เสียงที่เจือแววเดือดดาล หวาดสะพรึงของอู่หวงนั่น ก้องสะท้อนกลางฟ้าดิน
ในที่นั้นเงียบกริบทั้งแถบ
สายตาทั้งหมดล้วนเจือแววตื่นตกใจ มองไปในสนามประลองเป็นจุดเดียว
ที่ตรงนั้นอู่หวงนั่งหมดสภาพบนพื้น เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง บาดเจ็บอาบเลือดทั่วทั้งร่าง น่าอนาถถึงที่สุด
และเหนือศีรษะของเขา ปราณกระบี่โปร่งแสงแวววาวประหนึ่งเพลิงผลาญแถบหนึ่งเบียดเสียดแน่นขนัดอยู่ตรงนั้น เจือประกายแสงแข็งกร้าวที่ชวนหวั่นหวาด
ไม่ไกลออกไปเงาร่างหลินสวินไร้มลทิน ดุจดั่งเทพเซียน
สู้จนอู่หวงไร้เรี่ยวแรงต้านทาน เจ็บหนักปางตาย
ยิ่งบีบให้เขาไม่อาจไม่เป็นฝ่ายยอมจำนน!
ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์นี้ล้วนสะท้านสะเทือนไร้คำพูด
อู่หวง…
แพ้แล้ว!
แพ้อย่างเละไม่เป็นท่า เสียหน้ายับเยินต่อหน้าจินตู๋อีคนนั้น!
วู้ม…
หลินสวินโบกแขนเสื้อคราหนึ่ง ฝนกระบี่ทั่วฟ้าราวกับวิหคกลับรัง หายลับเข้าไปภายในร่างของเขา
“สู้กับผู้อื่นคราวหน้าก็พูดไร้สาระให้น้อยหน่อย หาไม่ยามถูกบีบกลับต้องเอ่ยปากร้องขอความเมตตา เช่นนั้นก็น่าขายหน้าเกินไปแล้ว”
หลินสวินยิ้มพลางทิ้งประโยคนี้ไว้ ก่อนเดินออกจากสนามประลองอย่างผ่าเผย
สีหน้าอู่หวงวูบไหวไม่นิ่ง กัดฟันจวนจะหัก การต่อสู้ครั้งนี้เขาแพ้อย่างน่าอนาถเกินไป ถูกทรมานสาหัสอย่างสิ้นเชิง
ไม่เพียงเสียอันดับหนึ่งที่หมายมั่นว่าต้องเอามาให้ได้ ยังทำให้ตนเสียหน้ายับเยินด้วยเหตุนี้ด้วยเช่นกัน
ต่อให้สุดท้ายจะยังเป็นอันดับสองของศึกถกมรรคแคว้นเมฆา แต่ยามเมื่อผู้คนเอ่ยถึงเขา มีหรือจะไม่รู้ว่าเขาเคยถูกจินตู๋อีซัดพ่ายไปหนหนึ่ง
‘จินตู๋อี… ช้าเร็วเจ้าต้องตาย!’
ภายในใจอู่หวงคำรามเดือด
……
ยามหลินสวินเดินลงจากสนามประลอง สายตาในที่นั้นทั้งหมดล้วนมองที่เขาเป็นจุดเดียว
มองเห็นชายหนุ่มที่เสื้อผ้าสะอาดสะอ้าน มาดไร้มลทิน ไร้อาการบาดเจ็บแต่อย่างใด สีหน้าของทุกคนล้วนเต็มไปด้วยแววสั่นสะท้านและยำเกรง
ตอนนี้ การแข่งขันรอบที่สามได้สิ้นสุดลงในวันนี้
หลินสวินชนะสองครั้ง!
อู่หวงชนะหนึ่งครั้ง!
ลู่ตู๋ปู้แพ้!
หลินสวินในเวลานี้ เป็นอันดันหนึ่งของศึกถกมรรคแคว้นเมฆาเรียบร้อยแล้วโดยไม่ต้องสงสัย!
“ชนะแล้ว…”
“ฮ่าๆ ชนะแล้วๆ!”
