Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2023

สรุปบท ตอนที่ 2023 เรื่องที่จัดการได้ด้วยหมัดเดียว: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 2023 เรื่องที่จัดการได้ด้วยหมัดเดียว จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2023 เรื่องที่จัดการได้ด้วยหมัดเดียว คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

คำพูดของจี้เสวียนราวกับพายุมรสุม หอบม้วนกลางฟ้าดิน

ระดับจักรพรรดิบางส่วนนัยน์ตาหดรัดลง

แม้จะเดาได้แต่ต้นว่าวันนี้จะมีตัวแปรบางส่วนปรากฏ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าตัวแปรนี้ดันปรากฏบนตัวหมากอย่างหลินสวินก่อนเสียได้

“ทุกคนไม่ต้องกลัว บุคคลในตำนานระดับจักรพรรดิเก้าชั้นฟ้าที่สูงส่งอย่างจักรพรรดิอสนีดับสูญ ยามนี้ก็เหลือแค่พลังจิตวิญญาณดั้งเดิมเสี้ยวเดียวเท่านั้น”

น้ำเสียงเฉยเมยไม่แยแสสายหนึ่งดังขึ้นเนิบๆ กลางฟ้าดิน เป็นเฒ่าดึกดำบรรพ์คนหนึ่งที่ซ่อนตัวในเงามืดส่งเสียงออกมา

อันที่จริงก่อนหลินสวินจะเดินออกมาจากอุโมงค์อากาศ ก็มีเฒ่าดึกดำบรรพ์ไม่น้อยในเงามืดเอ่ยปากออกมาแล้ว

บุคคลเหล่านี้ทำให้ผู้คนหวาดหวั่นยิ่งกว่าพวกจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิง จักรพรรดิสงครามเจวี๋ยอิ้นที่ออกหน้าอยู่ด้วยซ้ำ

เหตุที่ยังไม่ได้เผยร่องรอยเด่นชัดอย่างแท้จริงก็ง่ายดายยิ่ง เพื่อป้องกันการอุบัติขึ้นของตัวแปรนั่นเอง!

“ที่แท้ก็เป็นแค่พลังจิตวิญญาณดั้งเดิมเสี้ยวหนึ่ง”

สีหน้าของพวกจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงผ่อนคลายลงมาทันที ระดับจักรพรรดิเก้าชั้นฟ้าคนหนึ่ง สามารถทำให้พวกเขารู้สึกสิ้นหวังได้

แต่หากเป็นเพียงพลังจิตวิญญาณดั้งเดิมเสี้ยวเดียว…

ภัยคุกคามก็เหลืออยู่ไม่เท่าไหร่แล้ว!

จี้เสวียนเองก็สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศ เขาอดหัวเราะไม่ได้ คำพูดเรียบง่าย “ไม่ผิด ข้าเหลือแค่พลังจิตวิญญาณดั้งเดิมเสี้ยวหนึ่งจริงๆ แต่พวกเจ้าลองเดาดูก็ได้ ว่าหากข้าสู้สุดชีวิตจะลากคนไปตายด้วยได้สักเท่าไหร่”

คนไม่น้อยหน้าเปลี่ยนสี

น้ำเสียงเฉยเมยไม่แย่แสสายนั้นดังก้องขึ้นอีกครั้ง “น่าเสียดาย แม้เจ้าจักรพรรดิอสนีดับสูญจะสู้สุดชีวิตก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้”

“เรือนมรรคเหล่ามารเวิ่นเทียนหลัน?”

หัวคิ้วของจี้เสวียนขมวดมุ่น นัยน์ตาเจือแสงเทพน่าสยดสยอง

หลังจากนิ่งเงียบครู่หนึ่งจู่ๆ น้ำเสียงเฉยเมยไม่ยี่หระสายนั้นก็กล่าวกลั้วหัวเราะ “ดูท่าว่าความจำของพี่จี้เสวียนจะยังดีอยู่”

เวิ่นเทียนหลัน เฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับจักรพรรดิเก้าชั้นฟ้าคนหนึ่งในเรือนมรรคเหล่ามาร บุคคลเทียมฟ้าที่บรรลุจักรพรรดิกลายเป็นบรรพจารย์ ได้รับขนานนามว่า ‘บรรพจารย์จักรพรรดิคลื่นฟ้า’!

