Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2172

สรุปบท ตอนที่ 2172 ดวงตาในฟ้าดารา: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปตอน ตอนที่ 2172 ดวงตาในฟ้าดารา – จากเรื่อง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 2172 ดวงตาในฟ้าดารา ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 2172 ดวงตาในฟ้าดารา

วันที่ห้าหลังจากหลินสวินมาถึงกำแพงเมืองหมื่นมรรค

ทัพสัตว์ฝูงหนึ่งบุกโจมตี

ส่วนลึกของฟ้าดารา สัตว์ประหลาดมหึมาหลายสิบตัวเคลื่อนเข้ามา รูปร่างแปลกประหลาด แต่ล้วนตัวใหญ่จนไม่อาจจินตนาการอย่างไม่มีข้อยกเว้น

บนกำแพงเมืองหมื่นมรรคมีคนกระตือรือร้นถูไม้ถูมือ มีคนมุ่นคิ้วเผยสีหน้าจริงจัง

หลินสวินก็เห็นภาพนี้ ในใจสั่นสะท้านอย่างอดไม่ได้ นี่ก็คือสัตว์ประหลาดที่มาจากฟากฝั่งฟ้าดารานั่นหรือ

แต่ละตัวแข็งแกร่งจนไม่อาจจินตนาการดังคาด!

“สหายน้อย เห็นหรือยัง นี่ก็คืออันตรายยิ่งใหญ่ เจ็ดปีที่ผ่านมา บนกำแพงเมืองหมื่นมรรคนี้มีทัพสัตว์แบบเดียวกันรุกรานไม่รู้กี่ครั้ง ยามมากสุดคือมีสัตว์ประหลาดฟ้าดาราหลายร้อยตัวพุ่งสังหารเข้ามา”

เสียงเจตจำนงของจักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงดังขึ้น “สิ่งเดียวที่ข้าบอกเจ้าได้คือ ช่วงก่อนหน้านี้มีระดับจักรพรรดิสิ้นชีพไปสิบเก้าคนแล้ว ภายในนั้นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคือเฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับจักรพรรดิขั้นหกคนหนึ่ง”

“เจ้า… ต้องระวังหน่อย ถึงแม้ว่าบนกำแพงเมืองหมื่นมรรคนี้มีระดับจักรพรรดิหลายร้อยคนประจำการอยู่ แต่เมื่อเจออันตรายก็ไม่มีใครช่วยเจ้าได้”

น้ำเสียงเจือกลิ่นอายของผู้อาวุโสชี้แนะผู้น้อย

เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงยังเคืองเรื่องที่หลินสวินเรียกเขาว่า ‘สหายยุทธ์’

หลินสวินยิ้มแล้วกล่าว “อย่างนั้นหรือ ระดับจักรพรรดิขั้นหกยังประสบเคราะห์ได้ ถ้าเช่นนั้นสหายยุทธ์ก็ต้องระวังหน่อย”

จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงมุมปากกระตุก ต้องรึ เห็นได้ชัดว่าเจ้าหนูนี่เป็นพวกฟังไม่เข้าหู

หลินสวินเอ่ยถาม “สหายยุทธ์ ได้ยินว่าการล่าสัตว์ประหลาดฟ้าดารานี้ สามารถได้ประโยชน์ที่ไม่อาจร้องขอในการฝึกปราณระดับจักรพรรดิหรือ”

เขาคำก็สหายยุทธ์สองคำก็สหายยุทธ์ ทำให้จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงชิงชังในใจ แต่ยังคงพูดว่า “ไม่ผิด กำแพงเมืองหมื่นมรรคนี้เป็นหนทางสู่นิพพานของระดับจักรพรรดิ เพียงเข่นฆ่าล่าสัตว์ประหลาดฟ้าดารานั้นได้ ก็สามารถได้รับประโยชน์ที่คาดไม่ถึง”

เขาเว้นช่วงไปก่อนกล่าวด้วยเสียงจองหอง “ส่วนจะเป็นประโยชน์อะไร รอเมื่อเจ้าหนูอย่างเจ้ามีโอกาสไปสังหารสัตว์ประหลาดฟ้าดารานั่นได้แล้ว ย่อมได้รู้เป็นธรรมดา”

น้ำเสียงเพิ่งแผ่วลง จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงก็อึ้งไป ในครรลองสายตา ส่วนลึกของฟ้าดารามีสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งเคลื่อนเข้ามา เห็นได้ชัดว่าพุ่งไปทางหลินสวิน!

สัตว์ประหลาดตัวนี้รูปร่างคล้ายวัวเทพทรงพลังตัวหนึ่ง ทั้งตัวดำสนิทดุจสีหมึก ร่างใหญ่ราวภูเขาสูงตระหง่าน นัยน์ตาแดงก่ำคู่นั้นใหญ่ราวทะเลสาบ

ยามเท้าทั้งสี่ของมันย่างก้าว ห้วงอากาศถูกเหยียบแหลก กลิ่นอายป่าเถื่อนหาใดเปรียบ สามารถเทียบได้กับระดับจักรพรรดิขั้นสอง!

