คราวนี้ไม่ได้มีพลังกระบวนค่ายกลใหญ่พันธนาการ มิหนำซ้ำถูเชียนเจวี๋ยยังจู่โจมชนิดเอาชีวิตเข้าแลก แต่กลับได้รับบาดเจ็บสาหัสในการปะทะซึ่งหน้า!
เทียบกันแล้ว จินตู๋อีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียวก็ดูสะดุดตาผิดธรรมดา
สายตาของระดับจักรพรรดิบางส่วนชำเลืองมองจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิง พบว่าหว่างคิ้วของฝ่ายหลังปรากฏแววอึมครึม เห็นชัดว่าอารมณ์เสียมาก
กลับมาดูซย่าสิงเลี่ย กลับยกจอกเหล้าขึ้นใหม่ ดื่มหมดในอึกเดียวอย่างสาแก่ใจ
คนเรามีความสุข ก็ต้องร่ำสุรา!
……
“นี่…”
เถิงอี๋เฉินกับกุยซานสิงก็อึ้งไป
ถูเชียนเจวี๋ยอยู่อันดับเก้าของกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ แต่ถึงกับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจินตู๋อีหรือ
“ที่แท้ข้าก็ประเมินเจ้าต่ำไปตั้งแต่แรก ก็ถูก ใครจะไปคิดว่าสถานที่อย่างแคว้นเมฆาจะมีคนที่เก็บงำไม่เผยตัวอย่างเจ้า”
ถูเชียนเจวี๋ยสีหน้าปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ เขาได้รับบาดเจ็บไม่เบาจริงๆ แต่ไม่ถึงกับรุนแรงมาก สิ่งนี้พิสูจน์ได้เพียงว่าเขายังมีไพ่ตาย!
หลินสวินก็ดูออกถึงจุดนี้ เขาก้าวเท้าไปข้างหน้า เอ่ยด้วยสีหน้าเยือกเย็นว่า “ดูออกว่าในมือเจ้ายังมีของอยู่ ถ้าไม่ใช้อีกเกรงว่าจะไม่มีโอกาสแล้ว”
ถูเชียนเจวี๋ยเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “เจ้าจะลองดูก็ได้”
เขาในตอนนี้ดูสงบหาใดเทียบ
ทว่าหลินสวินคร้านจะใส่ใจเรื่องพวกนี้ ในแดนลับโลกาสวรรค์แห่งนี้มีกฎไว้อยู่แล้วว่าจะใช้สมบัติจักรพรรดิไม่ได้ ทั้งห้ามใช้พลังภายนอกด้วย
เช่นนี้แล้ว สิ่งที่ทำให้หลินสวินหวาดหวั่นก็แทบจะไม่มี
ไม่ว่าถูเชียนเจวี๋ยจะมีไพ่ตายน่ากลัวหาใดเทียบจริงๆ หรือแกล้งทำข่มขู่ หลินสวินก็จะไม่หยุดมือเท่านี้เด็ดขาด
แต่ก็ในตอนที่หลินสวินกำลังจะลงมือ จู่ๆ ก็พลันหยุดเท้า
ในเวลาเดียวกัน เสียงไพเราะเสนาะหูเสียงหนึ่งก็ลอยแว่วจากไกลๆ ราวกับเสียงสวรรค์
“พี่จิน เหตุใดต้องรีบฆ่าให้สิ้นซากเล่า”
เงาร่างสูงโปร่งอรชรร่างหนึ่งปรากฏขึ้น หมอกฝนรอบกายพร่ามัวประหนึ่งภาพฝัน ผมดำขลับของนางเกล้าเป็นมวย เผยให้เห็นใบหน้างามล้ำอันกระจ่างใสเหนือธรรมดา
เยียนอวี่โหรว!
