Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2238

สรุปบท ตอนที่ 2238 แผนการของจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 2238 แผนการของจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ย จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2238 แผนการของจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ย คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 2238 แผนการของจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ย

ระหว่างที่พูดคุย ไม่นานภูเขาสีดำสูงตระหง่านลูกหนึ่งทอดยาวให้เห็นแต่ไกล บนตัวภูเขาที่มหึมาหาใดเปรียบปกคลุมด้วยโซ่มหามรรคสีเลือดที่หนาราวถังน้ำมากมาย ทิ้งตัวลงมาเหมือนน้ำตก คลื่นผนึกที่พาให้ใจคนหวาดหวั่นแผ่ออกมา

“นี่คือเขาผนึกฟ้า ขอเพียงเป็นคนในเผ่าที่ทำผิดมหันต์ บ้างจะถูกขังอยู่ที่นี่ บ้างจะถูกกักบริเวณไว้ในนี้ และบ้างจะถูกกำราบอยู่ที่นี่”

อ๋าวเสวียนเฟิงเอ่ยราบเรียบ “ปีนั้นด้วยน้องเจ็ดตกหลุมรักหญิงเผ่ามนุษย์ชั้นต่ำคนหนึ่ง ถือว่าทำผิดมหันต์จึงถูกบิดาข้ากักบริเวณ เมื่อคำนวณดูก็ไม่มีใครมาเยี่ยมเขาหลายสิบปีแล้ว”

หลินสวินรู้ว่าคนที่อ๋าวเสวียนเฟิงพูดถึงคืออิ๋นฮวน!

“ตามข้ามาเถอะ”

อ๋าวเสวียนเฟิงมุ่งไปยังเขาผนึกฟ้าที่ห่างไกล

หลินสวินตามหลังเขาไป มองเขาผนึกฟ้าที่อยู่ห่างออกไปนั้น เพียงพริบตาก็สัมผัสได้ว่าส่วนลึกของภูเขาลูกนั้นมืดมนและกวดขัน ปกคลุมด้วยพลังผนึกชั้นแล้วชั้นเล่า หลายสถานที่ในนั้นกักขังกลิ่นอายอำมหิตแข็งแกร่งไว้มากมาย

ณ เชิงเขาผนึกฟ้ามีสิ่งปลูกสร้างตั้งอยู่รวมกัน ข้ารับใช้และบ่าวมากมายเดินอยู่ในนั้น ต่างคนต่างยุ่งอยู่กับเรื่องของตัวเอง

“องค์ชายสี่ ท่านมาได้อย่างไร”

เมื่อเห็นอ๋าวเสวียนเฟิงเดินมา ชายชราที่สวมชุดนักพรตสีดำ ผมเผ้าหนวดเคราสีดอกเลาคนหนึ่งรุดหน้ามาต้อนรับทันที

นี่คือบุคคลระดับจักรพรรดิที่มาจากเผ่าจักรพรรดิผูเหลาคนหนึ่ง มีนามว่า ‘จักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ย’ ทำหน้าที่เป็นผู้ติดตามอาวุโสในแดนวังมังกรนี้ ควบคุมดูแลที่นี่มานานปี คอยดูแลทุกเรื่องในเขาผนึกฟ้า

แม้จะเป็นระดับจักรพรรดิ ยามเผชิญหน้ากับอ๋าวเสวียนเฟิง จักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยก็แสดงความเคารพนบนอบ

หลินสวินพลันนึกอะไรขึ้นได้ นี่น่าจะเป็นฉากจบของคนที่ลงนามใน ‘ยันต์บริสุทธิ์’ มอบชีวิตให้อยู่ในการควบคุมของเผ่าเจินหลงหลังจากบรรลุจักรพรรดิ

ระดับจักรพรรดิที่น่าเกรงขาม หากอยู่บนทางเดินโบราณฟ้าดาราย่อมสามารถข่มขวัญสิ่งมีชีวิตทั่วหล้า แต่ยามนี้กลับกลายมาเป็น ‘พัศดี’ ในพื้นที่หนึ่งของเผ่าเจินหลง

“ข้าพาสหายเผ่าเจินโห่วคนนี้มาเยี่ยมน้องเจ็ด เจ้ามานำทางไปที” อ๋าวเสวียนเฟิงสั่งความลวกๆ

“เชิญองค์ชายสี่” จักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยพูดพลางนำทางไป

วู้ม…

เขาหยิบจานกระบวนสีทองใบหนึ่งออกมา แสงศักดิ์สิทธิ์สีทองสายหนึ่งเปล่งประกาย เปิดช่องทางมุ่งสู่เขาผนึกฟ้าทันที ทุกคนเร่งเดินตามเข้าไปในนั้น

ในเขาผนึกฟ้ามืดมนและกดดัน ทุกหนแห่งอบอวลด้วยคลื่นพลังต้องห้าม แค่เดินอยู่ในนั้นก็พาให้อกสั่นขวัญแขวน

