โลกภายนอก ยามเห็นภาพที่ถูเชียนเจวี๋ยถูกหลินสวินกำจัด โต๊ะและเหล้าล้ำค่าบนโต๊ะตรงหน้าจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงระเบิดแหลกไปพร้อมกัน เปลี่ยนเป็นฝุ่นผงล่องลอย
หว่างคิ้วของนางปรากฏความเย็นเยียบ ราวกับพยายามอดทนต่อเพลิงโทสะในใจ กล่าวว่า “หนอยจินตู๋อี ข้าดูถูกความสามารถของเจ้าเกินไปสินะ”
ระดับจักรพรรดิที่อยู่ใกล้ๆ สบตากัน ต่างไม่ปริเสียง
ว่ากันตามปกติแล้ว การต่อสู้ถกมรรคครั้งนี้ คนที่โดดเด่นอย่างถูเชียนเจวี๋ยแทบไม่มีความเสี่ยงว่าจะถูกคัดออก
เหตุผลประการแรกคือศักยภาพของเขาแข็งแกร่งพอ เหตุผลประการที่สองคือเบื้องหลังเขามีเรือนมรรคจักรวาล แม้อยู่ในแดนลับโลกาสวรรค์ก็มีผู้ช่วยมากมาย
นี่ทำให้ความเป็นไปได้ที่เขาจะถูกโจมตีจนพ่ายแพ้แทบจะมองข้ามไปได้เลย
แต่ใครจะคิดว่าเรื่องไม่คาดฝันยังคงเกิดขึ้น จินตู๋อีที่มาจากแคว้นเมฆา กลับแข็งแกร่งเกินจะรับได้
หนึ่งต่อหนึ่ง ถูเชียนเจวี๋ยไม่ไหว
คนทั้งกลุ่มต่อหนึ่ง พวกถูเชียนเจวี๋ยก็พ่ายแพ้อย่างน่าอนาถเช่นกัน
จุดสำคัญคือจินตู๋อีไม่เกรงกลัวเรือนมรรคจักรวาล ลงมืออย่างไม่ออมมือสักนิด จึงส่งผลให้ถูเชียนเจวี๋ยถูกคัดออก
แต่เห็นได้ชัดมากว่าจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงรับเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ได้นัก
“ฮ่าๆ ตอนนี้ในที่สุดเจ้าก็ยอมรับว่าดูถูกจินตู๋อีเกินไปหรือ”
ซย่าสิงเลี่ยหัวเราะเสียงดัง “ไม่เลวๆ รู้ผิดแล้วแก้ไขนับว่าเยี่ยมยอด”
ทุกคนล้วนสีหน้าพิกล
จักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงโกรธจนแทบจะกระอักเลือด กัดฟันจ้องซย่าสิงเลี่ย ขณะหมายจะพูดอะไรก็ถูกจักรพรรดิมารผลาญนภาแห่งเรือนมรรคเหล่ามารเอ่ยโน้มน้าว
“สหายุทธ์โปรดระงับโทสะ เจ้าดู ตอนนี้จินตู๋อีก็ยากจะหนีเคราะห์พ้นแล้ว ครั้งนี้เขาไม่มีกระบวนผนึกลายมรรคให้ใช้แล้ว”
“หึ!”
จักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงพูดอย่างเย็นชา “หากไม่ใช่เพราะผู้สืบทอดของเรือนมรรคเหล่ามารอย่างพวกเจ้ามาช่วยไม่ทัน จะเกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร”
นางเองก็รู้ว่าพูดตอนนี้ไม่มีประโยชน์แล้ว แต่ก็ยังเจ็บใจไม่คลาย
ก็เห็นจักรพรรดิมารผลาญนภาสีหน้าไม่อภิรมย์นัก นางถอนหายใจเบาๆ คราหนึ่งก่อนจะพูดว่า “ช่างเถอะ ชมการต่อสู้ต่อไปก็พอ”
ไม่เพียงแค่นาง ตอนนี้สายตาของระดับจักรพรรดิคนอื่นๆ หยุดอยู่ที่หลินสวินในแดนลับโลกาสวรรค์แทบจะทั้งหมด เผยสีหน้าสนใจ
นี่เป็นการประชันที่กำลังต่างกันที่สุดตั้งแต่งานชุมนุมถกมรรคเริ่มขึ้นจนถึงตอนนี้
ฝั่งหนึ่งเป็นพวกพ้องที่จินตู๋อีเป็นผู้นำ แต่นอกจากพลังต่อสู้ของเขาที่โดดเด่น คนอื่นๆ ก็มีแค่จินเทียนเสวียนเยวี่ยที่พอจะมีรากฐานพลังอยู่บ้าง
ส่วนคนที่เหลือสามารถมองข้ามได้อย่างสิ้นเชิง
อีกฝั่งหนึ่งเป็นบุคคลชั้นยอดที่มีจู่เฟยอวี่และเยียนอวี่โหรวเป็นผู้นำ มีถึงยี่สิบกว่าคน บ้างเป็นผู้สืบทอดแกนหลักที่มาจากเรือนมรรคจักรวาล บ้างเป็นผู้สืบทอดแกนหลักที่มาจากเรือนมรรคเหล่ามาร
ขบวนรบยิ่งใหญ่เช่นนี้ ในแดนลับโลกาสวรรค์ปัจจุบันแทบจะสามารถทำทุกอย่างตามอำเภอใจได้แล้ว!
