กลิ่นอายทำลายล้างที่กดดันใจคน พาให้สรรพชีวิตหวาดผวาประหนึ่งวันโลกาวินาศก็เบาบางลงทีละน้อยไปด้วย
“จบแล้วหรือ”
“ดีจังเลย วันนี้ไม่ใช่วันสิ้นโลก”
“เมื่อกี้ตกใจชะมัดเลย ไม่รู้จริงๆ ว่าภัยพิบัติน่ากลัวปานไหนมาเยือน ยังดีที่จบลงแล้ว…”
“แต่ว่า เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
เสียงเซ็งแซ่ไม่รู้เท่าไรดังขึ้นในเขตพื้นที่ต่างๆ ในโลกใหญ่หงเหมิงทั้งสี่สิบเก้าแคว้น ผู้คนนับไม่ถ้วนหวาดผวา และยินดีกับเรื่องนี้ รู้สึกโชคดีที่รอดชีวิตหลังเกิดเคราะห์
“จบแล้ว จอมจักรพรรดิไร้นามถูกจักรพรรดิยุทธ์ผู้สืบทอดลำดับหนึ่งของคีรีดวงกมลสังหาร บัดนี้พลังระเบียบต้องห้ามที่ปกคลุมทั่วหล้าเสียผู้ควบคุมไปแล้ว!”
“นี่ไม่ได้หมายความว่า การประชันหมากครั้งใหญ่นี้ คีรีดวงกมล… ชนะแล้วหรือ”
“ไม่ จอมจักรพรรดิไร้นามจะแพ้ได้อย่างไร นั่นเป็นตัวตนสูงส่งประหนึ่งทัณฑ์สวรรค์จำแลงกายมาเลยนะ!”
และในขุมอำนาจใหญ่อย่างเรือนมรรคโลกาสวรรค์ เรือนมรรคจักรวาล เรือนมรรคดึกดำบรรพ์ เรือนมรรคยุทธจักรเป็นต้น… ต่างก็อึกทึกครึกโครมในชั่วขณะ คลื่นใหญ่ปั่นป่วนโหมซัด
เสียงอุทาน เสียงยากจะเชื่อไม่รู้เท่าไรดังขึ้น
จอมจักรพรรดิไร้นามถูกสังหาร!?
นี่ย่อมเป็นเรื่องใหญ่ที่สะเทือนทางเดินโบราณฟ้าดาราที่สุดตั้งแต่มีบันทึกมา ส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงทั้งใต้หล้า!
และในการประชันหมากครั้งใหญ่นี้ พลังน่ากลัวที่คีรีดวงกมลสำแดงออกมา ก็ทำให้ยักษ์ใหญ่เหล่านี้ต่างสั่นสะท้านใจหล่นวูบไม่หยุด
ฆ่าระดับจักรพรรดิได้ราวกับเด็ดใบไม้ใบหญ้า สังหารบรรพจารย์จักรพรรดิได้เหมือนเชือดไก่ฆ่าลิง แม้แต่จอมจักรพรรดิไร้นามที่เป็นร่างแปลงตัวแทนของระเบียบต้องห้าม ก็ตายไปด้วยเหตุนี้
นี่จะน่าตกใจเกินไปแล้ว!
ถึงกับทำให้ทุกคนต่างไม่กล้าเชื่อ!
ควรรู้ว่าตั้งแต่ดึกดำบรรพ์จนถึงตอนนี้ บนทางเดินโบราณฟ้าดาราเคยมีมหาภัยขนาดใหญ่แผ่ขยายไปทั่วโลกสองครั้ง
ครั้งแรกคือศึกมรรคสิบทิศยุคดึกดำบรรพ์ อีกครั้งคือศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิยุคบรรพกาล ในศึกใหญ่แต่ละครั้ง ต่างมีเงาของจอมจักรพรรดิไร้นามอยู่
เขาเป็นดั่งเงามืดสายหนึ่ง บดบังทั่วฟ้าดาราในกาลเวลาไร้สิ้นสุดตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบัน ไม่เคยมีพลังใด หรือผู้แข็งแกร่งคนไหนสามารถสั่นสะเทือนเขาได้สักนิด
แต่ก็วันนี้เอง สิ่งสูงส่งที่เหมือนธำรงอยู่ชั่วหมื่นกาลเช่นนี้…
แพ้แล้ว!
ความเปลี่ยนแปลงอันน่าตะลึงเช่นนี้ประหนึ่งฟ้าถล่ม
“หืม? พอจอมจักรพรรดิไร้นามตาย คล้ายเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างไม่เคยมีมาก่อน…”
ทั้งมีเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่ฝีมือเหนือสามัญรับรู้ได้อย่างฉับไว ว่าพลังระเบียบที่ปกคลุมทั่วหล้าเปลี่ยนโฉมใหม่โดยสิ้นเชิง
“โอกาสไปยังฟากฝั่งฟ้าดารา!”
