ตอน ตอนที่ 2005 ไม่ประมาณตน จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 2005 ไม่ประมาณตน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
เมื่อปราณดาบที่มองข้ามหมื่นวิชาทั่วหล้านั้นฟันออกมา ก็ทำให้ทุกคนขนพองสยองเกล้า หลีกหลบกันหมด กลัวจะโดนลูกหลง
ความเร็วของปราณดาบรวดเร็วยิ่งนัก!
ยามหลินสวินเอ่ยปาก ปราณดาบที่เจิดจ้าดุจหิมะก็มาถึงตรงหน้าแล้ว
พลังป้องกันรอบตัวหลินสวินถูกปราณดาบโฉบผ่านเหมือนเครื่องประดับตกแต่งเช่นกัน
แต่ครั้งนี้หลินสวินไม่มีความคิดที่จะหลบ
ถึงขั้นไม่ไปต้านทาน
เขาแค่ยื่นมือข้างหนึ่งออกมา
ในเวลานี้ปราณดาบที่พุ่งมาตรงหน้านั้น ยามพุ่งมาถึงจุดที่ห่างจากศีรษะหลินสวินหนึ่งฉื่อก็พลันหยุดชะงัก ฟุ้งกระจายหายไปโดยไร้สุ้มเสียง
ทุกคนต่างนัยน์ตาหดรัด แทบไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง
จากนั้นถ้อยคำของหลินสวินจึงดังขึ้น ณ ที่นั้น
“วันนี้ดาบนี่ต้องเปลี่ยนเจ้าของ!”
ถ้อยคำที่ราบเรียบตามอารมณ์ กลับเหมือนว่ามีเวทมนตร์ประหลาดอย่างหนึ่ง
เห็นเพียง…
ชิ้ง!
เสียงสะท้อนใสของดาบเร้าระทึก
ดาบมหามรรคไร้วิชาที่ถูกควบคุมโดยซางจื่อเหยี่ยน ยามนี้เริ่มสั่นสะเทือนรุนแรง ดาบที่เจิดจ้าแหลมคมแผ่คลื่นพลังที่น่ากลัวออกมา
“ไม่…!”
ซางจื่อเหยี่ยนสีหน้าแปรเปลี่ยนยกใหญ่ พลังแผ่กระจายไปทั่วร่าง กำด้ามดาบไว้แน่น เส้นเลือดดำตรงหน้าผากปรินูนเป็นสายๆ
นี่คือดาบไร้วิชาที่ตกทอดมาในเผ่าจักรพรรดิตระกูลซางของเขา มองข้ามหมื่นวิชาทั่วหล้า อานุภาพเย้ยฟ้า ใช่ว่าศาสตราจักรพรรดิทั่วไปจะเทียบได้
หากไม่ใช่ว่าครั้งนี้เขามีโอกาสเข้ามาในเขตต้องห้ามเซียนโบราณ สัตว์ประหลาดเฒ่าในตระกูลพวกนั้นคงไม่ยอมให้เขายืมสมบัติล้ำค่าเช่นนี้มาใช้แน่
แต่ตอนนี้ดาบนี่กลับมีสัญญาณว่าจะควบคุมไม่ได้ ใกล้หลุดจากมือไป!
ตูม!
