ตอนที่ 2029 หยอกเย้าบรรพจารย์จักรพรรดิกลางฝ่ามือ
กระสวยบินตัดผ่านเวียนวน เหมือนกำลังเย็บปักถักร้อย
แต่กระบี่สายฟ้าของบรรพจารย์กระบี่อวิ๋นกวงกลับถูกสลายไปอย่างไร้สุ้มเสียงเช่นนั้น
หลินสวินก็ยืนอยู่ด้านหลังรั่วซู่ แต่เมื่อเห็นภาพนี้เขากลับไม่รับรู้อะไร แค่รู้สึกได้ถึงพลังที่สั่นสะเทือนจิตใจอย่างหนึ่ง
พลังนั้นอยู่เหนือจินตนาการ ไม่ใช่สิ่งที่เขาในตอนนี้หยั่งรู้ได้
แต่เขารู้ดีว่าหากกระบี่นี้ฟันไปทางระดับจักรพรรดิคนใดคนหนึ่งในที่นั้น ย่อมต้องสิ้นชีพในกระบี่เดียวแน่!
กลับเห็นรั่วซู่พูดเหมือนไม่ใส่ใจ “มหามรรคที่ข้าเสาะหา ใช้เล็กสื่อใหญ่ มองเห็นจุดเล็กรับรู้ถึงภาพรวม คล้ายลมวสันต์ผันแปรเป็นหยาดฝน เห็นความจริงโดยไร้สุ้มเสียง”
ตูม!
หมัดของบรรพจารย์จักรพรรดิเชียนกู่ซัดเข้ามา เต็มไปด้วยพลังกดดันสูงส่ง ทำให้ห้วงอากาศใกล้เคียงทรุดตัว แต่มีเพียงพื้นที่ซึ่งหลินสวิน รั่วซู่ เสวี่ยหยายืนอยู่ที่ทนทานมั่นคง ไม่เคยได้รับการโจมตีใดๆ
ส่วนพลังหมัดที่น่ากลัวนั้นก็ถูกพลังของ ‘ค่ายกลอาภรณ์สวรรค์’ สลายไปโดยไร้สุ้มเสียง
“เปิด!”
ชายชราชุดนักพรตที่มาจากเรือนมรรคดึกดำบรรพ์เรียกกระถางมังกรไฟออกมา เพลิงเทพนับหมื่นไหลพุ่ง ฝังกลบพื้นที่แถบนี้ไว้สิ้น
แต่เพียงพริบตาก็ถูกค่ายกลอาภรณ์สวรรค์คลี่คลาย
“นี่…”
ชายชราชุดนักพรตมีนามว่าบรรพจารย์จักรพรรดิเจินเจวี๋ย กระถางมังกรไฟที่ครอบครองก็เป็นยอดสมบัติที่เหนือธรรมดาชิ้นหนึ่ง พลังต่อสู้ท่วมท้นสามารถทำให้ระดับจักรพรรดิบนโลกขวัญหนีดีฝ่อ
แต่ตอนนี้เขากลับหน้าเปลี่ยนสี
ไม่ใช่แค่เขา บรรพจารย์กระบี่อวิ๋นกวงและบรรพจารย์จักรพรรดิเชียนกู่ก็เช่นกัน
สามคนออกโจมตีพร้อมกันแต่กลับถูกต้านทาน ไม่เคยสั่นคลอนอีกฝ่ายได้แม้เศษเสี้ยว นี่เห็นได้ว่าน่าเหลือเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย
รั่วซู่กล่าวต่อไป “ศิษย์น้อง หนึ่งเม็ดทรายหนึ่งก้อนหิน หนึ่งกอหญ้าหนึ่งต้นไม้ ล้วนเหมือนโลกแห่งหนึ่ง หนทางแห่งการฝึกปราณ เมื่อรู้ภาพรวมแล้วก็ไม่อาจละเลยจุดเล็กๆ บนเส้นทาง เช่นนี้จึงจะรับรู้ความอัศจรรย์ของ ‘เล็กใหญ่ดั่งใจ’ ได้”
นางดูคล้ายรอบข้างไร้คน พูดคุยด้วยท่าทีไม่สะทกสะท้าน ในสถานการณ์ที่อันตรายหาใดเปรียบนี้ เห็นได้ว่าไม่เข้ากันอย่างยิ่ง
แต่ไม่ว่าใครจะมองไปทางนาง สีหน้าก็ล้วนเปลี่ยนเป็นจริงจังหาใดเปรียบ
“ฆ่า!”