เฒ่าดึกดำบรรพ์บางคนเดาความจริงได้ในชั่วพริบตา ความตื่นเต้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนผุดขึ้นในใจ
“ฮ่าๆๆ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมา พลังระเบียบต้องห้ามปกคลุมทั่วหล้า ทั้งยังขวางทางสู่ฟากฝั่งฟ้าดารา ตอนนี้พอจอมจักรพรรดิไร้นามตายไป แม้พลังระเบียบต้องห้ามจะยังไม่หายไป แต่เส้นทางที่ถูกตัดขาดนั้นกลับปรากฏขึ้นใหม่แล้ว!”
“พูดเช่นนี้ก็ต้องขอบคุณจักรพรรดิยุทธ์จริงๆ ถ้าไม่ใช่เขาสู้เอาเป็นเอาตาย สังหารจอมจักรพรรดิไร้นาม พวกเราจะคว้าโอกาสชั้นเลิศเช่นนี้ได้อย่างไร”
“ชักช้ามามากแล้ว ได้เวลาไปฟากฝั่งฟ้าดาราแห่งนั้นแล้ว ได้ยินว่ามีเพียงฟากฝั่งฟ้าดาราถึงมีมรรคแห่งอมตะนิรันดร์…”
ชั่วขณะเดียว ทั่วหล้าทั้งบนล่างในจุดที่คนบนโลกไม่อาจจับตามองได้ มีเงาร่างไม่รู้เท่าไรพุ่งออกไปยังส่วนลึกของฟ้าดาราวัฏจักรแห่งนั้น
เงาร่างเหล่านี้เป็นเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่เก็บตัวเงียบในกาลเวลาไร้สิ้นสุด มีรากฐานพลังล้ำเลิศเหนือสามัญบนมรรคาระดับจักรพรรดิแทบทั้งนั้น
หลังพลังระเบียบต้องห้ามเกิดการเปลี่ยนแปลงน่าตะลึง ก็ถูกพวกเขาสังเกตเห็นโอกาสในทันที เคลื่อนไหวโดยไม่ลังเลสักนิด
กระทั่งว่าระดับจักรพรรดิบางคนยังทลายด่านออกมา เริ่มออกเคลื่อนไหว
ฟากฝั่งฟ้าดารา!
ในสายตาของคนอย่างพวกเขา ความหมายในคำนี้ ผู้ฝึกปราณคนอื่นบนโลกยากจะเข้าใจได้
ตามคำร่ำลือ หมายจะแจ้งอมตะนิรันดร์ ต้องเริ่มหาจากฟากฝั่ง
ตามคำร่ำลือ ฟากฝั่งฟ้าดารามียอดบุคคลที่ควบคุมกฎเกณฑ์ ‘โชคชะตา’ และ ‘กาลเวลา’ อยู่ ถูกมองเป็นนายเหนือหัวของมหามรรคอย่างแท้จริง
ตามคำร่ำลือ…
ตั้งแต่แรกสุดยุคดึกดำบรรพ์ คำร่ำลือที่เกี่ยวกับฟากฝั่งฟ้าดาราก็เต็มไปด้วยสีสันยากจินตนาการ ทำให้คนเพ้อฝัน หมายมาดอยากไปถึง
และสำหรับเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่ย้อนบรรพ์ในระดับจักรพรรดิแล้ว หมายจะทะลวงระดับที่สูงขึ้นไปบนมรรคที่ทางเดินโบราณฟ้าดาราแห่งนี้ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แล้ว
มีเพียงไปยังฟากฝั่งฟ้าดารา ถึงอาจจะทำให้พวกเขาได้เลื่อนระดับขึ้นไปอีกขั้น!
เพียงแต่ในอดีต พลังระเบียบต้องห้ามปิดตายเส้นทางอีกฟากฝั่งนี้ไปราวกับโซ่ตรวนเส้นหนึ่ง ทำให้โลกนี้ไม่มีใครไปถึงได้ กระทั่งว่าหลายคนยังสงสัยอย่างอดไม่ได้ว่าเส้นทางนี้ขาดสะบั้นไปนานแล้วหรือไม่
แต่ก็ในวันนี้เองที่พวกเขาได้เห็นความหวัง!
ถ้ามองจากทั่วหล้าในทางเดินโบราณฟ้าดารา จะพบว่าตอนนี้มีเงาร่างน่ากลัวมากมายทยอยออกมาจากเขตแดนดารา โลกใหญ่ แดนลับ และสถานที่ที่แตกต่างกันไปอย่างต่อเนื่อง
เผ่าโบราณบางส่วนจู่ๆ ก็พบว่าเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่เดิมถูกพวกเขามองว่า ‘สิ้นชีพ’ ไปแล้ว กลับออกมาจากการปิดด่านด้วยสีหน้ายินดีปรีดา ทิ้งคำพูดไว้ประโยคเดียวว่า ‘ข้าไปล่ะ’ แล้วเคลื่อนย้ายไปยังฟ้าสูง
กระทั่ง ‘สุสาน’ ของตระกูลดังสำนักใหญ่บางแห่ง ยังมีบรรพบุรุษที่ถูกฝังทลายโลงศพออกมา หัวเราะร่าเดินเข้าไปในห้วงเมฆา ทำเอาศิษย์รุ่นหลังไม่รู้เท่าไรตกใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์