เหิงเซียวผ่อนคลายไปทั้งกาย
จากความห้าวหาญและความหยิ่งในศักดิ์ศรีที่จวนอวี๋เหิงแสดงออกมา ผ่านการพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ครั้งนี้ เขาไม่มีทางคิดแค้นผูกพยาบาทสำนักยุทธ์เสวียนจีแน่
หลังคุยกับหลินสวินอยู่ครู่หนึ่งเหิงเซียวเองก็บอกลาจากไป ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้ถามเลยว่าในกล่องสำริดที่จวนอวี๋เหิงทิ้งเอาไว้ ปิดผนึกศาสตราจักรพรรดิอะไรไว้
หลินสวินย้อนกลับถ้ำสถิตแล้วเปิดกล่องสำริดออกทันที
สิ่งที่สะท้อนอยู่ในสายตาคือแสงศักดิ์สิทธิ์สีเงินที่อ่อนโยนราวกับน้ำ สว่างไสวพร่างพราว กลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์น่ากลัว
จานหยกใบหนึ่งวางอยู่ในกล่องสำริดนิ่งๆ โปร่งแสงแวววาวราวหิมะ ให้ความรู้สึกสัมบูรณ์ที่สมบูรณ์แบบไร้บกพร่อง
เมื่อมองอย่างละเอียด ในจานหยกมีสัญลักษณ์ลายมรรคแปลกประหลาดสองสาย ราวกับปลาคู่หนึ่ง แบ่งแยกลักษณ์ผสานหยินหยาง สองลักษณ์โคจรซึ่งกันและกัน
ท่ามกลางความเลื่อนลอย หลินสวินเพียงรู้สึกใจสั่น ราวกับอยู่ในโลกที่แปลกประหลาดแห่งหนึ่ง
ในโลกนี้ขุ่นมัวไร้นาม ปรากฏร่องรอยมหามรรคที่ไพศาลวุ่นวายมากมาย ราวกับไส้เดือนนับไม่ถ้วนกำลังบิดตัว หนาแน่นไร้ขอบเขต
ร่องรอยมหามรรคแต่ละสายล้วนสั่งสมท่วงทำนองมรรคอันลึกลับ อธิบายแก่นแท้มหามรรค เพียงแต่ดูกระจัดกระจายและโกลาหลเกินไป ทำให้คนปวดหัว ทรมานจนแทบจะกระอักเลือด
ด้วยมรรควิถีในตอนนี้ของหลินสวิน รวมถึงระดับการหยั่งรู้ต่อมหามรรค ตอนที่เห็นภาพนี้ยังจิตใจปั่นป่วนสับสน
ถึงขั้นที่มองนานไป สภาวะจิตล้วนมีสัญญาณกระสับกระส่ายยากสงบ สั่นสะท้านประหนึ่งจะพังทลาย
เป็นเพราะรอยมหามรรคนับไม่ถ้วนนั้นวุ่นวายสับสนเกินไป
และตอนนี้เองจานหยกใบหนึ่งผุดออกมา แวววาวเป็นประกาย ปรากฏสัญญาณแห่งความสัมบูรณ์
พอมันหมุนไปรอบๆ สัญลักษณ์ประหลาดที่ราวกับปลาสองตัวก็พริบวาบ รวมร่องรอยมหามรรคที่กระจัดกระจายนับไม่ถ้วนเข้าด้วยกัน ผสานเข้าไปในจานหยก…
จากนั้นภาพอันน่าตะลึงปรากฏขึ้น ร่องรอยมหามรรคที่กระจัดกระจายอยู่ถูกจัดเรียง แบ่งแยก จากนั้นถูกอนุมานไม่หยุด สำแดงเป็นความอัศจรรย์อันเป็นแก่นแท้ถึงที่สุดพร้อมๆ กับการหมุนวนของจานหยก!
ตูม!
ถึงตอนนี้หลินสวินหัวใจสะท้าน แต่ละภาพหายไปจากสมอง แต่หลินสวินกลับรู้ที่มาของศาสตราจักรพรรดิที่อยู่ตรงหน้าแล้ว
จานมหามรรคไร้ตัวตน!
มหามรรคไร้รูป ลักษณ์เกิดจากใจ
ไร้ข้าไร้ลักษณ์ ไร้ข้าไร้ตัวตน!
พูดง่ายๆ ก็คือ แท้จริงแล้วมหามรรคไร้ลักษณ์ไร้นาม สิ่งที่ผู้ฝึกปราณหยั่งถึง ล้วนเป็นร่องรอยมหามรรคที่สภาวะจิตของตนมองเห็น
และร่องรอยมหามรรคที่ผู้ฝึกปราณแต่ละคนมองเห็น ถูกกำหนดให้แตกต่างกัน
หากสามารถทำให้สภาวะจิตสำแดงสภาวะว่างเปล่าไร้ตัวตนที่ไร้ข้าไร้ลักษณ์ ก็จะสามารถหยั่งถึงแก่นอัศจรรย์ที่จริงแท้ที่สุดของมหามรรค!
และจานมหามรรคไร้ตัวตน ก็คือสมบัติจักรพรรดิที่ช่วยผู้ฝึกปราณหยั่งรู้และอนุมานมหามรรค!
เข้าใจจุดนี้หลินสวินอดสูดหายใจสะท้านไม่ได้ ตระหนักได้ว่าแม้จานมหามรรคไร้ตัวตนจะไม่ใช่อาวุธต่อสู้ แต่ความมหัศจรรย์ของสมบัติชิ้นนี้กลับเรียกได้ว่าไร้เทียมทาน!
