ตอนที่ 1924 เมืองจักรพรรดิเพลิง – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1924 เมืองจักรพรรดิเพลิง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
และเผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียงก็ครองอาณาเขตอยู่บนแม่น้ำเจียง
แม่น้ำที่กว้างใหญ่ไพศาลไร้สิ้นสุดพลิกม้วนครืนครัน บนฝั่งแม่น้ำเจียง ป๋อหยาจื่อและหลินสวินโฉบพุ่งไปยังต้นแม่น้ำ
“เผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียงคือลูกหลานของจักรพรรดิเพลิงดึกดำบรรพ์ แม้ตระกูลนี้พลังดั้งเดิมเสียหายหนักในศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิ แต่รากฐานยังคงไม่สามารถดูถูกได้”
ระหว่างทางป๋อหยาจื่อเล่าสภาพการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียงให้หลินสวินฟัง
“เจียงซิงหลิ่นผู้นำตระกูลเจียงในตอนนี้ เป็นคนที่อีกก้าวเดียวก็เข้าสู่ระดับจักรพรรดิ เรียกได้ว่าเป็นระดับครึ่งก้าวจักรพรรดิ แข็งแกร่งยิ่งกว่าระดับกึ่งจักรพรรดิ”
“นอกจากเจียงซิงหลิ่นคนนี้ ตระกูลนี้ยังมีระดับกึ่งจักรพรรดิอีกมากมาย รวมถึงมีคนในตระกูลอีกหลายแสนคน”
“แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้ล้วนไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือ เจียงซิงเชวี่ยที่สหายน้อยต้องการพบ ก็คือพี่สาวแท้ๆ ของเจียงซิงหลิ่นผู้นำตระกูลเจียง”
หลินสวินเลิกคิ้ว “ถ้าอย่างนั้น หากอยากเจอผู้อาวุโสเจียงซิงเชวี่ยก็เลี่ยงเจียงซิงหลิ่นคนนี้ไม่พ้นสินะ”
ป๋อหยาจื่อยิ้มกล่าวว่า “สหายน้อย แม้เจียงซิงหลิ่นสูงส่งระดับเป็นผู้นำตระกูล แต่ยังไม่นับว่ารับมือยากที่สุด คนที่รับมือยากที่สุดคือเหล่าเฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับจักรพรรดิที่ควบคุมดูแลตระกูล”
ระดับจักรพรรดิหลายคน!
หลินสวินฟังแล้วหัวใจสะท้าน ภายในหนึ่งตระกูล มีระดับจักรพรรดิหลายคนควบคุมดูแล นี่ก็คือรากฐานของเผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์หรือ
เมื่อเทียบกันแล้ว เผ่าจักรพรรดิตระกูลอวี่ที่อวี่ชิงหยางอยู่ ยังด้อยกว่าช่วงหนึ่ง
ถึงอย่างไรฝั่งหนึ่งคือเผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์ อีกฝั่งคือเผ่าจักรพรรดิบรรพกาล ก็ย่อมไม่เหมือนกัน
“ยังดีที่ช่วงก่อนหน้านี้ข้าให้สหายคนหนึ่งออกหน้า ช่วยสานสัมพันธ์กับผู้อาวุโสระดับจักรพรรดินามว่าเจียงรุ่ยของเผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียง ไปเยือนเผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียงครั้งนี้ แค่ต้องการเจอเจียงซิงเชวี่ยนั่นสักครั้งคงไม่ยาก”
ป๋อหยาจื่อยิ้มพูด
ควรรู้ว่าป๋อหยาจื่อเองก็เป็นระดับจักรพรรดิคนหนึ่ง ทว่าตอนที่เผชิญหน้ากับเผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียง ยังจำต้องให้ผู้อื่นออกหน้าสานสัมพันธ์!
