และนับแต่นี้ไปหลินสวินที่เดิมทีถูกเหล่าผู้กล้ากำราบจนบาดเจ็บสะสม ได้เริ่มเอาคืนอย่างแข็งกร้าวถึงขีดสุดแล้ว
เขาสู้จนอาบเลือด ร่างกายดุจเพลิงผลาญ จิตต่อสู้ทรงพลังสะเทือนเมฆา
แค่มองเงาร่างที่พุ่งสังหารตามลำพังของเขาจากไกลๆ ในใจเสวียนจิ่วอิ้นและหลิงเคอจื่อก็สั่นสะท้านอย่างบอกไม่ถูก
หน้าประตูทลายนี้หมู่ดาวเจิดจรัส เหล่าปีศาจรวมตัว บุคคลอย่างพวกหมีอู๋หยา จิ่งเทียนหนาน สามารถเป็นตัวแทนของกลุ่มคนที่แข็งแกร่งที่สุดในระดับมกุฎราชันอริยะในโลกปัจจุบัน
พวกเขามีผลงานการต่อสู้ที่รุ่งโรจน์ กิตติศัพท์เจิดจรัส หากสุ่มมาสักคนหนึ่งก็ย่อมเป็นยอดอัจฉริยะที่ชื่อเสียงสะเทือนทั่วฟ้าดารา
แต่จนถึงตอนนี้ ขนาดพวกเขาร่วมมือกันก็จัดการหลินสวินคนเดียวให้พินาศไม่ได้!
นี่คือเรื่องน่าเหลือเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย
ต้องรู้ว่าหลินสวินยึดแท่นมรรคต่อสู้กับเหล่าผู้กล้ามาตั้งแต่แรก ฆ่าฟันซัดกวาดตลอดทาง เลือดหลั่งอย่างต่อเนื่อง บุคคลแห่งยุคแต่ละคนล้วนร่วงหล่นอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา
กระทั่งเมื่อครู่เขายังบาดเจ็บสาหัส เปื้อนเลือดไปทั้งตัว เดิมทีตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายสุดขีด ถูกกำราบจนไม่อาจเงยหน้าขึ้น
แต่ตอนนี้เขากลับเริ่มเอาคืนอีกครั้ง!
ท่าทางในการต่อสู้ที่แข็งแกร่งและทรงพลังนั้น เหมือนเทพในตำนานที่ไม่อาจเอาชนะได้จริงๆ จะไม่ให้ตกตะลึงได้อย่างไร
เคลื่อนขวางซัดกวาดเป็นทางโลหิต บนโลกนี้จะมีสักกี่คนที่สู้เขาได้
ตูม!
ในสนามรบมีเสียงกัมปนาทดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราวฟ้าผ่าสะเทือนเก้าสวรรค์ แสงมรรคที่งามแปลกตาและสมบัติจักรพรรดิที่เริงระบำไม่หยุด เปิดฉากความโกลาหลและภาพการทำลายล้างครั้งใหญ่มากมาย
“อ๊าก…”
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้น ผู้สืบทอดแกนหลักของเรือนมรรคเหล่ามารคนหนึ่งร่างระเบิดกระจุย
เขาตายอย่างไม่เป็นธรรมที่สุด ด้วยทะเล่อทะล่าเข้าไปอยู่ระหว่างการประมือของหมีอู๋หยาและหลินสวินที่กำลังห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด ถูกลูกหลงจากการต่อสู้ที่น่าหวาดกลัวโจมตีจนร่างแหลกมรรคสลายทันที
น่ากลัวนัก!
ต้องรู้ว่าหากคนผู้นี้อยู่ในโลกภายนอก ก็เป็นบุคคลยิ่งใหญ่ที่โดดเด่นอย่างมาก แต่ในการต่อสู้ชุลมุนนี้กลับเห็นได้ว่าไม่ประมาณตนเองนัก
ปึง!
ไม่ทันไรหมีอู๋หยาถูกกระเทือนจนร่างไหวเอน
ปากหลินสวินก็กระอักเลือด แต่เขากลับก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งกร้าว มาถึงพื้นที่เก้าจั้งหน้าประตูทลายนั่น!
“ฆ่า!”
“ขวางเขาไว้!”
เสียงตวาดดังลั่น เหล่าผู้กล้าต่างบันดาลโทสะ ภายใต้การล้อมโจมตียังถูกหลินสวินเข้าประชิดประตูทลายได้ นี่ทำให้ในใจพวกเขาเหมือนถูกกระตุ้น เปลี่ยนเป็นคลุ้มคลั่ง
“พวกเจ้า… ขวางไม่อยู่หรอก…”
เสียงของหลินสวินแหบพร่า ผมเผ้ายุ่งเหยิง สีหน้าซีดเผือดจนแทบโปร่งแสง บาดแผลบนตัวหลั่งเลือดออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ พาให้หวาดหวั่น
แต่จิตต่อสู้ของเขาไม่เคยซึมเซาหรืออ่อนกำลังลงแม้แต่น้อย กลับเป็นว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม เด็ดเดี่ยวยิ่งกว่าเก่า ความมุ่งมั่นแห่งเจตจำนงราวกับไม่สั่นคลอนชั่วกาล!
