ตอนที่ 2083 เริ่มฆ่ากันแล้ว
หลี่ว์เสียนทรยศแล้ว เชื่อฟังคำสั่งมารกระบี่เต้ายวน สวามิภักดิ์ต่อเจ้าแคว้นคีรีดำ!
เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ก็เหมือนสายฟ้าฟาดท่ามกลางอากาศแจ่มใส เรียกแรงสะเทือนครั้งใหญ่ขึ้นในอาณาเขตที่เจ้าแคว้นคลั่งโลหิตปกครองอยู่
“หลี่ว์เสียนเป็นถึงมกุฎกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่ง จะเลือกกทรยศได้อย่างไรกัน”
คนไม่รู้เท่าไหร่ปากกอ้าตาค้าง
“ข่าวเป็นเรื่องจริง มีคนเห็นเองกับตา จู่ๆ หลี่ว์เสียนก็ฆ่าพวกแม่ทัพใต้อาณัติเจ้าแคว้นคลั่งโลหิตหลายคน”
“มารกระบี่เต้ายวนนี่จะน่ากลัวเกินไปแล้ว เขาทำให้หลี่ว์เสียนยอมเชื่อฟังได้อย่างไร”
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความโกลาหลครั้งใหญ่ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอนแล้ว”
ในอาณาเขตที่เจ้าแคว้นคลั่งโลหิตควบคุมอยู่ หัวใจผู้คนครั่นคร้าม แต่ละคนรู้สึกเป็นอันตราย
ระยะนี้เริ่มจากเจ้าเมืองห้าสิบสี่เมืองทรยศก่อน เรียกระลอกคลื่นใหญ่ฉับพลัน
ใครเลยจะคาดคิดว่าเพิ่งผ่านไปไม่กี่วันเท่านั้น แม้แต่หลี่ว์เสียนที่ถูกมองเป็นหนึ่งในมือซ้ายมือขวาของเจ้าแคว้นคลั่งโลหิตก็ยังพลอยทรยศหักหลังไปด้วย นี่น่าตกใจเกินไปแล้ว
เขาทองทมิฬ
เจ้าแคว้นคลั่งโลหิตเดือดดาลอย่างสิ้นเชิง ส่งเสียงคำรามสะท้านฟ้าออกมา “เจ้าเฒ่าคีรีดำชาติชั่ว ข้าสาบานว่ามีข้าต้องไม่มีเจ้า!”
ในวันนี้ เจ้าแคว้นคลั่งโลหิตที่เดือดดาลแทบคลั่งเคลื่อนไหวขุมกำลังทั้งหมด บุกไปยังอาณาเขตที่เจ้าแคว้นคีรีดำครอบครองอยู่
……
“อะไรนะ? หลี่ว์เสียนยังทรยศ?”
เขายุทธ์สวรรค์ ตอนที่ได้รู้ข่าว ขนาดจักรพรรดิมารคีรีดำยังอึ้งไป ไม่อยากเชื่ออยู่บ้าง
หลี่ว์เสียนเป็นมกุฎกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่ง ซ้ำเป็นแม่ทัพมากฝีมือที่เจ้าแคว้นคลั่งโลหิตตั้งความหวังไว้มากที่สุด การหักหลังของเขาสามารถทำให้เจ้าแคว้นคลั่งโลหิตคลุ้มคลั่งได้อย่างแน่นอน!
