Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2235

สรุปบท ตอนที่ 2235 แผนการของเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอน ตอนที่ 2235 แผนการของเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 2235 แผนการของเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 2235 แผนการของเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่

มองส่งเต่าดำหนวดมังกรบรรทุกตำหนักรวมถึงหลินสวินที่อยู่ในตำหนักนั้นเหินทะยานขึ้นสู่นภาคราม คราวนี้สัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างพวกอันเทียนสุ่ยจึงเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน

“หลินเต้ายวนนั่น… จับตัวจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรไปหรือ นี่เขาคิดจะทำอะไร”

มีคนใจสั่นรัว

“คนที่เกือบจะฆ่าล้างเผ่าจักรพรรดิเจินโห่ว ซ้ำตอนนี้ยังผูกแค้นกับคนใหญ่คนโตเผ่าเจินหลงอีก นี่เหมือนเล่นกับไฟชัดๆ”

มีคนตกใจไม่สิ้น

“เรื่องนี้เกิดขึ้นบนเกาะเทพรุ้งมรกตของเผ่าปี้อั้นของพวกเรา หากถูกเผ่าเจินหลงรู้เข้า เกรงว่าพวกเราก็ยากจะหนีการข้องเกี่ยวพ้นนะ”

มีคนเผยแววหวั่นวิตกออกมา

“ผู้อาวุโสท่านนั้นถึงกับไปทั้งอย่างนี้แล้ว…”

อันเจิงก็เห็นภาพเหตุการณ์นี้เช่นกัน อดงุนงงไปพักหนึ่งไม่ได้ มีแต่เขาที่รู้ดี หลินสวินตั้งใจจะมุ่งหน้าไปวังมังกร!

เพียงแต่เขากลับคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเลือกใช้วิธีดุดันเช่นนี้

“อันเสวี่ย เจ้ารู้ความผิดหรือไม่!”

สัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างพวกอันเทียนสุ่ย อันเทียนหลินย้อนกลับมายังโถงใหญ่ เมื่อมองเห็นอันเสวี่ย แต่ละคนก็สีหน้าย่ำแย่หาใดเปรียบ โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

ในความคิดพวกเขา เรื่องในวันนี้ล้วนเกิดขึ้นเพราะอันเสวี่ยคนเดียว!

อันเสวี่ยเอ่ยถามทันที “ท่านลุง ตอนนั้นที่พวกท่านแจ้งมรรคกลายเป็นจักรพรรดิ ก็ลงนามประทับลายมือบนยันต์สีทองนั่นด้วยหรือ”

พวกอันเทียนสุ่ยต่างสบสายตากัน ล้วนแค่นเสียงเย็นไม่หยุด เห็นได้ชัดว่ายอมรับโดยปริยาย

“ส่งชะตาชีวิตให้คนอื่นจับกุม ถึงแลกมาซึ่งหนทางแห่งการบรรลุจักรพรรดิ มิน่าพวกท่านถึงได้หวาดกลัวผู้แข็งแกร่งเผ่าเจินหลงขนาดนั้น”

อันเสวี่ยถอนหายใจเบาๆ

“อันเสวี่ย! เจ้าไม่รู้สำนึก ถึงขั้นยังกล้าถากถางพวกข้าอีกหรือ” พวกอันเทียนสุ่ยต่างสีหน้าไม่น่าดู คิดว่าอันเสวี่ยกำลังถากถางคนแก่อย่างพวกเขาอยู่

“ข้าไม่ได้ถากถาง เพียงแต่กำลังอธิบายความจริง ชะตาชีวิตถูกคนบงการ ต่อให้บรรลุจักรพรรดิแล้วอย่างไร ไม่ใช่ว่ายังต้องพินอบพิเทาเอาใจเผ่าเจินหลงนั่นอยู่อีกหรือ”

อันเสวี่ยสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง กล่าวว่า “แต่ข้าไม่เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องไปลงนามยันต์ที่เหมือนสัญญาขายตัวนั่น ข้าก็บรรลุจักรพรรดิได้!”

อันเทียนสุ่ยเดือดจัดจนหัวเราะ “เบาปัญญา! ไม่เพียงเผ่าปี้อั้นของพวกเรา ในบรรดาเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ทั้งหมด ไม่ว่าใครที่อยากบรรลุจักรพรรดิก็ต้องขอความช่วยเหลือจากเผ่าเจินหลงทั้งนั้น และมีแต่ต้องลงนามใน ‘ยันต์ชะตาชีวิต’ นั่น เผ่าเจินหลงถึงจะให้การช่วยเหลือ”

“สถานการณ์เช่นนี้เริ่มมาตั้งแต่เมื่อหนึ่งแสนปีก่อนสมัยจักรพรรดิมังกรหมิงหลัว และดำรงสืบมาจนปัจจุบัน ไม่เคยมีใครเปลี่ยนแปลงได้! และยิ่งไม่มีใครทำลายกฎเหล็กข้อนี้ได้!”

