Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2100

สรุปบท ตอนที่ 2100 ข้าหมายจะบรรลุมกุฎจักรพรรดิ: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอน ตอนที่ 2100 ข้าหมายจะบรรลุมกุฎจักรพรรดิ จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 2100 ข้าหมายจะบรรลุมกุฎจักรพรรดิ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 2100 ข้าหมายจะบรรลุมกุฎจักรพรรดิ

ในความทรงจำของปาฉี จักรพรรดิสวรรค์ดำรงมาถึงโลกมืดเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว ทว่าหนึ่งวันให้หลังก็จากไปอย่างเร่งรีบ ได้ยินว่าไปยังแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์หนึ่งในจตุโบราณสถานบรรพกาล

ตอนที่รู้เรื่องพวกนี้ หลินสวินเพิ่งตระหนักได้กะทันหันว่า เป้าหมายที่จักรพรรดิสวรรค์ดำรงมุ่งหน้าไปยังแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเป็นซากปรักหักพังของคีรีดวงกมลที่ทรุดทลายไปนานแล้ว!

เพียงแต่ประตูเขาคีรีดวงกมลถูกทำลายไปนานแล้ว จักรพรรดิสวรรค์ดำรงจะไปทำอะไรที่นั่นกันแน่

ในขณะเดียวกันหลินสวินก็ได้ยินเรื่องที่เจ้าแห่งหอวิหคทองแดงปฏิเสธการเข้าพบจักรพรรดิสวรรค์ดำรง และถูกจักรพรรดิสวรรค์ดำรงผูกแค้น

‘เจ้าหมอนี่ เย่อหยิ่งจริงๆ!’

หลินสวินถอนหายใจ หลังมาถึงโลกมืด เขาเองก็ได้รู้ว่าเจ้าแห่งหอวิหคทองแดงคนปัจจุบันถูกมองว่าเป็นคนที่เย่อหยิ่งที่สุดทั่วหล้า

แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเจ้าหอวิหคทองแดงถึงกับกล้าปฏิเสธจักรพรรดิสวรรค์ดำรงโดยตรง ทอดสายตามองไปบนทางเดินโบราณฟ้าดารา คงมีไม่กี่คนที่กล้าทำเช่นนี้!

ควรรู้ว่าตอนที่เผชิญกับการข่มขู่ของจักรพรรดิสวรรค์ดำรง เรือนมรรคโลกาสวรรค์ยังทำได้เพียงก้มหัว จำต้องยอมแพ้

เทียบกันเช่นนี้ แค่คิดก็รู้ว่าการปฏิเสธนี้ของเจ้าหอวิหคทองแดง ความองอาจที่เผยออกมาน่าตกใจเพียงใด

ตอนนี้หลินสวินยังไม่รู้ว่าเจ้าแห่งหอวิหคทองแดงที่เย่อหยิ่งอย่างที่สุดคนนี้ก็คือจ้งชิว ผู้สืบทอดลำดับสองของคีรีดวงกมล

แต่นี่ไม่ได้ขัดขวางความชื่นชมที่เขามีต่อเจ้าหอวิหคทองแดง

หรือพูดอีกอย่างว่า คนที่กล้าปะทะกับจักรพรรดิสวรรค์ดำรงควรค่าแก่การชื่นชม

……

ตอนที่ปาฉีตื่นขึ้นมา ก็เห็นหลินสวินยืนอยู่ตรงหน้า ในฝ่ามือถือดาบศึกที่สว่างไสวและดุดันไร้ขอบเขตเล่มหนึ่ง

ปาฉีนัยน์ตาหดรัด “ดาบไร้วิชายอดสมบัติพิทักษ์ตระกูลของเผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์ตระกูลซาง! เจ้า… คิดจะทำอะไร”

หลินสวินชี้หน้าอกของตนแล้วเอ่ยว่า “ตอนนั้นเจ้าชิงชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดของข้าไป วันนี้ แน่นอนว่าข้าจะต้องตาต่อตา ฟันต่อฟัน”

ฟุบ!