“มารกระบี่เต้ายวนนี่มีฝีมือขนาดนี้จริงๆ หรือ”
จักรพรรดิมารคีรีดำสีหน้าวูบไหวไม่นิ่ง เดิมทีเขาควรรู้สึกดีใจหาใดเปรียบ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็รู้สึกดีใจไม่ได้เลย
สาเหตุก็เพราะ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นระยะนี้ปุบปับและผิดธรรมดามากเกินไป ทำให้เขารู้สึกเป็นผู้ถูกกระทำอย่างหนึ่ง
“นายท่าน ศึกนี้ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แล้ว…”
เงาร่างของเลี่ยกวงปรากฏอยู่นอกโถงใหญ่ เอ่ยปากเสียงขรึม “เพิ่งมีข่าวส่งมาเมื่อครู่ มกุฎกึ่งจักรพรรดิมู่ชิงหยางบริวารของเจ้าแคว้นคลั่งโลหิต ได้พาผู้แข็งแกร่งทั้งกลุ่มบุกเข้ามาในอาณาเขตของพวกเราแล้ว”
เจ้าแคว้นคีรีดำนัยน์ตาหดรัด จากนั้นก็กัดฟันกล่าวทันควันว่า “สั่งการลงไป ระดมกองกำลังทั้งหมด ประกาศศึกกับเจ้าเฒ่าคลั่งโลหิต!”
“ขอรับ!”
เลี่ยกวงรับคำสั่งแล้วออกไป
……
“เจ้าแคว้นคลั่งโลหิตกับเจ้าแคว้นคีรีดำเปิดศึกกัน ระหว่างสองขุมอำนาจใหญ่บังเกิดศึกนองเลือดรอบด้านแล้ว!”
ข่าวนี้หอบม้วนทั่วทั้งแคว้นหนาวเหน็บประหนึ่งพายุมรสุม ชั่วพริบตาเจ้าแคว้นอื่นๆ ในสิบเจ้าแคว้นใหญ่ล้วนถูกทำให้สะดุ้ง
ระหว่างสองเจ้าแคว้นใหญ่เกิดการต่อสู้รอบด้าน นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่สะท้านสะเทือนฟ้าดิน!
ต่อให้อยู่ในโลกมืดยังหาพบได้ยากยิ่ง ไม่อยากเรียกความสนใจของผู้คนยังยาก
“พวกเขาสองคนบ้าไปแล้วหรือ”
“เพื่อจะแย่งชิงอาณาเขต ถึงกับเปิดศึกรอบด้านโดยไม่สนทุกสิ่ง ออกจะเลอะเลือนเกินไปแล้ว!”
“นกปากซ่อมสู้กับหอยกาบ ชาวประมงได้ประโยชน์ พวกเขาไม่ห่วงว่าจะถูกเจ้าแคว้นอื่นๆ ฉวยโอกาสหรือ”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ฮือฮานับไม่ถ้วนดังขึ้นในอาณาเขตกว้างขวางของแคว้นหนาวเหน็บ ขุมอำนาจเจ้าแคว้นอื่นๆ ต่างเพ่งความสนใจไปที่การต่อสู้ครั้งนี้อย่างไม่วางตา
“ในที่สุดก็เริ่มฆ่าฟันกันแล้ว!”
