Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2044

สรุปบท ตอนที่ 2044 วันที่เหล่าจักรพรรดิออกเดินทาง: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 2044 วันที่เหล่าจักรพรรดิออกเดินทาง – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2044 วันที่เหล่าจักรพรรดิออกเดินทาง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 2044 วันที่เหล่าจักรพรรดิออกเดินทาง
ความมืดมิดราวกับน้ำหมึกที่ปกคลุมโลกใหญ่หงเหมิงนั้น ถูกพิชิตไปพร้อมกับจอมจักรพรรดิไร้นาม เริ่มถดถอยลงไปเหมือนกระแสน้ำ

กลิ่นอายทำลายล้างที่กดดันใจคน พาให้สรรพชีวิตหวาดผวาประหนึ่งวันโลกาวินาศก็เบาบางลงทีละน้อยไปด้วย

“จบแล้วหรือ”

“ดีจังเลย วันนี้ไม่ใช่วันสิ้นโลก”

“เมื่อกี้ตกใจชะมัดเลย ไม่รู้จริงๆ ว่าภัยพิบัติน่ากลัวปานไหนมาเยือน ยังดีที่จบลงแล้ว…”

“แต่ว่า เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

เสียงเซ็งแซ่ไม่รู้เท่าไรดังขึ้นในเขตพื้นที่ต่างๆ ในโลกใหญ่หงเหมิงทั้งสี่สิบเก้าแคว้น ผู้คนนับไม่ถ้วนหวาดผวา และยินดีกับเรื่องนี้ รู้สึกโชคดีที่รอดชีวิตหลังเกิดเคราะห์

“จบแล้ว จอมจักรพรรดิไร้นามถูกจักรพรรดิยุทธ์ผู้สืบทอดลำดับหนึ่งของคีรีดวงกมลสังหาร บัดนี้พลังระเบียบต้องห้ามที่ปกคลุมทั่วหล้าเสียผู้ควบคุมไปแล้ว!”

“นี่ไม่ได้หมายความว่า การประชันหมากครั้งใหญ่นี้ คีรีดวงกมล… ชนะแล้วหรือ”

“ไม่ จอมจักรพรรดิไร้นามจะแพ้ได้อย่างไร นั่นเป็นตัวตนสูงส่งประหนึ่งทัณฑ์สวรรค์จำแลงกายมาเลยนะ!”

และในขุมอำนาจใหญ่อย่างเรือนมรรคโลกาสวรรค์ เรือนมรรคจักรวาล เรือนมรรคดึกดำบรรพ์ เรือนมรรคยุทธจักรเป็นต้น… ต่างก็อึกทึกครึกโครมในชั่วขณะ คลื่นใหญ่ปั่นป่วนโหมซัด

เสียงอุทาน เสียงยากจะเชื่อไม่รู้เท่าไรดังขึ้น

จอมจักรพรรดิไร้นามถูกสังหาร!?

นี่ย่อมเป็นเรื่องใหญ่ที่สะเทือนทางเดินโบราณฟ้าดาราที่สุดตั้งแต่มีบันทึกมา ส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงทั้งใต้หล้า!

และในการประชันหมากครั้งใหญ่นี้ พลังน่ากลัวที่คีรีดวงกมลสำแดงออกมา ก็ทำให้ยักษ์ใหญ่เหล่านี้ต่างสั่นสะท้านใจหล่นวูบไม่หยุด

ฆ่าระดับจักรพรรดิได้ราวกับเด็ดใบไม้ใบหญ้า สังหารบรรพจารย์จักรพรรดิได้เหมือนเชือดไก่ฆ่าลิง แม้แต่จอมจักรพรรดิไร้นามที่เป็นร่างแปลงตัวแทนของระเบียบต้องห้าม ก็ตายไปด้วยเหตุนี้

นี่จะน่าตกใจเกินไปแล้ว!

ถึงกับทำให้ทุกคนต่างไม่กล้าเชื่อ!