ยังไม่ทันสิ้นเสียงหลินสวินก็สะบัดดาบแทงเข้าหน้าอกของปาฉี ปลายดาบแทงทะลุผิวหนังเอ็นกระดูกของเขาอย่างง่ายดาย เข้าไปถึงหัวใจของเขา พอหลินสวินบิดข้อมือ เสียงแตกระเบิดหนักทึบปะปนน้ำเลือดสีแดงสดก็ไหลออกจากหน้าอกของปาฉี

ปาฉีในฐานะระดับจักรพรรดิขั้นแปด ชีวิตนี้ผ่านอันตรายมาไม่รู้เท่าไหร่ ย่อมไม่มีทางตกใจกับกลลวงเล็กๆ เช่นนี้

เขาราวกับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด จ้องหลินสวินด้วยสีหน้าไร้อารมณ์พร้อมพูดว่า “เจ้าไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าอะไรที่เรียกว่าระดับจักรพรรดิ อะไรเรียกว่าระดับจักรพรรดิขั้นแปด ด้วยพลังของเจ้า แม้ป่นกระดูกข้าแหลก ทำลายร่างกาย ฟาดฟันจิตวิญญาณ ก็ไม่อาจฆ่าข้าให้ตายได้”

คำพูดนิ่งสงบ เผยความเยาะหยันจากผู้ที่อยู่เหนือกว่า

หลินสวินคล้ายไม่สะทกสะท้าน คมดาบดุดัน เฉือนเส้นปราณหัวใจของปาฉีออกแล้วจึงพูดว่า “ข้าเพียงแค่ตาต่อตาฟันต่อฟัน ระบายความโกรธก่อน ไม่คิดจะให้เจ้าตายง่ายๆ เช่นนี้อยู่แล้ว”

เขาหยุดไปครู่หนึ่งพลางจ้องหน้าอกที่ยังคงเลือดไหล สายตาไร้คลื่นอารมณ์ พูดเสริมว่า “ข้าบอกแล้วว่าเจ้ามีเพียงจุดจบเดียว”

เสียงของเขานิ่งสงบยิ่งกว่า

ปาฉีมองหลินสวินที่ไม่ได้รับผลกระทบ ในใจหนาวเยียบขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ เอ่ยว่า “จุดจบอะไร”

“อยู่ไม่สู้ตาย” หลินสวินพูดง่ายๆ

คำพูดสั้นๆ กลับทำให้สีหน้าของปาฉีเปลี่ยนไประลอกหนึ่ง อยู่ไม่สู้ตาย หมายความว่าต้องอยู่ต่ออย่างทุกทรมานโดยไม่สามารถร้องขอความตาย

ยิ่งหมายความว่าจะประสบความทรมาน ทารุณ อับอาย… อันไม่มีที่สิ้นสุดโดยไม่สามารถหลุดพ้นได้!

“เจ้าไม่เป็นห่วงว่าในอนาคตจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นหรือ”

ปาฉีสูดหายใจเข้าลึกคราหนึ่ง พูดอย่างนิ่งสงบ “และขอเพียงแค่ข้าคว้าโอกาสได้เพียงเสี้ยวหนึ่ง เจ้าก็จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย”

“วางใจเถอะ แม้ตอนข้าตาย ก็จะต้องทำให้เจ้าตกอยู่ในสถานการณ์ที่อยู่ไม่สู้ตายโดยไม่สามารถหลุดพ้นได้”

สีหน้าของหลินสวินนิ่งสงบ

ว่าแล้วเขาก็เรียกเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดออกมากำราบปาฉีอีกครั้ง

ฮูม…

ครู่ต่อมาหลินสวินเก็บกระบวนผนึกที่ปกคลุมหุบเขาแห่งนี้ เงาพริบวาบเคลื่อนย้ายห่างไปไกล

ในฝ่ามือเขาปรากฏคันฉ่องทองแดงโบราณบานหนึ่ง นี่เป็นสิ่งที่ชิงอิง หญิงลึกลับแห่งเรือนเร้นหมอกให้มา

