หลินสวินครุ่นคิดเนิ่นนาน สุดท้ายก็ล้มเลิกความตั้งใจที่จะลองพยายามต่อ
เขาหยัดกายขึ้นเดินออกจากถ้ำสถิต
ในวันนี้ เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งเดือนก่อนที่งานชุมนุมถกมรรคจะเริ่ม หลินสวินออกจากการปิดด่าน
การฝึกปราณตลอดห้าเดือน ทำให้มรรควิถีทั่วทั้งร่างของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย
ปราณทะลุระดับมกุฎราชันอริยะขั้นปลาย สามารถสู้กับผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งจักรพรรดิห้าคนได้
ควบรวมกายมรรคทองขาวออกมาได้ และครองครองอภินิหารพรสวรรค์หนามแสงคม ถึงตอนนี้ได้ฝึกฝนคัมภีร์มหามรรคหวงถิงถึง ‘ระดับห้ากลิ่น’ สมบูรณ์ มีร่างแยกมหามรรคห้าร่าง
และด้วยความช่วยเหลือของจานมหามรรคไร้ตัวตน พัฒนาเขตแดนมรรคให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น ขาดเพียงก้าวเดียวก็จะสามารถไปถึงขั้นสมบูรณ์พร้อมได้แล้ว!
สิ่งที่ได้รับและการเปลี่ยนแปลงแต่ละอย่าง ทำให้พลังต่อสู้ของหลินสวินเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกฟ้าดิน แตกต่างจากห้าเดือนก่อนอย่างสิ้นเชิง…
“คุณชาย พวกนี้คือข้อมูลและข่าวสารบางส่วนที่เกี่ยวกับงานชุมนุมถกมรรค”
นัยน์ตาสุกใสของจินเทียนเสวียนเยวี่ยเจือแววปิติยินดี สองมือยื่นม้วนหยกม้วนหนึ่งให้หลินสวิน ไม่ได้พบกันห้าเดือน นางสัมผัสได้อย่างว่องไวว่ากลิ่นอายของคุณชายตนเปลี่ยนเป็นลึกล้ำสุดหยั่งมากขึ้นแล้ว
หลินสวินนั่งลงใต้ต้นสนเขียวต้นหนึ่ง หยิบม้วนหยกมาแล้วเริ่มพลิกอ่านลวกๆ
หวังอี้เฉินอันดับหนึ่งแคว้นเขียว หมิงฉี่ยั่งอันดับหนึ่งแคว้นยมโลก สวีชิงเจียนอันดับหนึ่งแคว้นดารา…
รายชื่อที่โดดเด่นสะดุดตาแต่ละชื่อ ก็เหมือนตำนานเรื่องแล้วเรื่องเล่า แต่ละคนล้วนมีมหาโชควาสนา บารมีองอาจ รากฐานพลังสะท้านโลก
เพียงแต่ในใจหลินสวินกลับไม่สะทกสะท้านหวั่นไหว
นับตั้งแต่มีพลังต่อสู้ที่ข้ามระดับไปเข่นฆ่ากึ่งจักรพรรดิได้ ในหมู่คนรุ่นเดียวกันจึงมีน้อยคนนักที่พอจะเข้าตาเขา
มือเรียวของจินเทียนเสวียนเยวี่ยต้มชา เหลือบมองหลินสวินเป็นพักๆ มุมปากโค้งเป็นรอยยิ้มละไมเสี้ยวหนึ่งที่แม้แต่ตัวนางเองก็ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
“หืม?”
ไม่นานหลินสวินก็สังเกตเห็นชื่อหนึ่ง อันดับหนึ่งแคว้นทองแดง… เสวียนจิ่วอิ้น!
ในหัวผุดภาพเด็กหนุ่มหล่อเหลาที่สวมชุดผ้าป่าน ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสคนหนึ่งขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
ตอนที่ยานลมกรดเหินข้ามฟ้าดารา เด็กหนุ่มชุดป่านที่เรียกตัวเองว่า ‘เสี่ยวจิ่ว’ คนนี้ ชื่นชอบการนอนฟุบบนกำแพงชมเรื่องสนุกเป็นที่สุด
แต่หลินสวินกลับคิดไม่ถึง ว่าเจ้าหมอนี่จะกระโดดขึ้นมาในก้าวเดียว กลายเป็นอันดับหนึ่งการคัดเลือกถกมรรคแคว้นทองแดง
เขาอ่านข้อมูลในม้วนหยก เสวียนจิ่วอิ้น ทายาทเผ่าจักรพรรดิโบราณตระกูลเสวียน ครอบครองเขตแดนมรรค ‘ตำราอัศจรรย์’ ความแข็งแกร่งแห่งพลังต่อสู้ ระดับราชันอริยะในแคว้นทองแดงไม่มีใครเทียบชั้นได้!
