ในสายตาของผู้ฝึกปราณแล้ว สิ่งนี้ก็เป็นดั่งร่างจำแลงของทัณฑ์สวรรค์ เปี่ยมไปด้วยอานุภาพสูงส่งหาใดเทียบ
ตั้งแต่ในศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิยุคบรรพกาล การประสบเคราะห์ของผู้สืบทอดคีรีดวงกมลอย่างพวกเก่ออวี้ผูก็เป็นเครื่องพิสูจน์ความน่าสะพรึงกลัวของวิญญาณต้องห้ามได้
และในการประชันหมากกระดานใหญ่เต็มฟ้าวันนี้ วิญญาณต้องห้ามก็สำแดงพลังอันน่าสะพรึงสะท้านทั่วหล้าออกมา
ผู้สืบทอดคีรีดวงกมลเหล่านั้นแข็งแกร่งปานใด สู้จนระดับจักรพรรดิแพ้พ่าย ห้ำหั่นจนบรรพจารย์จักรพรรดิไร้พลังตั้งกระบวนท่า แต่หลังจากเผชิญหน้ากับวิญญาณต้องห้าม ต่างก็ถูกกดข่มอย่างน่ากริ่งเกรง แต่ละคนบาดเจ็บเจียนตาย!
นี่ทำให้บุคคลระดับจักรพรรดิกับระดับบรรพจารย์ที่เป็นศัตรูกับคีรีดวงกมลเหล่านั้นต่างสะท้านยิ่งนัก ทั้งยังรู้สึกคึกคักหาใดเทียบ คล้ายได้เห็นแสงอรุณแห่งชัยชนะในการประชันหมากครั้งนี้
แต่เมื่อลมระลอกนั้นพัดมา
เมื่อบุคคลดั่งตำนานผู้นั้นปรากฏตัวในโลกอีกครั้ง
ทั้งหมดนี้กลับว่างเปล่าเหมือนหมอกที่ถูกลมพัดสลาย!
……
เขาเป็นใคร
คีรีดวงกมล มีคนร้ายกาจที่น่ากลัวจนสามารถโจมตีวิญญาณต้องห้ามให้แหลกกระจุยได้ง่ายดายปานนี้ตั้งแต่เมื่อไร
ระดับจักรพรรดิที่เป็นศัตรูกับคีรีดวงกมลเหล่านั้นกังขาไปหมด
“หรือจะเป็น…”
แต่เฒ่าดึกดำบรรพ์บางคนกลับใจสั่นระรัว ทำใจเชื่อได้ยาก
“นอกจากเจ้าคนคลั่งการต่อสู้ที่แพ้ด้วยน้ำมือจอมจักรพรรดิไร้นามในตอนนั้นจะยังเป็นใครได้อีก”
แล้วก็มีเฒ่าดึกดำบรรพ์สีหน้าเหยเกหาใดเทียบ ตำนานเหนือโลกที่เดิมควรถูกกำราบ เดิมควรร่วงหล่นไปแล้วนั่น ดันปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในวันนี้ นี่เป็นเรื่องที่ใครก็คิดไม่ถึง
“เป็นเขา!”
“เป็นเขาจริงๆ หรือ”
“ที่แท้ก็เป็นเขา…”
ความรู้สึกสั่นสะท้านอย่างบอกไม่ถูกผุดขึ้นในใจของแต่ละคน สายตาของพวกเขามองไปยังสนามรบที่อบอวลไปด้วยเขม่าควันซึ่งอยู่ไกลออกไป
ขณะที่มองดูเงาร่างจองหอง สูงใหญ่ ลุกโชนราวเปลวเพลิงร่างนั้น ก็นึกถึงคนผู้หนึ่งในที่สุด…
ต่อสู้ไร้พ่าย ประชันกับสวรรค์
ผู้สืบทอดลำดับที่หนึ่งแห่งคีรีดวงกมล!