ชื่อว่าคันฉ่องทองแดงนำทาง ภายในมีแผนที่หนึ่งซ่อนอยู่ ด้วยการนำทางของแผนที่นี้ จะสามารถไปถึงแดนอำพรางได้

แดนอำพรางก็คือถิ่นกำเนิดของเรือนเร้นหมอก

ชิงอิงเคยพูดว่า ขอเพียงหลินสวินไปหานาง นางก็จะบอกเรื่องที่มีแต่ข้อดีไม่มีข้อเสียเรื่องหนึ่งกับหลินสวิน

กับเรื่องนี้หลินสวินไม่ได้สนใจ สิ่งที่เขาสนใจจริงๆ คือ ด้วยความสามารถของชิงอิง จะรู้เรื่องที่เป็นความลับยิ่งยวดหรือไม่

อย่างเช่น เบาะแสที่เกี่ยวข้องกับศิษย์พี่รองคีรีดวงกมล

หรืออย่างเช่น ความลึกลับที่ซ่อนอยู่ในประโยคที่ว่า ‘แก้ปมก็ต้องเป็นคนผูกปม’

……

พระอาทิตย์ขึ้นแล้วตก เวลาล่วงเลยไป

ความฮือฮาที่หลินสวินผู้สืบทอดคีรีดวงกมลสร้างขึ้นก็ค่อยๆ จางหายไปพร้อมกับเวลาที่ผ่านเลย

สำหรับผู้แข็งแกร่งที่มีชีวิตอยู่ในโลกมืด เผชิญกับการตัดสินใจเป็นตายตลอดเวลา ย่อมไม่มีกะจิตกะใจไปสนใจความเป็นความตายของคนอื่น

คำสั่งจับหลินสวินยังคงดำเนินต่อ ทว่าคนที่ลงมือกระทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง มีเพียงแค่ขุมอำนาจใหญ่อย่างแดนกษิติครรภ์ สำนักโบราณจรัสเทพเท่านั้น

ทว่าขุมอำนาจใหญ่เหล่านี้เองก็รู้ดีว่า อยากจะจับเจ้าหนุ่มที่สามารถกำราบมหาจักรพรรดิปาฉีได้นั้น ยากกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก…

ครึ่งเดือนหลังจากนั้น

หลินสวินก้าวข้ามอาณาเขตของสามแคว้น เข้าสู่แคว้นพิณบูรพา

ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน กึ่งจักรพรรดิบนทางเดินโบราณฟ้าดาราสามารถพบเห็นได้ทั่วทุกที่ ทว่ามกุฎกึ่งจักรพรรดิกลับเป็นผู้ที่ล้ำค่าและหายาก

ไม่ว่าจะเป็นยุคดึกดำบรรพ์ ยุคบรรพกาลหรือโลกปัจจุบัน ในบรรดากึ่งจักรพรรดินับพันหมื่น เหรงว่าจะหามกุฎกึ่งจักรพรรดิไม่ได้แม้แต่คนเดียว

ทุกสิ่งล้วนเพราะคำว่า ‘มกุฎ’ ยากลำบากเกินไป

เมื่อเทียบกันแล้ว บุคคลระดับจักรพรรดิก็เรียกได้ว่าน้อยยิ่งกว่าน้อย โดยปกติแล้วในขุมอำนาจหนึ่ง หากมีระดับจักรพรรดิควบคุมดูแลก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นขุมอำนาจชั้นหนึ่งของโลก!

อย่างในโลกมืด แคว้นหนาวเหน็บอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลขนาดไหน แต่กลับมีเพียงสิบเจ้าแคว้นใหญ่ที่ครอบครองพลังปราณระดับจักรพรรดิ

นี่ก็คือเหตุผลที่ระดับจักรพรรดิถูกมองว่าสูงส่ง เพราะในสายตาของผู้แข็งแกร่งที่ต่ำกว่าระดับจักรพรรดิ ระดับจักรพรรดิเรียกได้ว่าเป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแล้ว!

