Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2179

สรุปบท ตอนที่ 2179 ความเดือดดาลภายใต้ความสงบถึงขีดสุด: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 2179 ความเดือดดาลภายใต้ความสงบถึงขีดสุด – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2179 ความเดือดดาลภายใต้ความสงบถึงขีดสุด จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เวลาล่วงเลยไป หลายวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

บาดแผลของหลินสวินประสานกันอย่างสิ้นเชิงแล้ว และหลอมลูกกลอนกำเนิดโลหิตออกมาหกร้อยกว่าเม็ด วางกระบวนสังหารไร้ชีพ รวมถึงกระบวนค่ายกล ‘มรรคสิ้นฟ้าอาสัญ’ ที่ไม่สมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว

ตอนที่เขายุ่งอยู่ ซย่าจื้อเฝ้าอยู่กลางอากาศหน้าป้อมปราการตลอดเวลา ราวกับไม่รู้สึกหมดความสนใจหรือน่าเบื่อ

สำหรับสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิซึ่งอยู่ในบริเวณต่างๆ กันบนกำแพงเมืองหมื่นมรรค ผ่านความเงียบสงบในหลายวันมานี้ก็ค่อยๆ ยอมรับความจริงหนึ่ง…

มีหญิงลึกลับที่ทะยานผ่านฟ้าดารานั่นอยู่ ทัพสัตว์ทั่วไปไม่สามารถคุกคามชีวิตของหลินสวินได้อีก

ความจริงนี้ทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่ามากมายที่มองหลินสวินเป็นศัตรูอัดอั้นตันใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

มีเพียงจักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงที่มีความสุขที่สุด หลายวันมานี้หลินสวินขอให้ซย่าจื้อส่งเนื้อย่างไปให้เขา กินจนปากมันเยิ้ม มีความสุขจนเกินเหตุ

นี่ยิ่งยืนยันการคาดเดาในใจหลินสวิน เฒ่าชรานี่จะต้องเป็นนักกินคนหนึ่งอย่างแน่นอน

วันนี้หลินสวินมาถึงกลางอากาศหน้าป้อมปราการ นั่งเคียงบ่าเคียงไหล่ซย่าจื้อ มองฟ้าดาราไกลออกไปด้วยกัน

หลินสวินเคยทดสอบแล้ว ที่ที่เขาสามารถเคลื่อนไหวได้ถูกจำกัดในระยะสิบจั้งจากป้อมปราการ อยากจะออกไปนอกสิบจั้งก็จะถูกพลังระเบียบขวางกั้น

ส่วนซย่าจื้อก็พอจะฝืนเข้ามาในห้วงอากาศระยะสิบจั้งได้ แต่กลับต้องแบกรับการโจมตีและกดดันของพลังระเบียบอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นซย่าจื้อจะลุกขึ้นจากไปเป็นระยะๆ เฝ้าอยู่กลางอากาศในระยะนอกสิบจั้ง เช่นนี้จึงสามารถเลี่ยงไม่ให้พลังแห่งตนเกิดการสูญเสียอย่างหนักในการปะทะกับพลังระเบียบ

ก็หมายความว่า เพียงแค่นั่งเคียงข้างกันเหมือนตอนนี้ก็มีค่ามากแล้ว

“ก็ไม่รู้ว่าสัตว์ประหลาดฟ้าดาราเหล่านี้มาจากอีกฟากฝั่งจริงหรือไม่…” จู่ๆ หลินสวินก็ส่งเสียงถอนหายใจ

ซย่าจื้อกล่าว “ในการรับรู้ตามสัญชาตญาณของข้า สัตว์ประหลาดฟ้าดาราเหล่านี้ฆ่าไม่หมดหรอก นอกจากวันหนึ่งจะสามารถสังหารไปถึง ‘ฟากฝั่ง’ ที่เจ้าพูด กำจัด ‘ร่างแม่’ ของสัตว์ประหลาดเหล่านี้ให้สิ้นซาก”

