ตอนที่ 2084 ประกาศจับที่มาอย่างกะทันหัน
ห้วงอากาศไกลออกไป ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนตระหง่านกลางอากาศ อาภรณ์แผ่วพลิ้ว หล่อเหลาละโลกีย์ ว่างเปล่าราวกับเซียนจุติลงมา
“เจ้า… ก็คือมารกระบี่เต้ายวน?”
ถึงแม้สีหน้าเจ้าแคว้นคีรีดำจะเข้มขรึมไม่น่าดูหาใดเปรียบ ทว่าในใจกลับตกใจแกมสงสัย
อยู่ดีๆ เจ้าแคว้นคลั่งโลหิตก็ถูกกำราบ สร้างแรงโจมตีครั้งใหญ่ให้แก่เขา แทบไม่ต้องคิดสักนิดก็รู้ว่าจะต้องเป็นฝีมือของชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้อย่างแน่นอน
นี่ทำให้เจ้าแคว้นคีรีดำรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ในใจเช่นกัน
กลับเห็นหลินสวินยิ้มน้อยๆ กล่าวว่า “เป็นข้าน้อยเอง”
เมื่อได้ยินคำว่า ‘ข้าน้อย’ สองคำนี้ ก็ทำให้ในใจเจ้าแคว้นคีรีดำแขยงและอัดอั้นไปชั่วขณะ สีหน้ายิ่งไม่น่าดูขึ้นเรื่อยๆ
เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ข่มกลั้นความต้องการเข้าไปตบหลินสวินให้ตายในฝ่ามือเดียวแล้วกล่าวว่า
“ข้าไม่มีลูกน้องที่มากฝีมือเช่นเจ้า ว่ามาเถิด เจ้าอ้างชื่อข้าทำเรื่องมากมายขนาดนี้ คิดจะวางอุบายอะไรกันแน่!”
หลินสวินยิ้มกล่าว “ย่อมทำไปเพื่อขยายอาณาเขต สร้างผลงานให้เต้าเท้าอยู่แล้ว”
เส้นเลือดบนหน้าผากเจ้าแคว้นคีรีดำปูดนูนชัดเจน กัดฟันกล่าว “อย่างนั้นหรือ คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเจ้าจะจงรักภักดีปานนี้”
หลินสวินทำหน้าถ่อมตน “ใต้เท้าชมเกินไปแล้ว”
เจ้าแคว้นคีรีดำรู้สึกว่าหากคุยเช่นนี้ต่อไป ตนต้องโกรธจนกระอักเลือดเป็นแน่
เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง กล่าวด้วยเสียงเย็นเยียบ “ปัญญาชนไม่พูดกำกวม หากเจ้าปิดบังอีกก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!”
หลินสวินยิ้ม ย้อนถามว่า “เจ้ากล้าหรือ”
และในเวลานี้วิญญาณกระบี่เย่จื่อกลายเป็นแสงเจิดจ้าสายหนึ่ง ลอยไปอยู่บนไหล่หลินสวิน กล่าวด้วยเสียงราบเรียบ “เจ้านี่จะเอาอย่างไร”
เขาทอดสายตามองไปทางเจ้าแคว้นคีรีดำ ปราณระดับจักรพรรดิขั้นสอง บาดเจ็บสาหัส เจ้าคนประเภทนี้การโจมตีเดียวก็กำราบได้แล้ว
ส่วนเจ้าแคว้นคีรีที่ถูกสายตาเย่จื่อจับจ้องก็สั่นเทิ้มไปทั้งร่าง หัวใจผุดไอเย็นวาบ ในที่สุดเขาก็กระจ่างแล้วว่าเจ้าหนุ่มนี่เอาความมั่นใจมาจากไหน
“ใต้เท้าคีรีดำเป็นถึงผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง ยินดีรับข้าเป็นบริวาร เรียกได้ว่าองอาจเต็มเปี่ยม คุณธรรมคับฟ้า”
หลินสวินสีหน้าจริงจัง “ดังนั้นข้าตั้งใจว่าภายหน้าจะช่วยเหลือใต้เท้าคีรีดำจัดการธุระบางอย่างให้มากขึ้น จะต้องทำให้ชื่อเสียงบารมีของใต้เท้าคีรีดำกึกก้องแคว้นหนาวเหน็บ ไม่มีใครไม่รู้จัก”
ในใจเจ้าแคว้นคีรีดำผุดความรู้สึกไม่เข้าทีอย่างแรงกล้า กล่าวด้วยความตกใจแกมโกรธ “เจ้า… เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่”
“ใต้เท้าไม่ต้องลนลาน ข้าน้อยมาครั้งนี้ก็เพราะหวังว่าใต้เท้าจะเตรียมพร้อม ภายหน้าขุมอำนาจทั้งหมดในแคว้นหนาวเหน็บจะยกใต้เท้าเป็นนายเหนือหัว มีเพียงเท่านี้จึงจะสามารถแสดงน้ำใจของข้าน้อยได้”
หลินสวินกล่าวจบก็หัวเราะพลางขอตัวลา
“หยุดนะ!”