บรรพจารย์กระบี่อวิ๋นกวง บรรพจารย์จักรพรรดิเชียนกู่และบรรพจารย์จักรพรรดิเจินเจวี๋ยสูดหายใจลึก ออกโจมตีอีกครั้ง
พลังที่บรรพจารย์จักรพรรดิครอบครองแน่นอนว่าน่าหวาดกลัวผิดธรรมดา ภายในหนึ่งห้วงคิดก็ออกคำสั่งได้หมื่นวิชา เผยวิชาชั้นสูงออกมาจนหมด
ตูม…
ฟ้าดินแถบนี้สั่นสะเทือน ล้วนมีสัญญาณว่าจะพังทลายย่อยยับ
เคราะห์ดีที่เขาเมฆาตั้งอยู่ในอาณาเขตเหนือสุดของโลกใหญ่หงเหมิง เชื่อมต่อกับ ‘แดนปริศนา’ ที่กว้างใหญ่ไร้ขอบเขต มีร่องรอยผู้คนบางตา หลังจากศึกแห่งบรรพจารย์จักรพรรดิขนาดใหญ่นี้ปะทุขึ้นจึงไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายของผู้บริสุทธิ์มากเกินไป
แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น เขตแคว้นที่เขาเมฆาตั้งอยู่นี้ก็ยังถูกลูกหลง ตัวเมืองนับไม่ถ้วนสั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ทั้งมีสิ่งมีชีวิตไม่รู้เท่าไรหวาดผวาหน้าถอดสี
แม้แต่ผู้ฝึกปราณก็ล้วนตกใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กระวนกระวายอยู่ไม่สุข
ด้วยในสายตาของพวกเขา บนเวิ้งฟ้านั่นสะท้อนลักษณ์ประหลาดน่ากลัวที่น่าเหลือเชื่อมากมาย ประหนึ่งทวยเทพกรำศึกอยู่ภายใน กลิ่นอายทำลายล้างชวนตะลึงอบอวล
สีเลือดแดงก่ำย้อมม่านนภาจนแดงพิกล
ราวกับวันสิ้นโลกมาเยือน!
…
การต่อสู้ระหว่างระดับบรรพจารย์จักรพรรดิเช่นนี้ หลินสวินผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่งเดิมทีก็ไม่อาจรับรู้นัยเร้นลับในนั้นได้แต่แรก
รสชาตินั้นเหมือนมดปลวกตัวหนึ่ง เห็นเทพมังกรบนสวรรค์กำลังห้ำหั่นกัน รู้แค่การต่อสู้นี้น่าสะพรึงไร้ขอบเขต แต่น่ากลัวแค่ไหนนั้นกลับไม่อาจรับรู้
ก็เหมือนกับตอนนี้ เขาได้แต่เห็นว่าศิษย์พี่รั่วซู่สร้างค่ายกลอาภรณ์สวรรค์ขึ้นมาเหมือนสนเข็มร้อยด้าย คนผู้เดียวต้านการโจมตีของบรรพจารย์จักรพรรดิสามคนเพียงลำพัง เห็นได้ว่าฝีมือยอดเยี่ยม ดูสงบผ่อนคลาย
เห็นแค่ศิษย์พี่เสวี่ยหยาท่องคัมภีร์มรรค ไอพลังยิ่งใหญ่พุ่งทะลวงฟ้าดิน กว้างใหญ่ไร้ขอบเขต
และส่วนลึกของเวิ้งฟ้านั่น การต่อสู้ของศิษย์พี่ผู่เจินและศิษย์พี่จวินหวนก็เป็นแบบเดียวกัน
เมื่ออยู่กลางการต่อสู้เช่นนี้ หลินสวินรู้สึกว่าตนตัวเล็กจ้อยเพียงนี้เป็นครั้งแรก ราวกับกลายเป็นผู้ชมที่ไม่รู้จักประมาณตนคนหนึ่ง
อย่าว่าแต่เข้าไปยุ่งเลย หากไม่มีการคุ้มครองของเหล่าศิษย์พี่ ก็คงถูกคลื่นพลังจากการต่อสู้กลางฟ้าดินนี้กำจัดไปนานแล้ว!