ควรรู้ว่าตั้งแต่ดึกดำบรรพ์จนถึงตอนนี้ บนทางเดินโบราณฟ้าดาราเคยมีมหาภัยขนาดใหญ่แผ่ขยายไปทั่วโลกสองครั้ง

ครั้งแรกคือศึกมรรคสิบทิศยุคดึกดำบรรพ์ อีกครั้งคือศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิยุคบรรพกาล ในศึกใหญ่แต่ละครั้ง ต่างมีเงาของจอมจักรพรรดิไร้นามอยู่

เขาเป็นดั่งเงามืดสายหนึ่ง บดบังทั่วฟ้าดาราในกาลเวลาไร้สิ้นสุดตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบัน ไม่เคยมีพลังใด หรือผู้แข็งแกร่งคนไหนสามารถสั่นสะเทือนเขาได้สักนิด

แต่ก็วันนี้เอง สิ่งสูงส่งที่เหมือนธำรงอยู่ชั่วหมื่นกาลเช่นนี้…

แพ้แล้ว!

ความเปลี่ยนแปลงอันน่าตะลึงเช่นนี้ประหนึ่งฟ้าถล่ม

“หืม? พอจอมจักรพรรดิไร้นามตาย คล้ายเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างไม่เคยมีมาก่อน…”

ทั้งมีเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่ฝีมือเหนือสามัญรับรู้ได้อย่างฉับไว ว่าพลังระเบียบที่ปกคลุมทั่วหล้าเปลี่ยนโฉมใหม่โดยสิ้นเชิง

“โอกาสไปยังฟากฝั่งฟ้าดารา!”

เฒ่าดึกดำบรรพ์บางคนเดาความจริงได้ในชั่วพริบตา ความตื่นเต้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนผุดขึ้นในใจ

“ฮ่าๆๆ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมา พลังระเบียบต้องห้ามปกคลุมทั่วหล้า ทั้งยังขวางทางสู่ฟากฝั่งฟ้าดารา ตอนนี้พอจอมจักรพรรดิไร้นามตายไป แม้พลังระเบียบต้องห้ามจะยังไม่หายไป แต่เส้นทางที่ถูกตัดขาดนั้นกลับปรากฏขึ้นใหม่แล้ว!”

“พูดเช่นนี้ก็ต้องขอบคุณจักรพรรดิยุทธ์จริงๆ ถ้าไม่ใช่เขาสู้เอาเป็นเอาตาย สังหารจอมจักรพรรดิไร้นาม พวกเราจะคว้าโอกาสชั้นเลิศเช่นนี้ได้อย่างไร”

“ชักช้ามามากแล้ว ได้เวลาไปฟากฝั่งฟ้าดาราแห่งนั้นแล้ว ได้ยินว่ามีเพียงฟากฝั่งฟ้าดาราถึงมีมรรคแห่งอมตะนิรันดร์…”

ชั่วขณะเดียว ทั่วหล้าทั้งบนล่างในจุดที่คนบนโลกไม่อาจจับตามองได้ มีเงาร่างไม่รู้เท่าไรพุ่งออกไปยังส่วนลึกของฟ้าดาราวัฏจักรแห่งนั้น

เงาร่างเหล่านี้เป็นเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่เก็บตัวเงียบในกาลเวลาไร้สิ้นสุด มีรากฐานพลังล้ำเลิศเหนือสามัญบนมรรคาระดับจักรพรรดิแทบทั้งนั้น

หลังพลังระเบียบต้องห้ามเกิดการเปลี่ยนแปลงน่าตะลึง ก็ถูกพวกเขาสังเกตเห็นโอกาสในทันที เคลื่อนไหวโดยไม่ลังเลสักนิด

กระทั่งว่าระดับจักรพรรดิบางคนยังทลายด่านออกมา เริ่มออกเคลื่อนไหว

ฟากฝั่งฟ้าดารา!