“องค์ชายสี่ องค์ชายเจ็ดถูกกักบริเวณอยู่ในเรือนตรงส่วนลึกสุดของทางภูเขานี้ขอรับ”

กระทั่งมาถึงปากถ้ำมหึมาแห่งหนึ่ง จักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยจึงเอ่ยปาก “แต่ในถ้ำนี้มืดและแคบยิ่งนัก เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดและสิ่งปฏิกูลนานปี หรือให้ข้าไปเชิญองค์ชายเจ็ดออกมาไหมขอรับ”

อ๋าวเสวียนเฟิงขมวดคิ้วพลางกล่าว “ไม่จำเป็น ครั้งนี้ข้าแค่นำทางสหายคนนี้มา ตอนนี้ไม่มีเรื่องของข้าแล้ว คิดจะจากไปพอดี เจ้าพาสหายคนนี้เข้าไปเถอะ”

เขาพลันชี้หลินสวิน

จักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยพยักหน้าแล้วมองไปยังหลินสวิน “สหาย เชิญตามข้ามา”

เขาพูดพลางเดินเข้าไปในถ้ำที่มืดมิดล้ำลึกนั้น

“ขอบคุณองค์ชายสี่ที่ดูแลมาตลอดทาง” หลินสวินประสานมือไปทางอ๋าวเสวียนเฟิง ก่อนเดินตามจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยเข้าไปในถ้ำนั้นพร้อมกัน

มองส่งเงาร่างเขาจนหายลับไป อ๋าวเสวียนเฟิงยิ้ม แววตาเจือความนึกสนุก สื่อจิตบอกคนอื่นที่อยู่ข้างกายเขา ‘ประเดี๋ยวข้าจะให้พวกเจ้าได้ดูเรื่องสนุก!’

ผู้ติดตามพวกนั้นล้วนอึ้งไป ตอนนี้ถึงรับรู้ได้ทันทีว่าอ๋าวเสวียนเฟิงที่เย่อหยิ่งอวดดีเสมอ ยอมพาคนของเผ่าเจินโห่วนั่นมาเพราะมีจุดประสงค์อื่น!

“องค์ชายสี่ เจ้าหมอนี่มีปัญหาหรือ” ผู้ติดตามคนหนึ่งอดถามไม่ได้

“โง่”

มีคนชิงเอ่ยปากก่อน “ในเผ่าใครต่างก็รู้ว่าคนที่ใต้เท้าจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรรังเกียจที่สุดก็คือองค์ชายเจ็ด มีหรือจะรับปากให้คนของเผ่าเจินโห่วนั่นมาพบองค์ชายเจ็ด นี่คือประเด็นแรก”

“ประเด็นที่สองก็คือหลายสิบปีนี้ใครบ้างไม่รู้ว่าองค์ชายเจ็ดถูกกักบริเวณ กลายเป็นหมาหัวเน่านานแล้ว แต่คนของเผ่าเจินโห่วนั่นกลับมาอย่างกะทันหัน ขานชื่อว่าอยากพบองค์ชายเจ็ด ถือว่าแปลกเกินไปแล้ว”

เมื่อพูดจบผู้ติดตามพวกนั้นก็เหมือนคิดอะไรได้

อ๋าวเสวียนเฟิงกล่าวเสียงเรียบ “รอก่อนเถอะ ข้าสื่อจิตกำชับจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยไว้แล้ว ขอแค่เจ้าหมอนี่เข้าไปในถ้ำก็เหมือนหมูในอวย ไม่อาจหลุดพ้นได้อีก ถึงตอนนั้นข้าจะให้เขาสารภาพโดยดีว่ามาทำไม!”

กล่าวถึงตอนท้าย ส่วนลึกในนัยน์ตาเขาฉายแววเหี้ยมเกรียมวูบหนึ่ง

คิดว่าเวลาของเขาอ๋าวเสวียนเฟิงไร้ค่าจริงหรือ

หากไม่ใช่ว่าครั้งนี้สังเกตเห็นจุดน่าสงสัยอยู่บ้าง ด้วยฐานะของเขาคงคร้านจะใส่ใจเจ้าตัวเล็กของเผ่าเจินโห่วนี้แต่แรก

ในถ้ำมืดสนิท กระแสลมที่ชื้นแฉะเต็มไปด้วยกลิ่นอายของสิ่งปฏิกูลและคาวเลือดที่ชวนสำรอก นอกจากนี้ยังมีพลังต้องห้ามน่าหวาดกลัวที่คล้ายมีคล้ายไม่มีอบอวลอยู่ด้วย

หลินสวินเป็นคนระดับใด เพียงพริบตาก็สังเกตเห็นว่าพลังต้องห้ามที่ปกคลุมอยู่ในถ้ำนี้ล้วนคุกคามระดับจักรพรรดิทั่วไปได้!

