระดับจักรพรรดินั้น ต่อหน้าเขากลับดูอ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง!

เรื่องนี้น่าเหลือเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย

“ดูไปแล้ว แม้พลังเช่นนี้ของลู่ตู๋ปู้จะดูน่ากลัวคล้ายระดับจักรพรรดิ แต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นของจริง”

ถึงตอนนี้หลายคนต่างกระจ่างแจ้งแล้ว แต่ละคนสีหน้าตกตะลึง ต่อให้เป็นของปลอม แต่พอห้ำหั่นต่อสู้จริงๆ ใครจะแยกออกได้

ด้านลู่ตู๋ปู้ที่ครอบครองพลังมหัศจรรย์เช่นนี้ ถ้าสำแดงพลังนี้โดยไม่ทันตั้งตัว เกรงว่าระดับกึ่งจักรพรรดิยังหวาดผวา ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ!

“ทุกท่านสังเกตเห็นไหมว่าจินตู๋อีคนนี้ก็เปลี่ยนไปแล้ว ตัวเขาก่อนหน้านี้มั่นคบงดั่งภูผา ให้ความรู้สึกไม่อาจสั่นคลอนได้ แต่เขาในตอนนี้กลับร้อนแรงดั่งไฟ แผลงฤทธิ์กำเริบเสิบสาน พลังที่สำแดงออกมาเต็มไปด้วยอานุภาพเผาผลาญชวนครั่นคร้าม อย่างกับเปลี่ยนเป็นคนละคน”

มีคนหน้าเปลี่ยนสีพูดขึ้น

ความจริงไม่ต้องเอ่ยถึงทุกคนในที่นั้นก็เห็นภาพนี้แล้ว แต่ละคนต่างจิตใจหวั่นไหว ไม่อาจสงบลงได้

ตูม!

บนสนามประลอง สถานการณ์การต่อสู้ยิ่งดุเดือดขึ้น

ฝีมือของหลินสวินยิ่งรวดเร็วรุนแรง ตัวเขาเหมือนไฟเผาฟ้าผลาญดิน อหังการดุร้าย เคลื่อนบุกเหิมเกริมไปทั้งสนาม

กลับมาดูลู่ตู๋ปู้ แม้พลานุภาพจะชวนหวาดหวั่นจนน่าตกใจ แต่ในการต่อสู้กลับมีทีท่าพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง

‘ทำไมจู่ๆ เจ้าหมอนี่ถึงเปลี่ยนเป็นคนละคน’

สีหน้าลู่ตู๋ปู้เจือแววฉงน

หลายวันก่อนหน้านี้ เขาได้ศึกษาวิชาต่อสู้และรูปแบบการต่อสู้ของหลินสวินโดยเฉพาะ นึกว่ามองทะลุตื้นลึกหนาบางโดยส่วนใหญ่ของหลินสวินไปนานแล้ว

แต่จะคิดได้อย่างไรว่าในการประลองวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะพลังหรือวิธีการต่อสู้ของหลินสวินล้วนเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เหมือนกับเปลี่ยนเป็นคนละคนโดยสมบูรณ์

พอเป็นเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกรับมือไม่ทัน

ความจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นลู่ตู๋ปู้หรือคนอื่นในสนาม ก็ไม่รู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่หลินสวินใช้มาตลอดก่อนหน้านี้คือกายมรรคดินเหลือง

แต่ที่เขาใช้ในวันนี้กลับเป็นกายมรรคเพลิงแดง!

พลังพรสวรรค์ของกายมรรคทั้งสองกับรูปแบบการต่อสู้ที่สำแดงออกมาย่อมแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ครืน!

ฝนเพลิงแถบหนึ่งจู่โจมมา พอลู่ตู๋ปู้กำลังจะสลายการโจมตีนี้ หลินสวินก็เคลื่อนผ่านห้วงอากาศมาถึง ชูหมัดโจมตี

เพลิงเทพไหวเคลื่อนไปทั่วร่างเขา แสงเพลิงเป็นริ้วๆ ลอยล่องอยู่บนเส้นผม พร่างพราวโชติช่วง น่าหวาดหวั่นหาใดเทียบ

หลังจากเสียงกระแทกหนักทึบระลอกหนึ่ง ลู่ตู๋ปู้ร่างกายสั่นโคลง ถอยตึงๆๆ ออกไปหลายก้าว เสื้อผ้าตรงทรวงอกถูกเผา เหลือรอยไหม้สีดำ

ท่ามกลางเสียงร้องตกตะลึง การโจมตีของหลินสวินเหมือนพายุฝนบ้าคลั่ง เปลวเพลิงที่พลังหมัดปะทุออกมาบดบังฟ้าดิน กลบตัวลู่ตู๋ปู้จนมิด

ชั่วขณะเดียวลู่ตู๋ปู้ก็ตกเป็นรอง กลายเป็นฝ่ายรับโดยสมบูรณ์!

“เจ้าหมอนี่จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว…

ก้วนซวีสีหน้าเคร่งครัด

คนใหญ่คนโตอื่นๆ ก็เผยสีหน้าตกตะลึง

จินตู๋อีในวันนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง ทำให้พวกเขารู้สึกเหนือความคาดหมาย ไม่อาจจินตนาการได้ว่าอานุภาพการโจมตีของคนผู้หนึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร

“ชีวิตดั่งมายา มรรคข้าเป็นจริง!”

