Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2030

ตอนที่ 2030 ตัวข้าคลุมเครือดั่งบัวเขียว

คำชี้แนะของรั่วซู่ หลินสวินได้ยินชัดทุกถ้อยคำ จดจำขึ้นใจ แต่หลักการที่แฝงอยู่ในนั้นเขากลับไม่อาจเข้าใจ

นี่ก็คือหลักแห่งมหามรรค ระดับขั้นไม่พอ รับฟังไปก็ป่วยการ

แน่นอนว่าหลินสวินเชื่อว่าวันหนึ่งที่ตนก้าวสู่ระดับจักรพรรดิ ต้องเข้าใจความหมายนี้ของศิษย์พี่รั่วซู่แน่

ทุกคนในบริเวณนั้นใจสะท้าน ทุกสายตาที่มองไปยังรั่วซู่ล้วนเต็มไปด้วยความหวั่นเกรง ถึงขั้นเผยอาการหวาดกลัว

เย้าหยอกบรรพจารย์จักรพรรดิกลางฝ่ามือ นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย!

แม้แต่เฒ่าดึกดำบรรพ์บางคนที่ลอบซุ่มตัวอยู่เวลานี้ก็เงียบไป

การประชันหมากนี้ดำเนินมาถึงตอนนี้ รวมหลินสวินนั่นแล้ว ฝั่งคีรีดวงกมลเพิ่งมีผู้สืบทอดลงมือแค่สี่คน แต่ยังเป็นฝ่ายได้เปรียบ

แม้แต่บรรพจารย์จักรพรรดิก็ไม่สามารถสร้างแรงคุกคามได้ แล้วเช่นนี้จะสู้ได้อย่างไร

อันที่จริงทุกอย่างนี้ล้วนอยู่เหนือการคาดเดาของผู้คนอย่างสิ้นเชิง

ตอนแรกพวกเขามองหลินสวินเป็นเหยื่อล่อ วางภาพรวมครอบฟ้า นอกจากต้องการชิงมหาสมบัติแรกกำเนิดชิ้นนั้นมาไว้ในมือแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าคือฉวยโอกาสนี้กำจัดผู้สืบทอดคีรีดวงกมลพวกนั้นในคราเดียว

แผนการก็เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ แต่กลับเกิดตัวแปรมากเกินไป!

อย่างจวินหวน ผู่เจิน เสวี่ยหยา รั่วซู่ทั้งสี่คน แต่ละคนล้วนแข็งแกร่ง ระดับจักรพรรดิทั่วไป เมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเขาก็ไม่อาจสร้างแรงคุกคามได้แต่แรก

ต่อให้เป็นระดับบรรพจารย์จักรพรรดิ ถึงตอนนี้ก็ร่วงหล่นไปแล้วหกคน!

สองคนถูกจวินหวนฆ่า คนหนึ่งถูกผู่เจินสังหาร สามคนถูกรั่วซู่กำราบกลายเป็นรังไหม

หากรวมบรรพจารย์จักรพรรดิสี่คนอย่างหลิงเหอ ทุนเจียง จิ่วหนิง เมี่ยวหลุนที่สิ้นชีพด้วยเงื้อมมือรั่วซู่ไปก่อนหน้านี้ ก็มีระดับบรรพจารย์จักรพรรดิร่วงหล่นไปสิบคนแล้ว!

จำนวนนี้น่าหนักใจจนพาให้คนหายใจไม่ออกจริงๆ

ระดับบรรพจารย์ บรรพจารย์แห่งมรรค หากอยู่ในขุมอำนาจใหญ่อย่างหกเรือนมรรคใหญ่ ก็เรียกได้ว่าเป็นแกนพลังที่เหมือนเสาหลักคนสำคัญ มีจำนวนจำกัดอย่างมาก

หลังจากศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิครั้งบรรพกาลสิ้นสุด ในกาลเวลาเกือบแสนปีจนถึงตอนนี้ ไม่เคยมีเหตุการณ์นองเลือดเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน

แต่ตอนนี้บรรพจารย์จักรพรรดิกลับร่วงหล่นดุจสายฝน!

หากเรื่องนี้กระจายออกไป ทั่วทางเดินโบราณฟ้าดาราต้องตกอยู่ในความปั่นป่วนอย่างไม่เคยมีมาก่อน เปิดฉากความโกลาหลที่ยากจะจินตนาการ

“ศิษย์น้อง นี่เป็นแค่อาหารเรียกน้ำย่อย เจ้าเฒ่าบางคนยังรออยู่ แต่ก็ช่างปะไร การประชันหมากในวันนี้ตัวแปรเกินคาดเดา พวกเขาข่มอารมณ์ได้ พวกเรา… ก็ทำได้”

คำพูดนี้ของรั่วซู่ทำให้หลินสวินอึ้งงันอย่างอดไม่ได้

ศึกแห่งบรรพจารย์จักรพรรดิที่อันตรายและนองเลือดเช่นนี้ เป็นแค่อาหารเรียกน้ำย่อยหรือ คนที่ถูกมองเป็น ‘เจ้าเฒ่า’ พวกนั้นจะน่ากลัวมากเพียงใด

ไม่รอให้หลินสวินตอบสนอง เสียงสื่อจิตของรั่วซู่ก็ดังขึ้นข้างหู ‘ศิษย์น้อง ข้าขอยืมใช้สามพันเคลื่อนคล้อยสักครั้ง’

หลินสวินพยักหน้าตามจิตใต้สำนึก

วู้ม!