แต่ไม่ว่าซางจื่อเหยี่ยนจะออกแรงอย่างไร แค่ชั่วพริบตาดาบไร้วิชาก็ซัดสะเทือนอย่างแรง แยกนิ้วทั้งห้าของเขาออกจากกัน จากนั้นกลายเป็นแสงงามแปลกตาสายหนึ่งตกไปอยู่ในมือหลินสวิน
ดาบนี้ตกสู่กลางมือหลินสวินเหมือนลูกนกนางแอ่นกลับรังคนเดินทางไกลกลับบ้าน ส่งเสียงใสบางดังกระหึ่มดุจกระแสน้ำ ราวกับโห่ร้องยินดีอย่างตื่นเต้น
เหล่าผู้กล้าหันมามอง สีหน้าแปรเปลี่ยนครั้งใหญ่ แปลกใจสงสัยไม่หยุด มองไม่ออกว่าเกิดเรื่องประหลาดน่าเหลือเชื่อเช่นนี้ได้อย่างไร
ดาบไร้วิชา อานุภาพร้ายกาจซัดสะเทือนฟ้าดารา ทำให้บุคคลระดับจักรพรรดินับไม่ถ้วนหวาดกลัว ด้วยภายใต้ดาบนี้ ทุกวิชามรรคทั่วหล้าล้วนเหมือนเครื่องประดับตกแต่ง เรียกได้ว่าน่าหวาดกลัวถึงขีดสุด
ภาพที่หลินสวินเกือบถูกแหวกอกคว้านท้องก่อนหน้านี้ก็คือการพิสูจน์ที่ดีที่สุด
เดิมทีทุกคนคิดว่าหากมีดาบนี้อยู่ การที่หลินสวินจะยึดแท่นมรรคเข้าไปในประตูทลายนั่น ต้องไม่อาจเกิดขึ้นได้แน่
ใครจะคิดว่าหลินสวินถึงกับกำราบดาบนี่ได้ด้วยประโยคเดียว!
พอเห็นท่าทางคึกคักที่ส่งเสียงใสเริงร่าของดาบนี้ หลายคนต่างตาลายไปพักหนึ่ง บนโลกนี้คนทรยศพบเจอได้บ่อย แต่สมบัติจักรพรรดิที่เหมือนคนทรยศนี้พบเห็นได้น้อยนัก
ส่วนหลินสวินยามนี้พลันแช่มชื่นไปทั้งตัว
แม้จะถูกดาบไร้วิชาฟันไปบ้าง แต่ดีร้ายอย่างไรก็… นำดาบนี้มาไว้ในมือข้าได้แล้ว!
สาเหตุอยู่ที่ก้อนทองแดงซึ่งมาจากเตามารดาหลอมสมบัติแห่งแหล่งสถานคุนหลุนนั้น ทำให้ดาบไร้วิชาเหมือนเจอรังแรกเกิด!
“ไม่ คืนดาบมาให้ข้า!”
ท่ามกลางเสียงคำรามไม่ยินยอมและคับแค้น ซางจื่อเหยี่ยนพุ่งโจมตีเข้ามา ดวงตาแดงไปหมด ท่าทางเหมือนใกล้คลุ้มคลั่ง
เดิมทีเขามาครั้งนี้เพื่อชิงมหาสมบัติแรกกำเนิดนั่น แต่ตอนนี้เป็นอย่างไร ยังไม่เจอมหาสมบัติแรกกำเนิด กลายเป็นว่าสมบัติพิทักษ์ตระกูลซางของเขากลับถูกคนช่วงชิงไปแล้ว!
ฟุ่บ!
หลินสวินสะบัดข้อมือ ดาบไร้วิชาที่เจิดจ้าดุจหิมะฟันปราณดาบที่เหมือนน้ำตกรุ้งดาราออกมา
ภายใต้ดาบนี้ ซางจื่อเหยี่ยนที่ดูเหมือนวิกลจริตกลับไม่อาจไม่หลบหลีก ไม่กล้าฝืนปะทะอย่างสิ้นเชิง
เขารู้ชัดถึงความน่ากลัวของดาบนี้
ในเมื่อมองข้ามวิชามรรคก็ไม่อาจฝืนปะทะได้แต่แรก นอกเสียจากว่าจะเรียกสมบัติออกมาจึงจะได้
ทว่าสมบัติทั่วไปมีหรือจะเป็นคู่ต่อสู้ของดาบไร้วิชา
“ฆ่า รีบลงมือพร้อมกัน!”
เหล่าผู้กล้าต่างไม่กล้าชะล่าใจ บุกโจมตีเต็มกำลังพร้อมกับซางจื่อเหยี่ยน
หลินสวินก่อนหน้านี้แข็งแกร่งจนพาให้คนใจสะท้าน ยามนี้แม้จะได้รับบาดเจ็บ แต่ในมือเขากลับมีสมบัติจักรพรรดิที่อานุภาพเย้ยฟ้าชิ้นหนึ่งเพิ่มขึ้นมา!