ในสายตาของคนอย่างพวกเขา ความหมายในคำนี้ ผู้ฝึกปราณคนอื่นบนโลกยากจะเข้าใจได้

ตามคำร่ำลือ หมายจะแจ้งอมตะนิรันดร์ ต้องเริ่มหาจากฟากฝั่ง

ตามคำร่ำลือ ฟากฝั่งฟ้าดารามียอดบุคคลที่ควบคุมกฎเกณฑ์ ‘โชคชะตา’ และ ‘กาลเวลา’ อยู่ ถูกมองเป็นนายเหนือหัวของมหามรรคอย่างแท้จริง

ตามคำร่ำลือ…

ตั้งแต่แรกสุดยุคดึกดำบรรพ์ คำร่ำลือที่เกี่ยวกับฟากฝั่งฟ้าดาราก็เต็มไปด้วยสีสันยากจินตนาการ ทำให้คนเพ้อฝัน หมายมาดอยากไปถึง

และสำหรับเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่ย้อนบรรพ์ในระดับจักรพรรดิแล้ว หมายจะทะลวงระดับที่สูงขึ้นไปบนมรรคที่ทางเดินโบราณฟ้าดาราแห่งนี้ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แล้ว

มีเพียงไปยังฟากฝั่งฟ้าดารา ถึงอาจจะทำให้พวกเขาได้เลื่อนระดับขึ้นไปอีกขั้น!

เพียงแต่ในอดีต พลังระเบียบต้องห้ามปิดตายเส้นทางอีกฟากฝั่งนี้ไปราวกับโซ่ตรวนเส้นหนึ่ง ทำให้โลกนี้ไม่มีใครไปถึงได้ กระทั่งว่าหลายคนยังสงสัยอย่างอดไม่ได้ว่าเส้นทางนี้ขาดสะบั้นไปนานแล้วหรือไม่

แต่ก็ในวันนี้เองที่พวกเขาได้เห็นความหวัง!

ถ้ามองจากทั่วหล้าในทางเดินโบราณฟ้าดารา จะพบว่าตอนนี้มีเงาร่างน่ากลัวมากมายทยอยออกมาจากเขตแดนดารา โลกใหญ่ แดนลับ และสถานที่ที่แตกต่างกันไปอย่างต่อเนื่อง

เผ่าโบราณบางส่วนจู่ๆ ก็พบว่าเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่เดิมถูกพวกเขามองว่า ‘สิ้นชีพ’ ไปแล้ว กลับออกมาจากการปิดด่านด้วยสีหน้ายินดีปรีดา ทิ้งคำพูดไว้ประโยคเดียวว่า ‘ข้าไปล่ะ’ แล้วเคลื่อนย้ายไปยังฟ้าสูง

กระทั่ง ‘สุสาน’ ของตระกูลดังสำนักใหญ่บางแห่ง ยังมีบรรพบุรุษที่ถูกฝังทลายโลงศพออกมา หัวเราะร่าเดินเข้าไปในห้วงเมฆา ทำเอาศิษย์รุ่นหลังไม่รู้เท่าไรตกใจ

พอได้ยินว่าภายหน้าหลินสวินจะยังไปหาลูกสาวตน ในใจก็ซย่าสิงเลี่ยกังวลขึ้นมาครู่หนึ่ง กลัวแต่ลูกสาวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของตนจะถูกเจ้าหนูนี่ทำร้าย

ยังดีที่สิ่งที่ทำให้ซย่าสิงเลี่ยสบายใจได้เล็กน้อยก็ คือภายหน้าต่อให้หลินสวินอยากจะไปพบลูกสาวเขา ก็ยังไม่รู้ว่าต้องรอถึงเมื่อไร

“ศิษย์น้อง”

เหล่าผู้สืบทอดคีรีดวงกมลอย่างรั่วซู่ หลี่เสวียนเวย เสวี่ยหยา ผู่เจิน ชื่อจวิน เฉิงอวี่ จิ่งจงเยวี่ยต่างเดินมาหาเพื่อบอกลาหลินสวินทีละคน

ไปคราวนี้ก็ไม่รู้ว่าจะได้พบกันอีกเมื่อไร ทำให้ความรู้สึกเสียใจผุดขึ้นในใจหลินสวิน แต่ยังถูกเขากลบไว้อย่างเงียบเชียบ ยิ้มพลางบอกให้ศิษย์พี่ทั้งชายหญิงแต่ละคนรักษาเนื้อรักษาตัว

