Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2199

สรุปบท ตอนที่ 2199 ชัยชนะที่สะเทือนใต้หล้า: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 2199 ชัยชนะที่สะเทือนใต้หล้า – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2199 ชัยชนะที่สะเทือนใต้หล้า จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 2199 ชัยชนะที่สะเทือนใต้หล้า

“สหายน้อย พวกเราก็ควรจากไปเลยหรือไม่” จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงเอ่ยถาม เขากังวลว่าหากพลาดโอกาสจะไม่อาจออกไปจากแดนปรินิพพานนี้อีก

หลินสวินยิ้มกล่าว “พี่ใหญ่ท่านรออยู่ที่นี่อย่างสบายใจก็พอแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น หากท่านจากไปตอนนี้ ขุมอำนาจใหญ่ทั่วฟ้าดารานั่นมีหรือจะไม่มาคิดบัญชีกับท่าน”

จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงอึ้งไป เผยสีหน้าเศร้าซึมผิดหวัง “ข้าไม่กลัวตาย แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเพื่อนร่วมสำนักพวกนั้นจะเห็นคนใกล้ตายแล้วไม่ช่วย…”

เขานึกถึงภาพต่างๆ ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ขึ้นมา ยามโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่ง เพื่อนร่วมสำนักพวกนั้นกลับเก็บมือเฝ้ามอง

จากนั้นจักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงก็ยิ้มเยาะตนเอง “ถึงอย่างไรข้าก็ออกจากเรือนมรรคโลกาสวรรค์แล้ว อยู่ตัวคนเดียวก็ไม่เลว”

หลินสวินไม่ได้พูดปลอบใจมากนัก เพียงแต่กล่าวว่า “รออาการบาดเจ็บของข้าหายดีแล้ว พวกเราจะออกจากที่นี่”

ระดับจักรพรรดิขั้นสี่คนหนึ่ง ผ่านมรสุมทางโลกนานัปการมานานแล้ว สำหรับเรื่องนี้จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงย่อมเลือกทางที่เหมาะกับเขาที่สุดแน่นอน

จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงพยักหน้า

‘ก็ไม่รู้ว่าพวกแม่นางเสวียนเยวี่ยเป็นอย่างไร…’

หลินสวินแอบกล่าวในใจ เขาสงบจิตสัมผัสคลื่นระเบียบของแดนปรินิพพาน น่าเสียดาย พลังระเบียบที่เขาถือครองตอนนี้มีจำกัด ไม่อาจรับรู้เรื่องทุกอย่างบนโลกแห่งนี้ได้

แน่นอนว่าไม่อาจรู้ว่าพวกจินเทียนเสวียนเยวี่ยได้ก้าวออกจากวัฏจักร ใกล้จะออกจากโลกแห่งนี้แล้วเช่นกัน

ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม

“ไปเถอะ บานประตูน้ำวนนั้นใกล้หายไปแล้ว หากรอต่อไปก็เปล่าประโยชน์”

เสวียนจิ่วอิ้นมองจินเทียนเสวียนเยวี่ยเล็กน้อย “หากเจ้าอยากเจอหลินสวินอีกครั้งจริง กลับบ้านไปกับข้าก็พอแล้ว”

“กลับบ้านไปกับเจ้า?”

นัยน์ตาคู่งามของจินเทียนเสวียนเยวี่ยเบิกโพลง เจือเพลิงโทสะอยู่รางๆ

“อย่าเข้าใจผิด ต่อให้ข้าสวมใจเสือก็ไม่กล้าแย่งผู้หญิงกับคนป่าเถื่อนอย่างหลินสวินแน่” เสวียนจิ่วอิ้นรีบร้อนกล่าว เล่าเรื่องที่บิดาของเขาเชิญหลินสวินไปตระกูลเสวียนให้ฟัง ทั้งแสดงออกอย่างชัดเจนว่าหลินสวินรับปากแล้ว

“เหอะ!”

