Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2071

สรุปบท ตอนที่ 2071 ใจคนอันตรายกว่าภูผาธารา: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2071 ใจคนอันตรายกว่าภูผาธารา – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 2071 ใจคนอันตรายกว่าภูผาธารา ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

จี้เหลิ่งที่เศร้าโศก ไม่นานก็ได้สติกลับมา

ถึงอย่างไรเขาก็เป็น ‘เฒ่าชรา’ ที่โลดแล่นในโลกมืดมาหลายปี เรื่องแรกที่ทำหลังจากควบคุมอารมณ์ได้ก็คือขอโทษหลินสวิน

ถ้อยคำของเขาเศร้าโศกและแน่วแน่ “สหายยุทธ์ เดิมข้านึกว่าแผนนี้จะดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะถูกสวะเฒ่าอย่างนักพรตเอ้อวางแผนหลอก ข้า… จะเอาชีวิตเข้าสู้ ชิงหนทางรอดมาให้สหายยุทธ์!”

หลินสวินเหมือนไม่สะทกสะท้าน เพียงชำเลืองมองเขาครั้งหนึ่งแล้วเอ่ยเสียงเรียบว่า “เจ้าจะได้จ่ายค่าตอบแทนที่สมควร”

จี้เหลิ่งสีหน้าตะลึง ปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ จากนั้นก็กัดฟันครั้งหนึ่ง สายตามองนักพรตเอ้อที่อยู่ไกลออกไป “ข้ายอมแพ้ จะฆ่าจะแกงก็สุดแท้แต่ใจเจ้าเลย จะปล่อยสหายยุทธ์ท่านนี้ไปได้หรือไม่”

นักพรตเอ้อยิ้มเสแสร้งกล่าวว่า “เจ้าว่า…เป็นไปได้หรือ”

คนอื่นที่อยู่รอบทิศก็ยิ้มเหี้ยมขึ้นมา

“เช่นนั้นข้าคนแซ่จี้ก็ทำได้แค่ทุ่มสุดชีวิตแล้ว”

จี้เหลิ่งสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง สายตามองดูกองเลือดเนื้อแหลกละเอียดที่นองเต็มพื้นไปนานแล้วของจินเตี๋ย พึมพำว่า “ตายไปก็ดี อย่างน้อยก็ไม่ต้องทรมานในโลกมืดนี่แล้ว…”

ตงจินหรงตะคอกลั่น “จี้เหลิ่ง เจ้าเสแสร้งแกล้งทำให้มันน้อยๆ หน่อย! ใครไม่รู้บ้างว่าเจ้ามันเจ้าแผนการ กะล่อนปลิ้นปล้อน ไม่ว่าตอนนี้เจ้าพูดอะไร ก็ยากจะหนีพ้นความตาย!”

สายตานักพรตเอ้อชำเลืองมองหลินสวิน “สหายผู้นี้ ดูออกว่าเจ้าก็ถูกคนทรยศอย่างจี้เหลิ่งลวงมาหลอกใช้ ที่น่าเสียดายก็คือ คราวนี้เจ้าก็เป็นได้แค่ของฝังร่วมกับศพของจี้เหลิ่งแล้ว”

เสียงเขาเย็นชา ก่อนโบกมือครั้งหนึ่ง “กำจัดพวกเขา!”

ครืน!

ฟ้าดินแห่งนี้ปั่นป่วน เหล่าผู้แข็งแกร่งที่ปิดล้อมรอบทิศออกเคลื่อนไหวโดยไม่ลังเล แต่ละคนไออำมหิตคับฟ้า อบอวลไปด้วยกลิ่นอายนองเลือด

คนพวกนี้ต่างเป็นคนมีฝีมือที่อยู่ใต้อาณัติของนักพรตเอ้อ ติดตามเขามาที่โลกมืดแห่งนี้กรำศึกนานปี ผ่านการเข่นฆ่านองเลือด

ในสายตาผู้ฝึกปราณทั่วไป นี่ก็คือผีร้ายเทพอำมหิตกลุ่มหนึ่ง!

