คำสั้นๆ ก็ทำให้จินเทียนเสวียนเยวี่ยอึ้งงัน ในดวงตากระจ่างใสราวกับดวงดาวมีน้ำตาคลออย่างไม่เอาไหน
นางในอดีต ฐานะสูงส่งเป็นถึงผู้กล้าชั้นยอดในบรรดาคนรุ่นเยาว์เผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์ตระกูลจินเทียน ชื่อเสียงเลื่องลือในแดนดินหนึ่ง ทว่าตั้งแต่ติดตามหลินสวินมา นางก็เหมือนทิ้งทุกอย่าง ตั้งแต่ต้นจนจบเก็บความเย่อหยิ่งและอวดดีภายในใจไปหมดแล้ว
ตั้งแต่เข้าสู่โลกใหญ่หงเหมิง เดินทางร่วมกับหลินสวิน ผ่านร้อนผ่านหนาวร่วมทุกข์ร่วมทุกข์กันมา เคยมีทั้งความโศกเศร้าและน้อยใจ
แต่ตอนนี้ ประโยคเดียวที่หลินสวินพูดออกมา พลันทำให้จินเทียนเสวียนเยวี่ยรู้สึกว่าทุกสิ่งที่ทำที่คิดนับตั้งแต่ติดตามหลินสวินมาจนถึงวันนี้…
ล้วนคุ้มค่าแล้ว!
“เจ้าร้องไห้ทำไม”
หลินสวินอึ้ง ในใจตึงเครียดขึ้นมาระลอกหนึ่ง นึกว่าในใจจินเทียนเสวียนเยวี่ยมีความอดสูยิ่งยวดบางอย่างซ่อนอยู่
“ข้า… มีความสุข”
จินเทียนเสวียนเยวี่ยสูดหายใจลึกคราหนึ่ง กลั้นน้ำตาไว้ ใบหน้างดงามเผยความมีชีวิตชีวาอย่างไร้สาเหตุ กล่าวว่า “คุณชาย คำว่าบังลมกันฝน สำหรับข้า มันจะตราตรึงในใจไปชั่วชีวิต ไม่มีวันลืม”
หลินสวินยิ้มพูด “ข้าพูดได้ทำได้ ไป ข้าพาเจ้าไประบายความโกรธก่อน”
“ข้า…”
ทีแรกจินเทียนเสวียนเยวี่ยอยากเตือนหลินสวินว่าอย่าบุ่มบ่ามเช่นนี้ แต่คำพูดกำลังจะออกจากปาก กลับหลุดพูดออกมาว่า “คุณชาย ข้าฟังคำท่าน”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ในใจนางพลันอึดอัดขึ้นมา ความรู้สึกเช่นนี้เหมือนตนถูกรังแก แล้วเจอที่พึ่งอย่างไรอย่างนั้น…
“ไปกันเถอะ”
หลินสวินพูด
เดิมทีเพราะสิ่งที่เถิงอี๋เฉินกับกุยซานสิงประสบ ก็ทำให้เขาเพลิงสุมอกไม่มีที่ระบายอยู่แล้ว
ตอนนี้แม้แต่จินเทียนเสวียนเยวี่ยยังถูกรังแกจนกลายเป็นสภาพนี้ นี่ทำให้หลินสวินทนไม่ได้อีกต่อไป!
สวบ!
หลินสวินสะบัดแขนเสื้อ เมฆมงคลก้อนหนึ่งปรากฏขึ้น พาเขาและจินเทียนเสวียนเยวี่ยทะยานฟ้าไปด้วยกัน
ระหว่างทางหลินสวินเองก็ได้รู้ว่า พวกที่ล้อมโจมตีจินเทียนเสวียนเยวี่ยมาจากเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ ผู้นำนามว่าซินหรูเจี่ย อยู่อันดับสิบเจ็ดของกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์
นอกจากซินหรูเจี่ย คนอื่นๆ ก็เป็นศิษย์แกนหลักของเรือนมรรคดึกดำบรรพ์
หากไม่ใช่เช่นนี้ จินเทียนเสวียนเยวี่ยย่อมไม่มีทางบาดเจ็บหนักขนาดนี้
“พวกเขาตามมาแล้วหรือ”
เหนือความคาดหมายของหลินสวิน เพิ่งจะเดินทางได้ไม่นาน เงาร่างของคนกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏอยู่ไกลๆ แล้ว จินเทียนเสวียนเยวี่ยจำคนที่เป็นผู้นำได้ตั้งแต่แวบแรก
“คุณชายโปรดดู เจ้าหมอนั่นก็คือซินหรูเจี่ย!”