เหตุผลเพราะฐานะของเจียงซิงเชวี่ยอ่อนไหวเกินไปสำหรับเผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียง
หลังจากศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิในตอนนั้นสิ้นสุด เพื่อกำจัดอิทธิพลของคีรีดวงกมลให้สิ้นซาก สามเรือนมรรคใหญ่อย่างยุทธจักร จักรวาล ดึกดำบรรพ์ ร่วมมือกับขุมอำนาจใหญ่อื่นๆ ตามล่าและไล่ฆ่าขุมอำนาจที่เกี่ยวข้องกับคีรีดวงกมล
เพราะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเสวียนคงผู้สืบทอดคีรีดวงกมล เจียงซิงเชวี่ยเองก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ถูกมองว่าเป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องกับคีรีดวงกมล
เผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียงถูกบีบจนหมดหนทาง ทำได้เพียงคุมขังเจียงซิงเชวี่ยไว้ในฐานะนักโทษของตระกูล เพราะหากไม่ทำเช่นนี้ เผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียงจะต้องได้รับความเสียหายอย่างไม่อาจจินตนาการอย่างแน่นอน
ทว่าแม้เจียงซิงเชวี่ยจะถูกขังในฐานะนักโทษ แต่ถึงอย่างไรก็นับว่ารักษาชีวิตไว้ได้
เพียงแต่เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องในอดีตสมัยบรรพกาล ในเผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียงตอนนี้ มีเฒ่าดึกดำบรรพ์ไม่กี่คนที่รู้ความลับเหล่านี้
แต่พวกเขาไม่มีทางเล่าเรื่องพวกนี้ออกมา เพื่อเลี่ยงไม่ให้ข่าวรั่วไหลออกไปจนเกิดปัญหาขึ้นมาอีก
ทว่าเช่นนี้ก็ทำให้เผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียงในตอนนี้รู้เพียงว่า เจียงซิงเชวี่ยเป็นนักโทษชั่วนิรันดร์ของตระกูล แต่กลับไม่รู้เหตุผล ทำให้ต่างมองเจียงซิงเชวี่ยเป็นความอับอาย ไม่ยอมพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับนาง
ดังนั้นบุคคลระดับจักรพรรดิอย่างป๋อหยาจื่อเองก็ต้องพยายามสุดกำลัง กว่าจะคว้าโอกาสพบหน้าเจียงซิงเชวี่ยให้กับหลินสวินได้สักครั้ง
หากหลินสวินมาเอง จะต้องถูกปฏิเสธแน่
“ครั้งนี้ต้องขอบคุณสหายยุทธ์มาก” หลินสวินพูด
ป๋อหยาจื่อรีบโบกมือพูด “อาจารย์อาเล็ก ท่านอย่าได้เกรงใจข้าเชียว”
ตอนที่ทั้งสองคุยกัน สามารถมองเห็นภูเขาสูงใหญ่สีแดงชาดราวกับเปลวเพลิงที่ลุกโชนลูกหนึ่งแต่ไกล พาดขวางอยู่ตรงขอบฟ้าห่างออกไป
รูปร่างของมันคล้ายมังกรเพลิงขดตัวอยู่ คดเคี้ยวไร้สิ้นสุด ยิ่งใหญ่งดงาม
“นั่นคือภูเขาเทพหมอกโอสถ ตั้งอยู่บนแม่น้ำเจียง เล่าลือกันว่าจักรพรรดิเพลิงดึกดำบรรพ์แจ้งมรรคบรรลุจักรพรรดิบนภูเขาแห่งนี้ และภูเขาเทพหมอกโอสถก็ได้กลายเป็นแผ่นดินบรรพชนของเผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียงตั้งแต่ตอนนั้น อาศัยอยู่ที่นี่รุ่นสู่รุ่น”
ป๋อหยาจื่อเอ่ยทอดถอนใจ
จักรพรรดิเพลิงดึกดำบรรพ์!
นั่นเป็นถึงบุคคลระดับตำนานที่อภินิหารยิ่งใหญ่ เรียกได้ว่าไร้เทียมทาน และเป็น ‘ห้าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์’ เหมือนกับจักรพรรดิขาวดึกดำบรรพ์
และภูเขาเทพหมอกโอสถก็คือสถานที่ที่เขาแจ้งมรรค เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์แดนมงคลชั้นยอดของโลกใหญ่หงเหมิง
“ภูเขานี้เมฆระเหยหมอกพราง พลังวิญญาณอบอวล อานุภาพดุจมังกร เป็นแดนสมบัติที่หายากจริงๆ”
หลินสวินพยักหน้า
ครู่หนึ่งหลังจากนั้น
หน้าประตูเขาแห่งหนึ่งในภูเขาเทพหมอกโอสถ
“ผู้มาเป็นใคร”
ผู้แข็งแกร่งที่เฝ้าประตูเขาคนหนึ่งตะโกน
ป๋อหยาจื่อไม่ได้พูดอะไร สะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง ป้ายหยกแดงเพลิงป้ายหนึ่งพลันโฉบออกมา ส่งไปกลางอากาศ
ผู้แข็งแกร่งตระกูลเจียงนั่นเห็นเช่นนี้ก็เผยสีหน้าเคารพ เอ่ยว่า “ผู้อาวุโสรอสักครู่”
เขาหมุนตัวเดินเข้าประตูเขาไปรายงานอย่างรวดเร็ว
“ได้”
ไม่นานเสียงที่เสียงหัวเราะเบิกบานดังขึ้นภายในประตูเขา ชายวัยกลางคนดิบเถื่อนที่ผมเคราดุจเปลวเพลิง สวมชุดคลุมเพลิง เคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศออกไป กลิ่นอายที่ไหลเวียนอยู่ทั่วตัวกลายเป็นโซ่เทพกฎเกณฑ์ที่งดงามเป็นเส้นๆ ปกฟ้าคลุมดิน น่ากลัวยิ่งยวด!
ลมหายใจหลินสวินถึงกับสะดุด
มองจากไกลๆ ชายวัยกลางคนดิบเถื่อนผู้นี้ราวกับภูเขาไฟลูกหนึ่ง มีอานุภาพผลาญฟ้าทำลายดิน
‘อาจารย์อาเล็ก คนผู้นั้นคือเจียงรุ่ย สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิหนึ่งชั้นฟ้าคนหนึ่ง แต่เขาไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของข้า’
ป๋อหยาจื่อสื่อจิตให้หลินสวินพลางเดินไปเบื้องหน้าพร้อมรอยยิ้ม แล้วเอ่ยว่า “ครั้งนี้ต้องรบกวนสหายยุทธ์แล้ว”
เจียงรุ่ยที่อยู่ในชุดแดงเพลิงหัวเราะฮ่าๆ “สหายยุทธ์พูดอะไรกัน เชิญเข้ามาก่อน!”