และเมื่อเทียบกับระดับจักรพรรดิ ระดับมกุฎจักรพรรดิยิ่งน้อยกว่า…

ระดับจักรพรรดิเดิมก็เป็นเหมือนปราการสวรรค์อยู่แล้ว ขัดขวางย่างก้าวของผู้ฝึกปราณไม่รู้เท่าไหร่

อยากจะหล่อหลมพลังปราณบนเส้นทางแห่งมกุฎ นั่นยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์!

บนทางเดินโบราณฟ้าดาราตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ ในมหามรรคระดับจักรพรรดิ คนที่สามารถก้าวสู่เส้นทางมกุฎ สามารถใช้นิ้วนับได้อย่างแน่นอน

และตัวตนเช่นนี้ก็ไม่มีใครที่ไม่ใช่บุคคลน่ากลัวซึ่งสร้างความฮือฮาบนมรรคาระดับจักรพรรดิ พลังที่ครอบครองสามารถทำให้ระดับจักรพรรดิทั่วไปตะลึงและหวาดกลัว!

อิงตามบันทึกโบราณ ช่วงแรกของยุคดึกดำบรรพ์เคยมีมกุฎมหาจักรพรรดิมากมายเกิดขึ้นในโลกจำนวนไม่น้อย ในยุคบรรพกาล นานๆ ทีจึงจะปรากฏผู้กล้าชั้นเลิศที่ก้าวสู่เส้นทางมกุฎ

จนกระทั่งเกือบหนึ่งแสนปีมานี้ บนทางเดินโบราณฟ้าดารา น้อยมากที่จะได้ยินว่ามีผู้ฝึกปราณคนใดก้าวสู่ระดับมกุฎจักรพรรดิ

ก็เหมือนยามเคลื่อนไหวในเขตต้องห้ามเซียนโบราณเมื่อไม่นานมานี้ ที่เหล่าผู้สืบทอดแกนหลักหกเรือนมรรคใหญ่ไปด้วย ก็เพื่อช่วงชิงมหาสมบัติแรกกำเนิด แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือเพื่อก้าวสู่ระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิ!

มีเพียงเช่นนี้ จึงจะมีโอกาสบรรลุระดับมกุฎมหาจักรพรรดิ!

ปีศาจชั้นเลิศอย่างพวกหมีอู๋หยา หลิงหงจวง ล้วนหมายมาดและมุ่งหวังเช่นนี้อย่างไม่มีข้อยกเว้น

แน่นอนว่าหลินสวินเองก็เช่นเดียวกัน

ตอนนี้เขาเป็นผู้ฝึกปราณระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิสามชั้นฟ้าขั้นสมบูรณ์แล้ว ประสบการณ์ในการฝึกปราณหลายปีที่ผ่านมา ก็ทำให้เขารู้ชัดว่าหากหมายจะบรรลุจักรพรรดิในขอบเขตมกุฎ เป็นเรื่องที่ยากลำบากและอันตรายแค่ไหน

ทว่าเขาไม่มีทางถอยเพียงเท่านี้!

สิ่งที่เขาต้องการก็คือหนทาง ‘ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มรรคข้าไร้ศัตรู’!

ถ้าแม้แต่บรรลุจักรพรรดิในขอบเขตมกุฎยังทำไม่ได้ ยังจะพูดถึง ‘มรรคข้าไร้ศัตรู’ อะไรได้อีก

ทว่าหลินสวินไม่รีบ

ความสมบูรณ์ของพลังปราณ ไม่ได้หมายความว่ามรรควิถีของเขาจะไปถึงจุดสุดยอดของความสมบูรณ์

อย่างเช่นการหยั่งรู้มหามรรค การเคี่ยวกรำวิชาแห่งตน ล้วนมีช่องว่างในการพัฒนาและยกระดับขึ้นไปอีกก้าว

ไม่ว่าอย่างไร ในชั่วขณะที่บรรลุระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิขั้นสมบูรณ์ หลินสวินก็เกิดลางสังหรณ์อย่างหนึ่ง ว่าวันที่จะได้บรรลุมกุฎจักรพรรดิอยู่ไม่ไกลแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์