อันดับเจ็ดของกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ ผู้สืบทอดแกนหลักเรือนมรรคโลกาสวรรค์ เป็นหญิงงามตระการมีชื่อทั่วหล้าคนหนึ่ง
ผลงานการต่อสู้ของนางมีมากมายนับไม่ถ้วน
“การคัดเลือกถกมรรคต่างต้องชิงชัยกัน จะเรียกว่ารีบฆ่าให้สิ้นซากได้อย่างไร”
หลินสวินหยุดเท้า สีหน้าเรียบเฉย
เถิงอี๋เฉินกับกุยซานสิงต่างเหมือนได้พบศัตรูตัวฉกาจ ขนลุกเกรียวขึ้นมา ล้วนคิดไม่ถึงว่าในช่วงสำคัญเช่นนี้จะมีปีศาจชั้นยอดที่นามระบือใต้หล้าคนหนึ่งปรากฏตัว
“พี่จินพูดถูก แต่ในเมื่อข้ามาทันเวลา พี่จินคิดว่าถ้าสู้ต่อจะยังมีโอกาสชนะเท่าไร”
เงาร่างเยียนอวี่โหรวปราดเปรียว โรยตัวลงมาในสนามรบ กลิ่นหอมบริสุทธิ์ก็ตลบอบอวลตามไปด้วย
นางสง่างามโดดเด่น มีความงดงามเหนือธรรมดา
“แม่นางอวี่โหรว คราวนี้ลำบากเจ้าแล้ว”
ถูเชียนเจวี๋ยสีหน้าซับซ้อน เดิมเขาหยิ่งทระนงนัก ถ้าไม่ใช่เพราะจวนตัวคงไม่หวังให้คนอื่นมาช่วย
หลินสวินที่หยุดเท้าอยู่ที่เดิมยิ้มน้อยๆ ก่อนก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง เอ่ยว่า
“เจ้าถามข้าว่าจะมีโอกาสชนะแค่ไหน ข้าคิดดูแล้ว อย่างน้อยต่อกรกับพวกเจ้าสองคนก็ยังมั่นใจได้”
ประโยคเดียวโอหังเป็นอย่างยิ่ง!
ถูเชียนเจวี๋ยกับเยียนอวี่โหรวต่างอึ้งไป เหมือนยากจะเชื่อ
“ดูท่าพี่จินจะไม่ยอมรามือเท่านี้ คิดจะสู้กันสักตั้ง”
ดวงตาเยียนอวี่โหรวดุจมายา เสียงใสกระจ่างดูความรู้สึกใดๆ ไม่ออก แต่บนตัวนางกลับอบอวลด้วยพลังมหามรรคที่ดุจระลอกคลื่น
“หึ นี่เขาไม่เห็นเจ้ากับข้าอยู่ในสายตาชัดๆ”
ถูเชียนเจวี๋ยสีหน้าไม่น่าดู
แต่ก็ในตอนนี้เอง หลินสวินหยุดเดินอีกครั้ง หันไปมองเถิงอี๋เฉินกับกุยซานสิงแล้วตวาดร้องทันควัน “ระวัง!”
การตอบสนองของทั้งคู่ไม่ใช่ไม่เร็ว เสียงของหลินสวินยังไม่ทันเงียบลง พวกเขาก็หลบหนีตามสัญชาตญาณแล้ว
แต่กลับช้าไปก้าวหนึ่ง
ตูม!
ก็เห็นเงากระบี่สีดำแถบหนึ่งร่วงลงมาจากฟ้าอย่างรวดเร็วเหมือนม่านดำผืนหนึ่ง ปราณกระบี่ดำสนิทเปล่งแสงคมบาดตา ส่งเสียงกึกก้อง
ปราณกระบี่อึงอล แน่นขนัดราวกับน้ำจากธารสวรรค์ ถล่มห้วงอากาศแถบนั้น และยังกลบเงาร่างของเถิงอี๋เฉินกับกุยซานสิงมิด
“ไม่…!”
“พี่จิน รีบหนีไป!”
ชั่วพริบตาทั้งสองล้วนถูกคัดออกจากการคัดเลืออก ก่อนถูกคัดออก กุยซานสิงยังใส่ใจความปลอดภัยของหลินสวิน ส่งเสียงคำรามร้อนรนออกมา
เห็นภาพนี้แต่กลับช่วยไม่ทัน ทำให้หลินสวินสีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที ไอสังหารไหววูบดั่งเดือดพล่านอยู่ในดวงตาดำล้ำลึกดุจหุบเหวทั้งสอง
พวกพ้องที่ตนช่วยกลับถูกคนอื่นซุ่มโจมตีกะทันหัน ถูกคัดออกอย่างน่าสังเวชภายใต้สายตาตน นี่ทำให้หลินสวินเกิดความละอายและโกรธเคืองอย่างบอกผุดขึ้นในใจ
ยามเงากระบี่สีดำสลายไป ในสนามรบก็มีชายที่สะพายกระบี่ไว้ด้านหลัง สาบเสื้อแหวกออก หิ้วกาสุราอยู่คนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ทั้งร่างเต็มไปด้วยความดิบเถื่อนหยาบกระด้าง
จู่เฟยอวี่!
อันดับแปดของกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ ผู้สืบทอดแกนหลักของเรือนมรรคเหล่ามาร
“ดูพี่จินโกรธมากใช่ไหม ความจริงแล้วไม่เห็นต้องโกรธเลย เมื่อครู่เจ้าก็เพิ่งพูดว่านี่คือการคัดเลือกถกมรรค ต่างต้องชิงชัยกันก็เท่านั้น”
จู่เฟยอวี่ยิ้มเหิมเกริม “ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาแค่ถูกคัดออกจากการคัดเลือก ไม่ต้องกังวงลเรื่องชีวิต พี่จินอย่าโกรธจนร่างกายแย่เอา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์