อนุมานร่องรอยแห่งมหามรรค หยั่งรู้แก่นแท้แห่งมหามรรค เท่ากับช่วยผู้ฝึกปราณในการหยั่งรู้และทำความเข้าใจนัยเร้นลับแห่งมหามรรคทั่วหล้า
‘มีสมบัตินี้ ยังต้องห่วงว่าเขตแดนมรรคของข้าจะไม่บรรลุถึงขั้นสมบูรณ์อีกหรือ’
ทันใดนั้นหลินสวินพลันตระหนักได้ถึงคุณค่าของจานมหามรรคไร้ตัวตน ในใจก็ถอนหายใจตกตะลึงไม่หยุด
หากไม่เห็นกับตา เขาคิดไม่ถึงเลยว่าบนโลกนี้จะถึงกับมีสมบัติจักรพรรดิที่แปลกประหลาดและมหัศจรรย์เช่นนี้อยู่
และเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของตน จวนอวี๋เหิงที่ยอมมอบสมบัติจักรพรรดิชิ้นนี้ให้ก็ทำให้หลินสวินยิ่งไม่กล้าดูถูก
รู้แพ้รู้ชนะเป็นเรื่องหนึ่ง แต่สามารถส่งศาสตราจักรพรรดิที่เยี่ยมยอดและมหัศจรรย์เช่นนี้ออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว แม้เป็นบุคคลระดับจักรพรรดิยังยากจะทำได้!
จนถึงตอนนี้หลินสวินมีศาสตราจักรพรรดิ คือ ขวดไร้ขอบเขต โคมไร้มลทิน ประทับไร้ชีพ ธงไร้ระเบียบ และจานไร้ตัวตน ทั้งหมดห้าชิ้นแล้ว!
พูดอีกอย่าง เก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุน หลินสวินครอบครองไว้แล้วห้าชิ้น!
หลังสังเกตและพินิจจานมหามรรคไร้ตัวตนครู่ใหญ่ หลินสวินถึงค่อยเก็บสมบัติชิ้นนี้ แล้วเปิดหีบสำริดใหญ่นั่นอีกครั้ง
ในหีบนี้นอกจากสมบัติทั้งสองอย่างประทับไร้ชีพและธงไร้ระเบียบ ยังมีก้อนดินเทาขุ่นก้อนหนึ่งและไม้เทพที่เน่าเปื่อยอีกท่อน
หลินสวินมองอยู่นานก็ไม่เห็นอะไรพิเศษ อีกทั้งแม้ใช้จิตรับรู้สัมผัสก็ไม่สามารถรับรู้ถึงกลิ่นอายของสมบัติสองชิ้นนี้
เขาหัวใจกระตุกวูบ นึกถึงเจ้าเฒ่าตนหนึ่งขึ้นมา
ฮูม…
เมื่อหลินสวินสะบัดแขนเสื้อ ต้นบรรพชนหลอมจิตพลันปรากฏกลางอากาศ
ต้นบรรพชนหลอมจิตต้นนี้เคยท่องฟ้าดารากับมหาจักรพรรดิแยกฟ้า มีประสบการณ์และความรู้กว้างขวาง อีกทั้งร่างเดิมของมันก็เป็นไม้เทพชนิดหนึ่ง ทันทีที่มันปรากฏตัวก็ตะโกนอย่างตื่นเต้น “โอ๊ยๆ! นี่… นี่ นี่คือดินปราณแรกกำเนิดหรือ”
เสียงเต็มไปด้วยความยากจะเชื่อ
ดินปราณแรกกำเนิด!
หลินสวินหัวใจสะท้าน
ตอนนั้นอู้เชวียวิญญาณอาวุธของธนูวิญญาณไร้แก่นสารเคยพูดถึงเรื่องหนึ่ง
สี่ไม้เทพบรรพกาลอย่างฝูซาง ชางอู๋ เจี้ยนมู่ คุนอู๋ ล้วนถือกำเนิดในแดนบ่อเกิดแรกกำเนิด มีลายมรรคของบ่อเกิดแรกกำเนิดตามธรรมชาติ
ในตำนานกล่าวว่า เพียงแค่รวบรวม ‘รากปฐมจิตวิญญาณ’ ของไม้เทพทั้งสี่ครบ ใช้เจตวัตถุฟ้าประทานทั้งสี่อย่างดินปราณแรกกำเนิด ดินมหัศจรรย์ห้าสี ทรายวิญญาณดาราขุ่นใส วารีแรกปฐมหล่อเลี้ยง ก็จะสามารถให้กำเนิดต้นกล้าของต้นบ่อเกิดแรกกำเนิดได้
พอถึงเวลานั้น ขอเพียงแค่เลี้ยงต้นกล้านี้ไว้ในกาย ก็จะมีส่วนช่วยอย่างเหลือเชื่อต่อการฝึกปราณมรรคจักรพรรดิ!
อิงตามที่อู้เชวียพูด ในการต่อสู้ระดับจักรพรรดิ ใครสามารถครอบครองต้นบ่อเกิดแรกกำเนิด ก็เท่ากับมี ‘กฎเกณฑ์แรกกำเนิด’ ควบคุมรากฐานแห่งพลังมรรคแรกกำเนิด ระดับจักรพรรดิคนอื่นๆ ใช่ว่าจะเทียบได้
ในหลายปีมานี้ หลินสวินเก็บ ‘รากปฐมจิตวิญญาณ’ ของต้นเทพฝูซางได้จากหุบเขาตะวันคล้อย อาณาเขตของเผ่าอีกาทอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์