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ตอนนี้หลินสวินอยู่ห่างจากประตูทลายนั่นแค่สามสิบจั้ง!
ภายใต้การล้อมโจมตี แม้ความเร็วในการมุ่งหน้าของหลินสวินจะเปลี่ยนเป็นเชื่องช้าหาใดเปรียบ แต่ละก้าวที่มุ่งไปข้างหน้าล้วนถูกขวางอย่างชวนประหวั่นยิ่ง
แต่จนถึงตอนนี้เขายังไม่เคยถอยสักก้าว!
“ฆ่า!”
ขณะเดียวกันหลินสวินก็พุ่งไปข้างหน้าสุดกำลัง เหนือศีรษะเจดีย์ไร้สิ้นสุดนั่งบัญชา สกัดกั้นสมบัติของเหล่าผู้กล้า ประทับไร้ชีพและธงไร้ระเบียบร่วมมือกันสังหารทั่วทิศ
และยามนี้ดาบไร้วิชาก็กลายเป็นยอดอาวุธสังหารในมือหลินสวิน!
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
ปราณดาบราวแพรไหมที่ขาวดุจหิมะสายแล้วสายเล่าพุ่งออกมา เปล่งประกายขาวโพลนลานตา ทำให้วิชามรรคที่เหล่าผู้กล้าฟาดฟันมาล้วนเปลี่ยนเป็นเครื่องประดับตกแต่ง ไม่อาจต้านทานได้อย่างสิ้นเชิง
ผู้แข็งแกร่งบางส่วนพุ่งหลบ ใช้สมบัติจักรพรรดิต้านทาน แต่ผู้แข็งแกร่งบางคนหลบไม่ทัน ได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที บนร่างปรากฏรอยดาบเลือดชโลม
แค่ชั่วขณะเท่านั้น หลินสวินเงื้อดาบผ่าแหวก สังหารผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งที่ขวางอยู่ข้างหน้า ร่างแบ่งเป็นสองท่อน ฝนโลหิตไหลพุ่งราวน้ำตก สภาพการตายชวนขนพองสยองเกล้า
ผู้แข็งแกร่งมากมายหนาวเยือกในใจ
อานุภาพของหลินสวินยิ่งใหญ่เกินไปแล้ว!
ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บติดกันสองครั้ง แต่เขากลับเหมือนคนที่ไม่เป็นอะไร โจมตีตลอดทาง อานุภาพดุจสายรุ้ง เผด็จการและดุดัน
การปรากฏตัวของดาบไร้วิชายิ่งเพิ่มภัยคุกคามที่ชวนให้ใจสั่นระรัวแก่เขา!
มองไปกลางลานอีกทีก็มีเงาร่างสายหนึ่งเพิ่มขึ้นมา เขาสวมชุดคลุมม่วง คิ้วกระบี่เนตรดารา กลางหน้าผากประทับรอยกระบี่สีเงินรอยหนึ่ง
เวินอวี๋!
ปีศาจแห่งยุคคนหนึ่งที่มาจากโลกอื่นในฟ้าดารา อัจฉริยะมรรคกระบี่ที่ไม่เคยปรากฏตัวบนโลก!
ทันทีที่เขาปรากฏตัว เหนือศีรษะก็มีร่มม่วงคันหนึ่งกางออก ตัวร่มหมุนวน โปรยละอองแสงสีม่วงสลัวรางนับหมื่นแสน
เมื่อปราณดาบที่ดาบไร้วิชาฟาดฟันพุ่งเข้ามา ก็ถูกละอองแสงสีม่วงที่พรั่งพรูจากตัวร่มนั้นขวางกั้น!
นัยน์ตาหลินสวินหดรัด ร่มม่วงคันนี้คือศาสตราจักรพรรดิที่อัศจรรย์เหลือประมาณชิ้นหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย!