“ฆ่า!”

จี้เหลิ่งจะยินยอมรับความตายเช่นนี้ได้อย่างไร ก็เห็นว่าร่างของเขาเต็มไปด้วยประกายเทพน่ากลัว เลือดลมพลุ่งพล่าน อานุภาพเพิ่มขึ้นถึงขีดสุดในทันใด

และในมือเขาก็มีทวนศึกสีแดงฉานดุจโลหิตโบกกวาดไปในห้วงอากาศ

ตูม!

ประกายโลหิตไร้สิ่งใดเทียบเทียมม้วนตลบประหนึ่งคลื่นคลั่งทะเลพิโรธ ผู้แข็งแกร่งที่ถลามาข้างหน้าก่อนหลายคนก็ถูกพลังทวนศึกสีเลือดฝังกลบ หายลับเป็นฝุ่นควัน

“เจ้าเฒ่านี่ถึงกับทะลวงระดับมกุฎมหาอริยะไปแล้ว… เก็บซ่อนมิดชิดดีนัก!”

นักพรตเอ้อที่อยู่ไกลออกไปนัยน์ตาแข็งทื่อ ถึงได้รู้เอาตอนนี้ว่าเหตุใดจี้เหลิ่งถึงกล้าทรยศ ที่แท้ก็เป็นเพราะพลังปราณบรรลุไปนานแล้ว

“สหายยุทธ์ เจ้ารีบไป! ข้าคนแซ่จี้จะเปิดทางรอดให้เจ้า!”

ณ ที่นั้นจี้เหลิ่งตะโกนลั่น เข่นฆ่าราวบ้าคลั่ง อานุภาพทั้งร่างสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ขณะที่กวัดแกว่งทวนศึกสีเลือดก็สังหารคู่ต่อสู้คนแล้วคนเล่าให้ย่อยยับ

ครืน…

ห้วงอากาศบริเวณใกล้เคียงปั่นป่วน กระบวนค่ายกลผนึกเป็นชั้นๆ ที่ปกคลุมที่นี่อยู่ต่างสั่นสะเทือนรุนแรงขึ้นมา คล้ายรับการโจมตีของอานุภาพน่ากลัวเช่นนั้นไม่ไหว

“คิดจะหนีหรือ ไม่มีทาง!”

ตงจินหรงพาผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งกระโจนไปหาหลินสวิน ไอสังหารพวยพุ่ง

ทว่าในสายตาของหลินสวินแล้ว พวกเขาล้อมโจมตีเช่นนี้ไม่น่ามองตรงไหนเลย ทั้งยังไม่เป็นภัยคุกคามใดๆ สักนิด

ภาพเช่นนี้ก็เหมือนมดฝูงหนึ่งแยกเขี้ยวแกว่งขาใส่มังกรเทพบนฟ้า…

น่าขันจริงๆ!

หลินสวินที่เหมือนผู้ชมมาตลอด ขณะนี้ถอนหายใจเบาๆ เฮือกหนึ่ง เขาพลันรับรู้ได้ถึงเรื่องหนึ่ง…

หลังจากเข้ามาในโลกมืด เพราะในใจมีความกังวลบางอย่าง แล้วก็เพราะไม่อยากดึงดูดคลื่นลมอะไร ตนเหมือน… จะเก็บตัวไปหน่อยไหม

ขณะที่คิดอยู่พวกตงจินหรงก็บุกมาถึงก่อนแล้ว

เพียงแต่หลินสวินยังยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหวอยู่เช่นนั้น เงาร่างสูงสง่าราวกับต้นสนโดดเดี่ยวที่หยั่งรากบนริมผาต้นหนึ่ง ราบเรียบละโลกีย์

แต่เมื่อการจู่โจมราวกระแสธารเหล่านั้นเข้ามาได้ครึ่งทาง ก็เหมือนถูกพลังไร้รูปผนึกและกดข่ม พากันระเบิดออกท่ามกลางเสียงระเบิดดังลั่นจนหูแทบดับ

ปึงๆๆ!