“แม้แต่เจ้า… ก็ไม่ได้!”

กล่าวถึงตอนสุดท้ายเสียงของอันเทียนสุ่ยก็เจือแววเคืองขุ่น หากไม่ใช่เพราะถูกบีบบังคับ ปีนั้นพวกเขามีหรือจะเต็มใจมอบชะตาชีวิตให้ผู้อื่นควบคุม

อันเสวี่ยใคร่ครวญครู่หนึ่ง เอ่ยถามว่า “ความช่วยเหลือจากเผ่าเจินหลง… คืออะไรกันแน่”

อันเทียนสุ่ยกล่าวเย็นเยียบ “นั่นเป็นมรดกต้องห้ามที่เป็นของเผ่าเจินหลงอย่างหนึ่ง มีชื่อเรียกว่า ‘มังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร’ จำเพาะเจาะจงไปที่มรดกสูงสุดซึ่งเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ต่างมีในครอบครอง มรดกต้องห้ามระดับนี้ครอบครองโดยผู้อาวุโสเผ่าเจินหลงเรื่อยมา และก็เพราะอาศัยมรดกนี้ เผ่าเจินหลงจึงสามารถควบคุมและสั่งการเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ของพวกเราได้จนบัดนี้ ตอนนี้เจ้าเข้าใจแล้วกระมัง”

อันเสวี่ยตะลึงงัน นางตระหนักได้ทันทีว่าผู้อาวุโสหลินเต้ายวนคนนั้น เป็นไปได้สูงว่าจะเป็นพวกที่ครอบครองมรดกมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปรคนหนึ่ง!

เพียงแต่มรดกที่เหมือนสิ่งต้องห้ามระดับนี้ จะถูกคนที่นอกเหนือจากผู้อาวุโสเผ่าเจินหลงครอบครองได้อย่างไร

“ตอนนี้เจ้ารู้หรือยังว่าก่อหายนะใหญ่ขนาดไหนขึ้น ไม่เพียงเจ้าที่พลาดโอกาสบรรลุจักรพรรดิ ยังทำให้พวกเราเผ่าปี้อั้น… ล่วงเกินเผ่าเจินหลงกันหมดอีกด้วย!”

อันเทียนสุ่ยกล่าวถึงตรงนี้ก็โกรธจนหน้าอกกระเพื่อม “เรื่องนี้หากให้พ่อของเจ้ากับผู้อาวุโสในเผ่าพวกนั้นรู้เข้า เจ้า… รับผิดชอบไม่ไหวเป็นแน่!”

สัตว์ประหลาดเฒ่าคนอื่นๆ ต่างก็สีหน้าเยียบเย็น อัดอั้นเต็มทรวง

“ท่านลุงทุกท่าน พวกท่านดู” จู่ๆ อันเสวี่ยสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ขยับมือควบรวมประทับปี้อั้นสายหนึ่งออกมา ปลดปล่อยแสงมรรคเจิดจ้าแสบตา ท่ามกลางความเลือนรางดุจดั่งมีเงามายาปี้อั้นสายหนึ่งปรากฏขึ้น เหยียบทลายฟ้าดารา ปั่นป่วนทั่วหล้า!

แรกเริ่มเดิมทีพวกอันเทียนสุ่ยยังไม่เข้าใจความหมายของอันเสวี่ย แต่หลังจากจับจ้องประทับปี้อั้นสายนี้โดยละเอียด พวกเขาแต่ละคนต่างอึ้งค้างไป

มีหรือพวกเขาจะจำไม่ได้ นี่คือประทับปี้อั้นที่มีนัยเร้นลับแกนหลัก สมบูรณ์แบบไร้ที่ติสายหนึ่ง!?

“เจ้า… เหตุใดถึง… นี่เป็นไปไม่ได้สิ…”

พวกอันเทียนสุ่ยต่างมึนงงไปบ้าง ต่างซักไซ้ “นี่เรื่องเป็นมาอย่างไรกันแน่”

อันเสวี่ยลอบกล่าวในใจ ‘ผู้อาวุโสหลิน ท่านจากไปแล้ว และคงไม่มีปัญหาอะไรสาวไปถึงตัวท่านได้ หวังว่าท่านจะให้อภัย…’

จากนั้นนางกัดฟันคราหนึ่ง บอกเล่าเรื่องที่ตนและอันเจิงได้รับการชี้แนะจากหลินสวินให้ฟังทั้งหมด

และหลังจากรู้เรื่องทั้งหมดนี้ พวกอันเทียนสุ่ยต่างแทบไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง

ครู่ใหญ่ให้หลังพวกเขาเรียกอันเจิงมา ให้เขาสำแดงนัยเร้นลับของประทับปี้อั้นครั้งหนึ่ง คราวนี้ในที่สุดจึงกล้าเชื่อว่าทั้งหมดนี้… คือเรื่องจริง!