“พวกที่แพ้ภายใต้น้ำมือข้า ข้าจะลืมได้อย่างไร”

จี้เสวียนหัวเราะร่า

ประโยคเดียวทำให้คนมากมายในที่นี้สูดหายใจเฮือก หัวใจสั่นสะท้าน ที่แท้ก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้ว บรรพจารย์จักรพรรดิคลื่นฟ้าเคยพ่ายแพ้ภายใต้น้ำมือจักรพรรดิอสนีดับสูญ!

นี่เป็นความลับครั้งใหญ่ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครล่วงรู้

“เฮอะ!”

เวิ่นเทียนหลันเอ่ยปากแค่นเสียงเย็น “น่าเสียดาย เจ้าในตอนนี้ไม่มีคุณสมบัติให้ข้าลงมือเลยสักนิด เจ้าลองคิดดูก่อนดีกว่าว่าจะผ่านด่านตรงหน้านี้ไปได้อย่างไร!”

ตั้งแต่ต้นจนจบแม้แต่เงาร่างของเขาก็ยังไม่ปรากฏ

“อาจารย์อาเทียนหลันพูดถูก แค่พลังจิตวิญญาณดั้งเดิมเสี้ยวเดียวเท่านั้น ไม่ได้ทำให้น่าหวั่นใจ คิดอยากช่วยชีวิตเดรัจฉานน้อยนั่นยิ่งเพ้อฟันเข้าไปใหญ่!”

จักรพรรดิมารผลาญนภาจากเรือนมรรคเหล่ามารเช่นกันเอ่ยปากเสียงเย็น เรียกขวัญทุกคนให้ลงมือด้วยกัน กำจัดจี้เสวียนก่อน

จี้เสวียนนิ่งเงียบไม่เอ่ยคำ

วิญญาณกระบี่เย่จื่อเปล่งแสงเรืองรอง

หลินสวินสีหน้าผ่อนคลาย ต่อให้ศิษย์พี่แห่งคีรีดวงกมลเหล่านั้นไม่มา ในมือของเขา… ก็ยังมีไพ่ตายอยู่!

และในเวลานี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงประหลาดเกิดขึ้นอีกครั้ง…

ตำหนักสีทองที่เหมือนสร้างขึ้นจากเหล็กเทพหลังหนึ่งร่วงหล่นลงมาจากฟ้ากะทันหัน กดข่มจนห้วงอากาศครวญใกล้พังทลาย อานุภาพพลุ่งพล่าน เจิดจ้าไร้ขอบเขต

สุดท้ายส่งเสียงดังปัง กระแทกใส่ผืนดินกว้างที่ห่างจากหลินสวินไม่ไกล สะเทือนจนพื้นดินล้วนสั่นโคลง ฝุ่นควันคละคลุ้ง

“ตำหนักมหามรรคเก้าฟ้า!”

เหล่าจักรพรรดิต่างนิ่วหน้า เดาออกว่าผู้มาคือใคร

ก็เห็นตำหนักสีทองนั่นย่อขนาดเล็กลงเรื่อยๆ สุดท้ายเหลือความสูงเพียงหนึ่งฉื่อ ลอยละล่องไปอยู่ในมือคนผู้หนึ่งที่ปรากฏตัวกลางอากาศ

เงาร่างกำยำนั้นแผ่กลิ่นอายโอหังที่แข็งกร้าวทะยานฟ้า ยืนสบายๆ รอบกายปรากฏกฎเกณฑ์มหามรรคดั่งกระแสธาร

จักรพรรดิกระบี่ยอดมารซย่าสิงเลี่ย!

ชั่วขณะนี้หลินสวินเองก็จำฐานะของผู้มาใหม่ได้เช่นกัน พลันรู้สึกแปลกใจ เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าบิดาของซย่าเสี่ยวฉงเข้ามาร่วมด้วยได้อย่างไร

กลับเห็นซย่าสิงเลี่ยเผยยิ้มยโสโอหังออกมา กล่าวว่า “พลังจิตวิญญาณดั้งเดิมเสี้ยวเดียวของจี้เสวียนไม่พอ หากรวมกับข้าด้วยอีกคนเล่า”

“ซย่าสิงเลี่ย เจ้าไม่ใช่จากไปแล้วหรือ เหตุใดถึงยังเข้ามาพัวพันอีก”

มีคนอดถามไม่ได้

ก่อนหน้านี้ยามการเคลื่อนไหวของเขตต้องห้ามเซียนโบราณกำลังดำเนินอยู่ ซย่าสิงเลี่ยก็อยู่ที่นี่ด้วย แต่ช่วงกลางจู่ๆ ก็จากไป สิ่งนี้ทำให้ทุกคนคิดว่าเป็นเพราะเขาตระหนักได้ว่าสถานการณ์ไม่เข้าที ดังนั้นจึงถอนตัวจากไป

แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเขาดันกลับมาเวลานี้ หนำซ้ำยังแสดงจุดยืนจะช่วยหนุนหลังหลินสวินอีก!