ตอนนี้ระหว่างทั้งสองฝ่ายเกิดการเข่นฆ่าขึ้น จิตตู๋อีที่เหนือความคาดหมายและล้มล้างการรับรู้ของทุกคน จะคลี่คลายสถานการณ์อันยากลำบากตรงหน้าอย่างไร
ทุกคนต่างใคร่รู้
……
“ฆ่า ฆ่าเจ้าสารเลวนี่ซะ!”
ในสนามรบจู่เฟยอวี่ส่งเสียงตะโกนราวกับฟ้าร้อง เดือดดาลอย่างสิ้นเชิง ถูกภาพที่ถูเชียนเจวี๋ยถูกคัดออกกระตุ้นอย่างที่สุด
“ฆ่า!”
เหล่าผู้สืบทอดเรือนมรรคจักรวาลและเรือนมรรคเหล่ามารเองก็ถูกกระตุ้นโทสะเช่นกัน แต่ละคนไอสังหารพุ่งทะลวงฟ้า เริ่มล้อมโจมตี
ตูมโครม…
ฟ้าดินผืนนี้ส่งเสียงกึกก้อง เสียงมรรคน่าตะลึง วิชามรรคน่าสะพรึงมากมายไหลพุ่งออกมาราวกับกระแสน้ำแน่นขนัด สะเทือนทั่วทิศ ซัดชั้นเมฆแหลกละเอียด
สมบัติสารพัดราวกับของไร้ค่า วาบประกายแสงทำลายล้าง ทะยานกลางอากาศ ทำให้ฟ้าดินอับแสงครวญคร่ำ
ภาพเช่นนี้น่ากลัวเกินไปจริงๆ มกุฎราชันอริยะชั้นยอดที่เรียกได้ว่าเป็นบุคคลชั้นยอดของโลกลงมือพร้อมกัน หากอยู่ในโลกภายนอก ความเสียหายที่เกิดขึ้นย่อมเหนือจินตนาการอย่างแน่นอน
ระดับจักรพรรดิที่โลกภายนอกกลั้นหายใจ ลอบกล่าวว่าคนรุ่นเยาว์ช่างวิปริตขึ้นทุกรุ่นจริงๆ!
พวกลู่ตู๋ปู้สะท้านไปทั้งตัว ขนลุกซู่
เพียงมองจากไกลๆ ยังทำให้จิตใจของพวกเขาสั่นสะท้าน รู้สึกถึงการคุกคามที่ทำเอาแทบหายใจไม่ออก แค่คิดก็รู้ว่าจินตู๋อีที่ตกอยู่ในการปิดล้อมหนาแน่นนั้นจะแบกรับความกดดันมากมายเพียงใด
“ฆ่าเลย ฆ่าเลย ฮ่าๆๆ…”
หวังถูคลี่ยิ้ม ดวงหน้าเล็กอ่อนเยาว์ราวกับเด็กน้อยเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหดและตื่นเต้น
แม้เป็นจินเทียนเสวียนเยวี่ยหัวใจยังแขวนลอยขึ้นมา อัดอัดกลางอก เตรียมพร้อมออกโจมตีช่วยหลินสวินตลอดเวลา
ไม่ใช่ว่านางไม่มั่นใจในตัวหลินสวิน แต่ศึกที่ถูกล้อมโจมตีเช่นนี้น่าสะพรึงเกินไปจริงๆ!
แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่หลินสวินจะนั่งรอความตาย
ชั่วขณะที่อีกฝ่ายลงมือ เขาก็เคลื่อนไหวเช่นกัน
เงาร่างของเขาพริบราวกับแสงกลุ่มหนึ่ง พุ่งดาหน้าเข้าไป
ชิ้ง!
ดาบหักทะยานออกมา ส่งเสียงครวญใสฮึกเหิม ราวกับเสียงที่กระหายเลือดสดๆ ฟันออกเป็นเส้นโค้งน่าทึ่งอย่างที่สุดกลางอากาศ
ตูม!
และในร่างหลินสวิน สารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณโคจรเดือดพล่านดุจเตาหลอม พลังทั้งหมดล้วนถูกเขาปลดปล่อยออกมาถึงขีดสุด
เขาในชั่วขณะนี้ราวกับมังกรออกจากเหว!
สายฟ้าสีม่วงแน่นขนัดแถบหนึ่งปกคลุมลงมา ภายในมีกฎเกณฑ์มหามรรคที่น่าตะลึงพริบวาบอยู่ ถึงกับเปลี่ยนเป็นกิเลนม่วงที่มีชีวิตชีวาฝูงหนึ่ง อานุภาพดุร้ายท่วมฟ้า
ใต้เท้าหลินสวินปรากฏชือน้ำแข็งตัวหนึ่ง แหงนหน้าส่ายหาง เสียงตูมดังขึ้นคราหนึ่ง โจมตีกิเลนม่วงฝูงนั้นจนพินาศ กลายเป็นละอองแสงล่องลอย
เคร้ง!
ดาบหักกับทวนสีทองปะทะกัน สะเก็ดไฟกระเด็นไปทั่ว ทวนทองส่งเสียงครวญ ถูกฟันกระเด็นลอยอย่างรุนแรง
และรอบตัวหลินสวินปรากฏปราณกระบี่ไท่เสวียนนับไม่ถ้วน แผ่กระจายออกกะทันหัน
ฝนกระบี่สิบทิศ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์