วู้ม…
เมื่อเขาพลิกฝ่ามือ จานมหามรรคไร้ตัวตนที่แวววาวมนกลมดุจดวงจันทร์ก็ปรากฏ สัญลักษณ์ลึกลับที่เหมือนปลาแหวกว่ายคู่หนึ่งในจานสำแดงร่องรอยแห่งมรรคอันเร้นลับอัศจรรย์ออกมา
จานมหามรรคไร้ตัวตน สามารถช่วยผู้ฝึกปราณอนุมานและหยั่งถึงแก่นดั้งเดิมแห่งมหามรรค!
หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง จิตใจจมดิ่งอยู่ภายในนั้น
ชั่วขณะเดียวพลังมหามรรคที่เขาครอบครอง ปรากฏอยู่ในจานมหามรรคไร้ตัวตนราวกับรอยแผลสายแล้วสายเล่า
อย่างเช่นมรรคดับดารากลืนกิน มรรคเจินหลง มรรคแห่งน้ำและไฟ มรรคยอดเอกอุ มรรคไร้มรณะ…
ล้วนปรากฏภายในจานมหามรรคไร้ตัวตนอย่างละเอียด และจากนั้นก็อาศัยลักษณ์วิเศษอัศจรรย์ที่ชัดเจนสะท้อนสู่จิตใจของหลินสวิน
พร้อมๆ กับที่เขาหยั่งรู้และอนุมานอย่างตั้งใจ พลังแปลกพิกลวูบหนึ่งก็พุ่งทะลักออกมาจากภายในจานมหามรรคไร้ตัวตน ทำให้ความเร็วในการหยั่งรู้และอนุมานมหามรรคของเขาพลันพุ่งทะยานขึ้นช่วงใหญ่ในทันที!
จุดที่รู้สึกเลือนราง คลุมเครือ กังขานับไม่ถ้วนที่ผ่านมา ล้วนคลายออกทุกจุด
ความรู้สึกที่ได้รับหลังจากปมคลี่คลายเช่นนั้น ทำให้ทั้งตัวหลินสวินล้วนจมอยู่ในนั้น ชื่นมื่นสุขสมไม่อาจถอนตัว
และพร้อมกันนั้นด้านหลังร่างเขาเขตแดนมรรคปรากฏ บางครั้งกลายเป็นเตาหลอม บางคราววิวัฒน์เป็นหุบเหวใหญ่ บ้างก็หวนสู่สภาพแรกกำเนิดอีกครั้ง
พลังมหามรรคที่รวมอยู่ในนั้น พร้อมๆ กับการอนุมานและหยั่งถึงไม่ขาดสายของหลินสวิน ก็พลอยเปลี่ยนเป็นหนาแน่นและแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ
……
เวลาดั่งกระสวยพวยพุ่ง ผ่านไปสองสามเดือนอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ตอนที่หลินสวินกำลังปิดด่านฝึกปราณ โลกภายนอกต่างก็มีคลื่นลมโหมกระพือ
พร้อมๆ กับเวลาของงานชุมนุมถกมรรคที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ในโลกใหญ่หงเหมิงนอกจากแคว้นกลางมรรค การคัดเลือกถกมรรคของสี่สิบแปดแคว้นอื่นๆ ต่างก็ปิดม่านลงเรียบร้อยแล้ว
เช่นเดียวกับแคว้นเมฆา ในเขตแคว้นเหล่านี้ล้วนคัดเลือกผู้แข็งแกร่งสิบอันดับแรกออกมาผ่านวิธีคัดเลือกถกมรรค
สี่สิบแปดแคว้น นั่นก็หมายความว่ามีผู้แข็งแกร่งแห่งยุคสี่ร้อยแปดสิบคนที่ผ่านการคัดเลือก หลังจากนี้ไม่นานก็จะเข้าร่วมในงานชุมนุมถกมรรค!
โลกใหญ่หงเหมิงกว้างใหญ่ไพศาลปานใด ต่อให้ตัดแคว้นกลางมรรคทิ้งไม่เอ่ยถึง ภายในแคว้นอื่นๆ ก็มีสรรพชีวิตมากมายกระจายตัวอยู่
ทว่าท้ายที่สุดกลับมีเพียงสี่ร้อยแปดสิบคนเท่านั้นที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมงานชุมนุมถกมรรค
ไม่ต้องสงสัยสักนิด สี่ร้อยแปดสิบคนนี้จะต้องเป็นผู้แข็งแกร่งที่สะดุดตา เฉิดฉายที่สุดในหมู่มกุฎราชันอริยะเป็นแน่
เพียงแต่คนที่ได้รับความสนใจมากที่สุด ก็ยังเป็นอันดับหนึ่งในแต่ละแคว้นอยู่ดี
“แม่นางเสวียนเยวี่ย พวกนี้ก็คือข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมมาได้ในระยะนี้ ในนั้นแจกแจงรายชื่อ พลังปราณ และที่มาของสิบอันดับแรกในแต่ละเขตแคว้น”
ผู้สืบทอดสำนักยุทธ์เสวียนจีอย่างพวกเจียงเหิง จีเฉียนอยู่ด้วยกัน มอบม้วนหยกม้วนหนึ่งให้จินเทียนเสวียนเยวี่ย
“ขอบคุณยิ่งแล้ว”
หลังจากจินเทียนเสวียนเยวี่ยกล่าวขอบคุณก็เริ่มพลิกอ่าน