ลมหายใจของจี้เหลิ่งเปลี่ยนเป็นถี่รัว สีหน้าฮึกเหิมยากจะปกปิด
เวลานี้เขากับหลินสวินมาถึงในเมืองที่มีชื่อเรียกว่า ‘เมืองแสงเงิน’ แล้ว กำลังนั่งดื่มสุรากันอยู่ในหอสุราแห่งหนึ่ง
เมื่อเจ้าแคว้นคลั่งโลหิตและเจ้าแคว้นคีรีดำเปิดศึกระหว่างสองขุมอำนาจใหญ่ เมืองที่ตั้งอยู่ ‘แนวหน้า’ อย่างเมืองหม่อนคมก็กลายเป็นพื้นที่อันตรายร้ายแรงของศึกนี้ ทุกหย่อมหญ้าล้วนเป็นภาพการเข่นฆ่านองเลือด เพลิงโหมเสียดฟ้า
สถานที่เช่นเมืองแสงเงิน ถึงแม้จะอยู่ห่างจากสนามรบไกลโพ้น แต่จิตใจผู้คนก็หวาดหวั่นเช่นกัน ผู้ฝึกปราณมากมายเผ่นหนีตั้งแต่เนิ่นๆ กลัวเพียงว่าเพลิงศึกจะม้วนกวาดมาและโดนลูกหลง
หลินสวินกำลังร่ำสุรา สีหน้าผ่อนคลาย
เห็นท่าทางเช่นนี้ของเขา จู่ๆ ในใจจี้เหลิ่งก็มีความรู้สึกทอดถอนใจที่บอกไม่ถูกอย่างหนึ่งถาโถม ใครจะคิดได้ ว่าการต่อสู้ที่สามารถสะเทือนแคว้นหนาวเหน็บแห่งนี้ อันที่จริงเกิดจากอุบายของชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ ยามเคลื่อนไหวพร้อมกับหลินสวินเมื่อหลายวันก่อน จี้เหลิ่งก็มีรู้สึกไม่สมจริงราวกับฝันไป
น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
จู่ๆ หลินสวินที่กำลังร่ำสุราอยู่ก็เอ่ยปากกล่าวว่า “จี้เหลิ่ง พรุ่งนี้ข้าจะจากไปสักระยะ”
จี้เหลิ่งอึ้งไป “ผู้อาวุโสจะไปไหน”
หลินสวินกล่าวสบายๆ “จุดไฟต่อ”
จี้เหลิ่งอึ้งงัน ตอนนี้เจ้าแคว้นคีรีดำกับเจ้าแคว้นคลั่งโลหิตลล้วนเข่นฆ่ากันแล้ว หรือว่าการเคลื่อนไหวเช่นนี้ยังไม่พออีก
หลินสวินกล่าว “ยังจำคำที่ข้าพูดได้หรือไม่ ขอเพียงเจ้ากล้ามากพอ ภายหน้าต่อให้เป็นเจ้าแคว้นก็หาใช่เรื่องยาก”
จี้เหลิ่งยิ้มขื่น เขาเป็นเพียงมกุฎมหาอริยะคนหนึ่ง แม้จะกลายเป็นเจ้าแคว้นก็อาจถูกคนฆ่าตายได้ทุกเมื่อ
โลกมืดไม่เคยขาดแคลนพวกร้ายกาจเลย!
หลินสวินคล้ายมองทะลุความคิดในใจจี้เหลิ่งได้ในปราดเดียว กล่าวด้วยแววตาลุ่มลึกว่า “หากข้าทำให้คนที่สวามิภักดิ์พวกนั้นพร้อมใจกันเชื่อฟังคำสั่งเจ้าล่ะ อย่างเช่นมีหลี่ว์เสียนอยู่ ใต้ระดับจักรพรรดิ พวกธรรมดาทั่วไปก็จะฆ่าเจ้าไม่ได้”
จี้เหลิ่งรู้สึกเพียงว่าหัวสมองดังสนั่นคราหนึ่ง มีปฏิกิริยาตอบกลับแล้ว อดกล่าวเสียงสั่นไม่ได้ว่า “ผู้อาวุโส ท่านหมายความว่า จะทำให้พวกคนที่โดนมายาแห่งความหวาดกลัวเชื่อฟังคำสั่งข้าทั้งหมดหรือ”
หากเป็นเช่นนี้ การกลายเป็นเจ้าแคว้น… ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยากสักนิด!
หลินสวินพยักหน้า จี้เหลิ่งเฉลียวฉลาดยิ่งและมีฝีมือ ข้อบกพร่องเพียงอย่างเดียวก็คือศักยภาพยังอ่อนแอเกินไป ทว่าหากมีผู้แข็งแกร่งทั้งกลุ่มสวามิภักดิ์ เชื่อฟังคำสั่งเขา เช่นนั้นก็ต่างไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว
“แต่ว่า… พวกระดับจักรพรรดิล่ะ”
จี้เหลิ่งอดกล่าวไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์