ตอนที่ 2234 จับตัวจักรพรรดิมังกร
กล่าวง่ายๆ คือ ยันต์สีทองนี้บางทีอาจสามารถแลกมาซึ่งเส้นทางแห่งมรรคจักพรรดิ แต่ขอเพียงลงนามไปก็ไม่ต่างอะไรกับสัญญาขายตัว
หากไม่ได้รับการชี้แนะจากหลินสวิน เพื่อจะบรรลุจักรพรรดิ บางทีอันเสวี่ยก็อาจไม่สามารถปฏิเสธการลงชื่อบนยันต์ที่ประหนึ่งสัญญาค้าทาสนี้ก็เป็นได้
แต่ตอนนี้ นางไม่อยากทำ!
“อันเสวี่ย ยังมัวอึ้งอะไรอยู่ โอกาสดีที่จะกลายเป็นจักรพรรดิอยู่ตรงหน้าแล้ว ยังไม่รีบลงนามประทับลายมืออีกหรือ”
เห็นอันเสวี่ยไม่ขยับเป็นเวลานาน อันเทียนสุ่ยก็อดร้อนรนไม่ได้ ทำการเร่งเร้า
“ข้า… ขอใคร่ครวญหน่อยได้หรือไม่”
อันเสวี่ยสีหน้าวูบไหว เอ่ยปากเสียงเบา
“เหลวไหล!” อันเทียนหลินขมวดคิ้ว กล่าวเสียงเข้ม “อันเสวี่ย เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพื่อจะได้รับโอกาสล้ำค่าเช่นนี้ ไม่ใช่ง่ายดายขนาดไหน”
อันเสวี่ยสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งกล่าวว่า “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับมรรคาในภายหน้าของข้า ท่านลุงทั้งสองโปรดให้ข้าคิดทบทวนอีกสักหน่อย”
“เฮอะ!” จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรที่นั่งอยู่บนตำแหน่งประธานแค่นเสียงเย็น ฉายแววไม่สบอารมณ์เสี้ยวหนึ่ง “นางหนู ข้าไม่มีเวลารอเจ้าหรอกนะ หากเจ้าไม่ลงนามตอนนี้ ข้ารับรองว่าภายหน้าเจ้าอย่าหวังจะมีโอกาสเหยียบย่างบนเส้นทางแห่งระดับจักรพรรดิอีกเลย!”
ไม่ทันไรคนใหญ่คนโตเผ่าจักรพรรดิปี้อั้นอย่างพวกอันเทียนสุ่ยต่างลนลาน พากันเอ่ยปาก บ้างก็เกลี้ยกล่อมบ้างก็ตวาดว่า เร่งเร้าอันเสวี่ย
เพียงแต่ตั้งแต่ต้นจนจบอันเสวี่ยยังคงไม่ขยับ สิ่งนี้ทำให้พวกอันเทียนสุ่ยต่างรู้สึกทำอะไรไม่ถูก ล้วนลุกลี้ลุกลนขุ่นเคืองอย่างอดไม่ได้
และสีหน้าของจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรก็เริ่มมืดทะมึนลงเรื่อยๆ แล้ว ถูกคนรุ่นหลังเช่นนี้ปฏิเสธ นี่ทำให้บารมีของเขาถูกท้าทาย
เขาหยัดกายลุกขึ้น น้ำเสียงเรียบเฉย “ช่างเถิด คิดเสียว่าครั้งนี้ข้าไม่ได้มา ต่อไปเผ่าปี้อั้นของพวกเจ้า… ก็อย่าหวังจะเชิญข้ามาอีกเลย”
เขาหมายจะเดินไปนอกโถงใหญ่
“ใต้เท้าโปรดอย่ามีโทสะ!”
อันเทียนสุ่ยและคนอื่นๆ รีบลุกขึ้นเป็นพัลวัน ทั้งกล่าวขออภัยทั้งรั้งตัวไว้ แต่จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรกลับทำหูทวนลม เดินตรงดิ่งจากไป
“นางหนูน้อยคนนี้ ก่อเรื่องแล้วชัดๆ!”
จนกระทั่งมองเห็นเงาร่างของจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรหายลับไป อันเทียนสุ่ยโกรธจนหน้าเขียวคล้ำ แทบอยากลงโทษอันเสวี่ยให้หนักๆ เสียเดี๋ยวนั้น
“เสวี่ยเอ๋อร์ เจ้ารู้หรือไม่ว่าครั้งนี้เพื่อเชิญจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรมาให้ได้ พวกเราเผ่าปี้อั้นต้องจ่ายค่าตอบแทนมากมายปานใด ตอนนี้การทุ่มเทเหล่านี้กลับพังยับเยินแล้ว!”
อันเทียนหลินเองก็โกรธจนผมเคราชี้ตั้ง “หนำซ้ำเพราะเจ้าทำให้จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรเดือดดาล ทำเอาคนทั้งเผ่าของพวกเราต้องพลอยถูกดึงไปเอี่ยวด้วยกันหมด เจ้า… เห็นแก่ตัวเกินไปแล้วชัดๆ!”
กล่าวพลางพวกเขาล้วนพุ่งพรวดออกไป ไล่ตามหลังจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทร พยายามไปแก้ไขข้อผิดพลาดเมื่อครู่
อันเสวี่ยถูกตำหนิจนใบหน้าอรชรขาวซีด บีบสองมือแน่น ยืนอยู่ตรงนั้นลำพัง ในใจก็เดือดดาลและอดสูอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
เพื่อจะบรรลุจักรพรรดิ ต้องเอาชะตาชีวิตไปมอบให้เผ่าเจินหลงควบคุมด้วยหรือ
โอกาสแบบนี้ ไม่เอาก็ได้!
