Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1922

ตอนที่ 1922 ยอมเสียศาสตราจักรพรรดิ ก็ไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี
ห้วงอากาศปั่นป่วน กลิ่นอายทำลายล้างที่หลงเหลือสะท้อนไปมา

เพียงแต่ในที่นั้นกลับเงียบสงัด

สามกระบวนท่าของจวนอวี๋เหิง อานุภาพของกระบวนท่าที่หนึ่งทำให้เหิงเซียวคิดว่า จวนอวี๋เหิงมีรากฐานพลังที่ไม่ด้อยไปกว่าพวกลู่ตู๋ปู้ อู่หวง

อานุภาพของกระบวนท่าที่สองทำให้เหิงเซียวตะลึง คิดว่าในการควบคุมพลังแห่งสรรพชีวิต ในหมู่คนระดับเดียวกันของแคว้นเมฆา ไม่มีใครสู้จวนอวี๋เหิงได้

สำหรับอานุภาพของกระบวนท่าที่สาม ทำให้เหิงเซียวตกใจ เพราะการโจมตีนี้มีพลังที่สามารถคุกคามระดับกึ่งจักรพรรดิได้โดยสมบูรณ์!

คมมรรคเก้าชุ่น ใช้มรรควิถีทั้งชีวิตเป็นประกายคม สำแดงพลังขั้นสุด กระบวนท่านี้ถึงขั้นสามารถทำให้สรรพชีวิตบนโลกสั่นไหว

แต่สุดท้ายก็ยังคงถูกสลาย!

ชั่วขณะนี้เหิงเซียวเองยังรู้สึกสับสน สายตาพร่ามัว คนรุ่นเยาว์สมัยนี้ แต่ละคนพลิกฟ้ากว่าอีกคนจริงๆ!

ก่อนหน้านี้เหิงเซียวเคยเห็นภาพน่าตะลึง ที่หลินสวินใช้พลังของตนสังหารกึ่งจักรพรรดิตระกูลเฮ่อเหลียนหกคนมาแล้ว

ตอนนั้นก็สะท้านจนจิตใจแทบเสียการควบคุม

และตอนนี้กลับมีจวนอวี๋เหิงเพิ่มมาอีกคน!

เพียงแต่เมื่อเทียบกันแล้ว ความกระทบกระเทือนที่เกิดขึ้นจากจวนอวี๋เหิง ไม่รุนแรงเท่าตอนที่เห็นหลินสวินสังหารกึ่งจักรพรรดิหกคน

พวกจื่อเชวี่ยไม่เคยเห็นฝีมือก่อนหน้านี้ของหลินสวิน ยามนี้จึงตกใจจนหน้าถอดสี ปากอ้าตาค้าง

อาจเพราะไม่สามารถจินตนาการได้ว่า บนโลกนี้มีคนที่สามารถต้านการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของจวนอวี๋เหิงได้อย่างไร

“คิดไม่ถึง คิดไม่ถึงเลย…”

ครู่หนึ่งจวนอวี๋เหิงจึงได้สติจากความตะลึง สีหน้าอึมครึมไม่สามารถสงบได้ เขาจ้องหลินสวินที่อยู่ห่างออกไป ในสายตาแฝงความสงสัยและประหลาดใจ

หลินสวินยังคงสีหน้าราบเรียบตามเดิม ปัดเสื้อที่ถูกลมพัดขึ้นเอ่ยว่า “เจ้าทำได้ไม่เลวยิ่ง อย่างน้อยในกระบวนท่าที่สามก็ทำให้ข้ารู้สึกถึงการคุกคามอยู่บ้าง”

คำพูดง่ายๆ ประโยคเดียว ทำเอาจิตใจของจวนอวี๋เหิงปั่นป่วนอีกระลอก

เพียงแค่…

คุกคามอยู่บ้าง?

“ตอนนี้ตาข้าแล้ว”

พอหลินสวินพูดแบบนี้ สุดท้ายจวนอวี๋เหิงทนความไม่จำยอมในใจไม่ไหว เอ่ยว่า “เจ้าสามารถต้านสามกระบวนท่าของข้าได้ หรือคิดว่าข้าจะต้านสามกระบวนท่าของเจ้าไม่ไหว”

“เช่นนั้นก็ลองดู”

หลินสวินก้าวไปข้างหน้า อาภรณ์พลิ้วไหว เมื่อตวัดฝ่ามือ ประทับใหญ่สีเหลืองพลันปรากฏ

ประทับแห่งสรรพชีวิต!

เป็นอภินิหารพรสวรรค์ที่ใช้แรงปรารถนาสรรพชีวิตเช่นเดียวกัน ตอนที่ถูกหลินสวินสำแดงออกมา ประทับนี้กลับคล้ายหนีบโลกใบหนึ่งกดกำราบลงมาด้วย

จวนอวี๋เหิงแค่นเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นเยียบ กระโดดไปข้างหน้า สะบัดหมัดเข้าปะทะดุจดั่งเทพสวรรค์มาเยือนโลก

ตูม!