ใบหน้างามพิสุทธิ์ดุจภาพวาดของจินเทียนเสวียนเยวี่ยแดงเรื่อพลางกล่าวดูถูก “ใครเป็นผู้หญิงของคุณชายกัน”

เสวียนจิ่วอิ้นกับหลิงเคอจื่อสบตากันวูบหนึ่ง ในใจต่างพึมพำขึ้นมา ผู้หญิงนี้หนา คิดว่าผู้ชายตาบอดจริงหรือ

“ไปเถอะ”

จินเทียนเสวียนเยวี่ยเดินนำไปทางประตูน้ำวนนั้นก่อน อาภรณ์ขาวดุจหิมะ รูปโฉมราวกับเซียน โดดเด่นดุจกล้วยไม้กลางหุบเขา

“สมเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของเขตแดนดาราจักรพรรดิขาว ความสง่างามเช่นนี้ ท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ รูปโฉมเช่นนี้ ไม่ด้อยไปกว่าท่านย่าคนนั้นของข้าเท่าไหร่”

เสวียนจิ่วอิ้นลอบกล่าวชม “แต่น่าเสียดาย ดูเหมือนพี่หลินไม่เคยรับรู้จิตใจของสาวงาม ภายหน้าขออย่าได้พบฉากจบที่บุปผาร่วงโปรยด้วยมีใจ สายธารไหลผ่านไร้ไมตรีเด็ดขาด ไม่อย่างนั้น… นั่นคงพาให้คนรู้สึกเสียดายเกินไปแล้ว…”

ไม่นานพวกเขาก็ออกจากแดนปรินิพพานไป

บนกำแพงเมืองหมื่นมรรค

หลินสวินนั่งขัดสมาธิ ไข่มุกที่ภายในแฝงกฎเกณฑ์ระเบียบต้นกำเนิดมากมายถูกเขาหลอมไปทีละอัน ซึมซาบเข้าไปในมรรควิถีทั้งตัว

ไข่มุกพวกนี้เป็นรางวัลที่ได้มาจากการสังหารสัตว์ประหลาดฟ้าดาราก่อนหน้านี้

ตูม!

พลันเห็นว่าบนตัวเขามีละอองแสงมงคลหลากสายลอยล่อง แสงเทพนับหมื่นโน้มลู่ลง วิวัฒน์ออกมาเป็นภาพอัศจรรย์และงามตระการนานัปการ

มองจากไกลๆ ทั้งตัวเขาประหนึ่งเทพไท้สูงสุด นั่งครองมหามรรค ร่างส่องประกายสว่างไสว กลิ่นอายที่ทั่วร่างแผ่ออกมาแฝงอานุภาพยิ่งใหญ่เด่นตระหง่านไร้เทียมทาน สูงส่งไร้จำกัด!

หลังจากก้าวสู่ระดับมกุฎจักรพรรดิ หลินสวินต่างไปจากแต่ก่อนอย่างสิ้นเชิง ทุกการเคลื่อนไหวล้วนมีอานุภาพบีบกดแผ่นฟ้า ก้มมองภูผาธารา

ยามหายใจเข้าออกล้วนชักนำให้มหามรรคสั่นสะเทือน ฟ้าดินขานรับ!

ตามเวลาที่ล่วงเลย เงาร่างหลินสวินล้วนอาบไล้ด้วยละอองแสงเปล่งประกายไร้สิ้นสุด เหมือนนั่งอยู่ในแดนพิสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ แสงมรรคประสาน รัศมีเทพไหลวน

ภายในร่างเขาโลกที่เรืองรอง พร่างพราย เจิดจรัสไร้จำกัดแห่งหนึ่งก็กำลังโคจร นี่คือโลกจักรพรรดิบริสุทธิ์

ส่วนสิ่งที่สร้างโลกนั้นก็คือมรรควิถีที่เขายึดกุม ส่องสะท้อนอยู่ในโลก กลายเป็นหลักการฟ้าดิน สุริยันจันทราภูผาธารา สี่ฤดูหมุนเปลี่ยน สรรพสิ่งผันแปร…

หากไม่ขาดกลิ่นอายของกาลเวลาและชีวิต ‘โลกจักรพรรดิบริสุทธิ์’ แห่งนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับโลกที่แท้จริง!