เจ้าแคว้นคีรีดำตะโกนลั่น เขาทั้งตกใจทั้งโมโหผสมปนเป ยิ่งรู้สึกไม่เข้าทีมากขึ้นเรื่อยๆ
“ใต้เท้า ข้าน้อยมอบหนทางปูพรมให้ท่าน ท่านอย่าได้ทำเรื่องโง่ๆ ที่คิดเอาเด็ดขาดเชียว”
หลินสวินไม่เหลียวหลัง จากไปอย่างผ่าเผย
พริบตานี้เจ้าแคว้นคีรีหมายอยากลงมือหลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ได้แต่อดทนไว้
เขาไม่กล้า
ด้วยสิ่งที่เจ้าแคว้นคลั่งโลหิตประสบยังประจักษ์คาตาอยู่!
“มารกระบี่เต้ายวนนี่… เป็นใครกันแน่”
เนิ่นนานกว่าเจ้าแคว้นคีรีดำจะสงบอารมณ์ลงได้ สีหน้าอึมครึม จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าตัวเองตกสู่ตาข่ายใหญ่ไร้รูปผืนหนึ่ง ไม่อาจหลุดรอดได้แล้ว
……
ในวันนี้
เจ้าแคว้นคีรีดำสังหารเจ้าแคว้นคลั่งโลหิต คว้าชัยชนะทั่วทิศ กลืนกินอาณาเขตที่เจ้าแคว้นคลั่งโลหิตปกครองอยู่ให้มาอยู่ใต้ปกครองตนในคราเดียว
ทันทีที่ข่าวแพร่ออกไป ทั่วทั้งแคว้นหนาวเหน็บก็สะท้านสะเทือน
สำหรับผู้ฝึกปราณทั่วไปแล้ว การเปลี่ยนเจ้าแคว้นสักคนก็ไม่ได้ต่างอะไรนัก ขอเพียงยังมีชีวิตอยู่ในโลกมืดย่อมหลีกเลี่ยงโชคชะตาที่ถูกขูดรีดไม่ได้
แต่สำหรับเจ้าแคว้นอื่นๆ ในสิบเจ้าแคว้นใหญ่แล้ว ชัยชนะยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ของเจ้าแคว้นคีรีดำกลับมีความหมายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
นี่หมายความว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สถานการณ์ที่สิบเจ้าแคว้นใหญ่ร่วมกันปกครองในแคว้นหนาวเหน็บก็จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ ต่อไปแคว้นหนาวเหน็บจะมีเก้าเจ้าแคว้นใหญ่ร่วมกันปกครอง
และเจ้าแคว้นคีรีดำที่กลืนกินอาณาเขตของเจ้าแคว้นคลั่งโลหิต ขุมอำนาจก็ขยายกว้างขึ้นกว่าหนึ่งเท่าเต็มๆ อิทธิพลที่มีอยู่ไม่ใช่สิ่งที่เมื่อก่อนจะเทียบชั้นได้อีกต่อไป!
“เจ้าเฒ่าคีรีดำนี่ร้ายกาจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือว่าปราณของเขาทะลวงขั้นกลายเป็นระดับจักรพรรดิขั้นสามแล้ว”
เจ้าแคว้นคนอื่นๆ บางส่วนสงสัยไม่หยุด
“อิทธิพลแผ่ขยายกว่าหนึ่งเท่า ทรัพย์บรรณาการที่ได้รับทุกเดือนก็เป็นจำนวนนับไม่หวาดไม่ไหว เมื่อเป็นเช่นนี้ ทรัพยากรฝึกปราณที่เจ้าเฒ่าคีรีดำนี่มีอยู่ก็เปลี่ยนเป็นมั่งคั่งขึ้นมาด้วย…”
มีคนมุ่นคิ้ว ในใจผุดความเกรงกลัว
โลกมืดระเบียบพังทลาย โกลาหลปั่นป่วน กอปรกับไอวิญญาณกลางฟ้าดินบางเบา ผู้ฝึกปราณทั่วไปยังไม่เท่าไหร่ แต่สำหรับระดับจักรพรรดิแล้ว สภาพแวดล้อมย่ำแย่หาใดเปรียบเช่นนี้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการในการฝึกปราณของพวกเขาได้สักนิด
เหมือนอย่างสิบเจ้าแคว้นใหญ่ในแคว้นหนาวเหน็บ แต่ละครครอบครองอาณาเขตใต้อาณัติมากถึงหลายร้อยหลายพันเมือง ทุกเดือนเจ้าแคว้นแต่ละคนสามารถรวบรวมผลึกมรรคมหาศาลเป็นจำนวนหลายร้อยล้าน
แต่สำหรับระดับจักรพรรดิอย่างพวกเขา ผลึกมรรคเหล่านี้จำเป็นต้องมอบส่วนหนึ่งให้กับสำนักโบราณจรัสเทพด้วย
มีเพียงเช่นนี้ พวกเขาจึงจะมีโอกาสแลกเปลี่ยนทรัพยากรฝึกปราณที่เรียกได้ว่าเป็นสมบัติจากธรรมชาติมาจากสำนักโบราณจรัสเทพ เพื่อเติมเต็มความต้องการในฝึกปราณของตน!
กล่าวง่ายๆ คือ ผู้ฝึกปราณทั่วไปคิดอยากอยู่รอดในโลกมืด จำเป็นต้องเข้าไปในเมือง ส่งมอบผลึกมรรค จึงจะได้รับการคุ้มครองปกป้อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์