“กล่าวเช่นนี้ หลินเต้ายวนนั่นไม่ใช่ว่าครอบครองมรดกมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปรไปแล้วหรอกหรือ” อันเทียนสุ่ยสูดหายใจสะท้าน เขารู้ดียิ่งว่าความจริงข้อนี้น่าตกใจปานใด

ลองเปรียบเทียบให้ดู ผู้ฝึกปราณของเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ บนตัวล้วนมีโซ่ตรวนไร้รูปสายหนึ่ง พันธนาการพวกเขาให้ไม่สามารถแตะต้องธรณีประตูบรรลุจักรพรรดิได้

หากหลินเต้ายวนนั่นพบเจออะไรที่สุดวิสัยในวังมังกรแห่งนั้น บางทีเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ของพวกเขาอาจสามารถเคลื่อนพลส่วนนี้เข้าช่วยเหลือเขาในวังมังกรนั่นได้…

เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อให้เขาเคราะห์ร้าย แต่ขอเพียงไม่ตาย สามารถเดินออกจากวังมังกรอย่างราบรื่น จะต้องซาบซึ้งในบุญคุณช่วยชีวิตของพวกเขาเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่แน่!

แน่นอนว่าเงื่อนไขแรกของเรื่องทั้งหมดนี้ อยู่ที่หลินเต้ายวนนั่นมีโอกาสเข้าสู่วังมังกรได้จริงๆ

“เรื่องนี้ต้องรีบจัดการโดยด่วน เชื่อว่าหลังจากเผ่าจักรพรรดิอื่นๆ รู้เรื่องนี้ จะต้องตัดสินใจแบบเดียวกับพวกเราเผ่าปี้อั้นแน่ เพียงแต่เรื่องนี้อย่าให้คนในเผ่ารู้มากเกินไป หาไม่หากเผ่าเจินหลงระแคะระคาย จะต้องบุกโจมตีพวกเราเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่อย่างแน่นอน!”

อันเทียนสุ่ยสั่งการลงไป

ในวันนี้อันเทียนหลินรีบพาอันเสวี่ยออกจากเกาะเทพรุ้งมรกตด้วยกัน กลับไปเผ่าปี้อั้น เริ่มระดมพลเคลื่อนไหว

และหลังจากได้รู้ข่าวทั้งหมดนี้ คนระดับสูงเผ่าปี้อั้นก็ตัดสินใจแบบเดียวกันอย่างไม่ลังเล ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามพลาดโอกาสที่หมื่นปียากจะพานพบเช่นนี้ไปเป็นอันขาด!

ไม่นานคนระดับสูงเผ่าปี้อั้นก็ออกโรงด้วยตัวเอง มุ่งหน้าไปยังเผ่าจักรพรรดิต่างๆ อย่างชือน้ำแข็ง ฟู่ซี่ ผูเหลา ฉิวหนิว หยาจื้อ…

โอกาสนี้แม้จะล่อตาล่อใจ แต่เกี่ยวโยงถึงมรดกต้องห้ามมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร เผ่าปี้อั้นของพวกเขาเผ่าเดียวจัดการไม่ได้ จะต้องรวมกำลังให้ได้มากกว่านี้

หากเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่สามารถร่วมมือกันได้ นั่นเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

เวลาต่อมา ข่าวดีส่งกลับมายังเผ่าจักรพรรดิปี้อั้นอย่างไม่ขาดสาย

“เผ่าจักรพรรดิชือน้ำแข็งตกลงร่วมพันธมิตร!”

“เผ่าจักรพรรดิผูเหลาตกลงร่วมพันธมิตร!”

“เผ่าจักรพรรดิป้าเซี่ยตกลง…”

…จนกระทั่งต่อมา มหาจักรพรรดิแปดเผ่าอื่นต่างแสดงจุดยืนชัดเจน ว่าจะร่วมเคลื่อนไหวด้วยกันกับเผ่าปี้อั้นในเรื่องนี้ จะต้องคว้าโอกาสทองครั้งนี้ไว้ให้ได้

ตอนนี้เก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ซึ่งอยู่ใต้บัญชาเผ่าเจินหลงเรื่อยมาเกือบหนึ่งแสนปี มีแต่เผ่าเจินหลงคอยชี้นิ้วสั่งการค่อยๆ กลายเป็นพันธมิตรอันแน่นแฟ้นในเงามืด

และทั้งหมดนี้ ล้วนบังเกิดขึ้นเพราะการปรากฏตัวของหลินสวิน…

หลินสวินเองเกรงว่ายังคิดไม่ถึงด้วยซ้ำ ว่าเพราะมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร ถึงกับทำให้ระหว่างเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่บังเกิดความคิดบางอย่างขึ้น

ความคิดที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตเผ่าพันธุ์!

ก็เหมือนผีเสื้อที่สะบัดปีกแผ่วเบา ระหว่างงไม่ทันตั้งตัวก็ทำให้เกิดมรสุมโหมกระหน่ำครั้งหนึ่งขึ้น จะต้องส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ทั่วหล้าอย่างแน่นอน…

…………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์