“กำลังคนมีจำกัด หากพี่หลินดื้อดึงเช่นนี้ ต่อให้ศึกนี้ไม่ตายก็ต้องทำให้มรรควิถีของตนถูกทำลาย ทำไมต้องทำเช่นนี้ด้วย”
หมีอู๋หยาถอนหายใจเบาๆ
ขณะเดียวกันในใจเขาก็ลอบตระหนก ในการต่อสู้นี้เขาไม่ได้เก็บงำ แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้นหลินสวินก็ยังต้านการโจมตีของเขาภายใต้การถูกปิดล้อมได้ ทำให้เขารู้สึกผิดคาด
ยอดมรรคาของหลินสวิน ทำไมถึงแข็งแกร่งเช่นนี้
หมีอู๋หยาไม่เข้าใจ
โดยเฉพาะยามที่การต่อสู้ดำเนินมาถึงตอนนี้ เขาพลันพบว่า ‘สหายร่วมวิถี’ ที่ทำให้เขาชื่นชมเพียงคนเดียวนี้ ถึงกับมีจุดที่เขาไม่เข้าใจมากเหลือเกิน
ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายไม่ใช่แค่พลังมหามรรคที่ครอบครอง ความมั่นคงแห่งสภาวะจิต ความแข็งแกร่งแห่งเจตจำนง เรียกได้ว่าน่าหวาดกลัวเช่นกัน!
“แต่ข้ายังไม่ถึงคราวเข้าตาจน”
หลินสวินกล่าวชัดทีละคำ “พี่หมี เก็บความสงสารในใจเจ้าไปเถิด สู้ให้สุดกำลังก็พอ มิฉะนั้นอีกเดี๋ยวเจ้าต้องเสียใจภายหลังแน่!”
ตูม!
เขาโจมตีต่อไป แววตาเด็ดเดี่ยว จิตต่อสู้ดุจพวยพุ่ง
หมีอู๋หยาสูดหายใจลึก พลังขับเคลื่อนทั่วร่างหมุนวน แผ่อานุภาพเด็ดขาดอย่างไม่เคยมีมาก่อน
“ข้า… จะให้เจ้าแพ้อย่างมีเกียรติ!”
สภาวะจิตของเขาไม่มีคลื่นลมอีกแม้แต่น้อย มองหลินสวินเป็นคนรู้ใจ ทั้งมองเขาเป็นศัตรูตัวฉกาจคนเดียวที่เคยเจอในชีวิตนี้!
ทุกคนล้วนสังเกตเห็นอย่างชัดเจน หมีอู๋หยาเปลี่ยนไปแล้ว เขาในตอนนี้มีมาดไร้เทียมทานประหนึ่งว่าไร้คู่ต่อกร!
และเวลานี้เองที่ทำให้ผู้คนตระหนักได้อย่างลึกซึ้ง ว่าหมีอู๋หยาที่ครองอันดับหนึ่งของกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์มาหกร้อยปีน่าหวาดกลัวระดับใด!
“แพ้หรือ”
ใบหน้าซีดเผือดราวโปร่งแสงของหลินสวินเผยรอยยิ้มกำแหง
เขาหลินสวินต่อสู้บนฟ้าดารามาถึงตอนนี้ เคยแพ้สักครั้งหรือ
“พื้นที่เก้าจั้งตัดสินเป็นตาย เส้นทางของข้า… ต้องไร้คู่ต่อกร…”
หลินสวินสูดหายใจเข้าลึกๆ สายตากวาดมองคู่ต่อสู้ในที่นั้นทีละคน ความคิดทุกอย่างในหัวล้วนถูกสลัดทิ้งไปหมดในยามนี้
จิตใจว่างเปล่า ไร้ตัวตนไร้รูปลักษณ์
ความเจ็บปวดสาหัสที่เกิดจากบาดแผลชุ่มเลือดรอบตัว ความเหนื่อยล้าและอ่อนกำลังที่เกิดจากการผลาญพลังกาย… ทั้งหมดราวกับหายไป
ตูม!
ในการห้ำหั่นที่ดุเดือดหาใดเปรียบ กลิ่นอายต่อสู้ที่น่าพรั่นพรึงกระจายออกมาจากตัวหลินสวิน
พริบตานี้นัยน์ตาเยียบเย็นของเขาดุจเพลิงผลาญ ร่างกายเดือดพล่าน ยามขยับตัวจะมีอานุภาพที่โจมตีเก้าสวรรค์ แข็งกร้าวทะลุเมฆ
ห้วงอากาศใกล้เคียงล้วนระเบิดออกท่ามกลางเสียงครวญเสียดหู
“นี่…”
คนมากมายตกใจกลัว
“เป็นไปไม่ได้! เขาบาดเจ็บสาหัสเช่นนั้นแล้ว ทำไมอานุภาพกลับแข็งแกร่งขึ้นอีกช่วงใหญ่”
มีคนขุ่นเคือง ยากจะจินตนาการได้
เหตุการณ์นี้น่าเหลือเชื่อเกินไปจริงๆ ใครต่างก็มองออกว่าหลินสวินบาดเจ็บสะสม พลังกายเผาผลาญไปมาก มีโอกาสจะถูกซัดพินาศได้ตลอดเวลา
แต่ในสถานการณ์คับขันเช่นนี้อานุภาพของเขากลับเปลี่ยนไปอีกครั้ง เปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้ น่าหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม!