“ร่างแม่?” หลินสวินทวนสองคำนี้

“เจ้าจะคิดว่าเป็นบรรพบุรุษของพวกมันก็ได้” ซย่าจื้อคิดๆ แล้วพูด

จู่ๆ หลินสวินก็นึกขึ้นได้ ว่าไม่ว่าจะในสมัยเป็นเด็กหนุ่มระหว่างออกจากจักรวรรดิจื่อเย่ามุ่งหน้าไปยังดินแดนรกร้างโบราณ หรือยามหวนกลับดินแดนรกร้างโบราณหลังจากแดนมกุฎสิ้นสุดลง ล้วนเคยพบเจอการคุกคามจากสัตว์ประหลาดตัวใหญ่มหึมาที่ไม่อาจจินตนาการได้

สัตว์ประหลาดนั่นโอบรัดดวงดาวพันหมื่น ทะยานผ่านฟ้าดาราไร้สิ้นสุด เพียงแค่ดวงตาคู่เดียวก็เป็นสีแดงโลหิตน่ากลัวปานสุริยันดวงโต สาดประกายน่าสะพรึงที่เย็นชาไร้ปรานี!

เมื่อเทียบกับร่างใหญ่โตนั้น ดวงดาวก็เหมือนมุกที่ไม่สะดุดตาอย่างไรอย่างนั้น…

ตอนนั้นหลินสวินถึงขั้นมองเห็นว่า ในส่วนลึกของดวงตามันคล้ายมีสัญลักษณ์ลายเทพเงินยวงลุกโชนอยู่ คลุมเครือและเย็นเยียบ ราวกับสามารถกลืนกินวิญญาณผู้คนได้ น่ากลัวอย่างที่สุด

ตอนนี้คิดดูแล้ว จู่ๆ หลินสวินก็ตระหนักได้ถึงปัญหาหนึ่ง สัตว์ประหลาดฟ้าดาราเหล่านั้นล้วนพุ่งมาหาตน เช่นนี้จะหมายความว่า ‘สัตว์ประหลาด’ ที่เจอตอนเด็ก ก็เป็นสัตว์ประหลาดฟ้าดาราตัวหนึ่งและมาเพราะตนใช่หรือไม่

‘คงไม่ใช่ว่าเจ้านั่นเป็นร่างแม่ของสัตว์ประหลาดฟ้าดาราหรอกนะ’ ดวงตาดำของหลินสวินวูบไหว ยิ่งคิดในใจก็ยิ่งสงสัย

ทันใดนั้นซย่าจื้อลุกขึ้น เสื้อผ้าพลิ้วไหว ดวงตาใต้หมวกคลุมมองไปยังฟ้าดาราไกลโพ้น

“หลินสวิน ครั้งนี้สถานการณ์ไม่สู้ดี เจ้าถอยกลับป้อมปราการก่อน” นางพูด เสียงกระจ่างใสเผยความเคร่งขรึมที่ยากจะเห็น

หลินสวินเงยหน้าขึ้นมอง และค่อยๆ เห็นว่าในส่วนลึกของฟ้าดาราปรากฏเส้นสีดำราวกับน้ำหมึกเส้นหนึ่ง แผ่ขยายออกมาด้วยความเร็วน่าตกใจ

ทุกที่ที่ผ่านดวงดาวนับไม่ถ้วนล้วนถูกกลบมิด หายไปไร้ร่องรอย

เมื่อมองอย่างละเอียด เส้นที่พาดขวางฟ้าดารา แผ่ขยายออกมาราวกับหมึกดำ ล้วนแต่เป็นสัตว์ประหลาดฟ้าดารา

หนาแน่นแออัด จำนวนนับไม่ถ้วน

ราวกับม่านรัตติกาลมาเยือน กลืนกินฟ้าดาราไกลออกไป!

