สรุปตอน ตอนที่ 1957 ข้าครองหุบเหวใหญ่ กำราบถ้วนทั่ว – จากเรื่อง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet
ตอน ตอนที่ 1957 ข้าครองหุบเหวใหญ่ กำราบถ้วนทั่ว ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เขาในชั่วขณะนี้อานุภาพน่าสะพรึงเกินไป!
“เร็ว ลงมือพร้อมกัน!”
จู่เฟยอวี่ตะโกน เขาเองก็รู้สึกใจสั่น หนังหัวชาวาบ ถึงขั้นไม่กล้าเชื่อว่าเหตุใดคนที่ถูกกำราบยังสามารถระเบิดอานุภาพน่ากลัวขนาดนี้ออกมาได้
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
“ฆ่า!”
เหล่าผู้สืบทอดที่มาจากสองเรือนมรรคใหญ่อย่างจักรวาลและเหล่ามารต่างสังเกตเห็นความไม่เข้าที เริ่มโจมตีเต็มกำลังโดยไม่ลังเลสักนิด
ฮูม!
วิชามรรคมากมายโฉบพุ่ง บ้างควบรวมเป็นประทับมรรคที่สายฟ้าตัดสลับทับซ้อน
บ้างวิวัฒน์เป็นนกเทพสัตว์โบราณที่อานุภาพดุดันล้นฟ้า…
มีเมฆลมสั่นไหว กลายเป็นประกายคมที่สว่างไสวอย่างที่สุดทะยานเข้ามา
มีน้ำไฟพวยพุ่ง เปลี่ยนเป็นกระแสน้ำเชี่ยวกรากพลิกตลบ…
มี…
วิชามรรคที่ระดับมกุฎราชันอริยะครอบครอง ล้วนประทับพลังกฎเกณฑ์มหามรรคอย่างไม่มีข้อยกเว้น ทุกการเคลื่อนไหวล้วนสามารถพลิกภูเขาคว่ำสมุทร พลังทำลายน่ากลัวอย่างที่สุด
แต่เหล่าผู้แข็งแกร่งในที่นั้นล้วนเป็นบุคคลชั้นยอดในระดับมกุฎราชันอริยะ บนเส้นทางมหามรรค ทุกคนล้วนมีความสำเร็จที่โดดเด่น วิชามรรคที่ครอบครองก็ล้วนเป็นมรดกชั้นสูงที่คุณลักษณะยอดเยี่ยม
พูดอย่างไม่เกินจริง เลือกใครคนหนึ่งออกมาลวกๆ ไปอยู่แคว้นอื่นยังสามารถเป็นใหญ่ในหมู่คนระดับเดียวกันได้!
และตอนนี้พวกเขาออกโจมตีเต็มกำลังพร้อมกัน อานุภาพที่เกิดขึ้นแค่คิดก็รู้ว่าน่ากลัวเพียงใด!
ตูมโครม…
ฟ้าดินสั่นไหว ปั่นป่วนทั้งแถบ
ภาพนั้นราวกับภาพเทพมารดึกดำบรรพ์ยาตราทัพสู่โลกอีกครั้ง เสียงท่องธรรมของอริยบุคคล เสียงมรรคอึงอล เสียงสวด เสียงมาร… ดังอย่างไม่ขาดสาย
ปรากฏการณ์ประหลาดที่ตะลึงโลกมากมายเกิดขึ้น มีสุริยันจันทราลับฟ้า มีภูผาธาราทรุดทลาย มีวัฏจักรดับสูญ มีจักรวาลพลิกกลับ…
เพียงแต่ในสายตาของหลินสวิน ทั้งหมดนี้ล้วนไม่มีความหมาย
ตูม!
พร้อมๆ กับที่เขาย่างก้าวไปเบื้องหน้า หุบเหวใหญ่บดบังฟ้า พลังกฎเกณฑ์มหามรรคอันลึกลับและคลุมเครือเปลี่ยนเป็นพลังบดขยี้กลืนกินไร้สิ้นสุด แผ่กระจายออก
ปรากฏการณ์ประหลาดมากมายเหล่านั้น เหมือนกระจกแก้วที่แตกง่าย จู่ๆ ก็พังทลายท่ามกลางเสียงกัมปนาทสะเทือนหู
วิชามรรคที่มหัศจรรย์อย่างที่สุดเหล่านั้นล้วนถูกบดขยี้ กลืนกิน และทำลาย!
เสียงสวดท่องธรรมของอริยบุคคลบรรพกาล เสียงคำรามของเทพมารเหล่านั้น… ล้วนเปลี่ยนเป็นเสียงร่ำไห้ทุกข์ตรม…
ภาพทำลายล้างแต่ละภาพ เกิดขึ้นกลางหุบเหวใหญ่
ไม่อาจขวางกั้น!
นี่เป็นการกำราบอย่างเด็ดขาดอย่างหนึ่ง!
