ถูเชียนเจวี๋ยตอบรับโดยไม่ลังเลสักนิด ผู้สืบทอดเรือนมรรคจักรวาลที่เข้าร่วมงานชุมนุมถกมรรคครั้งนี้มีสามสิบกว่าคน
แปดคนที่ถูกคัดออกเพราะหลินสวิน เป็นเพียงส่วนหนึ่งของทั้งกลุ่มเท่านั้น
“แม่นางอวี่โหรว เจ้าล่ะ”
สายตาจู่เฟยอวี่มองไปที่เยียนอวี่โหรว
“การร่วมมือกันของพวกเราเป็นเพียงการตัดสินใจส่วนบุคคล ข้าไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้ศิษย์พี่ศิษย์น้องคนอื่นในสำนักเพราะเรื่องของพวกเราอีก”
เยียนอวี่โหรวเอ่ยเสียงเบา “แต่ว่า ถ้าจะไปต่อกรจินตู๋อีจริงๆ ข้าก็จะเข้าร่วมแน่นอน”
จู่เฟยอวี่อึ้งไป ยิ้มเอ่ยว่า “ไม่เป็นไร เรื่องนี้ให้ข้ากับพี่ถูช่วยกันรวมกำลังพลมาก็พอ”
จากนั้นทั้งสามคนก็ออกเคลื่อนไหว
ที่โลกภายนอก พอเห็นหลินสวินทลายการล้อมโจมตีของจู่เฟยอวี่ ถูเชียนเจวี๋ยและเยียนอวี่โหรวอย่างราบคาบ เหล่าระดับจักรพรรดิก็ประหลาดใจอีกระลอก
ก่อนหน้านี้พวกเขาต่างคิดว่าปีศาจชั้นยอดสามคนที่อยู่สิบอันดับแรกบนกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ร่วมมือกัน หลินสวินต้องยากจะรอดแน่ๆ
ใครจะคิดว่าความแข็งแกร่งในพลังต่อสู้ที่หลินสวินสำแดงออกมาจะทำให้พวกเขาเหนือความคาดหมายอีกครั้ง!
“เจ้าหมอนี่ แข็งแกร่งเหนือคาดจริงๆ ถ้าไม่เกิดเรื่องไม่คาดฝัน ก็ไปเทียบกับพวกหลิงหงจวง หวงฝู่เซ่าหนง หมีอู๋หยาได้แล้ว”
ไท่ซูหงเจ้าสำนักเรือนมรรคโลกาสวรรค์เอ่ยปากอย่างตกตะลึง
คำพูดนี้ออกมาจากปากเจ้าสำนักเรือนมรรคที่มีชื่อสะท้านทั่วหล้า เป็นการประเมินที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว
“พี่ไท่ซู คนที่ข้าถือหางจะไปเทียบกับคนพื้นๆ ได้อย่างไร”
ซย่าสิงเลี่ยยิ้มดื่มสุราจอกหนึ่ง
จักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงแห่งเรือนมรรคจักรวาล จักรพรรดิมารผลาญนภาแห่งเรือนมรรคเหล่ามารต่างปรากฏแววอึมครึมที่หว่างคิ้ว ความจริงแล้วในใจพวกเขาก็ตกตะลึงนัก คิดไม่ถึงว่าภายใต้การปิดล้อม หลินสวินกลับหลุดรอดออกมาอย่างง่ายดายเช่นนี้ได้
“ตอนนี้ ศักยภาพของเจ้าหนุ่มนี่ปะทุออกมาแล้ว ต่อไปเกรงว่าจะกลายเป็นศัตรูที่อยู่ในสายตาทุกคน”
จักรพรรดิมารผลาญนภาเอ่ยอย่างเย็นชา “ยิ่งไปกว่านั้น ในแดนลับโลกาสวรรค์แห่งนั้น เจ้านี่เหมือนไม่มีพวกพ้องที่เป็นพันธมิตรเท่าไร หัวเดียวกระเทียมลีบ ยากนักที่จะไปสุดทาง”
ซย่าสิงเลี่ยหัวเราะหยันออกมา “ข้าคนเดียวก็ค้ำยันตำหนักมหามรรคเก้าฟ้าไว้ได้ เหตุใดเจ้าหนุ่มนี่จะยืนหยัดจนสุดทางด้วยตัวคนเดียวไม่ได้ พวกเจ้านี่นะ พอใจมีอคติแล้ว ถ้อยคำที่พูดออกมาล้วนเปลี่ยนเป็นน่าขันทั้งหมด”
พูดถึงตรงนี้เขาก็คร้านจะโต้เถียงอีก ความเป็นจริงได้ผลยิ่งกว่าถกเถียงกันเสมอ
เขาตั้งตาคอยการแสดงความสามารถของหลินสวินในภายหน้า
“ดี!”