หลินสวินเองยังอดสูดหายใจสะท้านไม่ได้ นัยน์ตาหดรัด จำนวนของสัตว์ประหลาดฟ้าดาราเหล่านั้น อย่างน้อยก็นับพันตัว!

“สวรรค์! นั่น… นั่นคืออะไร”

ในเวลาเดียวกัน ในแต่ละบริเวณของกำแพงเมืองหมื่นมรรค สัตว์ประหลาดเฒ่าเหล่านั้นต่างตกใจ แต่ละคนหน้าเปลี่ยนสี ตกใจกับภาพนี้

“สัตว์ประหลาดฟ้าดารามากกว่าร้อยตัวออกมาก็เรียกได้ว่าขนาดใหญ่แล้ว แต่ตอนนี้อย่างน้อยก็มีมากกว่าพันแล้ว!”

“จบกัน นี่จะต้านทานอย่างไร”

สัตว์ประหลาดเฒ่าหลายคนรู้สึกกดดัน จิตใจหนักอึ้ง มือเท้าเย็นเฉียบ ทัพสัตว์ขนาดนี้เรียกได้ว่าไม่เคยมีมาก่อนอย่างแน่นอน สามารถทำให้ระดับจักรพรรดิทุกคนพังทลาย

“ช้าก่อน ทุกคนดูนั่น พวกมันพุ่งไปยังจุดที่เศษเดนคีรีดวงกมลนั่นอยู่อีกแล้ว!”

“เป็นเช่นนั้นจริงด้วย”

“ฮ่าๆ เจ้าหมอนั่นซวยจริงๆ คราวก่อนเกือบประสบเคราะห์ ครั้งนี้ดียิ่ง ดึงดูดทัพสัตว์ประหลาดที่ใหญ่ยิ่งกว่า!”

“ครั้งนี้ผู้หญิงคนนั้นก็จบสิ้นแน่!”

ทันใดนั้นสัตว์ประหลาดเฒ่ามากมายต่างหัวเราะขึ้นมา ความหดหู่ที่สั่งสมอยู่ในใจหลายวันมานี้เปลี่ยนเป็นกระปรี้กระเปร่า มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น

“ทุกคนไม่รู้สึกแปลกหรือ เหตุใดสัตว์ประหลาดฟ้าดาราจับจ้องแค่เจ้าหมอนั่น หรือเพราะ… มีความเป็นไปได้สูงมากที่เจ้าหมอนั่นจะเป็น… หนึ่งบัวที่เบ่งบานบนยอดหนทางสู่อมตะ”

มีสัตว์ประหลาดเฒ่าสงสัย ทั้งหมดนี้ผิดปกติเกินไป เต็มไปด้วยความพิกล

เขาพูดออกมาเช่นนี้ก็ทำให้ระดับจักรพรรดิไม่น้อยใจสั่นเช่นกัน สีหน้าแตกต่างกันไป เป็นความจริงที่ว่าแต่ละเหตุการณ์ในครั้งนี้ผิดปกติเกินไป ทำให้คนไม่สามารถเข้าใจได้

“เขาหรือ หนึ่งบัวที่เบ่งบานหรือ เหอะๆ ข้ารู้เพียงว่าครั้งนี้เจ้าหมอนี่จะต้องตายแน่!”

มีคนหัวเราะเยาะ

ไกลออกไปสิ่งที่สกัดกั้นทัพสัตว์ขนาดใหญ่นั่นก่อนคือพลังระเบียบของกำแพงเมืองหมื่นมรรค ประหนึ่งกระแสน้ำที่พลุ่งพล่าน พุ่งโจมตีอย่างต่อเนื่อง

ทัพสัตว์ที่ประหนึ่งปิดฟ้าคลุมตะวันเปลี่ยนเป็นวุ่นวายอลม่าน ขบวนบุกแตกกระจาย

แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ยังคงมีสัตว์ประหลาดฟ้าดารามากมายฉวยโอกาสพุ่งมายังป้อมปราการที่หลินสวินอยู่