‘ตำราอัศจรรย์…’
หลินสวินก็อดใคร่รู้ไม่ได้ เขตแดนมรรคระดับนี้จะวิเศษอัศจรรย์ปานใด
ไม่นานหลินสวินก็มองเห็นชื่อที่คุ้นเคยอีกชื่อหนึ่ง…
หลิงเคอจื่อ
นี่คือเด็กหนุ่มภิกษุที่ท่าทางซื่อๆ คนหนึ่ง มาจากอารามโบราณยอดทักษิณในดินแดนที่เรียกว่า ‘อนุสุขาวดี’
หลินสวินจำได้แม่น ปีนั้นตอนที่หลิงเคอจื่อเห็นตนที่แหล่งสถานคุนหลุน เห็นได้ชัดว่าใจเสาะและหวาดกลัวเป็นพิเศษ มองตนเหมือนสัตว์ดุร้ายหายนะใหญ่
สิ่งนี้ก็ทิ้งภาพจำลึกล้ำให้แก่หลินสวิน
หลินสวินกลับคิดไม่ถึงว่าภิกษุที่ดูเหมือนขี้ขลาดหาใดเปรียบคนนี้ ถึงกับเป็นอันดับหนึ่งในคัดเลือกถกมรรคแคว้นมาร!
แคว้นมาร นั่นเป็นถึงอาณาเขตที่ประดุจโลกมารแห่งหนึ่ง เป็นแดนของผู้ฝึกปราณสายมาร และถูกมองว่าเป็นพื้นที่ที่มากอันตรายของโลกใหญ่หงเหมิง
หลิงเคอจื่อที่ขี้ขลาดเช่นนี้ กลับกลายเป็นที่หนึ่งของแคว้นนี้ในก้าวเดียว นี่ช่างทำให้ผู้คนรู้สึกเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
หลินสวินอ่านข้อมูลที่บันทึกไว้ หลิงเคอจื่อมีพลังพรสวรรค์ ‘จิตพุทธะไร้มลทิน’ ครอบครองเขตแดนมรรค ‘สังฆารามโพธิสัตว์’ มีอานุภาพที่ทำให้ผู้คนยอมจำนนโดยไม่ต้องต่อสู้!
“น่าสนใจ”
หลินสวินยกยิ้ม พลิกอ่านม้วนหยกต่อไป จนกระทั่งครู่ต่อมาเขาจึงอ่านข้อมูลในม้วนหยกจนจบ
“คุณชาย ท่านเคยได้ยินชื่อข่งเจามาก่อนหรือไม่”
จู่ๆ จินเทียนเสวียนเยวี่ยก็กล่าวขึ้น
“เขาคือใคร”
หลินสวินอึ้งไป
จากนั้นจินเทียนเสวียนเยวี่ยก็เล่าภูมิหลังของข่งเจารอบหนึ่ง ‘เลิศล้ำทรงพลัง’ ‘ที่สุดแห่งตระกูลข่ง’ อะไรเอย ปีศาจแห่งยุคที่หาตัวจับยากเอย อันดับห้ากระดานราชันอริยะปวงสวรรค์อะไรเอย…
หลินสวินฟังจนประหลาดใจไประลอกหนึ่ง
จนกระทั่งฟังถึงตอนที่ข่งเจาคุยโว ว่าก่อนงานชุมนุมถกมรรคจะทำให้อันดับหนึ่งแต่ละแคว้นก้มหัว หลินสวินก็หัวเราะขึ้นมาทันที
ทายาทเผ่าจักรพรรดิตระกูลข่งนี่ แต่ละคนช่างจองหองไม่แพ้กันเลย
แน่นอน นี่คือความคิดเห็นของหลินสวินเอง สำหรับผู้ฝึกปราณคนอื่นๆ ข่งเจาย่อมเป็นพวกน่าสะพรึงถึงขั้นสามารถทำให้ใครก็ตามหวาดกลัวได้ และมีคุณสมบัติที่จะคุยโวเช่นนี้
“คุณชาย ก่อนหน้านี้ท่านเคยใช้สถานะอวี่เสวียนสังหารคนของพวกข่งอวี้ ถึงจะไม่กังวลว่าจะถูกข่งเจามองฐานะของท่านออก แต่ถ้าบังเอิญพบคนผู้นี้ในงานชุมนุมถกมรรค ท่านต้องระวังไว้หน่อย”
จินเทียนเสวียนเยวี่ยกล่าวกำชับ
หลินสวินร้องอืมคราหนึ่ง ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ
ปีนั้นตอนอยู่แหล่งสถานคุนหลุน เขาเคยสังหารผู้แข็งแกร่งของหกเรือนมรรคใหญ่และสิบเผ่านักรบใหญ่ไปไม่รู้เท่าไหร่ จากพลังต่อสู้ของเขาในตอนนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะกริ่งเกรงใครก็ตามในหมู่คนรุ่นเดียวกัน!
คุยเล่นเรื่อยเปื่อยอีกพักหนึ่ง เหิงเซียวก็เร่งมาหา
“สหายน้อยออกด่านพอดี ข้าเพิ่งได้รับข่าวมา พรุ่งนี้ยามเช้าตรู่ ก้วนซวีเจ้าสำนักสำนักยุทธ์ว่างเปล่าจะพาสิบอันดับแรกในศึกถกมรรคแคว้นเมฆาออกเดินทางไปแคว้นกลางมรรค”
เหิงเซียวเอ่ยขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์