หลินสวินเอ่ยถาม “สหายยุทธ์ องค์ชายเจ็ดเป็นบุคคลระดับใด ทำไมถึงถูกกักบริเวณอยู่ในแดนผีสิงที่มืดมิดเช่นนี้”

‘ไม่ผิด สหายยุทธ์ เจ้าครองมรดกมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร สามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตของพวกข้าเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ได้ เรื่องใหญ่เช่นนี้พวกเราจะไม่ช่วยได้อย่างไร’

จักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยเดินหน้าต่อ ‘บอกสหายยุทธ์เลยว่าเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ของพวกข้าลอบเป็นพันธมิตรกันแล้ว ทั้งยังถ่ายทอดคำสั่งให้ผู้ติดตามอาวุโสของเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ในแดนวังมังกรนี้ เพียงเจอสหายยุทธ์หลินล้วนต้องยื่นมือช่วยเหลือ’

‘แน่นอนว่าได้แค่ช่วยในที่ลับ ทันทีที่ถูกเปิดเผยพวกข้าย่อมถูกบีบให้จนปัญญา ทำได้แค่เก็บมือเฝ้ามอง สหายยุทธ์โปรดเข้าใจ’

ในที่สุดหลินสวินก็เข้าใจกระจ่าง ที่แท้ทั้งหมดนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับมรดกมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร!

เขาสังเกตเห็นนานแล้ว มรดกมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปรก็เหมือนพลังข่มขวัญที่เผ่าเจินหลงครอบครอง ค้ำคอเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่อย่างแน่นหนามาตลอด ทำให้คนในเผ่าของพวกเขาไม่อาจไม่ยอมมอบชีวิตให้เผ่าเจินหลงควบคุมยามบรรลุจักรพรรดิ

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ก็ไม่อาจไม่ติดตามและเชื่อฟังเผ่าเจินหลง!

แต่การปรากฏตัวของตน กลับทำให้เก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่นั้นเห็นโอกาสทำลายพันธนาการทั้งหมด เพื่อเปลี่ยนลิขิตชะตาของเผ่าพันธุ์!

‘ที่แท้เป็นเช่นนี้ การเดินทางมาวังมังกรครั้งนี้ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ขอเพียงข้าคนแซ่หลินจากไปได้อย่างราบรื่น ย่อมไม่มีทางลืมบุญคุณของเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่แน่’

หลินสวินสื่อจิต น้ำเสียงจริงจังเคร่งขรึม

เหตุไม่คาดฝันนี้มาอย่างคาดไม่ถึง แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องประเสริฐอย่างหนึ่ง แน่นอนว่าหลินสวินไม่มีทางปฏิเสธความปรารถนาดีและการช่วยเหลือที่มาจากเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่

สิ่งที่จักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยต้องการก็คือประโยคนี้ เขามองไปยังทางเข้าถ้ำแล้วสื่อจิตเสียงเบา

‘สหายยุทธ์หลินอย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไป ตั้งแต่เจ้าเข้ามาในแดนวังมังกรนี้ก็ทำให้องค์ชายสี่อ๋าวเสวียนเฟิงสงสัยแล้ว ซ้ำสถานการณ์ตอนนี้ยังล่อแหลมอันตรายด้วย!’

หลินสวินพลันเลิกคิ้ว ก็เห็นจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยกล่าวต่อ ‘ข้อสงสัยของเจ้าก่อนหน้านี้ไม่ได้ผิด ถ้ำแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เผ่าเจินหลงใช้กำราบนักโทษระดับจักรพรรดิโดยเฉพาะ ส่วนองค์ชายเจ็ดที่เจ้าอยากเจอ แม้จะถูกกักบริเวณแต่ถึงอย่างไรก็เป็นองค์ชายสายตรง ฐานะสูงส่งระดับใด มีหรือจะถูกกักบริเวณอยู่ในสถานที่เช่นนี้’

‘ดูท่าว่านี่คงเป็นสถานที่ที่อ๋าวเสวียนเฟิงจะใช้จัดการข้าแล้ว…’

นัยน์ตาดำหลินสวินล้ำลึก เขารู้สึกว่าไม่เข้าทีอยู่ก่อนแล้ว หากไม่ได้จักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยเปิดเผยความจริง เขาก็มีโอกาสสูงที่จะตกหลุมพรางของอ๋าวเสวียนเฟิงแล้ว!

‘เขาคิดจะทำอะไร’ หลินสวินเอ่ยถาม

จักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยกล่าว ‘ก่อนหน้านี้องค์ชายสี่บอกว่าฐานะของสหายยุทธ์น่าสงสัย ให้ข้าพาเจ้าเข้ามาในถ้ำนี้ ใช้พลังต้องห้ามของที่นี่กำราบเจ้าไว้’

‘จากนั้นเขาจะมาไต่สวนเจ้าด้วยตัวเอง!’

เมื่อรู้เรื่องพวกนี้หลินสวินอดขมวดคิ้วไม่ได้ มีช่องโหว่ตรงไหนกันแน่ ถึงทำให้เจ้าหนอนน้อยตัวยาวอ๋าวเสวียนเฟิงนี่มองออก ซ้ำตนยังเกือบโดนหลอกด้วย

………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์