ความจริงแล้วสิ่งที่ระดับจักรพรรดิเก้าขั้นเคี่ยวกรำก็คือโลกจักรพรรดิบริสุทธิ์นี้ นี่เป็นรากฐานของระดับจักรพรรดิ โลกจักรพรรดิบริสุทธิ์ยิ่งกว้างขวางและมั่นคง อานุภาพที่สามารถปลดปล่อยออกมาก็ยิ่งแข็งแกร่ง

โลกจักรพรรดิบริสุทธิ์ของหลินสวินเผยลักษณ์สูงส่งที่ ‘เจิดจรัสเกรียงไกร งามตระการไร้ขอบเขต’ หากถูกระดับจักรพรรดิคนอื่นเห็นต้องตกใจจนกรามค้างแน่

สาเหตุอยู่ที่ระดับจักรพรรดิขั้นหนึ่งทั่วไป ไม่มีทางครอบครองโลกจักรพรรดิบริสุทธิ์เช่นนี้ได้

เมื่อเทียบกันแล้วก็เหมือนหิ่งห้อยสู้แสงเจิดจ้ากับตะวันจันทรา!

ต่อให้เป็นมกุฎมหาจักรพรรดิสมัยดึกดำบรรพ์ ก็ไม่มีทางมีลักษณ์ที่สูงส่งเช่นนี้แน่

นี่ก็คือมหามรรคที่หลินสวินเสาะหา

ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน มรรคข้าเป็นหนึ่ง!

และนี่ก็คือสาเหตุที่หลินสวินข้ามระดับขั้น ไปกรำศึกกับเฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับจักรพรรดิขั้นหกได้

จักรพรรดิสงครามเฟิงหลิงก็กำลังฝึกตน

มีเพียงซย่าจื้อที่นอนหลับเหมือนก่อนหน้านี้ กินแล้วก็นอน นอนแล้วก็กิน เดิมทีมหามรรคของนางก็เปลี่ยนแปลงในความเงียบสงบ นิพพานในวัฏจักร

แตกต่างจากคนอื่นอย่างสิ้นเชิง

ซีกล่าว “แดนปรินิพพานปิดฉาก เกรงว่าจักรพรรดิสวรรค์ดำรงคงจะกลับมาแล้ว”

“กลับมาก็สายไปแล้ว”

นัยน์ตาของจ้งชิวฉายแววเยียบเย็น “ใช้เวลาไม่นาน ข้าจะไปเจอเจ้าเฒ่านี่ด้วยตัวเอง!”

“นานแค่ไหน” ซีเอ่ยถาม

“รอแค่จุดเปลี่ยนเดียว”

แววตาจ้งชิวล้ำลึก เขาเฝ้ารอที่โลกมืดมาหลายปี พลาดการประชันหมากครั้งใหญ่ครั้งนั้นไป

แต่ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมพลาดอีก!

วันนี้แดนปรินิพพานที่ถูกขุมอำนาจใหญ่ของทางเดินโบราณฟ้าดาราจับจ้องปิดฉากแล้ว จากนั้นข่าวที่ชวนตะลึงหาใดเปรียบมากมายก็แพร่กระจายตามมา

“หลินสวินผู้สืบทอดแห่งคีรีดวงกมลแจ้งมรรคบรรลุจักรพรรดิในขอบเขตมกุฎ กลายเป็นผู้เหยียบเส้นทางมกุฎจักรพรรดิคนแรกในรอบเกือบแสนปีมานี้!”