ป๋อหยาจื่อพยักหน้า พาหลินสวินตามเจียงรุ่ยเข้าประตูเขาไปด้วยกัน
หลินสวินพยักหน้า
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ หลังจากรอมาหนึ่งก้านธูปเต็มๆ แล้วยังไม่เห็นเจียงรุ่ยปรากฏตัว ป๋อหยาจื่อเองก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นหรือไม่
และตอนนี้เอง เจียงรุ่ยในชุดคลุมเพลิงที่เผ้าผมหนวดเคราราวกับเปลวเพลิงเข้ามาอย่างเร่งรีบ เอ่ยอย่างแฝงความละอายใจ “สหายยุทธ์ ครั้งนี้คงช่วยเจ้าไม่ได้แล้ว”
หลินสวินกับป๋อหยาจื่อมองหน้ากัน ต่างหัวใจหล่นวูบ
“สหายยุทธ์ เกิดเรื่องไม่คาดคิดอะไรขึ้นหรือ”
ป๋อหยาจื่อกล่าว
เจียงรุ่ยสีหน้าอึมครึมไม่สามารถสงบได้ มองป๋อหยาจื่ออย่างคลุมเครือครู่หนึ่งค่อยกล่าวว่า “สหายยุทธ์ หากเจ้าเชื่อข้าก็อย่าถามเรื่องนี้อีก และไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้จะดีที่สุด”
ป๋อหยาจื่อจะยอมจากไปเช่นนี้ได้อย่างไร เขาขมวดคิ้วพูด “สหายยุทธ์ จะสามารถผ่อนอันให้สักหน่อยได้หรือไม่ คงไม่ใช่… จะให้ข้ามาเสียเที่ยวกระมัง”
เจียงรุ่ยส่ายหน้า “เรื่องนี้ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว”
ป๋อหยาจื่อเพิ่งหมายจะพูดอะไรสักอย่างก็เห็นหลินสวินส่ายหน้า เขาข่มกลั้นความไม่พอใจไว้ทันที ก่อนจะเอ่ยว่า “ช่างเถอะ เช่นนั้นพวกข้าขอตัวก่อน”
เจียงรุ่ยเหมือนอยากพูดอะไรแต่ก็หยุดไป สุดท้ายถอนหายใจเบาๆ คราหนึ่ง “ภายหน้าข้าจะให้คำตอบสหายยุทธ์”
ป๋อหยาจื่อคร้านจะฟังต่อแล้ว
อย่างน้อยเขาก็เป็นระดับจักรพรรดิคนหนึ่ง ตอนนี้เดินทางมาไกลแต่กลับถูกปฏิเสธ นี่ทำให้เขาไม่พอใจอย่างที่สุด
เพียงแต่ตอนที่ป๋อหยาจื่อกับหลินสวินตัดสินใจจะจากไปนั่นเอง เสียงเย็นชาสายหนึ่งพลันดังขึ้น “ทั้งสองท่าน ในเมื่อมาแล้วเหตุใดต้องเร่งรีบจากไป”
สวบ!
เงาร่างสูงใหญ่แก่ชราในชุดคลุมหยก ผมดำราวกับหมึกคนหนึ่งปรากฏกลางอากาศ ดวงตาทั้งคู่มีเปลวเพลิงน่ากลัวลุกโชน
เขาขวางอยู่ข้างหน้า อานุภาพที่แผ่ออกมาราวกับเทพชั้นสูงคนหนึ่ง!
ป๋อหยาจื่อหรี่ตา พลันขวางอยู่ตรงหน้าหลินสวินตามสัญชาตญาณ
แต่เจียงรุ่ยกลับสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยกล่าวว่า “ท่านอาเจ็ด ท่านมาได้อย่างไร”
คนผู้นี้คือเจียงอวี่ถง หนึ่งในระดับจักรพรรดิของเผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียง เฒ่าดึกดำบรรพ์ที่แจ้งมรรคบรรลุจักรพรรดิตั้งแต่สมัยบรรพกาล
เขาไม่เพียงพลังปราณน่ากลัวเย้ยฟ้า ระดับความอาวุโสก็สูงจนน่าตกใจ ระดับจักรพรรดิอย่างเจียงรุ่ยยังเป็นแค่คนรุ่นหลังคนหนึ่งของเขา
“ที่นี่คือเมืองจักรพรรดิเพลิง เป็นอาณาเขตของเผ่าจักรพรรดิตระกูลเจียงของพวกเรา เหตุใดข้าจึงมาไม่ได้”
เจียงอวี่ถงน้ำเสียงเย็นชา สายตาสังเกตป๋อหยาจื่อและหลินสวินที่อยู่ด้านหลังอย่างไม่เป็นมิตร
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์