สายตาของนางพุ่งไปยังรายชื่ออันดับหนึ่งของแต่ละแคว้น ส่วนคนอื่นๆ ล้วนถูกนางมองข้ามไปชั่วขณะ
‘หวังอี้เฉิน อันดันหนึ่งในการคัดเลือกถกมรรคแคว้นเขียว ผู้สืบทอดแกนหลักอันดับหนึ่งของสำนักกระบี่หิมะวิญญาณ สำนักอันดับหนึ่งในแคว้นเขียว ปราณมกุฎราชันอริยะขั้นสมบูรณ์ ผู้คนขนานนามว่า ‘ราชันอริยะมรรคกระบี่อันดับหนึ่งแห่งแคว้นเขียว’’
‘หมิงฉี่ยั่ง อันดับหนึ่งของการคัดเลือกถกมรรคแคว้นยมโลก ผู้นำคนรุ่นเยาว์สำนักยุทธ์ยมโลก ฝึกคัมภีร์มรรคเทพนรก ถูกขนานนามว่าราชันอริยะปราณวิญญาณอันดับหนึ่งแห่งแคว้นยมโลก’
‘สวีชิงเจียน อันดับหนึ่งของการคัดเลือกถกมรรคแคว้นดารา อันดับหนึ่งระดับมกุฎราชันอริยะสำนักยุทธ์หมู่ดารา…’
…มองดูแต่ละชื่อพาให้ในใจจินเทียนเสวียนเยวี่ยยังบังเกิดแรงกดดันอย่างบอกไม่ถูก
ในรายชื่อชุดนี้ ลำพังแค่ผู้แข็งแกร่งที่อยู่อันดับหนึ่งในสี่สิบแปดแคว้น แต่ละคนก็เรียกได้ว่าเป็นพวกชั้นนำแห่งยุค โดดเด่นเฉิดฉายแห่งแคว้น เจิดจ้าเหนือปวงชน!
‘ต่อให้อันดับหนึ่งแต่ละแคว้นพวกนี้จะไม่สามารถเทียบชั้นคุณชายได้ แต่อย่างน้อยก็น่าจะเหมือนผู้แข็งแกร่งแห่งยุคอย่างพวกลู่ตู๋ปู้ อู่หวง’
จินเทียนเสวียนเยวี่ยพึมพำในใจ
นี่เป็นเพียงพวกสะดุดตาที่ปรากฏในอาณาเขตสี่สิบแปดแคว้นเท่านั้น จากที่นางรู้มา บุคคลแกนหลักในหกเรือนมรรคใหญ่ สิบเผ่านักรบใหญ่ในแคว้นกลางมรรค มีแต่จะยิ่งแข็งแกร่ง แต่ละคนต้องร้ายกาจและวิปริตข่มกันไม่ลงอย่างแน่นอน!
นับประสาอะไรผู้ที่สามารถเข้าร่วมงานชุมนุมถกมรรคครั้งนี้ได้ ไม่ได้จำกัดแค่ในโลกใหญ่หงเหมิงเท่านั้น ในฟ้าดาราโลกอื่นก็มีพวกปีศาจแห่งยุคไม่รู้เท่าไหร่มาเยือนด้วยเช่นกัน จับจ้องงานชุมนุมถกมรรคในครั้งนี้ตาเป็นมัน
“ศึกถกมรรคแคว้นเมฆาครั้งนี้ ทำให้พวกข้าตระหนักอย่างลึกซึ้งว่าอะไรที่เรียกว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน”
เจียงเหิงทอดถอนใจอยู่ด้านข้าง “และยามนี้ ผ่านไปอีกหนึ่งเดือนงานชุมนุมถกมรรคก็จะเริ่มขึ้นแล้ว ถึงตอนนั้นยังจะมีผู้แข็งแกร่งสะท้านโลกที่น่าเหลือเชื่อปรากฏขึ้นอีกไม่รู้เท่าไหร่”
ประโยคเดียวทำเอาผู้สืบทอดสำนักยุทธ์เสวียนจีอย่างจีเฉียนต่างทอดถอนใจไม่ว่างเว้น
บนโลกใบนี้ไม่ขาดแคลนผู้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า ร้ายกาจยิ่งกว่า ใครกล้าประกาศตนว่าไร้ศัตรูอย่างแท้จริง แล้วจะมีใครบ้างกล้าบอกว่าจะไม่พ่ายแพ้
เนิ่นนานจินเทียนเสวียนเยวี่ยพับเก็บรายชื่อฉบับนี้อย่างระมัดระวัง นางไม่มีทางลืมเด็ดขาด ก่อนคุณชายปิดด่านเคยกำชับให้นางรวบรวมข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับงานชุมนุมถกมรรคไว้มากๆ
“อันดับหนึ่งที่คัดเลือกจากทั้งสี่สิบแปดแคว้น ยามนี้ล้วนถูกผู้กล้าแห่งยุคบางส่วนของแคว้นกลางมรรคจับจ้องไว้แล้ว”
จู่ๆ จีเฉียนก็เอ่ยขึ้น “ถึงขั้นมีคนคุยโวว่ายามอันดับหนึ่งเหล่านี้เข้าสู่แคว้นกลางมรรค ไม่รอให้งานชุมนุมถกมรรคเริ่มก็จะต้องแสดงอำนาจให้พวกเขาเห็นเสียหน่อย”
ทันทีที่เอ่ยประโยคนี้ออกมา ก็พาให้ผู้คนไม่น้อยใจสะท้าน
หากบอกว่าโลกใหญ่หงเหมิงเป็นโลกใหญ่อันดับหนึ่งของทางเดินโบราณฟ้าดารา เป็นโลกอันดับหนึ่งที่ผู้คนทั่วโลกหล้าต่างรู้จัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์