วิชามรรคอันเจิดจ้า สมบัติที่ทอสีสันสดใส ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีใดต่างถูกระเบิดกระจุยปลิวว่อน

หลินสวินยืนเพียงลำพัง ไม่เคลื่อนไหวแม้แต่นิดเดียว

“นี่…”

พวกตงจินหรงต่างนัยน์ตาพากันหดรัด

ภาพน่าเหลือเชื่อเช่นนี้ทำลายความเข้าใจและการรับรู้ที่ผ่านมาทั้งหมดของพวกเขาโดยสิ้นเชิง

ถึงอย่างไรด้วยมรรควิถีของพวกเขา จะไปรู้วิธีต่อสู้ที่มกุฎกึ่งจักรพรรดิผู้หนึ่งมีอยู่ได้อย่างไร

“แข็งแกร่งยิ่ง!”

จี้เหลิ่งที่กำลังห้ำหั่นอย่างฮึกเหิมไกลออกไปตาเปล่งประกาย

“แย่แล้ว!”

นักพรตเอ้อที่อยู่ไกลออกไปหน้าเปลี่ยนสีในทันใด ความรู้สึกอันตรายไม่อาจบรรยายได้ผุดขึ้นในใจ

แล้วก็ตอนนี้เอง หลินสวินเคลื่อนไหวแล้ว

เขายื่นมือข้างหนึ่งขึ้นโบกไปในห้วงอากาศลวกๆ

ตูม!

เขาสีหน้าซาบซึ้ง เอ่ยเสียงดังว่า “ขอบคุณผู้อาวุโส ขอบคุณที่ท่านช่วยแก้แค้นให้ลูกสาวผู้น่าสงสารของข้า! ต่อให้ข้าน้อยตายตอนนี้ก็ไม่เสียใจ!”

ขณะนี้ฟ้าดินที่อบอวลไปด้วยการคาวเลือดนี้เหลือเขากับหลินสวินเพียงสองคน

หลินสวินแววตาลุ่มลึก เอ่ยว่า “เช่นนั้นทำไมเจ้าไม่ไปตาย”

จี้เหลิ่งชะงักไปทันที เงยหน้าขึ้นมองหลินสวินที่อยู่ไกลออกไป สีหน้าแข็งทื่อเอ่ยว่า “ผู้อาวุโส ท่าน… คงไม่ได้ล้อเล่นกระมัง”

หลินสวินเอ่ยเสียงเรียบ “เจ้าคิดว่าข้าเหมือนล้อเล่นหรือ”

จี้เหลิ่งสีหน้าปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ เอ่ยอย่างขมขื่นว่า “ผู้อาวุโสกำลังกล่าวโทษที่ถูกข้าน้อยหลอกใช้หรือ นี่เป็นความผิดใหญ่หลวงที่ข้าน้อยกระทำจริงๆ แต่ข้าน้อยคิดไม่ถึงว่าเจ้าสวะเฒ่าอย่างนักพรตเอ้อจะทำแบบนี้”

หลินสวินแววตาเย็นชา “คิดไม่ถึงจริงๆ หรือ”

สังหรณ์ไม่ดีผุดขึ้นในใจจี้เหลิ่ง

ก็เห็นหลินสวินพูดว่า “ด้วยพลังปราณของเจ้า ถ้าอยากช่วยจินเตี๋ยจากมือตงจินหรงนั่นคงไม่ยาก แต่เจ้ากลับทำเช่นนี้”

เมื่อวานหลินสวินเห็นเองกับตาว่าบนถนนใหญ่ที่คนสัญจรไปมา ตงจินหรงเฆี่ยนจินเตี๋ยที่บาดเจ็บเจียนตายอยู่ก่อนแล้วโดยไม่ลังเลสักนิด

ด้วยพลังต่อสู้ที่จี้เหลิ่งเผยออกมา ถ้าลงมือตอนนั้นก็จะช่วยจินเตี๋ยมาได้อย่างง่ายดาย แต่เขากลับไม่ได้ทำเช่นนั้น