ซย่าสิงเลี่ยทอดถอนใจ “ช่วยไม่ได้ ข้าคนแซ่ซย่ามีเพียงลูกสาวคนเดียว แล้วลูกสาวของข้าดันทนเห็นเจ้าหนูนี่ประสบเคราะห์ไม่ได้มากที่สุด ส่วนข้าน่ะ ติดหนี้ลูกสาวมากเกินไป ตอนนี้ก็ทนเห็นลูกสาวรู้สึกอดสูไม่ได้มากที่สุด เลยได้แต่สละชีวิตมาที่นี่ มาเล่นสนุกกับทุกท่านเสียหน่อย”

ทุกคนต่างจนคำพูดไปชั่วขณะ

เพราะเหตุผลนี้ แม้แต่ชีวิตก็ไม่สนแล้ว จักรพรรดิกระบี่ยอดมารนี่เสียสติไปแล้วหรือ

หลินสวินยังรู้สึกแปลกใจไปพักหนึ่ง เขากล้าฟันธงว่ายักษ์ใหญ่แห่งยุคระดับซย่าสิงเลี่ย จะต้องดูออกว่าการเดินหมากครั้งนี้น่าสะพรึงและอันตรายปานใดอย่างแน่นอน

แต่เขาก็ยังมา!

ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับซย่าเสี่ยวฉงหรือไม่ ล้วนทำให้ในใจหลินสวินซาบซึ้งไม่สิ้น คำที่ว่าบุญคุณล้นฟ้าก็เป็นเช่นนี้เอง

“อยากรนหาที่ตายหรือ ข้าค่อนข้างสนใจตำหนักมหามรรคเก้าฟ้าหลังนี้ของเจ้าพอดี ครั้งนี้… ทิ้งชีวิตเจ้าเอาไว้ด้วยเลยเป็นอย่างไร”

เสียงแก่ชราที่ก่อนหน้านี้เคยห้ามปรามเสวียนซั่งเฉินผู้นำตระกูลเสวียนดังขึ้น

จากนั้นเงาร่างสีแดงเพลิงสายหนึ่งปรากฏ ครานี้เป็นชายสวมชุดนักพรตแดงเพลิงคนหนึ่ง ผิวพรรณขาวเนียนดุจหยก ใบหน้าหล่อเหลาไร้ทัดเทียม ดวงตาสะท้อนลำแสงเพลิงน่าสะพรึง

เมื่อมองดูอย่างถี่ถ้วน กฎเกณฑ์เปลวเพลิงเป็นสายๆ ราวกับมังกรเพลิงรายล้อมอยู่รอบตัวเขา ประหนึ่งเทพที่ถือกำเนิดท่ามกลางเพลิงวิเศษ!

บรรพจารย์จักรพรรดิชื่อหง!

เฒ่าดึกดำบรรพ์คนหนึ่งของเรือนมรรคจักรวาล มีบารมีผ่าเผยที่สามารถทำให้สรรพชีวิตทั่วหล้าสั่นสะท้าน ตำนานที่เกี่ยวข้องกับเขาย้อนไปถึงช่วงยุคดึกดำบรรพ์ได้เลยทีเดียว!

บรรยากาศในที่นั้นพลันเปลี่ยนเป็นกดดันหาใดเปรียบทันที

เพราะ ณ เวลานี้ บรรพจารย์จักรพรรดิชื่อหงเป็นพวกน่าสะพรึงคนแรกที่เดินออกจากเงามืด อย่ามองว่าเขาหน้าตาหล่อเหลาท่าทางยังหนุ่ม ความจริงแล้วเป็นเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่มีชีวิตอยู่มาไม่รู้กี่หมื่นปี

“ข้าไปล่ะ”

จี้เสวียนมองหลินสวินอีกปราดหนึ่ง ก่อนหน้านี้เขารับคำจะช่วยซย่าสิงเลี่ยลงมือ เป็นเพราะหลินสวินเคยบอกว่าการเดินหมากครั้งนี้เขายังมีไพ่เด็ดอยู่

“ผู้อาวุโสแค่สู้สุดฝีมือก็พอ”

หลินสวินพยักหน้าด้วยสีหน้าราบเรียบ

“ดี”