“นี่เป็นสิ่งที่จักจั่นทองอยากให้ข้ามอบให้เจ้าตอนเขาจากไป”

ศิษย์พี่ใหญ่ก็เดินมา แม้ใกล้กันมากแต่หลินสวินกลับไม่อาจมองเห็นใบหน้าของเขาได้ชัดเจน รู้สึกได้เพียงกลิ่นอายต่อสู้และความจองหองที่ตีกระทบเข้ามา

ศิษย์พี่ใหญ่ส่งจดหมายหยกฉบับหนึ่งให้หลินสวิน ตบไหล่เขาเบาๆ แล้วพูดว่า “มรรคแห่งการต่อสู้ไม่ได้บรรลุในความเป็นตาย ศิษย์น้องเล็ก เจ้าเดินบนมหามรรคของตัวเองแล้ว ข้าตั้งตาคอยว่าสักวันหนึ่งเจ้าจะได้สู้เคียงบ่าเคียงไหลร่วมกับพวกเราทุกคน”

หลินสวินเกิดความฮึกเหิมขึ้น เอ่ยว่า “ศิษย์พี่ใหญ่กับเหล่าศิษย์พี่ทั้งหลาย ตั้งตาคอยก็พอ!”

ศิษย์พี่ใหญ่พยักหน้าน้อยๆ หันหลังโบกมือให้แล้วพูดว่า “ไปล่ะ”

ศิษย์น้องเล็กไม่ใช่เด็กแล้ว และการจากกันคราวนี้ก็ไม่ได้จากตายจริงๆ พูดออกมาเป็นหมื่นคำกลับดูเสแสร้งเกินจริง

พวกรั่วซู่เข้าใจเรื่องนี้ หลินสวินก็ย่อมเข้าใจ

แต่เมื่อชั่วขณะที่ต้องจากกันนี้มาถึงจริงๆ ในใจหลินสวินก็ยังเสียดายอย่างห้ามไม่ได้อยู่บ้าง ทั้งยังออกจะเสียใจด้วย

ไม่ใช่ง่ายๆ กว่าจะได้รวมตัวกับศิษย์พี่ทุกคนเช่นนี้ แต่ไม่ทันไรก็ต้องบอกลากันแล้ว เรื่องบนโลกนี้คล้ายไม่เคยมีอะไรแน่นอนเช่นนี้มาตลอด

สวบ!

เงาร่างศิษย์พี่ใหญ่ทะลวงอากาศขึ้นไป

ต่อจากนั้นผู้สืบทอดคีรีดวงกมลคนอื่นๆ ก็ตามไปติดๆ

ซย่าสิงเลี่ย จักรพรรดิอสนีดับสูญจี้เสวียนก็อยู่ในนั้นหมด พวกเขาจะไปยังฟากฝั่งฟ้าดาราด้วยกันกับผู้สืบทอดคีรีดวงกมล

หลินสวินยืนอยู่คนเดียวตรงนั้น ตามองส่งเงาร่างอันคุ้นเคยเหล่านั้นทะลวงท้องฟ้าไปทีละคน โบกมือไม่หยุด ใบหน้ามีรอยยิ้มตั้งแต่เริ่มจนจบ

แต่ในใจอย่างไรก็ยังว่างเปล่าอยู่บ้าง

จู่ๆ เสียงอ่อนหวานนุ่มนวลของศิษย์พี่รั่วซู่นั้นก็ดังขึ้นในใจหลินสวิน เหมือนน้ำพุไหลรินว่า

‘ศิษย์น้องเล็ก ยังจำศิษย์พี่รองที่ข้าเคยเล่าให้เจ้าฟังได้ไหม จากที่ข้ารู้จักศิษย์พี่รอง เขาจะต้องไม่จากไปแบบนี้แน่ ถ้าเจ้าได้พบกับเรื่องที่ไม่อาจคลี่คลายได้จริงๆ และต้องไปโลกมืดสักรอบ ไม่สู้ลองไปตามหาเขา เขาย่อมสัมผัสได้ถึงการปรากฏตัวของเจ้า’

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์