ผู้ฝึกปราณทุกคนที่ได้เห็นภาพนี้ต่างใจสั่นระรัว
ด้านสัตว์ประหลาดเฒ่าในขุมอำนาจต่างๆ ที่เร้นกายอยู่แต่ละคนต่างประหวั่นพรั่นพรึง กลิ่นอายต่อสู้น่ากลัวนัก!
แหล่งสถานคุนหลุน
ที่แดนลับท้อแบน จู่ๆ เงาร่างงามสีม่วงร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ ยืนอยู่เหนือต้นท้อแบนต้นนั้น บนใบหน้างดงามดุจภาพวาดหลั่งน้ำตานองเต็มหน้าอยู่เงียบๆ
“เขามาแล้วดังคาด”
ชายหนุ่มจักจั่นทองในชุดผ้าป่านเปลือยเท้าทะลวงผ่านห้วงอากาศ เพิ่งมาถึงโลกใหญ่หงเหมิงก็อึ้งไปเล็กน้อย เผยรอยยิ้มรู้ใจ
“ในที่สุดตัวแปรใหญ่ที่สุดก็ปรากฏแล้ว ความแค้นที่สืบเนื่องมาตั้งแต่อดีตจวบจนตอนนี้ จะต้องได้ผลลัพธ์ในวันนี้”
กลางฟ้าดาราเฒ่าโดดเดี่ยวแสยะยิ้มขึ้นมา พลันผินหน้ากล่าวอย่างหงุดหงิดว่า “เจ้าเฒ่า รีบไป หาไม่จะไม่ทันละครฉากเด็ดคราวนี้แล้ว!”
ราชครูที่อยู่ด้านหลังจนใจไปครู่หนึ่ง “เขาในตอนนั้นแพ้ไปแล้ว เขาในตอนนี้… มั่นใจว่าจะชนะจริงๆ หรือ”
เขาคิดๆ ดูแล้วตอบเองว่า “อาจจะกระมัง”
……
เขาเมฆา
สายลมระลอกนั้นพัดมาปุบปับปานนี้ แต่กลับทำให้ทั่วหล้าต่างตกตะลึง
เสียงหัวเราะหยัน บ้าคลั่ง ดังลั่นก่อนหน้านี้ก็เงียบลงในตอนนี้ทันที คล้ายสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล
สักพักเสียงหัวเราะนี้ก็ดังขึ้นมาอีก “มีตัวแปรเกิดขึ้นอีกหรือ น่าเสียดาย ภายใต้ระเบียบต้องห้ามนี้ ตัวแปรทั้งหมดจะถูกทำลายล้าง ไม่ว่าใครมาก็ไม่อาจเปลี่ยนจุดจบที่เศษเดนคีรีดวงกมลพวกนี้ถูกสังหารไปได้!”
เสียงดังก้องไปทั้งที่นั้น
แต่ขณะนี้รั่วซู่กลับไม่รู้สึกแย่หรือเจ็บปวดแม้สักนิด เนตรกระจ่างของนางเปล่งประกาย ตั้งตาคอยอยู่เงียบๆ
หลินสวินก็เดาอะไรได้ ในใจปั่นป่วน รู้สึกว่าเลือดทั้งตัวคล้ายเดือดพล่านขึ้นในชั่วพริบตานี้
“เห็นหรือไม่ เศษเดนคีรีดวงกมลพวกนี้กำลังจะตายแล้ว!”
เสียงนั้นดังลั่น
การต่อสู้ยังดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด พวกหลี่เสวียนเวย จวินหวนที่ต่อสู้จนร่างชโลมเลือดต่างจวนเจียนจะล้มลง ไม่ว่าใครได้เห็นภาพนี้ต่างรู้สึกตกตะลึง
ก็ในตอนนี้เอง ลมระลอกนั้นสงบลงฉับพลัน จู่ๆ เสียงต่ำลึกแหบแห้งสายหนึ่งพลันดังขึ้น
“ผู้สืบทอดคีรีดวงกมลของข้า ไม่ตายหรอก!”
เสียงนี้ฟังยากไม่ชัดเจนคล้ายไม่ได้พูดจามานานแล้ว แต่เมื่อดังขึ้นกลับมีอานุภาพจองหอง เย่อหยิ่งและอหังการกระจายออกมา
ทุกๆ คำต่างหยิ่งผยองทะลุเมฆา!
ฟ้าดินสั่นสะท้าน ห้วงอากาศหวีดร้อง คล้ายหวาดกลัวอานุภาพที่เสียงนี้แผ่ออกมา
ทุกคนในที่นั้นต่างแสบตาไปครู่หนึ่ง เพียงเห็นรางๆ ว่าเงากระบองสีทองสายหนึ่งฉายวาบรวดเร็ว
จากนั้น…
เสียงหัวเราะหยันดังลั่นก่อนหน้านี้ ขณะนี้กลับเปลี่ยนเป็นเสียงคำรามน่าประหวั่น
“ไม่!”