‘เจ้าเดรัจฉานนี่ทำไมไม่พุ่งมาทางข้า…’

จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง

ก็ไม่รู้ว่าควรพูดว่าโชคดีหรือโชคร้าย เจ็ดปีมานี้แม้จะมีทัพสัตว์บุกมาหลายครั้ง แต่สัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่พุ่งมาหาเขาอย่างจริงจัง กลับมีแค่สี่ตัวซึ่งน้อยจนน่าสงสาร

สองตัวในนั้นยังเป็นพวกร้ายกาจที่เทียบได้กับระดับจักรพรรดิขั้นห้า อาศัยพลังต่อสู้ระดับจักรพรรดิขั้นสี่นั่นของเขา ประกอบกับพลังป้องกันของกำแพงเมืองหมื่นมรรคจึงพอสูสีกับอีกฝ่ายได้

หรือพูดได้ว่าเจ็ดปีมานี้ จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงเพิ่งล่าสัตว์ประหลาดฟ้าดาราไปได้สองตัว…

ระดับจักรพรรดิมากมายอิจฉาเขา บอกว่าเขาโชคดีเกินไปแล้ว แต่เขามีหรือจะพอใจแค่นี้ เขา… ก็อยากล่าสัตว์ประหลาดฟ้าดาราเหมือนกัน!

จากนั้นจักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงผงะในใจ รีบร้อนสื่อจิต ‘สหายน้อย เจ้าต้องระวังแล้ว เดรัจฉานนั่นพุ่งไปทางเจ้า…’

ยังพูดไม่ทันจบ

ก็เห็นหลินสวินลงมือแล้ว

ปราณกระบี่นับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากตัวเขา เปล่งประกายโชติช่วง หนาแน่นดุจสายฝน ใช้พลังหอบม้วนพุ่งทะยานไปในฟ้าดารา

เมื่อดูอย่างละเอียด ปราณกระบี่นับไม่ถ้วนนั้นตัดสลับไขว้ขนาน กลายเป็นกระบวนค่ายกลกระบี่หนาทึบหาใดเปรียบกระบวนหนึ่ง เข้าปกคลุมสัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่เหมือนวัวเทพสีดำซึ่งพุ่งเข้ามาตัวนั้น

กระบวนค่ายกลกระบี่แปดวิทูร!

สร้างขึ้นจากค่ายกลกระบี่หกสิบสี่ชั้น ค่ายกลกระบี่แต่ละชั้นแฝงปราณกระบี่หนึ่งหมื่นสาย เมื่อรวมกันจะเป็นปราณกระบี่หกแสนสี่หมื่นสาย!

นี่ก็คือกระบวนค่ายกลกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุด ซึ่งหลินสวินหยั่งถึงในคัมภีร์กระบี่ไท่เสวียนช่วงก่อนหน้านี้

ฉัวะๆๆ!

พลันเห็นว่าบนฟ้าดารา ร่างมหึมาของวัวเทพสีดำที่เหมือนภูเขาสูงใหญ่นั้น เพียงพริบตาก็ถูกกระบวนค่ายกลกระบี่แปดวิทูรเฉือนตัดเป็นชิ้นๆ น้ำเลือดแดงก่ำกลายเป็นหมอกควัน ย้อมฟ้าดาราผืนนั้นเป็นสีชาด

จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงอึ้งงัน

ใช้กระบวนค่ายกลกระบี่ฆ่าสัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่เทียบกับระดับจักรพรรดิขั้นสองได้ในพริบตา!

นี่เกือบล้มล้างความเข้าใจของเขาแล้วจริงๆ

เวลานี้เองหลินสวินพลันกล่าวอย่างเคร่งขรึม “สหายยุทธ์ ไพ่ตายรักษาชีวิตเช่นนี้ เจ้าอย่าได้พูดออกไปเชียว”

จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงมุมปากกระตุก ไพ่ตายรักษาชีวิตบ้าบออะไร คิดว่าเขาสายตาฝ้าฟางรึ

ปราณกระบี่พวกนั้น เห็นชัดว่าวิวัฒน์มาจากมรรควิถีทั้งตัวเจ้า!

ยิ่งไปกว่านั้น ในแดนปรินิพพานนี้สมบัติและพลังภายนอกใดๆ ล้วนไม่อาจใช้ได้ ในสถานการณ์เช่นนี้ไพ่ตายรักษาชีวิตอะไรล้วนเป็นการพูดส่งเดช!