“กายมรรคเจตจำนงของเจ้าแห่งคีรีดวงกมลปรากฏ ซัดร่างเจตจำนงน่ากลัวมากมายที่มาจากฟากฝั่งฟ้าดาราจนพินาศ ช่วยหลินสวินชิงศุภโชคแห่งยอดหนทางสู่อมตะไป!”

“หลินสวินบรรลุจักรพรรดิ ปะทะกับเหล่าจักรพรรดิ เปิดฉากศึกจักรพรรดินองเลือด สังหารระดับจักรพรรดิขั้นหนึ่งไปยี่สิบหกคน ฆ่าระดับจักรพรรดิขั้นสองไปสิบห้าคน ปลิดชีพระดับจักรพรรดิขั้นสามไปแปดคน พิฆาตระดับจักรพรรดิขั้นสี่ไปห้าคน!”

“ระเบียบแดนปรินิพพานเกิดแรงสะเทือนประหลาด เทียบได้กับมหาเคราะห์แห่งยุค ทำให้ผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิขั้นห้าและขั้นหกหายไปในนั้น! ภายใต้มหาเคราะห์หลินสวินเป็นตายไม่อาจรู้!”

…ข่าวมากมายแพร่สะพัดในโลกมืด ชักนำมาซึ่งความโกลาหลครั้งใหญ่

จากนั้นข่าวพวกนี้ก็แพร่ไปทั่วฟ้าดาราด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ ชักนำความปั่นป่วนโกลาหลที่ไม่เคยมีมาก่อน

หลินสวิน!

คนที่ถูกจักรพรรดิสวรรค์ดำรงออกคำสั่งจับตาย นักโทษหนีคดีอันดับหนึ่งแห่งฟ้าดาราที่มีชื่อเสียงทั่วหล้า กลับบรรลุมกุฎจักรพรรดิในแดนปรินิพพานต่อหน้าระดับจักรพรรดิมากมาย ช่วงชิงศุภโชคยอดอมตะไป ทั้งสังหารเหล่าจักรพรรดิด้วยตัวคนเดียว!

ข่าวแต่ละอย่างล้วนเรียกได้ว่าฟ้าถล่มดินทลาย ยามแพร่ออกมาพร้อมกันก็เหมือนฟ้าผ่าครั้งแล้วครั้งเล่า ระเบิดลั่นในทุกโลกหล้าทั่วฟ้าดารา

ส่วนหลินสวินก็กระโจนขึ้นมาเป็นคนที่เจิดจรัสที่สุดของทั่วหล้า มกุฎมหาจักรพรรดิที่เหมือนตำนานคนหนึ่ง!

ช่วงที่ความปั่นป่วนและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ยังม้วนกลืนทั่วหล้าเหมือนเขาถล่มสมุทรคำราม คำสั่งที่มาจากเจ้าหอวิหคทองแดงก็แพร่กระจายไปยังสถานที่ซึ่งขุมอำนาจหอวิหคทองแดงปกครองทันที

“ตั้งแต่วันนี้ไปขุมอำนาจทั้งหมดของหอวิหคทองแดงต้องเก็บตัวจำศีล หากไม่มีคำสั่ง ห้ามออกไปท่องโลกด้วยฐานะของหอวิหคทองแดง!”

นับจากวันนี้ไป ขุมอำนาจทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การดูแลของหอวิหคทองแดงเริ่มทยอยถอนตัวจากไป…

เพียงแต่เปรียบเทียบกับความโกลาหลครั้งใหญ่ที่หลินสวินก่อแล้ว การหายไปและเก็บตัวเงียบของขุมอำนาจทั่วหล้าของหอวิหคทองแดงหนึ่งในสามยักษ์ใหญ่แห่งโลกมืด กลับไม่ดึงดูดความสนใจมากนัก

ทั้งหมดล้วนดำเนินการไปอย่างเงียบสงัดไร้สุ้มเสียง

……………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์