สั้นกระชับถึงที่สุด ทันทีที่แว่วมาก็เงียบลงอย่างรวดเร็ว
ในมุมมืดไกลลิบ เฒ่าดึกดำบรรพ์ที่ซุ่มอยู่ผู้หนึ่งถูกกระแทกกระจุยไปทั้งตัว ฝนเลือดซัดสาดราวน้ำตก ย้อมห้วงอากาศให้เป็นสีแดง
เห็นได้ชัดว่าเสียงที่ดังขึ้นไม่หยุดเมื่อกี้มาจากเฒ่าดึกดำบรรพ์ผู้นี้ แต่ในขณะนี้เขากลับเอ่ยได้แค่คำว่าไม่ก็ตายคาที่
จิตสิ้นวิญญาณสลาย!
แม้ไม่ได้เห็นภาพสะท้านใจนี้ แต่ทุกคนในที่นั้นต่างก็ใจสั่นอย่างรุนแรง สังหรณ์ได้ถึงความจริงอันนองเลือดข้อนี้
“ปากมากน่ารำคาญ อ่อนแออย่างกับแมลงวัน!”
เสียงติดขัดฟังยากนั้นดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ยังคงจองหองและหยิ่งผยองเช่นเดิม
เฉกเช่นเมื่อปีนั้น!
แล้วก็เป็นตอนนี้ ในที่สุดทุกคนก็เห็นว่ากลางห้วงอากาศมีเงาร่างสูงใหญ่เป็นที่สุดร่างหนึ่งปรากฏขึ้นไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ร่างเขามีแสงบาดตาไหลหลั่ง เปล่งประกายโชติช่วงไม่อาจเทียบได้ประหนึ่งเพลิงผลาญรุนแรง ไม่มอดดับชั่วนิรันดร์
เวิ้งฟ้าแห่งนี้มืดมิดเพียงไหน ยังถูกคนผู้เดียวส่องสว่าง!
ความหวาดผวาและหนาวสะท้านอันไม่อาจบรรยาย ผุดขึ้นในใจระดับจักรพรรดิและเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่ซ่อนตัวในที่มืดเหล่านั้น ไม่อาจกดกลั้น ไม่อาจกำจัด
ความรู้สึกนั้น ก็เหมือนได้เห็นนายเหนือหัวแห่งการต่อสู้ผู้หนึ่งกระโจนออกมาจากพันธนาการชั่วนิรันดร์ ทำให้ฟ้าดินสั่นสะท้าน สุริยันจันทราอับแสง!
และเมื่อเห็นเงาร่างสูงใหญ่หยิ่งผยองจองหองทะลุเมฆานี้ รั่วซู่ก็ร้องตื่นเต้นออกมาอย่างอดไม่ได้ว่า
“ศิษย์พี่ใหญ่!”
เพียงสามคำเท่านั้น สะเทือนฟ้าดิน
หลินสวินสะท้านในใจ ในสมองมีภาพเงาร่างที่คุกเข่าอยู่หน้าประตูภูเขาที่พังทลาย เงาร่างนั้นกรำศึกเหนือเก้าฟ้า เคยเข่นฆ่าจนสะเทือนหมื่นกาล!
เงาร่างนั้นมาบรรจบกับร่างที่ปรากฏขึ้นกลางอากาศในชั่วพริบตานี้แล้ว…
“ศิษย์พี่ใหญ่…”
หลินสวินพึมพำ แววตาเหม่อลอย
ในใจเขา ศิษย์พี่ใหญ่เป็นดั่งตำนานที่ไม่อาจแตะต้องได้
ไม่ว่าจะเป็นศิษย์พี่เก่ออวี้ผูหรือศิษย์พี่รั่วซู่ ขอเพียงพูดถึงศิษย์พี่ใหญ่ต่างเกิดความเคารพและภาคภูมิใจ
เขาในตอนนั้นพยศจองหอง แปลงร่างนับหมื่นพัน สร้างเรือนมรรคคืนกำเนิดที่ ‘ทั้งสำนักคือมหาจักรพรรดิ คืนกำเนิดชั่วนิรันดร์!’ ด้วยมือเดียว
อาจารย์ชื่นชมเขาว่า ‘ศิษย์ไม่จำเป็นต้องสู้อาจารย์ไม่ได้’
เขาในตอนนั้นเคยเข้าร่วม ‘งานชุมนุมวิชาหอบรรพจารย์’ เอาชนะบุคคลระดับบรรพจารย์ที่ห้าเรือนมรรคใหญ่อย่างจักรวาล ดึกดำบรรพ์ ยุทธจักร เหล่ามารและโลกาสวรรค์ส่งมา ทำให้เรือนมรรคคืนกำเนิดขึ้นไปเป็นหนึ่งในหกเรือนมรรคใหญ่ สะท้านทั้งใต้หล้า
เขาในตอนนั้นก็เคยเปิดศึกกับจอมจักรพรรดิไร้นาม ด้วยฐานะผู้สืบทอดลำดับหนึ่งของคีรีดวงกมล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์