วิชามรรคไม่ไหว สมบัติก็สู้ไม่ได้ กระบี่มรรคที่เป็นมรดกเก่าแก่ ดาบศึกคมปลาบไร้ทัดเทียม ทวนวงเดือน ทวนศึก ผนึกสมบัติ ขวดหยก ยันต์ เตาวิญญาณ…
ล้วนส่งเสียงครวญสลายไปท่ามกลางการกำราบกวาดล้างของหุบเหวใหญ่!
ตูมโครม…
กลางฟ้าดินสั่นสะเทือน ทุกที่ที่หุบเหวใหญ่พาดผ่านล้วนถูกกวาดล้างทั้งหมด
ส่วนหลินสวินราวกับนายเหนือหัวหุบเหวใหญ่ มีท่าทีเผด็จการที่กำราบสรรพวิชาและมรรคทั่วหล้า
“นี่เป็นไปได้อย่างไร”
“บนโลกนี้มีเขตแดนมรรคที่น่ากลัวขนาดนี้ได้อย่างไร”
เสียงตะโกนด้วยความเดือดดาลดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง พวกจู่เฟยอวี่ต่างหวาดกลัว ยากจะเชื่อ คนผู้หนึ่งจะสามารถกวาดล้างทั้งสนามรบได้หรือ
นี่เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
ควรรู้ว่าก่อนหน้านี้หลินสวินยังถูกพวกเขาปิดล้อมอย่างหนาแน่น กดข่มอย่างมั่นคงจนเงยหน้าไม่ขึ้นอยู่เลย
แต่พอหลินสวินปลดปล่อยเขตแดนมรรค กลับพลิกความเสียเปรียบได้ในชั่วพริบตา เปลี่ยนสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีก่อนหน้านี้
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ ตอนนี้เขาเริ่มการโต้ตอบอย่างแข็งกร้าวแล้ว!
“นี่ก็คือความองอาจที่แท้จริงของคุณชาย…”
ดวงตาคู่ใสของจินเทียนเสวียนเยวี่ยวาดหวัง เต็มไปด้วยประกาย หัวใจที่แขวนลอยในตอนแรกในที่สุดก็ผ่อนคลายลง ตะลึงกับสิ่งที่เห็น
พวกลู่ตู๋ปู้อึ้งจนอ้าปากค้าง พวกเขาก็ตกตะลึงจนหัวสมองว่างเปล่าแล้ว
คนผู้เดียว พลิกย้อนสถานการณ์ กำราบเหล่าผู้กล้าหรือ
นี่เหมือนปาฏิหาริย์ที่เหลือเชื่อกำลังเกิดขึ้นในขณะนี้!
โลกภายนอก เหล่าระดับจักรพรรดิเงียบกริบ อารมณ์ความรู้สึกพลุ่งพล่าน ได้เห็นวิธีพลิกสถานการณ์ของหลินสวิน ทำเอาพวกเขาต่างอึ้งงันอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ จากประสบการณ์และความเข้าใจของพวกเขา กลับไม่สามารถจำแนกนัยเร้นลับของเขตแดนมรรคที่หลินสวินสำแดงออกมาได้!
ปัง!
ในสนามรบมีคนหลบไม่ทัน โดนลูกหลงพลังหุบเหวใหญ่ ร่างกายเหมือนถูกมือใหญ่ไร้รูปข้างหนึ่งจับไว้อย่างแรง กล้ามเนื้อและกระดูกระเบิดออกทุกกระเบียด ราวกับถูกหินโม่บดขยี้ ใกล้จะตัวระเบิดแล้ว
“ไม่…”
คนผู้นี้ส่งเสียงโหยหวนด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัว ดิ้นรนเต็มกำลังแต่กลับไร้ประโยชน์ เห็นอยู่ว่าเขากำลังจะถูกหุบเหวใหญ่กลืนกิน คลื่นเคลื่อนย้ายระลอกหนึ่งปรากฏขึ้น พาเขาออกจากแดนลับโลกาสวรรค์
จากนั้นพร้อมๆ กับเสียงอึงอลของหุบเหวใหญ่ พื้นที่บริเวณนั้นมีผู้แข็งแกร่งหลายคนโดนลูกหลงอีกครั้ง ราวกับกิ่งไม้กระจัดกระจายตกเข้าไปในหินโม่ยักษ์ ถูกบดขยี้อย่างน่าอนาถ
ไม่ว่าจะเป็นวิชามรรคอะไร สมบัติป้องกันอะไร ล้วนถูกทำลายระเบิดแหลก ไร้ซึ่งพลังต้านทาน ถูกคัดออกไปท่ามกลางเสียงโหยหวนที่ดังขึ้นเป็นระลอกๆ ในพริบตา
แต่หลินสวินสีหน้านิ่งสงบ ทั่วตัวมีกลิ่นอายอันคลุมเครือพวยพุ่ง ก้าวไปเบื้องหน้าพร้อมหุบเหวใหญ่ สังหารถ้วนที่!
กลิ่นอายที่น่ากลัวนั่นราวกับจะบดขยี้และกลืนกินท้องฟ้าแถบนี้!