หลินสวินอดคิดไม่ได้ว่าศึกมรรคสิบทิศในสมัยดึกดำบรรพ์ ศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิครั้งบรรพกาล… ก็น่ากลัวเช่นนี้หรือไม่
ตูม!
เสียงกัมปนาทน่าหวาดกลัวระลอกหนึ่งดังขึ้น ฟ้าสะท้านดินสะเทือน ในความรางเลือนเหมือนมีดวงดาวมากมายถูกซัดแตก ร่วงหล่นอยู่นอกห้วงอากาศว่างเปล่า
ในการต่อสู้นี้ทุกหนแห่งล้วนปรากฏภาพแห่งการทำลายล้างที่ใต้หล้าดับสูญ สรรพสิ่งกลายเป็นจุณ เสียงมรรคที่กึกก้องและแสงศักดิ์สิทธิ์ที่โหมกระหน่ำ ทำให้ที่นี่เปลี่ยนเป็นโกลาหลอลหม่าน
ระดับจักรพรรดิบางส่วนล้วนไม่อาจไม่หลบหลีก!
พรูด!
ไม่ทันไรบรรพจารย์กระบี่อวิ๋นกวงก็กระอักเลือด ถูกกฎเกณฑ์ราวกับด้ายไหมสายแล้วสายเล่าพัวพัน เกือบจะรัดเขาจนตาย นี่ทำให้เขาตกใจจนหน้าถอดสี คิดถอยหนีโดยไม่ลังเล
แต่เมื่อหันหลังกลับเขาพลันพบว่าฟ้าดินแถบนี้ถูกตัดขาดนานแล้ว ส่วนตัวเขาก็เหมือนถูกขังไว้ในกรง หาทางออกไม่เจอ!
ขณะเดียวกันเสียงที่อ่อนโยนนั้นของรั่วซู่ก็ดังขึ้น “ศิษย์น้องดูสิ อาภรณ์สวรรค์ไร้ตะเข็บ ในเมื่อเป็นค่ายกลแล้วย่อมไม่มีใครหนีพ้น บรรพจารย์จักรพรรดิแล้วอย่างไร ก็เป็นแค่ตะพาบในไหเท่านั้น”
‘จนถึงตอนนี้แล้ว นางยังอธิบายวิชามรรคให้เจ้านั่นฟังอีก ในสายตานางยังมีคู่ต่อสู้อย่างพวกเขาอยู่หรือไม่’
ใบหน้าชราของบรรพจารย์กระบี่อวิ๋นกวงแดงก่ำ บังเกิดความคับแค้นและอับอายอย่างบอกไม่ถูกขึ้นในใจ รสชาติที่ถูกมองข้ามเช่นนี้เขาไม่เคยสัมผัสมาไม่รู้กี่ปีแล้ว
“เปิด!”
บรรพจารย์กระบี่อวิ๋นกวงแผดเสียงคำราม
ตูม!
เงาร่างเขาปรากฏแสงมรรคไร้สิ้นสุด ควบรวมพลังกฎเกณฑ์สูงส่งออกมา ปลดปล่อยมรรควิถีระดับบรรพจารย์ทั้งตัวเต็มกำลัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์