ชุดคลุมม่วง ร่มม่วง ประทับกระบี่สีเงิน ทำให้การปรากฏตัวของเวินอวี๋มีอานุภาพที่น่าพรั่นพรึงเพิ่มขึ้น
“แท่นมรรคนี้ เจ้านำไปไม่ได้”
เสียงของเวินอวี๋ทุ้มต่ำ มีเสน่ห์ลุ่มลึกเฉพาะตัวอย่างหนึ่ง ดูหยิ่งผยองและเอาแต่ใจ “หากสู้กันตัวต่อตัว ข้ายอมรับว่าสู้เจ้าไม่ได้ แต่เจ้าในตอนนี้ไม่เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บ พลังกายยังสูญเสียจนไม่เหมือนก่อน เกรงว่าคงไม่มีหวังจะบุกเข้าไปในประตูทลายนั่นเท่าไหร่”
เหล่าผู้กล้าที่ล้อมโจมตีหลินสวินต่างคึกคักขึ้นมา เดิมทีจิตต่อสู้ของพวกเขาโยกคลอนไปแล้ว เชื่อว่าหลินสวินนั้นไม่อาจสั่นคลอน
แต่การปรากฏตัวของเวินอวี๋กลับทำให้พวกเขาเห็นความหวังครั้งใหม่
“สำหรับเจ้า ข้าคนแซ่หลินมีสี่คำจะมอบให้”
กลับเห็นนัยน์ตาดำของหลินสวินล้ำลึก ราบเรียบไร้คลื่นลม ริมฝีปากขยับพูดออกมาสี่คำเบาๆ “ไม่ประมาณตน”
ตูม!
ขณะกล่าวอานุภาพรอบตัวเขาพลันพุ่งพรวดขึ้นอีกช่วงใหญ่ สารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณภายในร่างถูกวิชาลับ ‘โทสะหยาจื้อ’ โคจรถึงขีดสุด
ต้องรู้ว่าเดิมทีโทสะหยาจื้อก็เป็นวิชาลับที่ใช้กระตุ้นศักยภาพแฝง เมื่อโคจรเต็มกำลังจะสามารถทำให้พลังต่อสู้ของผู้ฝึกปราณยกระดับขึ้นช่วงหนึ่ง
สีหน้าของเวินอวี๋เปลี่ยนไปเล็กน้อยในพริบตา
ตอนที่เขาปรากฏตัว เดิมคิดว่าคว้าโอกาสเหมาะได้แล้ว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลินสวินยังมีสิ่งที่เก็บงำเอาไว้!
แต่เขาไม่อาจคิดมากความ ด้วยการโจมตีของหลินสวินมาถึงแล้ว
ตูม!
ดาบไร้วิชาม้วนกลืนแผ่นฟ้า คมประกายเจิดจ้าดั่งธารดาราโน้มลงมา พุ่งโจมตีเข้ามาด้วยอานุภาพดุดันเหมือนกวาดล้างทั่วทิศ
“ไป!”
เวินอวี๋ดีดนิ้วรัวๆ กระบี่บินสีเงินที่หมอกแสงเจิดจ้าสามสิบหกเล่มพุ่งออกมา กลายเป็นค่ายกลกระบี่แน่นหนาเข้าปะทะหนักหน่วง
เสียงปะทะสะท้านฟ้าดังก้องขึ้น เหมือนภูเขาไฟสองลูกพุ่งชนกันเต็มแรง คลื่นสะเทือนที่น่ากลัวปะทุพล่าน ทำเอาผู้แข็งแกร่งหลายคนที่อยู่ใกล้ไม่อาจไม่หลบหลีก
ปึง!
เห็นเพียงเงาร่างของเวินอวี๋พลันถอยไปก้าวหนึ่งเหมือนถูกภูเขาบีบกด ห้วงอากาศใต้ฝ่าเท้าระเบิดออกสนั่นหวั่นไหว ส่วนเลือดลมทั้งตัวเขาก็ตีกลับทันที หน้าเปลี่ยนสีอีกครั้ง
“นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าไม่ประมาณตน”
ห่างออกไปหลินสวินนัยน์ตาเยียบเย็นเฉยชา พุ่งโจมตีเข้ามาอีกครั้ง ท่าทีแข็งกร้าวนั้นทำให้คนนับไม่ถ้วนใจสั่นสะท้าน
………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์