และซย่าจื้อก็ออกโจมตีในตอนนี้เช่นกัน กวัดแกว่งทวนกระดูกขาวในมือ

ตูมโครม…

ฟ้าดาราสั่นสะเทือน เสียงคำรามดังก้อง สัตว์ประหลาดฟ้าดาราทุกตัวล้วนดุร้ายประหนึ่งบ้าคลั่ง บดขยี้ห้วงอากาศแหลกละเอียด

เงาร่างของซย่าจื้อพุ่งขึ้นหน้า ดูเล็กจ้อยมาก แต่ขอเพียงเป็นคู่ต่อสู้ที่ถูกนางจับจ้อง ล้วนถูกกำราบในพริบตาอย่างไม่มีข้อยกเว้น ร่างกายระเบิด เลือดสดไหลพราก

ทวนกระดูกขาวนั่นก็เหมือนทวนของเทพมรณะ กำลังพรากชีวิตอย่างดุดันเด็ดขาด

แต่สัตว์ประหลาดฟ้าดารามีจำนวนมากเกินไป และบางส่วนก็ศักยภาพแข็งแกร่ง เทียบได้กับระดับจักรพรรดิขั้นสี่ขั้นห้า…

ซย่าจื้อต่อสู้เพียงลำพัง หมายจะขวางไม่ให้พวกมันเข้าใกล้ ความรู้สึกที่มอบให้ผู้คนเหมือนมดคิดเขย่าต้นไม้ใหญ่ ดั่งตั๊กแตนขวางรถ

แต่นางกลับไม่สนใจสักนิด ยังคงพุ่งสังหารเต็มกำลัง เงาร่างแบบบางงดงามอาบไล้อยู่กลางลมคาวฝนเลือด ไม่เคยหยุดเท้า ไม่เคยถอย!

“ไม่รู้จักประมาณตน!”

“ผู้หญิงคนนี้โง่จริงๆ คิดว่าด้วยพลังของนางคนเดียวจะสามารถพลิกเปลี่ยนกระแสน้ำได้หรือ”

“ไม่ว่าอย่างไรวาสนาความรักของเศษเดนคีรีดวงกมลนั่นก็ดีจริงๆ ก่อนตายยังมีคนเสี่ยงชีวิตสู้เพื่อเขา”

เสียงที่อึมครึมแปลกประหลาดและมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นดังขึ้นบนกำแพงเมืองหมื่นมรรคไม่ขาดสาย

ด้วยอยู่ห่างกันเกินไปหลินสวินจึงไม่ได้ยิน แต่จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงกลับได้ยินอย่างชัดเจน ชั่วขณะหนึ่งเขาโกรธจนหน้าเขียว ปอดแทบจะระเบิด

เฒ่าชราพวกนี้สารเลวเกินไปแล้วจริงๆ!

ทันใดนั้นจักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงก็สังเกตเห็น หลินสวินที่ยืนนิ่งอยู่หน้าป้อมปราการ ดวงตาทั้งคู่กลับเต็มไปด้วยสีเลือด กลิ่นอายทั้งตัวปรากฏสัญญาณบ้าคลั่งอยู่รางๆ

เขายืนอยู่อย่างนั้น จ้องมองการต่อสู้ในฟ้าดาราที่อยู่ห่างออกไป สีหน้านิ่งสงบปานนั้น

ทว่าความนิ่งสงบเช่นนี้กลับทำให้ในใจจักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงสั่นสะท้าน เพราะภายใต้ความสงบยิ่งยวดนี้ เต็มไปด้วยความโกรธถึงขีดสุด!

จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า ในใจหลินสวินตอนนี้จะทุกข์และทรมานเพียงใด ถึงทำให้เขาโกรธจัดขนาดนี้

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์