ในที่นั้นเกิดเสียงฮือฮาประหนึ่งฟ้าร้องก็ไม่ปาน
บนดวงหน้าเลอโฉมเย็นเยียบดุจหิมะของจินเทียนเสวียนเยวี่ยผุดรอยยิ้มสดใสชวนเคลิบเคลิ้ม สีระเรื่อเจือสองแก้ม ภายในใจก็ตื่นเต้นหาใดเปรียบ
แคว้นเมฆาเป็นหนึ่งในสี่สิบเก้าแคว้นของโลกใหญ่หงเหมิง อาณาเขตกว้างขวางยิ่งกว่าโลกใหญ่แห่งหนึ่ง สามารถบุกฝ่าการคัดเลือกด่านแล้วด่านเล่าออกมา และคว้าตำแหน่งอันดับหนึ่งในการคัดเลือกถกมรรคได้ นี่ก็ไม่ง่ายอย่างที่สุดแล้ว
และตอนนี้หลินสวินทำได้แล้ว
“เผิงใหญ่ทะยานนภาสูงเก้าหมื่นลี้ แปดพันปีกระบี่ครวญยืนยาว! การต่อสู้นี้ ชนะอย่างสวยงาม!”
เหิงเซียวปรบมือหัวเราะลั่น สะใจหาใดเปรียบ
ในใจเขายิ่งสะอื้น สมกับเป็นอาจารย์อาเล็กของท่านบรรพจารย์สำนักตน แข็งแกร่งยิ่งยวด
‘เจ้าหนุ่มนี่เป็นพวกชั้นเลิศที่หาตัวจับยากแห่งยุคจริงๆ เป็นม้ามืดที่สามารถสะเทือนโลก การต่อสู้ในวันนี้ทำให้ข้าได้เปิดโลกเช่น’
ก้วนซวีทอดถอนใจ
คนใหญ่คนโตในที่นี้ต่างก็ใจเต้นกระหน่ำ
ก่อนหน้านี้ไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึง ว่าท้ายที่สุดแล้วอันดับหนึ่งจะถูกม้ามืดอย่างจินตู๋อีคว้าไปครอง
โดยเฉพาะการต่อสู้ของเขากับอู่หวงครั้งนี้ ทำให้คนรุ่นอาวุโสอย่างพวกเขายิ่งตกใจทบทวี ในใจพบเจอแรงจู่โจมที่ไม่เคยมีมาก่อน
“มองเห็นจุดสูงสุด ไม่อาจไม่ศิโรราบ…” ลู่ตู๋ปู้พึมพำ
‘เหตุใดข้ารู้สึกว่าต่อให้เป็นการต่อสู้กับอู่หวงในครั้งนี้ ก็ไม่อาจบีบรากฐานพลังทั้งหมดของจินตู๋อีนี่ออกมาได้’
เนตรดาราของเซี่ยอวี่ฮวาดุจมายา สีหน้าเจือแววอึ้งค้าง
จินตู๋อีในเวลานี้เป็นเป้าสายตาของทุกคนอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าในสายตาของเซี่ยอวี่ฮวา กลับยิ่งมองไม่ออกขึ้นเรื่อยๆ
ตัวเขาดั่งหุบเหว ลึกล้ำสุดหยั่ง!
ผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ อย่างพวกหวังถู ซูมู่หาน เหลิ่งซิวเจีย กุยซานสิง แต่ละคนต่างก็สีหน้าซับซ้อน
จินตู๋อี!
นี่เป็นเหตุพิเศษที่เกิดขึ้นในศึกถกมรรคแคว้นเมฆาครั้งนี้อย่างแน่นอน ผู้ชนะคนสุดท้ายที่ทำให้ใครก็ตามต่างคิดไม่ถึง!
ในที่นั้นชุลมุน ฮือฮาโกลาหล
อู่หวงที่บาดเจ็บสาหัสกลับไร้คนสนใจ
นักพรตหลันจากเกาะเทพเวหาทมิฬกลับสีหน้าเขียวคล้ำ อัดอั้นที่อก
เพียงแต่ไม่มีใครสนใจเช่นกัน
และในวันนี้เอง
ศึกถกมรรคแคว้นเมฆาปิดม่าน และข่าวสารเกี่ยวกับการคัดเลือกถกมรรคก็เริ่มแพร่กระจายเหมือนมรสุมพัดโกรก พุ่งไปยังสี่ทิศแปดทาง เรียกความฮือฮาไม่รู้เท่าไหร่
“อะไรนะ จินตู๋อีเป็นอันดันหนึ่งหรือ”
“ลู่ตู๋ปู้ อู่หวงถึงกับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาหรือ”
“จินตู๋อีนี่… ก็ช่างทำให้ผู้คนแปลกใจซะเหลือเกิน”
ไม่ว่าผู้แข็งแกร่งคนใดที่ได้รู้อันดับสุดท้ายของศึกถกมรรคแคว้นเมฆา ต่างก็รู้สึกประหลาดใจและงงงัน ไม่อยากจะเชื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์