“และวันนี้ที่เจ้าหลอกข้ามา เกรงว่าคงคาดการณ์ไว้ก่อนแล้ว ว่านักพรตเอ้อที่แคลงใจในตัวเจ้ามานานแล้วจะไม่ยอมให้เจ้าพาคนนอกอย่างข้าเข้าไปดูคลังสมบัติของเขาโดยเด็ดขาด”

“พูดอีกอย่างก็คือ เพราะการปรากฏตัวของข้า ทำให้นักพรตเอ้อยิ่งแคลงใจในตัวเจ้า สงสัยเจตนาของเจ้าที่พาข้าไปคลังสมบัติ”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สาเหตุที่นักพรตเอ้อจะซุ่มโจมตีอยู่ที่นี่ก็อธิบายได้ง่ายแล้ว”

หลินสวินยังพูดไม่จบ จี้เหลิ่งก็หน้าถอดสี เหงื่อกาฬไหลซึม

เขาสีหน้าอึมครึม เอ่ยเสียงคลุมเครือว่า “ผู้อาวุโสพูดถูก เรื่องพวกนี้ข้าน้อยคาดการณ์ไว้ก่อนแล้วว่ามันจะเกิดขึ้น แต่… ข้าก็ทำเพื่อแก้แค้นให้จินเตี๋ยลูกสาวข้า ผู้อาวุโสก็เห็นแล้วว่าลูกสาวข้าคนนั้นถูกพวกเขาฆ่าทั้งเป็นยังไม่พอ สุดท้ายยังถูกพวกเขาทำลายศพย่อยยับ ไม่อาจอภัยได้จริงๆ!”

หลินสวินแววตาเย็นชา “ข้าบอกแล้ว เจ้าสามารถช่วยนางได้ก่อน แต่เจ้าก็ไม่ได้ทำเช่นนี้ การตายของนางเป็นเพราะเจ้าทำคนเดียว”

จี้เหลิ่งดึงดันพูดว่า “ถ้าไม่ใช่เพื่อล้างแค้นให้ลูกสาวข้า ข้า… ข้าจะกล้าหลอกใช้พลังของผู้อาวุโสได้อย่างไร”

“เพราะเจ้าไม่ได้ล้างแค้นให้ลูกสาวอยู่แล้ว”

หลินสวินสีหน้าเฉยชา “พอนักพรตเอ้อตาย เจ้าก็จะเป็นคนที่ได้ประโยชน์มากที่สุด ถึงตอนนั้นทั้งเมืองผีครอบงำก็จะถูกเจ้าควบคุม”

เขาหยุดพักแล้วพูดต่อว่า “ถึงตอนนั้นต่อให้สมุนของเจ้าแคว้นคีรีดำที่สนิทสนมกับนักพรตเอ้อพวกนั้นรู้เรื่องนี้เข้า เจ้าก็จะผลักเรื่องทั้งหมดนี้มาที่ข้า”

“ยืมดาบฆ่าคน ยิงธนูดอกเดียวได้นกสองตัว ทั้งยังมีคนนอกอย่างข้ามาเป็นแพะรับบาป ทำไมจะไม่ยินดีทำล่ะ”

จี้เหลิ่งหมอบลงกับพื้น สั่นเทาไปทั้งตัว สีหน้ามีแต่ความตื่นตระหนก “ผู้อาวุโส ข้าน้อยไม่ได้มีความคิดชั่วช้าเช่นนั้นจริงๆ ข้าสาบานกับฟ้าก็ได้!”

“ถ้าฟ้าไม่ยุติธรรม สาบานไปจะมีประโยชน์อะไร”

หลินสวินทอดถอนใจอยู่บ้าง นึกถึงพลังระเบียบต้องห้ามที่ควบคุมทั่วหล้านี้อีกครั้ง และยังนึกถึงจักรพรรดิไร้นามที่มาใหม่คนนั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์