ความเย็นเยียบแวบผ่านในดวงตาคู่ใสของจินเทียนเสวียนเยวี่ย
การต่อสู้ก่อนหน้านี้นางเล่าอย่างราบเรียบ ความเป็นจริงกลับอันตรายอย่างที่สุด หากไม่ใช่เพราะนางเอาชีวิตเข้าสู้ คงถูกคัดออกไปนานแล้ว
หลินสวินเงยมองไป ก็เห็นว่าผู้นำคือชายในชุดนักพรตสีฟ้า รูปร่างผอมบาง ใบหน้างดงามราวกับหยก เท้าเหยียบกระบี่โบราณลายสนเล่มหนึ่ง
บนศีรษะของเขาปรากฏบุปผามหามรรคมากมาย แปลกประหลาดน่าตกใจ ชายหญิงกลุ่มหนึ่งติดตามอยู่ด้านหลังเขา ยิ่งขับให้เขาดูไม่ธรรมดา
“โอ้ คุณหนูใหญ่แห่งยุคของเผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์ตระกูลจินเทียนเจอผู้ช่วยแล้วหรือ”
ตอนที่เห็นหลินสวินและจินเทียนเสวียนเยวี่ย พวกซินหรูเจี่ยอึ้งไปก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นต่างเผยรอยยิ้มเยาะเย้ย
“จุ๊ๆ ข้านึกว่าเป็นวีรชนผู้กล้าคนใด ที่แท้ก็เป็นจินตู๋อีอันดับหนึ่งศึกถกมรรคแคว้นเมฆา คุณหนูเสวียนเยวี่ย เจ้าคงไม่ได้จนปัญญาจนต้องเลือกคนมั่วๆ กระมัง”
มีคนยิ้มเยาะ สีหน้าสัพยอก
“ยังคงเป็นประโยคนั้น เหยื่อที่ถูกเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ของพวกเราจับจ้อง ไม่มีทางที่หนีรอดไปได้ ยิ่งไปกว่านั้น ความแค้นของศิษย์พี่ข่งอวี้จะไม่แก้แค้นไม่ได้!”
ซินหรูเจี่ยที่เป็นผู้นำเอ่ยเสียงเย็น
หลินสวินถึงได้เข้าใจในยามนี้ ว่าที่ผู้สืบทอดเรือนมรรคดึกดำบรรพ์เหล่านี้ลงมือกับจินเทียนเสวียนเยวี่ย ก็เพราะข่งอวี้ที่ตายในมือตน
“เสวียนเยวี่ย เจ้าดูให้ดี วันนี้หากพวกเขาหนีไปได้แม้แต่คนเดียว ข้าคงผิดต่อเจ้าที่เดินทางด้วยกันมาตลอดทาง!”
ดวงตาดำของหลินสวินลึกล้ำ ไอสังหารที่พรั่งพรูในใจราวกับหินหนืดโหมซัด แทบจะสกัดกั้นไม่ไหว
พวกซินหรูเจี่ยต่างเผยสีหน้าผิดคาด หัวเราะเกรียวกราวขึ้นมา อันดับหนึ่งศึกถกมรรคแคว้นเมฆาเท่านั้นกลับปากดีขนาดนี้ แปลกเกินไปแล้ว
พลังต่อสู้ของหลินสวินในตอนนี้น่าสะพรึงเพียงใด
แม้แต่จินเทียนเสวียนเยวี่ยยังไม่แน่ใจ นางรู้เพียงว่า เจ้าพวกที่หัวเราะเกรียวกราวเหล่านี้ อีกเดี๋ยวจะต้องซวยแน่…
“จินตู๋อี เตือนเจ้าประโยคหนึ่ง รีบเปลี่ยนชื่อเสียเถอะ คนอย่างเจ้ายังกล้าตั้งชื่อนี้ ไม่กลัวอายุสั้นหรือ”
ชายชุดคลุมทองเย้ยหยันพร้อมรอยยิ้ม
“เช่นนั้นหรือ”
ในเสียงเรียบเฉยเย็นเยียบ หลินสวินเคลื่อยไหวแล้ว ยกมือขึ้นแตะกลางอากาศเบาๆ
บนศีรษะของชายชุดทอง พลังดรรชนีเวิ้งว้างควบรวม แสงมรรคน่าพรั่นพรึงที่คลุมเครือไม่อาจคาดเดาพวยพุ่ง
พลังดรรชนีกดลงเบาๆ คราหนึ่ง
ตูม!
ห้วงอากาศแถบนั้นถล่มระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ชายชุดทองส่งเสียงคำราม ใช้พลังทั้งหมดฝืนปะทะ แต่เงาร่างของเขากลับถูกกำราบกดลงบนพื้นดินทีละชุ่น เส้นเลือดบนกล้ามเนื้อโป่งพอง หน้าอกอัดอั้นจนแทบจะหลั่งเลือดออกมา
สุดท้ายเขาก็สกัดไว้ไม่ได้ ประหนึ่งตะปูที่ถูกตอกลงพื้นอย่างแรง แม้แต่พื้นดินยังสั่นไปด้วย
พร้อมๆ กับคลื่นอากาศระลอกหนึ่งปรากฏ ชายชุดทองก็ถูกคัดออก ทั้งหมดใช้เวลาเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น!
รอยยิ้มบนใบหน้าของพวกซินหรูเจี่ยต่างแข็งทื่อ ทั่วร่างสะท้านเยือกขึ้นมา ภาพก่อนหน้านี้ทำเอาพวกเขาต่างตั้งตัวไม่ทัน
และคิดไม่ถึงว่าหลินสวินบอกจะลงมือก็ลงมือเลย!
“คนที่หนึ่ง”
หลินสวินเริ่มนับ สีหน้าไม่สุขไม่ทุกข์ มีเพียงภายในนัยน์ตาดำที่มีเพลิงโทสะและไอสังหารท่วมฟ้ากำลังพลุ่งพล่าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์