ฟ้าถล่มดินทลาย ภูผาธาราอับแสง

ภายใต้เสียงกระแทก แสงมรรคปั่นป่วน ประทับแห่งสรรพชีวิตแตกสลาย ร่างของจวนอวี๋เหิงส่ายไหวคราหนึ่งแล้วหัวเราะเสียงดังออกมา “ฝีมือเจ้าก็ไม่เท่าไหร่!”

หลินสวินขานรับว่าอ้อ ก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง ยังคงใช้ประทับแห่งสรรพชีวิต

ทว่าภายใต้การโจมตีนี้ อานุภาพกลับแตกต่างโดยสิ้นเชิง ราวกับในโลกหุบเหวใหญ่แห่งหนึ่งมีสรรพชีวิตกำลังท่องสวดอย่างศรัทธา หมายจะกลืนกินความว่างเปล่า หลอมละลายหมื่นลักษณ์!

ร่างของจวนอวี๋เหิงแข็งทื่อ พลันส่งเสียงคำรามยาว ร่างกายราวกับสุริยันม่วงกลางฟ้า สำแดงเขตแดนมรรคแห่งตน

วู้ม…

อาณาจักรแห่งศรัทธาแห่งหนึ่งควบรวมออกมา เงาร่างนับไม่ถ้วนกราบไหว้กลางฟ้าดิน อธิษฐานอย่างจริงใจ เพลิงแห่งศรัทธารวมตัว ลุกโชนร้อนแรง

ตอนที่ประทับแห่งสรรพชีวิตของหลินสวินจู่โจมมา อาณาจักรแห่งศรัทธานี้พลันสั่นไหวรุนแรง ภายในปรากฏภาพทำลายล้างฟ้าที่ฟ้าดินพลิกตลบ สรรพสิ่งจ่อมจม สรรพชีวิตกรีดร้องน่าอนาถ

และไม่นานก็สลายหายไป

จวนอวี๋เหิงกระอักเลือดโดยพลัน สีหน้าขาวซีด นี่ทำให้ในใจหญิงสาวอย่างพวกจื่อเชวี่ยเป็นห่วง แต่ละคนเผยสีหน้าร้อนรนกังวล

นายน้อยเขา… เห็นได้ชัดว่าบาดเจ็บแล้ว!

“นี่เป็นกระบวนท่าที่สองแล้ว ก็ยังคงถูกข้าต้านไว้ได้ไม่ใช่หรือ”

กลับเห็นจวนอวี๋เหิงหัวเราะเสียงดัง ท่าทางโอ้อวด แม้บาดเจ็บหนักแต่กลับยังดูเย่อหยิ่งและมั่นใจ

“ไร้เดียวสา”

หลินสวินยิ้มบางๆ ไม่ดีใจหรือเสียใจ แล้วก้าวไปข้างหน้าอีก

ตูม!

ประทับแห่งสรรพชีวิตควบรวมอีกครั้ง

แตกต่างจากก่อนหน้านี้ ตอนที่ประทับใหญ่นี้ทะยานฟ้า ท้องฟ้าล้วนพลิกตลบรุนแรง คล้ายมีสัญญาณจะพังทลาย ห้วงอากาศบริเวณนั้นยิ่งแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ราวกับกระจกแก้ว

ประทับใหญ่ไพศาลดุจรวบรวมเจตจำนงแห่งเวิ้งฟ้า เสียงมรรคดังก้อง มีอานุภาพสะท้านหมื่นกาล

พวกจื่อเชวี่ยมองมาจากไกลๆ ยังรู้สึกตื่นตระหนก เหมือนวิญญาณจะหลุดลอยจากร่าง ตกใจจนสั่นเทิ้มไปทั้งตัว

แม้เป็นเหิงเซียวก็ยังตัวสั่น ราวกับตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง!

เขานึกถึงภาพตอนที่หลินสวินสังหารกึ่งจักรพรรดิหกคนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ตอนนั้นก็แข็งแกร่งและเย้ยฟ้าเช่นนี้!

จวนอวี๋เหิงสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

การโจมตีนี้ไม่เพียงทำให้เขารู้สึกถึงอันตราย ถึงขั้นได้กลิ่นอายของความตาย ภายใต้การกระตุ้นตามสัญชาตญาณ เขาขนลุกไปทั้งตัว แม้แต่สภาวะจิตยังรู้สึกถูกสะเทือน

เขาแทบจะสู้ด้วยพลังทั้งหมดอย่างไม่ลังเล สำแดงคมมรรคเก้าชุ่นอีกครั้ง

คมกระบี่สายหนึ่งเจิดจ้าดุจสุริยัน แทงทะลวงห้วงอากาศ

ครึ่ก!

ทว่าเพียงพริบตาคมกระบี่ประหนึ่งชนกับภูเขาเทพที่ไม่สามารถสั่นคลอนได้ ประกายคมถูกทำลาย แตกหักจากภายในโดยตรง ส่งเสียงระเบิดออกมา

จวนอวี๋เหิงสั่นไปทั้งตัว กระอักเลือดอีกครั้ง สีหน้าเขาหวาดหวั่น เงามืดของประทับแห่งสรรพชีวิตทอดลงมาจะกลบเขาไปทั้งตัวแล้ว

เขาในชั่วขณะนี้เกิดความรู้สึกว่าหนีไม่รอด ไม่อาจหนีพ้น!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์