ทันใดนั้นจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงก็ตาเป็นประกาย ชี้ไปที่แห่งหนึ่งในแดนลับโลกาสวรรค์ “ทุกท่านดูสิ เอาชนะบุคคลชั้นยอดในรุ่นเดียวกันเก้าคนได้ในการต่อสู้เดียว หวงฝู่เซ่าหนงจากเรือนมรรคจักรวาลของข้ามีความสามารถเป็นอย่างไร”
ที่นั่นเป็นหุบเขาแห่งหนึ่ง เพิ่งผ่านการห้ำหั่นดุเดือดมาครั้งหนึ่ง สุดท้ายมีเพียงหวงฝู่เซ่าหนงที่ยืนอยู่คนเดียว องอาจเกรียงไกร สูงใหญ่ดุจเทพ
เหล่าจักรพรรดิต่างพยักหน้าไม่หยุด
ความแข็งแกร่งของหวงฝู่เซ่าหนงไร้ข้อกังขามานานแล้ว
“แปลก เจ้าหมีอู๋หยานี่ ตั้งแต่เริ่มก็ยังไม่เคยเห็นโผล่มา ตอนนี้เข้าแดนลับโลกาสวรรค์มาหลายวันแล้ว เขากลับซุ่มซ่อนอยู่ในถ้ำใต้ดินมาตลอด นี่เขาจะทำอะไร”
และมีคนนิ่วหน้าเอ่ยปาก
หมีอู๋หยา!
ผู้สืบทอดแกนหลักเรือนมรรคยุทธจักร อันดับหนึ่งของกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ บุคคลในตำนานผู้เฉิดฉายในฟ้าดาราคนหนึ่ง
แต่ในงานชุมนุมถกมรรคคราวนี้ เขากลับเก็บตัวเงียบเชียบหาใดเทียบ โดยเฉพาะหลังจากเข้าไปในแดนลับโลกาสวรรค์แล้วก็ซ่อนตัวมาตลอด ไม่มีความคิดจะลงมือแต่อย่างใด
นี่ย่อมทำให้ผู้อื่นแปลกใจ
“ในความคิดข้า เจ้าหนุ่มนี่คล้ายมังกรเร้นตัวในหุบเหวลึก ซ่อนคมเลี่ยงการเป็นจุดสนใจ เกรงว่าสำหรับเขาแล้ว การช่วงชิงยันต์ชีวิตจะไม่ได้มีอะไรน่าดึงดูดอยู่แล้ว”
มีคนครุ่นคิด
“ได้ยินว่าเจ้าหนุ่มนี่กดข่มระดับของตัวเองมาสามร้อยปีแล้ว มีศักยภาพแฝงน่ากลัวที่สามารถบรรลุระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิแล้วใช่ไหม”
“ใช่แล้ว เขาถูกมองว่าไร้ศัตรูในระดับมกุฎราชันอริยะแล้วจริงๆ ช่วงหลายร้อยปีมานี้ไม่ได้ลงมือกับคนรุ่นเดียวกันคนไหนอีกแล้ว”
“เฮอะ นี่รังเกียจที่จะสู้กับคนรุ่นเดียวกันแล้วหรือ”
เหล่าจักรพรรดิสนทนากัน หมีอู๋หยาเป็นบุคคลในตำนานที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจเมินได้คนหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย ต่อให้ตอนนี้ยังเป็นแค่มกุฎราชันอริยะ
แต่ด้วยรากฐานพลังกับชื่อเสียงที่เขามีตอนนี้ มรรคาในภายหน้าย่อมไม่อาจจำกัด!
……
ภายในแดนลับโลกาสวรรค์
หลังทลายการล้อมโจมตีและจากมาอย่างผ่าเผยแล้ว หลินสวินกลับไม่ดีใจแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้เถิงอี๋เฉินกับกุยซานสิงถูกคนอื่นลอบโจมตี และถูกคัดออกอย่างน่าสังเวชไปต่อหน้าต่อตาเขา เรื่องนี้ทำให้ในใจเขามีไฟโทสะที่ไม่อาจบรรยายได้
‘บัญชีนี้ พวกเรามาค่อยมาคิดทีหลัง’
หลินสวินพูดประโยคนี้ซ้ำในใจ
ก่อนหน้านี้ถ้าทุ่มพลังทั้งหมดเข้าสู้ เขามั่นใจว่าจะกำราบพวกถูเชียนเจวี๋ย จู่เฟยอวี่และเยียนอวี่โหรวได้เช่นกัน แต่สถานการณ์ตอนนั้นทำให้เขาสู้แบบนี้ไม่ได้สักนิด
สาเหตุง่ายดายนัก การใช้กระบวนค่ายกลใหญ่ขังพวกถูเชียนเจวี๋ยไว้ก่อนหน้านี้ดึงดูดความสนใจของคนไม่รู้เท่าไรไปนานแล้ว
ถึงตอนนั้นจะกลายเป็นนกปากซ่อมสู้กับหอยกาบ ชาวประมงได้ประโยชน์ไปอีก
หืม?
ในขณะที่กำลังครุ่นคิด แววเย็นชาฉายวาบในดวงตาหลินสวิน ในจิตรับรู้ของเขา ใกล้ๆ นี้มีผู้แข็งแกร่งจำนวนหนึ่งลอบตามมา
ชายสองหญิงหนึ่ง
หลินสวินระบุได้จากการแต่งกายของอีกฝ่าย ว่าพวกเขาเป็นผู้แข็งแกร่งจากเผ่านักรบผีสวรรค์ หนึ่งในสิบเผ่านักรบใหญ่
“ตีชิงตามไฟหรือ”
หลินสวินหยุดเดิน เปิดโปงร่องรอยของอีกฝ่าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์