จี้เสวียนทะยานฟ้าออกไป เงาร่างพุ่งโฉบเข้าสู่ส่วนลึกของเวิ้งฟ้า กลายเป็นฝนฟ้าคะนองไร้สิ้นสุดเดือดพล่าน

เหมือนอย่างการวัดฝีมือน่าสะพรึงที่เป็นของระดับจักรพรรดิ ทำเอาเวิ้งฟ้านั่นปั่นป่วน ผุดเผยภาพเหตุการณ์อันน่าสะพรึงฉากแล้วฉากเล่าออกมา ประหนึ่งวันสิ้นโลกใกล้มาเยือนก็ไม่ปาน

จาระดับในปัจจุบันของหลินสวิน ยากจะสอดส่องภาพเหตุการณ์เข่นฆ่าภายในนั้นได้แม้แต่น้อย แต่เพียงแค่มองดูเฉยๆ ก็ยังทำให้เขาหายใจลำบาก ตกใจสะเทือนขวัญ

ทว่าต่อมา ในใจของเขาก็ผุดความรู้สึกอันตรายสุดขีดออกมา

สวบ!

มือยักษ์สีเขียวล้วนข้างหนึ่งควบรวมกลางอาหาศ คว้าตะครุบมาทางเขา

เห็นได้ชัดว่า เจ้าของมือยักษ์หมายจะถือจังหวะสบโอกาสตอนที่จี้เสวียน ซย่าสิงเลี่ยล้วนไม่อยู่ จับกุมตัวหลินสวินเอาไว้

กระบี่ส่งเสียงครวญกระหึ่ม วิญญาณกระบี่เย่จื่อพุ่งโจมตี ปราณกระบี่ดุเดือดประหนึ่งคับฟ้า เผด็จการไร้สิ้นสุด แต่ระหว่างต้านทานฝ่ามือยักษ์สีเขียวนั้น ถึงกับถูกกดข่มจนถอยกรูดทีละน้อย เริ่มส่อแววประคับประคองไม่อยไหวอยู่รำไร

“เจ้าเดรัจฉาน เข้ามาสิ!”

จักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงที่เพ่งความสนใจที่ตัวหลินสวินมาโดยตลอดส่งเสียงหัวเราะ ยื่นมือหยกเรียวงามข้างหนึ่งออกมาแหวกห้วงอากาศคว้าตะปบไปทางหลินสวิน

“เรื่องที่จัดการได้ด้วยหมัดเดียว เหตุใดยังต้องเข้าไป”

เสียงเอื่อยเฉื่อยอู้อี้สายหนึ่งดังขึ้น

และที่เร็วยิ่งกว่าเสียงก็คือพลังหมัดสายหนึ่ง

หมัดนี้ เรียบง่ายธรรมดา ตรงไปตรงมา แต่กลับเสมือนสามารถทลายอุปสรรคกีดขวางทั้งหมด มีอานุภาพอาจองคงกระพัน พุ่งไปข้างหน้าอย่างอาจหาญ

หมัดนี้ ก็เหมือนเอ่ยถามแทนหลินสวิน

ภายใต้หมัดนี้ พลังกรงเล็บของจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงนั้นก็แตกกระจุยราวกับเยื่อกระดาษ เห็นได้ชัดว่าเหลือทนปานนั้น

และตัวของจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงเองก็ส่งเสียงกรีดร้องสะพรึงกลัวออกมา

หมัดนี้ เผด็จการถึงขีดสุด ทำให้เจตจำนงต่อสู้ของนางพังทลาย สภาพจิตใจยับเยิน งัดใช้สิ่งที่เรียนรู้มาทั้งหมด ยังไม่สามารถต้านทานได้แม้เพียงพริบตาเดียวด้วยซ้ำ

ตูม!

พร้อมๆ กับเสียงแตกกระจุยที่อื้ออึงประหนึ่งสายฟ้า ร่างกายของจักรพรรดิหญิงวิญญาณเพลิงราวกับถูกหินโม่บดขยี้ แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นละอองแสงระฟ้าระเหยหายลับไป

หมัดเดียว จักรพรรดิหญิงผู้สูงส่งคนนี้ บุคคลเทียมฟ้าที่สูงสง่าน่ายำเกรงคนหนึ่งของเรือนมรรคจักรวาล ขวัญหลุดวิญญาณกระเจิงทั้งอย่างนี้!

ทั่วลานสั่นสะท้านไปกับเรื่องนี้ด้วย

——

Manga Info

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์