ทันใดนั้นลู่ตู๋ปู้ส่งเสียงคำรามยาว ใช้วิชาก้นกรุ

ก็เห็นว่าเงาร่างเขาแปลงเป็นละอองแสงมายาโดยพลัน ละอองแสงเหล่านั้นกลายเป็นสุริยันจันทราภูผาธารา เส้นสายต่างๆ เรื่องราวที่ผันแปรในโลกหล้า…

ลู่ตู๋ปู้ ก้าวย่างลำพังในใต้หล้า

จินตู๋อี หนึ่งเดียวไม่มีสอง!

การชิงชัยระหว่างทั้งสองคน สุดท้ายยังเป็นจินตู๋อีที่ได้ชัยชนะไป ผลลัพธ์เช่นนี้ทำให้ทุกคนตระหนักได้ว่า ชายหนุ่มที่เป็นม้ามืดตั้งแต่การคัดเลือกรอบแรกผู้นี้ เก็บงำได้ล้ำลึกกว่าที่พวกเขาคิดไว้มาก!

ขณะนี้เซี่ยอวี่ฮวาก็นึกถึงคำพูดนั้นของอวี๋ฮูหยินขึ้นมาอีก…

ประเมินจินตู๋อีไว้สูงเพียงไหน ก็ไม่เกินไป!

หนึ่งเค่อต่อมา

ลู่ตู๋ปู้ขึ้นสนามประลองอีกครั้ง เพียงแต่คู่ต่อสู้เปลี่ยนเป็นอู่หวงแล้ว

ศึกนี้ถ้าเขาแพ้อีก ก็จะกลายเป็นอันดับสาม อยู่หลังหลินสวินกับอู่หวง

“ลู่ตู๋ปู้ ไพ่ตายของเจ้าข้าได้เห็นแล้ว ศึกนี้เจ้าต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย”

อู่หวงเอ่ยเสียงเรียบ เขาแต่งกายชุดดำทั้งตัว ผมยาวปลิวไสว ประกายแสงประหลาดน่าหวาดหวั่นทออยู่ในดวงตาสีน้ำตาลเทา

“งั้นหรือ เช่นนั้นข้าจะตั้งตารอ”

ลู่ตู๋ปู้สีหน้าเรียบเฉยไม่หวั่นไหว

ตูม!

อู่หวงลงมืออย่างไม่ลังเล เงาร่างฉายวาบ ประหนึ่งเงามืดหมอกทะมึน พิสดารสุดหยั่ง โจมตีเข้าใส่ลู่ตู๋ปู้

กลางฝ่ามือเขาจักระสำริดชิ้นหนึ่งหมุนวนดังหึ่งๆ ทอแสงเทพที่คาวเลือดเข้มข้น กลิ่นอายที่แผ่ออกมาน่ากลัวจนทำให้ฟ้าดินยังเปลี่ยนสี

การโจมตีนี้ ถึงกับใช้สมบัติจักรพรรดิทันที!

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดจะสู้พัวพันกับลู่ตู๋ปู้ เพราะศึกต่อไปเขายังต้องประลองกับหลินสวิน ถ้ารีบสู้รีบจบได้ ก็จะประหยัดพลังกายไปมาก

“น่าขัน เจ้านึกว่าข้าไม่มีสมบัติจักรพรรดิหรือ”

ลู่ตู๋ปู้เยาะหยัน เสียงพูดยังไม่ทันเงียบลง เจดีย์สมบัติองค์หนึ่งทะยานขึ้นฟ้า เก่าแก่กร้านโลก แผ่กลิ่นอายบรรพกาลออกมา

เจดีย์หลอมมรรคว่างเปล่า!

พริบตาทุกคนที่อยู่ในที่นั้นต่างจำสมบัติชิ้นนี้ได้ เพราะการคัดเลือกรอบที่สองเกิดขึ้นในเจดีย์นี้

เพียงแต่ใครก็คิดไม่ถึงว่าสมบัตินี้จะถูกลู่ตู๋ปู้นำมาใช้ในตอนนี้!

ควรรู้ว่านี่เป็นถึงสมบัติพิทักษ์สำนักของสำนักยุทธ์ว่างเปล่า เล่าลือกันว่าเป็นวัตถุโบราณลึกลับที่มาจากแดนแห่งปริศนา!

“เจ้า…”

อู่หวงนัยน์ตาหดรัด เห็นได้ชัดว่าประหลาดใจอยู่บ้าง

ไม่ทันรอให้เขามีปฏิกิริยาตอบกลับ จักระสำริดกับเจดีย์หลอมมรรคว่างเปล่าก็หปะทะกันแล้ว สมบัติสองชิ้นที่ล้วนเรียกได้ว่าน่าสะพรึงกลัวต้านทานกัน เหมือนเทพสององค์กำลังห้ำหั่น ฝ่ายแรกทอแสงเทพคาวเลือดมากมาย แปลงเป็นประตูที่ดุจดั่งนรกสีเลือด กดข่มโลกา

ส่วนเจดีย์หลอมมรรคว่างเปล่าก็ปะทุละอองแสงประกายเทพเป็นสายๆ ขึ้นสู่ชั้นฟ้า กระจายออกไปสิบทิศ อานุภาพน่าครั่นคร้ามหาใดเทียบเช่นกัน

ชั่วขณะเดียวสนามประลองสั่นสะเทือนรุนแรง ปกคลุมไปด้วยสัญญาณทำลายล้างอันปั่นป่วน!

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์