จิตต่อสู้ที่เร่าร้อนดั่งตะวันลุกโชนนั้นถึงขั้นทำให้ผู้แข็งแกร่งหลายคนลมหายใจสะดุด ล้วนหน้าเปลี่ยนสี
ในที่นั้นมีเสียงร้องดังขึ้นทันที ถูกกระตุ้นด้วยภาพนี้
เงาร่างหลินสวินถือโอกาสก้าวเข้าพื้นที่แปดจั้ง!
สำหรับทุกอย่างนี้เขาไม่รับรู้อะไร เขาในตอนนี้ราวกับเทพแห่งการต่อสู้ ซัดกวาดเก้าฟ้าสิบแผ่นดิน หยิ่งผยองไม่เป็นสองรองใคร!
ตูม!
วิชามรรครอบตัวเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง ร่างแปลงเป็นเหวลึกหมายจะกลืนกินสวรรค์
คัมภีร์กลืนกินไร้สิ้นสุด!
‘กลืนฟ้ากินดิน ช่วงชิงอานุภาพความว่างเปล่าเป็นของตน ความว่างเปล่าไร้สิ้นสุด พลังข้าไร้สิ้นสุด กายข้าไร้ขอบเขต วิชาข้าไร้จำกัด…’
นัยเร้นลับที่เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์เหลือทิ้งไว้ กลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งประหนึ่งหินหนืดที่เดือดพล่าน ถูกหลินสวินปลดปล่อยออกมาเต็มกำลังในการต่อสู้
“ไม่…!”
ผู้แข็งแกร่งหลายคนที่พุ่งสังหารมาทางหลินสวินราวกับถูกพายุที่น่ากลัวม้วนกลืน ร่างถูกกลืนเข้าไปในส่วนลึกของหุบเหวอย่างควบคุมไม่ได้ทันที
หลังจากเสียงกัมปนาทดังขึ้น ร่างกายของพวกเขาระเบิดกระจุย สารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณถูกกลืนกินและหลอมละลายหายไปในพริบตา
เวลานี้ท่าทางเผด็จการหาใดเปรียบของหลินสวินทำให้ทั้งที่นั้นสั่นสะเทือนอีกครั้ง ล้วนไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง
นี่ใช่ร่างที่บาดเจ็บหนักเจียนตายเสียที่ไหน
ไหนเลยจะเป็นการสู้สุดชีวิตของแสงสายัณห์ยามตะวันรอน
หลินสวินในตอนนี้แค่มองจากไกลๆ คนมากมายยังรู้สึกขนพองสยองเกล้า ราวตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง!
ตอนนี้หลินสวินก้าวไปข้างหน้าอีกหนึ่งจั้งแล้ว!
สีหน้าหมีอู๋หยาเปลี่ยนเป็นจริงจังอย่างยากจะได้เห็น จิตต่อสู้ทั้งตัวลุกโชนดุจอัคคี
หลินสวินในตอนนี้ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันน่ากลัวที่ถาโถมเข้าใส่ นี่ทำให้เขาเกินคาดหมาย และทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน
“ข้าอยากดูนักว่าภายใต้การสู้สุดชีวิตนี้ เจ้าจะยืนหยัดได้ถึงเมื่อไหร่!”
จิ่งเทียนหนานคล้ายไม่ยินยอมอย่างยิ่ง ส่งเสียงตวาดลั่น อานุภาพดุจอสนีบาตรวดเร็วรุนแรง พุ่งสังหารออกไป
พร้อมกันนั้นหลินสวินสำแดงคัมภีร์เก้ากระถางสยบหล้าออกมา หุบเหวลึกเปลี่ยนเป็นกระถาง จากหนึ่งกลายเป็นเก้า กำราบลงไป
เก้าคือจำนวนสูงสุด ทันทีที่เก้ากระถางปรากฏย่อมสยบได้ทั่วหล้า!
ตูม!
พริบตานี้จิ่งเทียนหนานราวกับถูกฟ้าผ่า ถูกเก้ากระถางบีบกดจนปากกระอักเลือด ร่างถอยกรูดไปหลายก้าวกว่าจะสลายการโจมตีนี้ได้
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นี่…
เป็นไปได้อย่างไร
หลิงหงจวงถือแส้อสนีสีเขียวโจมตีมาจากด้านข้าง แต่ถูกหลินสวินใช้เก้ากระถางกดข่มจนเซถอยไปเช่นกัน ใบหน้างามพลันซีดขาว สั่นสะท้านไปทั้งตัว!
นางสูดหายใจหนาวเยือกเช่นกัน ในใจพิศวง
หลินสวินในตอนนี้เหมือนนายเหนือหัวที่ไร้คู่ต่อกรในการต่อสู้ พาให้คนรู้สึกว่าไม่อาจต่อต้านได้
………………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์