“ไม่ต้องให้เขาชี้แนะ ข้าก็สามารถแจ้งมรรคทะลวงระดับได้!” อันเสวี่ยลอบกล่าว
บนเขาประกายรุ้ง อันเจิงพาหลินสวินเดินขึ้นบนเส้นทางภูเขา สื่อจิตกล่าวว่า ‘ผู้อาวุโส จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรคนนั้นเป็นถึงคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง อีกสักครู่ข้าจะไปรายงานก่อน ถึงตอนนั้นท่านพี่อันเสวี่ยก็จะช่วยพูดด้วย จะต้องคว้าโอกาสพบหน้ากันสักครั้งให้ผู้อาวุโสได้อย่างแน่นอน…’
ขณะกำลังพูด กลับเห็นหลินสวินที่อยู่ข้างๆ เงยหน้าขึ้นขวับ มองไปทางยอดเขาประกายรุ้ง
เต่าดำหนวดมังกรใหญ่มหึมาตัวหนึ่งค่อยๆ แหวกอากาศ บนหลังบรรทุกตำหนักวังทองมรกตเรืองรองหลังหนึ่ง คล้ายกำลังจะจากไป
และเวลาเดียวกันนี้ หลินสวินก็มองเห็นจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรที่สวมชุดม่วง สีหน้ามืดทะมึน เหยียบอากาศทะยานขึ้นไป มุ่งหน้าไปยังเต่าดำหนวดมังกรตัวนั้น
ส่วนสัตว์ประหลาดเฒ่าสี่คนอย่างอันเทียนสุ่ย อันเทียนหลินต่างฉายแววตื่นกลัวและวิงวอน ไล่ตามอยู่ด้านหลังจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทร พยายามไปรั้งเขาไว้
สิ่งนี้ทำให้หลินสวินตระหนักได้ทันทีว่าเกิดเหตุบางอย่างขึ้นแล้ว!
“นี่…” อันเจิงก็มองเห็นเหตุการณ์นี้เช่นกัน อดอึ้งงันไม่ได้ ในใจผุดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา
ตอนที่เขาเบือนหน้าไปมองหลินสวินที่อยู่ข้างๆ กลับพบว่าฝ่ายหลังอันตรธานหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“ใต้เท้า ได้โปรดเห็นแก่หน้าเผ่าข้า ให้พวกข้าได้ชดเชยความผิดในครั้งนี้ด้วยเถิด”
บนยอดเขาประกายรุ้ง พวกอันเทียนสุ่ยวิงวอนอย่างยากลำบาก ครั้งนี้หากให้จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรจากไปด้วยความโกรธเคือง เช่นนั้นผลที่ตามมาต้องร้ายแรงหาใดเปรียบเป็นแน่
“วางใจ ข้ายังไม่ถึงขั้นไปถือสากับเด็กน้อยคนหนึ่งหรอก แต่ต่อไปข้าจะไม่หาเรื่องใส่ตัวอีกแน่นอน”
จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรเอ่ยปากด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “เว้นแต่…”
“เว้นแต่อะไร” อันเทียนสุ่ยดุจดั่งคว้าฟางช่วยชีวิตได้ เปี่ยมด้วยความหวัง
จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรกล่าวเสียงเรียบ “นางหนูคนนั้นหน่วยก้านไม่เลว ข้าอยากให้นางติดตามอยู่ข้างกาย เป็นบ่าวรับใช้คนหนึ่ง”
บ่าวรับใช้!
นั่นก็คือพวกบ่าวหญิงชัดๆ หนำซ้ำยังต้องปรนนิบัติพัดวีชีวิตประจำวันของจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทร เติมเต็มความปรารถนาที่เขามีต่อผู้หญิง!
หัวใจของพวกอันเทียนสุ่ยเย็นวาบกันหมด อันเสวี่ยเป็นผู้กล้าที่โดดเด่นที่สุดในหมู่คนรุ่นหลังของเผ่าจักรพรรดิปี้อั้นของพวกเขา มกุฎกึ่งจักรพรรดิที่ฝีมือสมชื่อคนหนึ่ง แบกความหวังของคนทั้งเผ่า
แต่จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรคนนี้กลับเอ่ยปากอยากให้นางไปเป็นบ่าวรับใช้ นี่ไม่ใช่การลงโทษง่ายๆ แค่นั้น แต่เป็นความอัปยศต่ออันเสวี่ย และเป็นการเคาะเตือนเผ่าปี้อั้นของพวกเขา!
“ทำไม ไม่เต็มใจหรือ เช่นนั้นเรื่องนี้ก็พอแค่นี้” สายตาของจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรเย็นชาอึมครึม เหยียบห้วงอากาศขึ้นไป
ระดับจักรพรรดิขั้นหกเผ่าเจินหลงผู้สูงส่งอย่างเขา ตอนนี้เป็นฝ่ายมุ่งหน้ามาเผ่าปี้อั้น แต่กลับถูกเด็กน้อยคนหนึ่งหักหน้า ในใจย่อมเคืองขุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เขาทำเช่นนี้ เพียงแค่กำลังรักษาบารมีของตนเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์