น้อยคนมากที่จะรู้ว่า หลินสวินใช้แรงใจและประสบการณ์ขนาดไหนกับเขตแดนมรรคของตน
ตั้งแต่ชั่วขณะที่เข้าสู่ทางเดินโบราณฟ้าดาราก้าวสู่ระดับราชันอริยะ เขาก็เริ่มสร้างต้นแบบของเขตแดนมรรคแล้ว
เพื่อแสวงหาเขตแดนมรรคที่สมบูรณ์แบบอย่างที่สุดและไม่เคยมีมาก่อน หลายปีมานี้เขาอนุมานและทดลองสิ่งนี้ไปไม่รู้กี่ครั้ง
แต่ผู้แข็งแกร่งหลายคนที่อยู่ข้างๆ เขาต่างยืนหยัดไม่ไหวแล้ว เหมือนแมลงเม่าที่ถูกจับ เงาร่างตกเข้าไปในหุบเหวใหญ่อย่างไม่อาจควบคุม
สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและไม่จำยอม
ถูกคัดออกออกจากสนามไปทันที
“ข้าจะสู้กับเจ้า!”
จู่เฟยอวี่คำราม เงาร่างราวกับมอดไหม้ ถือกระบี่เข่นฆ่า ปราณกระบี่ราวกับรุ้งขาวทะลุจันทรา ชั่วพริบตาก็ผ่าแหวกออกนับร้อยพันครั้ง
ปราณกระบี่ทุกสายล้วนรุนแรง ส่องสว่างท้องฟ้า
เพียงแค่สุดท้ายกลับตกลงในหุบเหวใหญ่ทุกสาย เหมือนสุริยันดวงโตมากมายตกเข้าไปในความมืดอย่างไร้สุ้มเสียง หายไปอย่างไร้ร่องรอย
นี่ทำให้จู่เฟยอวี่มือเท้าเย็นเยียบ
เขา…
เหตุใดจึงแข็งแกร่งเพียงนี้
“ความสามารถเท่านี้หรือ”
ตอนนี้เอง หลินสวินเสมองเขาแวบหนึ่ง ยกมือกดลงไป
พลังดรรชนีสายหนึ่งรวมตัวกลางอากาศ ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต สับสนโกลาหล ทุกที่ที่ผ่าน กลืนกินอากาศ ฝุ่นผงและกระแสอากาศโดยสมบูรณ์
และในสายตาของจู่เฟยอวี่ นิ้วมือนี้ก็เหมือนปากของสัตว์อสูรที่อ้าออกกลางอากาศ จะกลืนกินเขาไปทั้งตัว
เขาสั่นเทิ้มไปทั้งตัว เรียกได้ว่าหลบเหลีกอย่างเต็มกำลังโดยสัญชาตญาณ
โครม!
ตรงบริเวณที่เขายืนอยู่ในตอนแรก ผู้แข็งแกร่งหลายคนหลบไม่ทัน ถูกพลังดรรชนีนั่นกลบจนมิด หายไปจากสนาม
เฮือก!
จู่เฟยอวี่สูดหายใจเข้าด้วยความตกใจ หัวใจกระตุกวูบอย่างไม่เอาไหน เขาไม่กล้าจินตนาการเลยว่า เมื่อครู่นี้หากตนหลบไม่ทัน จุดจบจะรุนแรงเพียงใด
“รวบ!”
ชั่วขณะนี้ เยียนอวี่โหรวได้ตระหนักถึงความรุนแรงของสถานการณ์แล้ว แสดงเขตแดนมรรคของตนออกมาอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด
ก็เห็นหมอกพิรุณที่มัวหม่นราวกับภาพความฝัน เปลี่ยนเป็นภาพภูผาธาราที่เต็มไปด้วยสุนทรีย พิรุณราวกับม่าน ครอบหมื่นลักษณ์
ภูผาธาราหมอกพิรุณ!
ตกลงไป เหมือนตกสู่ส่วนลึกของห้วงความฝัน จะทำให้ผู้ฝึกปราณสูญเสียการรับรู้และสติปัญญาอย่างไร้สุ้มเสียง กลายเป็นแกะที่รอเชือด พ่ายแพ้อย่างไม่คาดคิด!
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ แม้เป็นคนที่สภาพจิตเข้มแข็ง ถูกขังในภูผาธาราหมอกพิรุณ ยังประสบเคราะห์สังหารที่ยากจะจินตนาการมากมาย แทบจะไม่มีความเป็นไปได้ที่จะรอดชีวิต
ภูผาธาราหมอกพิรุณ ยังเป็นที่ยอมรับและชื่นชมของยุคเก่าแห่งเรือนมรรคโลกาสวรรค์ คิดว่าคุณลักษณะของเขตแดนมรรคนี้ เรียกได้ว่าโดดเด่นไร้เทียมทาน สามารถโดดเด่นเหนืออดีตและปัจจุบัน บันทึกลงในประวัติศาสตร์มหามรรค
“ไป!”
สีหน้าของเยียนอวี่โหรวเคร่งขรึมและว่างเปล่า เผยความองอาจที่เย่อหยิ่ง ไม่หลงเหลือความตื่นตระหนกและตะลึงก่อนหน้านี้
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากความมั่นใจที่นางมีต่อพลังเขตแดนมรรคแห่งตน!
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์