ผู้คนบนโลกต่างไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเขา จึงขนานนามว่า ‘จักรพรรดิยุทธ์’
ในขณะเดียวกัน รั่วซู่ช่วยศิษย์น้องที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ก่อนเหล่านั้นมาอยู่ข้างตัวได้แล้ว พอเห็นรอยเลือดชวนตะลึงบนร่างพวกเขา นางก็รู้สึกแย่ขึ้นมาอีกระลอก
ยังดีที่ศิษย์พี่ใหญ่มาแล้ว
พอนึกได้นางก็รู้สึกสงบใจหาใดเทียบ เริ่มรักษาบาดแผลให้ศิษย์น้องเหล่านั้น
การประชันหมากคราวนี้ย่อมยังไม่จบ วังวนต้องห้ามบนเวิ้งฟ้านั้นยังลอยอยู่ แม้สงบนิ่งไม่เคลื่อนไหว แต่กลิ่นอายที่ตลบอบอวลกลับยิ่งพิสดารอัปมงคล
แต่รั่วซู่รู้ ขอเพียงมีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ นางก็ไม่ต้องร้อนใจกับเรื่องนี้อีกแล้ว
“ศิษย์พี่ เหตุใดข้าถึงเห็นรูปลักษณ์ของศิษย์พี่ใหญ่ได้ไม่ชัดเจน”
หลินสวินเอ่ยปาก เขาจ้องเงาร่างที่คล้ายสามารถค้ำฟ้า ก้าวย่างทะลวงเมฆได้มาตลอด แต่กลับเหมือนเห็นไฟลุกโชนแถบหนึ่ง
“ยังจำที่ข้าเคยบอกได้ไหมว่าศิษย์พี่ใหญ่เคยแปลงกายเป็นหมื่นพันร่าง ตัวคนเดียวก็ตั้งเรือนมรรคคืนกำเนิดได้ รูปลักษณ์ที่แท้จริงของเขา บนโลกนี้มีเพียงสองคนที่รู้”
“ใคร” หลินสวินประหลาดใจอย่างห้ามไม่อยู่
“คนหนึ่งก็คืออาจารย์ อีกคนหนึ่ง…”
รั่วซู่พูดถึงตรงนี้ก็เงียบไปครู่หนึ่ง บอกหลินสวินด้วยการสื่อจิตว่า ‘อีกคนหนึ่ง คือแม่นางที่งดงามราวกับประกายเมฆแสงม่วงผู้หนึ่ง’
เป็นนางหรือ
ชั่วพริบตาหลินสวินก็นึกถึงเงาร่างสีม่วงซึ่งได้พบที่แดนลับท้อแบนในแหล่งสถานคุนหลุนตอนนั้น
‘ก่อนหน้านี้นานมาแล้ว มีชายคนหนึ่งที่เก่งกาจกว่าเจ้าหลายโข เขาบุกเข้ามาที่นี่ หมายจะโค่นต้นท้อแบนโดยไม่สนสิ่งใด และเอาผลทั้งหมดของต้นไม้นี้ไปด้วย บอกว่าผลท้อที่อร่อยถูกปากเช่นนี้ต้องเอากลับไปให้พวกศิษย์พี่ศิษย์น้องในสำนักได้ลิ้มรสกันหน่อย’
‘แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้สมปรารถนา เพราะนี่เป็นถึงต้นท้อแบนหนึ่งเดียวในฟ้าดิน มีหรือจะเป็นสิ่งที่เจ้าคนไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเช่นเขาจะสามารถสั่นคลอนได้’
‘ต่อมาเขาพูดตอนจากไปว่าภายหน้าจะต้องกลับมาอีกแน่ และจะตัดต้นท้อแบนที่ขัดลาภเขาต้นนี้แล้วเผาแทนฟืน ทำเช่นนั้นถึงจะสะใจ’
‘ต่อมา… ถึงอย่างไรข้าก็จะรอจนกว่าเขาจะกลับมา…’
พอนึกถึงการสนทนากับแม่นางชุดม่วงคนนั้น มองดูเงาร่างศิษย์พี่ใหญ่ที่อยู่ไกลออกไป ในใจก็ลอบเอ่ยว่าคงมีแต่คนอย่างศิษย์พี่ใหญ่ถึงทำให้แม่นางผู้นั้นรอคอยอย่างลุ่มหลงเช่นนี้ได้กระมัง…
“หึ!”
ทันใดนั้นเสียงเรียบเฉยไร้คลื่นความรู้สึกเสียงหนึ่งก็ทำลายบรรยากาศอันกดดันและเงียบเชียบนี้
ทุกคนเพียงรู้สึกว่าหูได้ยินเสียงวิ้ง จิตวิญญาณแทบพังทลาย รู้สึกแย่จนแทบกระอักเลือด
รั่วซู่นัยน์ตาหดรัด “เขามาแล้ว”
เขามาแล้ว!
เพียงสามคำเท่านั้นกลับหนักอึ้งยิ่งนัก
หลินสวินนึกถึงคนผู้หนึ่งทันที…
จอมจักรพรรดิไร้นาม!
ก็เห็นว่าศิษย์พี่ใหญ่ที่ยืนอยู่กลางห้วงอากาศคนเดียวเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองดูวังวนที่อยู่ในส่วนลึกของท้องฟ้านั้น เสียงต่ำลึก “คนบนโลกล้วนเรียกขานเจ้าว่า ‘จอมจักรพรรดิไร้นาม’ มองเจ้าเป็นเจ้าแห่งระดับจักรพรรดิ ไม่อาจเทียบเคียงได้ แต่ในความคิดข้า เจ้าก็เป็นแค่… หมาตัวหนึ่ง”
เฮือก!
เสียงสูดหายใจสะท้านระลอกหนึ่งดังขึ้นจากที่ต่างๆ
จอมจักรพรรดิไร้นาม!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์