และตอนนี้หลินสวินก็เห็นประโยชน์ที่ได้รับจากการล่าสัตว์ประหลาดฟ้าดาราในที่สุด

ในป้อมปราการ คลื่นพลังระเบียบระลอกหนึ่งแผ่พลังต้นกำเนิดที่เหมือนกระแสน้ำออกมาสายแล้วสายเล่า สุดท้ายก็ควบรวมเป็นไข่มุกที่เหมือนหินไข่ห่านเม็ดหนึ่ง

หลินสวินหยิบไข่มุกนั้นมาไว้ในมือ เพียงพริบตาก็ชี้ชัดได้ว่าในไข่มุกนี้คือพลังระเบียบต้นกำเนิดฟ้าดาราที่บริสุทธิ์หาใดเปรียบ เต็มไปด้วยกลิ่นอายสูงส่งและมหัศจรรย์

หลินสวินเคยเจอเศษเสี้ยวกฎเกณฑ์มรรคจักรพรรดิที่บกพร่องมาก่อน แต่เปรียบเทียบกับไข่มุกตรงหน้านี้แล้ว ล้วนเป็นของสองอย่างที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง

ด้วยในไข่มุกนี้ซ่อนกฎเกณฑ์ของระเบียบต้นกำเนิดฟ้าดาราไว้!

หลินสวินเข้าใจในทันที “ภายหน้าโปรดชี้แนะด้วย”

สีหน้าของจักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงดูดีขึ้นไม่น้อย กล่าวว่า “นี่จึงจะเป็นท่าทีที่คนรุ่นหลังอย่างเจ้าควรมี”

หลินสวินอดยิ้มไม่ได้ “แม้ว่าข้าจะมีพลังปราณระดับกึ่งจักรพรรดิ แต่กลับมีพลังที่สังหารระดับจักรพรรดิได้ ทำไมถึงไม่อาจเรียกเจ้าว่าสหายยุทธ์”

จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงอ้ำอึ้งไปชั่วขณะ ครู่ใหญ่จึงกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “อย่างน้อยที่สุดเจ้าให้เกียรติผู้อาวุโสอย่างข้าหน่อยก็ดี”

“ได้ ผู้อาวุโสภายหน้าท่านต้องดูแลผู้น้อยที่ไม่รู้ความอย่างข้าด้วยนะ” หลินสวินยิ้มแย้มเอ่ยปาก

จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงพลันอึดอัดไปทั้งตัว รู้สึกว่ากลิ่นอายในคำพูดนี้ของหลินสวินไม่ชอบมาพากลอยู่บ้าง

“ช่างเถอะ ภายหน้าเจ้ากับข้าต่างคนต่างเรียกแล้วกัน”

จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงถอนใจยาวอย่างจนปัญญา

ความจริงแล้วในใจเขาก็ทอดถอนใจหาใดเปรียบ หากไม่เห็นกับตาตัวเอง เขาคงไม่กล้าเชื่อว่าบนโลกนี้จะมีคนที่ก้าวข้ามปราการสวรรค์ระดับจักรพรรดิ ข้ามระดับใหญ่ไปฆ่าสัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่เทียบกับระดับจักรพรรดิขั้นสองได้จริงๆ!

นี่ล้มล้างความเข้าใจที่เขาเชื่อมั่นในอดีตอย่างสมบูรณ์ ทำให้ยามที่เขาปฏิบัติตัวกับหลินสวิน ก็ไม่กล้ามองเขาเป็นคนรุ่นหลังทั่วไปนานแล้ว

หลินสวินยิ้มแล้วไม่พูดมากอีก เหลือบสายตาไปยังซากศพสัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่กองเป็นภูเขานั้นแล้วจมสู่ห้วงคิด

เขากำลังคิดว่าควรใช้ ‘แก่นพลัง’ พวกนี้อย่างไร

ขณะเดียวกันในส่วนลึกของฟ้าดารา ดวงตาแดงก่ำคู่หนึ่งลืมตาขึ้นเงียบๆ

แค่ดวงตาคู่หนึ่งเท่านั้น แต่พริบตานี้ราวกับมีวังวนฟ้าดารามหึมาสองแห่งปรากฏ เจือกลิ่นอายที่พาให้คนใจสั่นระรัว

ฟ้าดาราใกล้เคียงก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงขึ้นมาในยามนี้

เมื่อดูอย่างละเอียด ร่างกายของมันกลับเหมือนเงามืดแถบหนึ่ง เบียดเสียดคับฟ้าดาราแถบนี้ ใหญ่จนไม่อาจจินตนาการ!

“หุบเหวกลืนกิน… ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว… ครั้งนี้เจ้าหนีไม่พ้นแน่…”

เจตจำนงเยียบเย็นดุจกระแสน้ำ แผ่กระจายออกมาจากร่างของสัตว์ประหลาดฟ้าดาราตัวนี้

“พลังระเบียบต้นกำเนิดของทางเดินโบราณฟ้าดารานั้น เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่สามารถคุกคามข้าได้ ครั้งนี้ต้องพึ่งพวกเจ้าแล้ว…”

“จำไว้ ไม่ว่าพวกเจ้าจะใช้วิธีอะไรก็ต้องจับเป็นเจ้าหนุ่มนั่นมาให้ได้!”

เจตจำนงเยียบเย็นกระจายไปทั่วฟ้าดาราแถบนี้ ม้วนพัดไปทั่วสารทิศ

เพียงชั่วขณะในส่วนลึกของฟ้าดาราที่ล้ำลึกนั้น มีนัยน์ตาเหี้ยมเกรียม อำมหิต แดงก่ำไม่รู้เท่าไหร่ลืมตาขึ้น

………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์