สามพันเคลื่อนคล้อยปรากฏออกมา

‘หากอาจารย์ยังอยู่ เมื่อเห็นสมบัตินี้เสียหายก็ไม่รู้ว่าในใจจะคิดอย่างไร’

รั่วซู่ทอดถอนใจเงียบๆ นางกุมสามพันเคลื่อนคล้อยไว้ในมือแล้วสั่นเบาๆ หนึ่งครั้ง

ตูม!

ราวกับสายน้ำแห่งกาลเวลาปรากฏ พุ่งทะลวงสู่ฟ้า

เสียงร้องแตกตื่นระลอกหนึ่งดังขึ้น ก็เห็นจักรพรรดิมารผลาญนภาที่กำลังห้ำหั่นดุเดือดกับจักรพรรดิอสนีดับสูญ ถูกแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เหมือนสายน้ำแห่งกาลเวลานั้นปกคลุม

เพียงพริบตาระดับจักรพรรดิของเรือนมรรคเหล่ามารคนนี้ก็สลายกลายเป็นธุลี

จี้เสวียนอึ้งไป รับมือไม่ทันอยู่บ้าง

ตูม!

แสงศักดิ์สิทธิ์ที่เหมือนสายน้ำแห่งกาลเวลานั่นเปี่ยมอานุภาพไม่เสื่อมถอย ม้วนกลืนฟ้ากว้าง

น่าหลันฉีมหาจักรพรรดิคมยุทธ์ที่กำลังโรมรันกับซย่าสิงเลี่ยหน้าพลันเปลี่ยนสี ถอยตัวหลบหนีไปทันที เคลื่อนที่ครั้งเดียวก็หายไปจากที่นั้น

“ค่อยน่าสนใจหน่อย”

รั่วซู่เหลือบมองน่าหลันฉีที่หนีไปเล็กน้อย ไม่ได้ใส่ใจ

เมื่อนางใช้สามพันเคลื่อนคล้อย แสงศักดิ์สิทธิ์ที่น่าหวาดกลัวนั้นก็พุ่งตรงไปที่ส่วนลึกของท้องนภา

“ศิษย์พี่ ทำไมต้องเข้ามายุ่งด้วย”

จวินหวนไม่พอใจอยู่บ้าง

นางกำลังต่อสู้อย่างเมามัน เห็นอยู่ว่ากำลังจะสังหารคู่ต่อสู้คนหนึ่งที่บาดเจ็บหนักได้ แต่การลงมือของรั่วซู่กลับทำให้คนผู้นั้นตกใจจนรีบหนีตายสุดชีวิต

“เวลาล่วงมามากแล้ว…”

รั่วซู่เอ่ยเสียงเบา

“น่าเสียดาย”

จวินหวนเหลือบมองคู่ต่อสู้พวกนั้นเล็กน้อย คล้ายยังไม่หายอยาก แต่สุดท้ายก็หายตัวเคลื่อนผ่านอากาศมาอยู่ข้างกายรั่วซู่

ยังไม่รอให้รั่วซู่เรียกหา ผู่เจินก็ปลีกตัวออกจากการต่อสู้ แบกจอบกลับมา

“เวลาล่วงมามากแล้วจริงๆ”

เสวี่ยหยาที่นั่งขัดสมาธิกับพื้นและท่องคัมภีร์เก็บม้วนตำราลงไปแล้วหยัดร่างขึ้น

ซย่าสิงเลี่ยและจี้เสวียนก็มาแล้ว ทั้งสองต่างมึนงง แต่ไม่ได้ถามด้วยรู้กาลเทศะ

การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ นี้ทำให้ศัตรูพวกนั้นไม่มีใครไม่รู้สึกผิดคาด เศษเดนแห่งคีรีดวงกมลพวกนี้อยู่ในสถานการณ์ได้เปรียบ แต่กลับหยุดมือกะทันหัน นี่คิดจะหนีไปหรือ

แต่เมื่อเห็นพวกรั่วซู่ จวินหวนรวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็นระดับจักรพรรดิที่อยู่ในที่แจ้งพวกนั้น หรือพวกเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่แอบซ่อนตัวอยู่ล้วนไม่มีใครลงมือขัดขวาง

‘ขาดแค่ศิษย์น้องหลี่แล้ว’

รั่วซู่เงยหน้าเล็กน้อย มองไปยังส่วนลึกของเวิ้งฟ้า คล้ายกำลังขบคิด

เวลานี้เหล่าศัตรูอยู่ด้านข้าง แต่กลับไม่มีใครกล้ารุกราน!

ในโลกว่างเปล่าที่มืดมิด

“ต่ำช้า ต่ำช้าเกินไปแล้ว”

หลี่เสวียนเวยส่ายหัวพลางหลุดหัวเราะ ไอสังหารในแววตากลับเพิ่มขึ้นไม่ลดลง

บัวเขียวมรกตดุจหยกดอกแล้วดอกเล่าผลิบานอยู่รอบตัวเขา โบกไหวอ่อนโยน แต่ละดอกล้วนวิวัฒน์มาจากเจตกระบี่บริสุทธิ์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์